“ทนายเจมส์” เผยต้นสังกัดเก่าแรปเปอร์คนดัง “สไปรท์” ลดค่าเสียหายในการฟ้องร้องละเมิดสัญญาให้ 50 % เหลือ 7 ล้าน ด้าน พ่อแม่ลั่นก็ยังรู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรมอยู่ดี ทำไมต้องจ่าย ในเมื่อที่ผ่านมาตนเป็นฝ่ายผลักดันลูกชายเองมาโดยตลอด จนมีชื่อเสียงถึงจะมาฟ้องร้องทั้งๆ ที่ต่างรับรู้ว่ามีการยกเลิกสัญญาผ่านเฟซบุ๊กกันไว้แล้ว
วันนี้ (17 มิ.ย.67) “ทนายเจมส์ นิติธร แก้วโต” ได้พาครอบครัวของ “สไปรท์ ศุกลวัฒน์ พวงสมบัติ” แรปเปอร์ยอดกตัญญู เดินทางมายังศาลจังหวัดฉะเชิงเทรา ในกรณีที่ต้นสังกัดเก่าของน้องฟ้องเรียกค่าเสียหาย 14 ล้านบาท จากยอดวิวกว่า 420,000,000 วิว จนติดอันดับ 89 ในชาร์ต Billboard Global โดย สไปรท์ไม่ได้เดินทางมายังศาลด้วยเพราะไปทัวร์คอนเสิร์ตกับต้นสังกัดใหม่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา
โดย ทนายเจมส์ ได้เปิดเผยว่า วันนี้เดินทางมาที่ศาลจังหวัดฉะเชิงเทราด้วยกรณีที่ต้นสังกัดเก่าของน้องสไปรท์ อ้างว่าน้องสไปรท์ทำผิดสัญญา จากกรณีไปร้องเพลง โชว์ผลงานเพลงตามสถานที่ต่างๆ โดยไม่ได้ขออนุญาตค่ายเก่า แต่จากการสืบทราบได้มีการบอกเลิกสัญญากันแล้วผ่านทางเฟซบุ๊ก ซึ่งทั้งสองฝ่ายต่างยกเลิกสัญญากันแล้ว
โดยที่ศาลมีการพูดคุยกัน 2 กรณี คือ ไกล่เกลี่ย และ การนัดชี้ 2 สถานะ หลังจากมีการพูดคุยกัน ทางต้นสังกัดเก่าเรียกได้พยายามอธิบายเหตุผลที่เรียกเงิน 14 ล้านบาท ซึ่งก็เข้าใจได้ แต่เหตุผลของฝ่ายเราคือเงินรายได้ทั้งหมดที่น้องได้มาผ่านช่อง ไม่ได้ผ่านตัวน้อง ถ้าอยากจะฟ้องร้องต้องฟ้องเจ้าของช่อง ถ้าอยากฟ้องน้องต้องฟ้องในกรณีที่น้องมีรายได้ผ่านมาจากช่อง ในกรณีที่มีสัญญาผูกมัดกันอยู่ จะกี่เปอร์เซ็นต์ก็ว่ากันไปตามสัญญา
ซึ่งทางต้นสังกัดเก่ายอมลดให้ 50% คือ 7 ล้าน ซึ่งตนได้ปรึกษาพ่อแม่ของน้องแล้ว ก็ยังรู้สึกว่าไม่เป็นธรรม เพราะในวันที่พ่อแม่ผลักดันน้องจนมีชื่อเสียงโด่งดังไม่เคยมีใครเข้ามาช่วยเหลือ ตัวน้องและพ่อแม่ยังสำนึกในบุญคุณที่ต้นสังกัดเก่าหยิบยื่นโอกาสในครั้งแรกให้ แต่จำนวนเงินอาจจะไม่ได้เยอะขนาดนี้
ซึ่งหลังจากไกล่เกลี่ยไม่สำเร็จ จึงเป็นการชี้ 2 สถาน โดยโจทก์ฟ้องว่าอย่างไร จำเลยฟ้องว่าอย่างไร ศาลก็จะกำหนดเป็นข้อพิพาท ซึ่งเรื่องดังกล่าวมีเพียงแค่ประเด็นเดียว จึงไม่สลับซับซ้อน ศาลจึงสั่งให้สืบพยาน 2 นัด เข้าสู่ขั้นตอนกระบวนการของศาลต่อไป
