xs
xsm
sm
md
lg

“หนิง ปณิตา” ฟาดแซบ “จิน” กลางรายการสด อยากชัดเจน - ไม่ได้อาลัยอาวรณ์ ลั่นไม่รู้ตัวจริงคือคนไหน!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“หนิง ปณิตา” เผยเหตุพูดใส่ “จิน” กลางรายการสด เพราะอยากชัดเจน กลัวคนเข้าใจผิดคิดว่ายังอาลัยอาวรณ์ บอกไม่จำเป็นอย่าโทร.หา คุยแค่เรื่องลูกก็พอ มูฟออนแล้ว ไม่อยากเป็นมือที่สาม ถอยให้สุดทางใครอยากทำยังไงเชิญ แค่อย่ามากระทบความรู้สึกลูก

หลัง “หนิง ปณิตา พัฒนาหิรัญ”ไปสร้างตำนานกลางรายการสด ที่ไปเป็นแขกรับเชิญร่วมกับ “ธัญญ่า ธัญญาเรศ เองตระกูล”โดยบอกกับอดีตสามี “จิน จรินทร์ ธรรมะวัฒนะ”ที่อยู่ๆ ก็โทร.เข้ามาหาตอนกำลังออกอากาศใส่ไมค์ว่า “คุณกรุณาบอกผู้หญิงของคุณก่อนนะคะ ให้เกียรติผู้หญิงของคุณด้วยค่ะ เพราะดิฉันคือผู้หญิงคนเก่าค่ะ” ก็ทำเอาหลายคนแอบซี้ดกับความแซบของแม่ แม้จะออกปากตอนหลังว่าที่พูดไปนั้นแค่แซวเล่นๆ เพราะสถานะตอนนี้คือเพื่อนกันก็ตาม

ล่าสุดวันนี้ (17 มิ.ย.) ได้สาวหนิง ที่มาทำหน้าที่พิธีกรในรายการ คุยแซ่บShow เจ้าตัวก็ได้เผยถึงเรื่องนี้ พร้อมย้ำว่าใครจะทำยังไงเชิญเลย แค่อย่าให้มากระทบกับ “น้องณิริน” ก็พอ

“อันนี้ต้องยกให้คุณธัญญ่า ไม่ใช่หนิง เขาโทร.เข้ามาแหละ มันเป็นรายการสด แต่ตัวเราเข้าใจว่าน่าจะอัดเทปดีเลย์ พี่ญ่าบอก พี่รับเอง (เขาโทร.มาทำไม?) เขาบอกว่าเขาฟังรายการอยู่ หนิงก็เลยบอกว่ากรุณาให้เกียรติคนที่คุณคุยด้วยนะ (หัวเราะ) เขาโทร.เข้าเครื่องหนิง หนิงก็ขำๆ ไปล่ะ แต่จริงๆ คุณจินเองกับพี่ธัญญ่าเขาก็สนิทกันอยู่แล้วกับทางบ้านพี่เป็ก (สัณณ์ชัย เองตระกูล) พี่ญ่าเขาก็รับและเขาบอกว่าอัดรายการอยู่ แล้วเขาก็บอกพี่ญ่าว่าเขากำลังฟังอยู่”

แต่ก่อนโทร.มา ไม่ได้อะไรพูดถึงอีกฝ่ายเลยในรายการ
“ไม่มีอะไรพูดถึงเขาเลยในรายการ ไม่ได้พูดถึง เพราะรายการเพิ่งเข้าด้วย เราเข้าใจว่าพอถ่ายเสร็จแล้ว เดี๋ยวเขาค่อยเอาเทปออนแอร์แบบสดต่ออะไรอย่างนี้ (เขาฟังรายการแล้วอยากที่จะโทร.หา?) อันนี้หนิงก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน เพราะคนรับโทรศัพท์คือพี่ญ่า แล้วเขาก็บอกกับพี่ญ่าว่าเขากำลังฟังรายการอยู่ หนิงก็เลยพูดสวนกลับไปว่า คุณคะ คุณกรุณาให้เกียรติคนที่คุณกำลังคุยด้วยอยู่ค่ะ

