xs
xsm
sm
md
lg

“ชมพู่ อารยา” เผยแพสชั่นใหม่ในชีวิต อยากอายุยืนถึง 120 ปี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ชอบฟังพอดแคสต์ ซึ่งเป็นคอนเทนต์ประเภทหนึ่งที่คล้ายๆ กับการจัดรายการวิทยุ โดยมีผู้ดำเนินรายการเพียงคนเดียว หรือหลายคนมาแชร์ความรู้และประสบการณ์ในด้านต่างๆ ในรูปแบบคลิปเสียง จนรู้สึกสนใจและเป็นที่มาของการทำรายการใหม่ “On the way with Chom” กับ “ชมพู่ อารยา เอ ฮาร์เก็ต” ที่รับหน้าที่เป็นพิธีกรรายการที่พูดถึงการดูแลตัวเองในทุกๆ ด้าน ทั้งสุขภาพ การใช้ชีวิตให้ดูดี ที่เดินทางมาถึงจุดต้องลงมือทำเพื่อสร้างชีวิตที่ดีกว่า เรียนรู้จากคนที่รู้จริง ทำจริง เปลี่ยนแปลงจริง ให้หันมาจัดระเบียบเพื่อชีวิตอย่างจริงจัง

ในอีพีแรก “โยเกิร์ต ณัฐฐชาช์ บุญประชม” ได้พูดคุยแลกเปลี่ยนมุมมองเพื่อนหญิงพลังหญิงกันแล้ว โยเกิร์ต ได้ย้อนถามชมพู่ ในมุมที่ว่าภายนอกคนมองชีวิตชมพู่ดีมีครบทุกอย่างแล้ว ส่วนตัวชมพู่มองตัวเองในชีวิตตอนนี้อยากจะได้อะไรอีก ทั้งในด้านที่เป็นวัตถุและไม่ใช่วัตถุ ซึ่งชมพู่ก็ตอบว่า….

“ในด้านของวัตถุก็ยังอยากได้อะไรไปเรื่อยเปื่อย เพราะเราก็ยังไม่ได้เป็นพระอรหันต์ ถ้าบอกไม่อยากได้อะไรแล้ว สามีก็สบายเลย มันก็มีแหละ แต่ไม่ใช่โอ้ย… อยากได้ๆๆๆๆ ถ้าอยากได้แล้วมันไม่เกินกำลังก็ไปซื้อมาซะ แค่นั้น ก็อาจจะจริงที่ว่าอาจจะไม่มีวัตถุอะไรที่ทำให้เราตื่นเต้นได้มากมายเลยจริงๆ สามียังบอกเป็นคนที่ให้ของได้ยากมาก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเราไม่ชอบวัตถุนะ

ส่วนเรื่องอื่นที่ไม่ใช่วัตถุก็อยากจะพัฒนาตัวเอง ให้เราเป็นเวอร์ชั่นที่ดีขึ้น ตอนนี้แรงจูงใจหลักก็เป็นเรื่องของลูก อยากจะเป็นคนที่สามารถอยู่กับเขา ทั้งทางด้านร่างกาย จิตใจ แล้วอยากจะเป็นคนที่ให้อะไรกับเขา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของทัศนคติ คำสอน ในเวอร์ชั่นที่ดีที่สุด พอมามีลูกเราเองจะรู้ว่าตัวเราเองก็ยังไม่ได้ฮีล บางเรื่องเราเองก็ยังแก้ไม่จบ ลูกจะเป็นกระจกสะท้อนให้เราเองเห็นตัวเราเองเหมือนกัน ก็อยากจะเป็นตัวเองที่ดี

แล้วก็อยากอยู่ได้ 120 ปี อยากมีอายุยืนแบบ 100 ปีอัป ก็อยากอยู่สะพานกระเป๋า อยากอยู่ใส่เพชรของฉัน อยากอยู่เห็นการเติบโตของลูก อยากเห็นหลาน เห็นเหลน แล้วก็อยากจะอยู่เห็นว่าในทุกวันนี้ที่โลกมันเปลี่ยนไปเร็วมากๆ มันจะหมุนไปทางไหน ก็เลยมาสนใจเรื่องของการเป็นอยู่ที่ดี เรื่องของการมีชีวิตที่ยืนยาวมากขึ้น ชมชอบฟังพอดแคสต์และสนใจเรื่องพวกนี้

คนจะคิดว่าชมสุดโต่งหรือเปล่า ต้องบอกว่าสุดโต่งของเราคือ เวลาที่เราจะทำอะไรเราศึกษานะ และในการศึกษาเราก็ได้ค้นพบว่าข้อเท็จจริงบางเรื่องที่เรารู้สึกว่ามันจริงแล้ว วิทยาศาสตร์บางเรื่องที่ว่ามันจริงแล้ว มันจริงมา 10 ปี แต่วันนี้มันไม่จริงแล้ว คือมันมีบางอย่างมาหักล้าง มีบางอย่างมาล้มล้างแล้ว มันเลยทำให้เราสนใจเรื่องพวกนี้มาเรื่อยๆ สิ่งที่เรารู้วันนี้ มันอาจจะใช่นะ แต่ก็ไม่แน่ปีหน้า อีก 5 ปีข้างหน้ามันอาจจะมีสิ่งใหม่ที่มันมาหักล้างว่าอันนี้ไม่ใช่แล้วในวันนี้แล้ว อะไรที่เราเชื่อกันมาตลอดมันอาจจะผิด เช่น สมัยก่อนน้ำมันพืชดีที่สุด แต่ตอนนี้เราเริ่มรู้มากขึ้น แล้วก็ยังมีอีกหลายๆ เรื่องเลยที่นำพาให้เราอยากจะรู้”



















กำลังโหลดความคิดเห็น