ด้าน คุณพ่อของ สไปรท์ ได้เปิดเผยว่า… แม้จะลดค่าเสียหายเหลือ 50% แค่ 7 ล้านบาท แต่ก็ยังไม่เป็นธรรมสำหรับลูกชายและครอบครัวอยู่ดี เพราะรายได้ของน้องที่ได้มาทั้งหมดไม่ได้เข้ากระเป๋าน้อง หรือพ่อแม่เลย แต่เข้าที่ช่องหรือต้นสังกัดใหม่ที่น้องไปประกวด น้องได้แค่ค่าน้ำมันที่น้องไปเข้าประกวดแค่นั้นเอง ที่ผ่านมาน้องผลักดันตนเองมาโดยตลอด 100 % ไม่เคยมีใครมาช่วยเหลือ
ทางต้นสังกัดเก่า เป็นนิติบุคคล เรื่องเกิดตั้งแต่ปี 2561 หลังน้องได้ไปออกรายการหนึ่ง แล้วเริ่มมีชื่อเสียง มียอดคนดูเพลงนี้ประมาณ 60 ล้านวิว ต้นสังกัดเก่าของน้องที่อยู่ จ.นครสวรรค์ ได้ติดต่อมาทางเฟซบุ๊กของน้อง แจ้งความประสงค์ตอนแรกคืออยากให้น้องไปร้องเพลงกับหลานของเขา โดยจะให้เงิน 5,000 บาท ซึ่งตนมองว่ามากไป จึงรับไว้แค่ 3,000 บาท ก่อนจะนัดอัดเสียงที่ห้องอัดแถวดอนเมือง กทม.
ด้านคุณแม่ สไปรท์ ได้เสริมต่อว่า… จากนั้นไม่นานก็นัดพูดคุยและเซ็นสัญญากัน ที่ จ.สระแก้ว ระยะเวลา 6 ปี จากนั้นตนเริ่มพาลูกออกงาน ตามที่ต้นสังกัดแจ้งมา โดยแต่ละงานได้เพียงแค่ค่าน้ำมันรถ 1,000-2,000 บาทมาโดยตลอด แม้จะเดินทางไปจังหวัดไหนก็ตาม กระทั่งกลางปี 62 ลูกจะเปิดภาคเรียนและต้องเรียนหนังสือ ประกอบกับปัญหาเรื่องเงินของครอบครัว ทำให้ไม่สามารถดันลูกต่อไปไม่ไหว เพราะครอบครัวต้องแบกรับภาระค่าเดินทาง ค่ากิน ค่าโรงแรมเองทั้งหมด มีแต่รายรับคือค่าน้ำมันรถที่ต้นสังกัดเก่าให้เพียง 1,000-2,000 บาทเท่านั้น ตนเหลือแหวนทองวงสุดท้าย จึงคุยกับลูกและครอบครัวว่าเราคงต้องหยุด จึงติดต่อไปเพื่อขอยกเลิกสัญญา
แต่ทางต้นสังกัดเก่าบ่ายเบี่ยงมาโดยตลอด อ้างว่าอยู่ต่างประเทศ หรือติดงาน ยังไม่สะดวกในการมาเซ็นยกเลิกสัญญาให้ ตนจึงพิมพ์เป็นลายลักษณ์อักษร เอาไว้ในข้อความเฟซบุ๊ก เพื่อแสดงเจตนารมณ์เดิม ตอนนั้นที่บ้านก็ยังลำบาก น้ำท่วมบ้าน สถานการณ์โควิด ก็ไม่เคยได้รับการติดต่อจากต้นสังกัดเดิมว่าจะมาให้การช่วยเหลือ
จนน้องได้มีโอกาสกลับมาทำเพลงใหม่ ด้วยผลงาน เพลงทน มียอดวิวสูงถึง 420,000,000 วิว ติดอันดับ 89 ในชาร์ต Billboard Globa ทำให้มีชื่อเสียง ตนเองก็ไม่เข้าใจว่า ต้นสังกัดเก่าต้องการฟ้องร้องลูกตนด้วยเหตุผลใด
