“คริสติน่า อากีล่าร์” ยินดีสมรสเท่าเทียม ดีใจเพลง “ประวัติศาสตร์” ถูกใช้ฉลองในวาระสำคัญ

“คริสติน่า อากีล่าร์” ดีใจกับพี่น้อง LGBTQ พ.ร.บ. สมรสเท่าเทียมผ่านมติเห็นชอบ บอกทุกคนเท่าเทียมกัน และมีสิทธิ์เลือกชีวิตของตัวเอง ดีใจเพลง “ประวัติศาสตร์” กลับมาเป็นไวรัล ถูกเอามาใช้ในการเฉลิมฉลองวาระสำคัญนี้

เป็นอีกหนึ่งคนที่ทำงานร่วมกับชาว LGBTQ เป็นส่วนใหญ่ และยังถูกยกให้เป็นตัวแม่ของเหล่าลูกสาว สำหรับ “ติ๊นา คริสติน่า อากีล่าร์” ที่ขอออกมาร่วมแสดงความยินดีกับพี่น้อง LGBTQ ทุกคน หลัง พ.ร.บ. สมรสเท่าเทียม ผ่านมติเห็นชอบแล้วเมื่อวานนี้ (18 มิ.ย.) โดยวันนี้ (19 มิ.ย.) ในงานแถลงข่าวโครงการ HER AWARDS UNFPA THAILAND 2024 เจ้าตัวก็ได้เผยถึงเรื่องนี้ ว่ารู้สึกดีใจกับทุกคนมาก และก็ดีใจกับเพลง “ประวัติศาสตร์” ของตัวเองด้วย ที่กลับมาเป็นไวรัลอีกครั้งหนึ่ง

“ก็อย่างที่ติ๊นาโพสต์ในสตอรี่ ก็คือสิ่งที่เกิดขึ้นมันเป็นเหมือนจุดหนึ่ง ที่ทำให้เราได้เห็นว่ามันไม่มีการยอมรับกลุ่ม LGBTQ แต่ในที่สุดมันก็เกิดขึ้น มันเป็นเหมือนจุดหนึ่งที่ทำให้เราได้เห็นว่า มันมีการยอมรับกลุ่ม LGBTQ นี้ แล้วติ๊นาเชื่อว่ามันจะมีอีกหลายสิ่งหลายอย่างที่ตามมาเพื่อที่จะเป็นเหมือนกฎหมายเกี่ยวกับการปกป้อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสมรสเท่าเทียมหรือเรื่องอื่น ติ๊นาคิดว่ามันจะมีกฎหมายอื่นออกมาเพื่อที่จะซัปพอร์ตตรงนี้”

ดีใจกับพี่น้อง LGBTQ และดีใจที่เพลง ประวัติศาสตร์ ได้เอามาใช้ในการฉลองความสำเร็จ
“ดีใจมาก เพราะว่าติ๊นาก็ถูกล้อมรอบไปด้วยกลุ่มน้องๆ พี่ๆ ที่เป็น LGBTQ นะคะ ก็มีการได้พูดคุยกันว่าจริงๆ แล้วการสมรสนี้ บางคนอาจจะคิดว่ามันเป็นการคอนเฟิร์มตัวตนของเขา บางคนอาจจะคิดว่ามันเป็นสิ่งหนึ่งที่อำนวยความสะดวก เวลาที่คู่ของเราบางทีไม่สบายหรืออะไร บางทีต้องรอพ่อรอแม่ คือแล้วแต่มุมมองของแต่ละคน ที่ให้ความสำคัญของการสมรสเท่าเทียมกันตรงนี้ แต่ว่ายังไงก็แล้วแต่มันเป็นสิทธิ์ของทุกคนที่สามารถเลือกได้ ว่าฉันอยากจะแต่งกับคนนี้ หรือแต่งกับผู้ชาย หรือแต่งกับผู้หญิง ติ๊นาคิดว่า ณ ปัจจุบันนี้โลกเรามันเปลี่ยนแล้ว ก็ต้องเข้าเพลงประวัติศาสตร์นิดหนึ่ง (หัวเราะ)แต่เพลงนี้ถ้ามองย้อนไปมันแต่งมาเมื่อ 30 กว่าปีที่แล้ว แล้ววันนี้มันถูกนำเอามาใช้ในการฉลองจริงๆ ก็ดีใจมากๆ ค่ะ