พูดแบบนั้นเพราะไม่อยากให้ใครเข้าใจผิด ไม่อยากเป็นมือที่สามของใคร กลัวคนคิดว่ายังอาลัยอาวรณ์
“ต้องพูดอย่างนี้ว่า หนิงเองเนี่ยนะ หลังจากที่เรามีเรื่องมีราวกัน ถามว่ามันมีโอกาสพูดคุยกัน คือหนิงกับจินจะคุยกันเป็นเรื่องส่วนตัวที่เกี่ยวข้องกันณิรินอยู่แล้ว แต่มันก็จะมีบ้างที่เขามาบ่นๆ ถึงเรื่องราวของเขาสัพเพเหระ ในมุมของหนิง ก็จะบอกว่า บางทีคนเราเวลาเราจะทำอะไรก็แล้วแต่ มันต้องมองถึงตัวเองด้วย เรื่องบางเรื่องที่มันทำให้ชีวิตคู่ของเรามีปัญหาเกิดจากอะไรดังนั้นวันนี้ถ้าเราจะไปเริ่มต้นใหม่กับใคร เราต้องไม่ทำสิ่งที่เกิดปัญหาเดิมๆ ซ้ำๆ ไม่ว่าจะด้วยเรื่องอะไรก็แล้วแต่

อย่างกรณีโทร.เข้ามาอย่างนี้ หนิงก็ต้องพูดสวนกลับเข้าไป เพราะพี่ญ่าหยิบโทรศัพท์แล้วรับแล้ว พอรับแล้วถ้าเกิดสมมติมันเป็นข่าวออกมา มันก็กลายเป็นว่า อ้าว…เขาจะโทร.มาหาหนิง หนิงไม่อยากตกเป็นเป้า หรือเป็นมือที่สามของใคร (หัวเราะ) หนิงไม่อยากให้ใครมาคิดว่า หนิงยังอาลัยอาวรณ์พัวพันกัน ยังอะไร หนิงก็ชัดเจนของหนิงว่า โทร.คุยได้ แต่คุณก็ต้องให้เกียรติคนของคุณที่กำลังจะคุยอยู่ด้วย

อย่างเช่นบางทีการที่เขาจะมาเจอหนิงหรือเจอลูก หนิงบอกเลยว่าไม่เคยปิดกั้น อยากจะมาวันไหนเวลาไหนเวลคัมเสมอ แต่คุณต้องให้เกียรติคนของคุณด้วย ทางกลับกันใจเขาใจเรา ถ้าวันนั้นเราอยู่ในโพสิชั่นของผู้หญิงอีกคนหนึ่ง เราก็ต้องรู้สึกเหมือนกันว่า เอ๊ะ…ยังไง แต่ว่าถ้ามันมีการบอกกล่าวแล้วมีเหตุมีผล คนที่คุณคบอยู่มีเหตุและมีผลพอ มันก็จะทำให้การคบกันของคุณไม่มีปัญหา”

บอกเคยเจอหลายคน เลยไม่รู้ว่าคนไหนตัวจริงของอีกฝ่าย
ก็หลายคน เอาจริงๆ ไม่รู้ว่าคนไหน นึกออกไหม เราเลยไม่รู้ว่าคนไหนตัวจริงหนิงถึงบอกว่าคุณต้องให้เกียรติคนของคุณด้วย”

ไม่มีฝากความคิดถึงหรือห่วงใย ฟังแล้วขนลุก!
“ตอนที่โทร.มาเขาก็บอกพี่ญ่าไง ว่าเขาฟังอยู่ แล้วก็ ‘ผมอยู่ที่บ้านพี่นะ‘ ประมาณนั้น (เขาฝากความห่วงใย ความคิดถึง?) ไม่มีๆ ขนลุกๆ ไม่ต้องๆ หนิงพูดชัดเจนอยู่แล้ว

ไม่ได้ใจกว้างแนะนำการปฎิบัติตัว แต่มูฟออนแล้วเลยไม่อยากมีปัญหา เอาแบบซีเรียสคือไม่จำเป็นอย่าโทร. ไว้โทร.มาคุยแค่เรื่องลูกพอ
“คือเอางี้ หนิงบอกเลยนะชีวิตคน เวลามันต้องมูฟออนแล้ว เราไม่ใช่คนตรงนั้น ดีที่สุดที่ทำให้คนสองคนสามารถคุยกันแล้วไม่มีช่องว่าง ถึงแม้ว่าปัญหาบางปัญหามันยังไม่ถูกเคลียร์ก็ตาม แต่ช่องว่างตรงนั้นต้องลดทิ้งไป เพื่อให้เขากล้าที่จะคุยกับเรา ทั้งหมดทั้งมวลมันดีกับสถานการณ์เวลาเขาเจอกับลูกเรา ถูกต้องไหม ถ้าเขาเจอหน้าเราแล้วเป็นนางยักษ์ตลอดเวลา จ้องแต่จะคุยเรื่องที่มันต้องแก้ปัญหา เวลาเขาเจอหน้าเราหรือลูก น้องโตขึ้นทุกวัน เขาฉลาดพอที่จะสัมผัสพลังงานใดๆ ที่พ่อแม่ปะทะกัน

ในเมื่อเราเลือกวิธีการที่เราแยกทางกันเพื่อที่จะแก้ปัญหาในภาวะอารมณ์ที่ไม่ดี ที่จะส่งผลกับเด็ก แล้วเราเลือกกันแบบนี้แล้วทั้งคู่ พอกลับมาเจอกันคุยกัน แล้วพลังงานอย่างนี้ยังอยู่ มันก็ทนๆ อยู่ไปโดยที่ไม่ต้องหย่าไหม คือหนิงมองมุมนี้นะ หนิงก็เลยพยายามจะเป็นคนตลกให้มากขึ้น คือทีเล่นทีจริง แต่ถ้าจะให้พูดแบบซีเรียสก็ถ้าจะโทร.มาเนี่ย ไม่มีความจำเป็นอย่างโทร.มาเลย โทร.มาคุยแค่เรื่องลูกก็พอ”

ชัดเจนในความสัมพันธ์ ไม่มีโอกาสกลับมาแล้ว
“สำหรับตัวหนิงชัดเจน หนิงพูดกับทุกคนอยู่แล้วที่จะประสานรอยร้าวตรงนี้ รอบๆ ตัวหนิงไม่ว่าจะเป็นคนในครอบครัว คนที่เป็นเพื่อนสนิท หรือเพื่อนที่ทำงานรอบข้างที่พยายามจะประสานรอยร้าวตรงนี้ หนิงบอกว่าถึงเรื่องจะยังไม่เคลียร์ร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ชีวิตมีความสุขขึ้น หนิงมีพลังที่จะกลับมาทำงาน มีความสุขในแต่ละวันมากขึ้น หนิงคงไม่อยากจะเดินกลับไปเจอเรื่องทุกข์อีก ส่วนปัญหาที่เกิดขึ้นก็ให้เวลาค่อยๆ เคลียร์ ค่อยๆ แก้ไป อะไรที่มันเป็นเรื่องทางกฎหมาย เมื่อเราใช้กฎหมายแล้วเราก็ใช้ในการจัดการต่อไป แต่ว่าความสัมพันธ์ระหว่างเราที่จะต้องมีพลังงานที่ดีกับลูกมันก็ต้องมี ซึ่งมันไม่ได้ว่าเราจะต้องไปให้เขาเป็นคนทำฝ่ายเดียว ตัวหนิงเองก็ต้องสร้างความสัมพันธ์ที่ดีตรงนั้นด้วยเช่นเดียวกัน”

ไม่ได้อยู่บ้านเดียวกันมาพักใหญ่แล้ว อีกฝ่ายเป็นคนแยกออกไป อยู่ที่ไหนกับใครก็ไม่ทราบเหมือนกัน
“ไม่ได้อยู่ด้วยกันค่ะ แต่ว่าก็สามารถมาเจอลูกได้ตลอด แต่ไม่ใช่มาปุ๊บปั๊บโผล่มาเลยโดยที่ไม่อะไร คุณต้องแจ้งคนของคุณก่อนด้วยเช่นเดียวกัน ใจเขาใจเรา แยกกันอยู่สักพักใหญ่ๆ แล้วค่ะ (เราออกไปหรือเขาออกไป?) อ๋อ หนิงอยู่สิคะ (หัวเราะ) หนิงอยู่สิ ส่วนเขาไปอยู่กับใคร อันนั้นหนิงไม่ทราบ และหนิงไม่ถามด้วย หนิงไม่ทราบจริงๆ ว่าเขาอยู่กับใครอะไรยังไง เพราะไม่ใช่เรื่องที่หนิงจะถาม”