เอาจริงๆ ติ๊นาเชื่อว่าสมรสเท่าเทียม จริงๆ แล้วมันเป็นเหมือนแค่อย่างหนึ่งที่จะยอมรับถึงตัวตนมากกว่า ติ๊นามองว่าบางคนอาจจะความสัมพันธ์ไม่เหมือนกันแต่อย่างน้อยไม่ทำให้เห็นว่าสังคมเรามีการเปลี่ยนแล้ว มีการพัฒนาหรือมีการให้ความสำคัญของคนกลุ่มนี้ อย่างติ๊นาทำงานเราดูแลคนทุกเพศ ทุกวัย ทุกกลุ่มจริงๆ เพราะฉะนั้นเราเชื่อว่าทุกคนมีสิทธิ์เท่าเทียมกัน ชายหรือหญิงหรือกลุ่มไหนก็แล้วแต่ ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะเลือกชีวิตตัวเอง ว่าเขาอยากจะทำอะไร อยากจะเป็นอะไร หรือจะอยู่กับใคร เขาจะคบกับใครจะรักกับใคร มันคือสิทธิมนุษยชนจริงๆ นะคะ ก็ดีใจมากๆ กับสิ่งที่เกิดขึ้น ก็แสดงความยินดีกับน้องๆ พี่ๆ ทุกคนด้วยค่ะ”

ไม่รู้จะมีเวอร์ชั่นพิเศษไหม แต่เป็นเพลงที่ชอบ เปิดแล้วมีพลัง ปลุกให้มีแรงฮึด
“เวอร์ชั่นพิเศษเหรอคะ (หัวเราะ) ในคอนเสิร์ตก็ยังร้องเพลงนี้อยู่นะ อาจเป็นเพราะว่ามันเป็นเพลงโปรดของของติ๊นาด้วย เพราะฉะนั้นทุกครั้งที่เราร้องเพลงนี้ จะค่อนข้างที่จะมีความสุขและอินกับเพลงนี้มาก และดีใจมากๆ ขอบคุณมากๆ ที่ให้เพลงนี้เป็นเพลงที่ฉลองวาระสำคัญ เวลาเปิดเพลงนี้ก็จะมีพลังให้กับตัวเองด้วยนะคะ พลังให้กับติ๊นาเองด้วยเวลาที่ทำงานหรืออะไรก็แล้วแต่มันเป็นเพลงที่ปลุกให้เราฮึดขึ้นมา ถามรู้สึกยังไง ที่มีคนเอาไปคัฟเวอร์เยอะ ก็ดีใจนะ คนที่ดีใจมากกว่านั้นก็คือคนแต่งเพลง เพราะว่าเราเป็นคนถ่ายทอด แต่คนที่เขาทำเพลง เขาก็น่าจะดีใจมากๆ ที่เลือกเพลงเขามาค่ะ”

คิวคอนเสิร์ตเต็มยาวถึงสิ้นปี รับเพิ่มไม่ไหวแล้ว
“คอนเสิร์ตเดี่ยวคงต้องพักก่อนค่ะ ตอนนี้ติ๊นาขึ้นคอนเสิร์ตทุกเดือนเลยค่ะ (หัวเราะ) ก็เลยกำลังคิดว่าคอนเสิร์ตเยอะมากปีนี้ ปีหน้าจะว่างไหม แต่ละช่วงที่เกิดขึ้นมันก็แตกต่างกันไป เพราะอย่างล่าสุดที่กำลังเตรียมอยู่ก็คือ เดอะ คลาสเสจ เดือนกรกฎาคม อีกอันหนึ่งก็จะมี เฮอ คอนเสิร์ต เดือนกันยายน แล้วก็จะมี แดนซ์อารีน่า เดือนตุลาคม เราก็จะมีอีกคอนเสิร์ตหนึ่งเดือนพฤศจิกายน ปีนี้เต็มแล้วค่ะ ไม่ไหวแล้ว อย่าเพิ่งเบื่อนะคะ”

หมั่นดูแลสุขภาพ เพื่อให้แข็งแรงพร้อมทำงาน
“ก็ต้องดูแลสุขภาพนิดหนึ่งนะ ด้วยความที่เป็นภูมิแพ้ อย่างวันนี้ติ๊นามาก็เริ่มเสียงแหบแล้ว เพราะว่าแพ้ฝุ่นก็ต้องดูแลตัวเองเป็นพิเศษ ต้องออกกำลัง ดูแลรูปร่าง อะไรหลายสิ่งหลายอย่างให้เราแข็งแรงที่สุด”

กังวลสภาพอากาศก็ไม่ค่อยดี ทำป่วยบ่อย ต้องอัดยาแก้แพ้ตลอด
“ใช่ค่ะ ช่วงต้นปีติ๊นาก็ค่อนข้างที่จะป่วยบ่อยนิดหนึ่ง จะเป็นเรื่องของภูมิแพ้อะไรนี่แหละ คุณหมอก็เลยให้อัดยาแก้แพ้เลย ทุกวันนี้ก็กินยาแก้แพ้ตลอด แล้วความที่เราเป็นภูมิแพ้, กรดไหลย้อน, ไซนัส เลยยิ่งต้องดูแลเป็นพิเศษ คุณหมอบอกจริงๆ เราออกไปข้างนอกเจอคนเยอะๆ ก็ต้องใส่มาสก์เพราะว่าฝุ่นเยอะมากด้วยอากาศ ณ ปัจจุบันนี้มันไม่ค่อยบริสุทธิ์เท่าไหร่ ทุกคนก็ต้องดูแลตัวเองเช่นกันนะคะ”