ชัดเจนกับความสัมพันธ์ เพราะไม่อยากให้กระทบลูก เย็นมาตลอด ไม่รู้จะเย็นได้อีกนานแค่ไหน
“อันนี้ต้องบอกตรงๆ ว่าบางครั้งมันมีสิ่งที่ไปกระทบกับลูก แล้วหนิงไม่อยากให้มันไปกระทบกับลูก เพราะว่าเด็กคนหนึ่งเขาเป็นผ้าขาวมากๆ แล้วเขาก็ไม่รู้เรื่องอะไรใดใดทั้งสิ้นเลย และการที่จะมีอะไรบางอย่างไปกระทบกับลูก มันเรื่องเดียวเลยนะ ถ้าวันไหนเห็นหนิงลุกขึ้นมาฟาดฟัน หรือโมโห หรือโกรธ เรื่องเดียวเท่านั้นเลยคือมันกระทบกับลูกหนิง แต่ถ้าไม่มีอะไรกระทบกับลูกหนิงนะ แม้กระทั่งปัญหาที่เขาสร้างไว้ให้หนิง หนิงยังปล่อยชิลได้เลย แต่ถ้ามากระทบกับลูกเมื่อไหร่ หัวอกคนเป็นแม่ที่ยอมเสียสละในเรื่องของตัวเอง แล้วถอยสุดๆ เลย เพื่อที่จะให้ลูกเราไม่ต้องรับรู้อะไรเยอะๆ ไม่ต้องมีปัญหา มันคือสุดมากๆแต่ถ้าเราถอยขนาดนี้แล้ว แล้วมีใครมาทำให้กระทบกับณิรินแม้แต่นิดเดียว ก็ใจเย็นอยู่นะ ทุกวันนี้ก็ยังเรียกว่าใจเย็นอยู่ แต่ไม่รู้ว่ามันจะเย็นได้อีกนานแค่ไหน”

อีกฝ่ายยังไม่เคยพาคนใหม่มาหาลูก เรื่องนี้ต้องถามความสมัครใจของ “น้องณิริน”
“ไม่มีค่ะ ยังไม่ถึงขั้นนั้น แต่อนุญาตไหม อันนี้ต้องถามตัวณิรินเอง ไม่เกี่ยวกับหนิงเลย และถ้าณิรินโอเค แล้วมันเป็นความสุขที่ณิรินโอเค หนิงโอเคอยู่แล้ว อะไรที่ลูกโอเค หนิงโอเคหมด (เราตีกรอบไหมว่าได้เท่าไหนกับลูกเรา?) ไม่ๆ ณิรินโตพอที่จะสร้างกรอบให้กับตัวเอง ว่าอะไรที่ทำแล้วมีความสุข และเขาจะต้องไม่ฝืน แต่ถ้าเขาไม่โอเค แล้วใครก็แล้วแต่ไปทำกระทบเขา อันนั้นหนิงก็ไม่โอเคเหมือนกัน”

ถอยให้สุดทางแล้ว แค่อย่ามายุ่งกับลูกก็พอ
“โอ้ย หนิงว่ามันก็โอเคแล้วมั้ง ตอนนี้หนิงมองว่าจะเดินหน้าไปยังไง แค่ว่าอย่ามายุ่งกับลูกหนิง อย่ามาทำอะไรลูกหนิง เด็กอะน่าสงสารจริงๆ อย่าให้เด็กต้องมีคำถาม อย่าให้เด็กต้องมานั่งรับมือ มานั่งรับรู้ว่าอะไรยังไง”

เรื่องค่าเลี้ยงดูลูกขอผ่าน พูดแล้วจะเป็นปัญหาเรื้อรังไม่จบ
“อันนี้หนิงขอผ่าน (หัวเราะ) เพราะว่าเดี๋ยวพูดขึ้นมามันจะเป็นปัญหาเรื้อรังไม่จบ อย่างที่หนิงพูดไปแล้ว ว่าอะไรที่มันเป็นปัญหาอยู่ ที่ยังทิ้งไว้ให้กับตัวหนิงเอง อะไรถ้าหนิงช่วยเหลือตัวเองได้หนิงอะไรที่มูฟออนได้ หนิงก็พยายามมูฟออนและก็แก้ไขปัญหาเอง ขอแค่อย่างเดียวจริงๆ อย่ายุ่งกับลูกหนิง อย่าทำให้ลูกหนิงไม่มีความสุข แค่นั้นเลย“

ไม่ได้ปล่อยให้ปัญหาคาราคาซัง แต่บางอย่างมันไม่มีทางแก้ ดิ้นไปก็เจ็บเอง
จริงๆ ปัญหาบางปัญหา ถ้าไม่มีทางแก้ ดิ้นไปคนที่เจ็บคือเรา บางทีมันก็ต้องปล่อยไปเรื่อยๆ หนิงก็ไม่รู้หรอกว่าจะอีกนานแค่ไหน แต่เวลาจะช่วยให้ทุกอย่างคลายลงและเบาลงอย่างน้อยๆ วันนี้ที่สัมภาษณ์อยู่ หนิงเชื่อว่าทุกคนก็จะรับรู้ได้ ว่าปัญหายังอยู่เหมือนเดิมแหละ แต่หนิงไม่รู้สึกทุกข์ใจเท่าเดิม รู้สึกชิลขึ้นกว่าเดิม เพราะเวลาช่วยรักษาใจเรา”

แต่ทางคุณปู่ยังซัปพอร์ตค่าเล่าเรียนให้เหมือนเดิม
“คุณปู่ยังดูแลเรื่องค่าเล่าเรียน ที่โรงเรียนให้ณิรินอยู่ค่ะ”

บอกปัญหาไม่ได้อยู่ที่เรา แต่อยู่ที่เขา และมันแก้ไม่ได้
“ขอบคุณค่ะที่ตอบแทน (หัวเราะ) มันก็น่าจะเป็นอย่างนั้นแหละ มันอยู่ที่เขา มันไม่ได้อยู่ที่เราไง นึกออกเปล่า แล้วพอเราพยายามดิ้นๆ คนที่ทุกข์มันคือเราเองไง สู้เราเอาเวลาไปดูแลความสวยตัวเองดีกว่า แล้วลูกก็จะปิดเทอม แล้ววางแพลนเรียน มันก็จะมีเอเนอร์จี้ว่าเดี๋ยวต้องใช้เงินนะ เร่งทำงานหาเงิน”

อยากฝากถึงทุกคนให้รับรู้ร่วมกัน ใครจะทำยังไงเชิญเลย แค่อย่ามากระทบกับ “น้องณิริน”
“ฝากถึงทุกคนว่า ถ้าดูตรงนี้ ก็ขอเคลียร์ให้ชัดเจน ให้รับรู้ร่วมกัน เพราะถ้าไม่รับรู้ร่วมกัน หนิงจะลากทุกคนเข้าไปในไลน์แอดเดียวกันแล้วแถลง ทุกวันนี้คุยแล้วมันเป็นเรื่องขำนะ แต่ ณ วันนั้นมันไม่ขำไง (ในกรุ๊ปนั้นมีเยอะไหม?) ไม่เยอะหรอก ก็ขำๆ เดี๋ยวจะไปตีกันเองแล้วปวดกะบาล เอาเป็นว่าใครจะทำยังไงเชิญเลย แต่อย่าให้กระทบกับลูกหนิงแค่นั้นเอง พูดย้ำไม่รู้กี่รอบแล้วนะ ถ้าฟังกันรู้เรื่อง ก็น่าจะรู้เรื่อง ว่าอย่ามากระทบกับลูกหนิงแค่นั้นเอง”











กำลังโหลดความคิดเห็น