xs
xsm
sm
md
lg

“แน็ก” หมดกันซิกแพ็ก คบ “กามิน” อ้วนขึ้น 20 กิโล ฝ่ายหญิงบอกชอบให้อ้วน น่ารัก ตกงานก็เลี้ยงได้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“แน็ก ชาลี” เผยตั้งแต่ “กามิน” มาไทย ทำน้ำหนักตนเพิ่มขึ้นกว่า 20 กิโล ซิกแพ็กที่เคยมีก็หายหมด เพราะอยากให้ฝ่ายหญิงได้ลองอะไรหลายๆ อย่าง จากที่ไม่เคยชอบซอส ไม่เคยปรุงรสก๋วยเตี๋ยว แต่ตอนนี้ปรุงมากกว่าตนอีก บอกพร้อมซัปพอร์ตหางานให้เต็มที่ช่วงที่อยู่ไทย แต่สำหรับละครหรือภาพยนตร์อาจจะต้องรออีกสักครึ่งปี เพราะภาษาไทยยังไม่ได้ดีมาก แต่บอกนี่คือเสน่ห์ที่คนชอบอยู่แล้ว ด้าน “กามิน“ เผยยังไม่มีแพลนกลับเกาหลี ขอบคุณที่ฝ่ายชายคอยสนับสนุนและดูแลตนทุกอย่าง ชอบให้อ้วน น่ารัก ถ้าวันนึงฝ่ายชายไม่มีงาน ตนก็เลี้ยงได้

มาทำงานที่ประเทศไทยคราวนี้ได้ร่วมครึ่งปีแล้ว สำหรับสาวเกาหลี “กามิน” สาวคนสนิทของพระเอกหนุ่ม “แน็ก ชาลี ไตรรัตน์” ซึ่งมีงานไลฟ์สดให้ได้เห็นเกือบทุกวัน ทั้งงานเดี่ยวและงานที่เป็นคู่ ล่าสุดก็ควงกันมาร่วมงานเปิดตัวน้ำปลาร้าส้มป่อย ณ ร้าน Sail to the moon Asiatique เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ ฟรอนต์ สังเกตได้ชัดเจนว่าช่วงนี้หน้าตาของหนุ่มแน็กดูอิ่มเอิบ มีน้ำมีนวลเป็นพิเศษ ซึ่งเจ้าตัวก็เผยว่าน้ำหนักขึ้นมาร่วม 20 กก. แล้ว เพราะไปหาของอร่อยมาให้ฝ่ายหญิงได้ทาน

กามิน : “ตอนนี้ชอบอาหารไทยมากค่ะ เข้มข้น แต่ก่อนกามินไม่ชอบซอสเยอะๆ แต่ตอนนี้ชอบมากๆ (หัวเราะ)”

แน็ก : “ต้องอธิบายว่าแต่ก่อนเวลาผมเอาอาหารอะไรที่เขาเคยกินครั้งแรกให้เขาลอง เขาจะไม่เอาเลย ไม่ชอบ เพราะซอสบ้านเรามันเยอะ เขาจะไม่จิ้มเลยนะ แต่ผมจะจิ้มกินเยอะมาก ช่วงแรกเขาก็ไม่ค่อยเข้าใจ แต่ตอนหลังเขาก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน เพราะเขาชอบมาก กลายเป็นว่าตอนนี้กินก๋วยเตี๋ยวเขาใส่พริกเยอะมาก ทั้งๆ ที่แต่ก่อนไม่ปรุงเลย”

กามิน : “ตอนที่อยู่เกาหลีปกติจะไม่กินอาหารที่ใส่ซอสเลยค่ะ แม้กระทั่งสลัดก็ไม่ใส่น้ำสลัดเลย กินแต่ผัก แต่พอมาอยู่ที่ไทยตอนเจอชาลี เขาบอกว่าเดี๋ยวกามินจะชอบอาหารที่มีซอสของไทย ตอนนั้นก็ยังบอกว่าไม่ๆ เป็นไปไม่ได้แน่นอน แต่ตอนนี้กลายเป็นชอบซอสมาก”

แน็ก : “หลังๆ มาผมต้องเบรกเขา เพราะใส่พริกเยอะมาก ใส่ให้เราด้วย นึกว่าเราชอบ แต่ไปๆ มาๆ เขาใส่เยอะกว่าเราอีก ชอบการปรุงรสไปเลย ตอนนี้น้ำหนักผมขึ้นเยอะมาก เพราะผมกินเยอะมาก แต่เขาไม่เปลี่ยนแปลง ผมขึ้นมา 20 กิโลแล้วตอนนี้ (หัวเราะ)”

กามิน : “ไม่ได้กังวลเรื่องน้ำหนักขึ้นหรือลงเลยค่ะ แต่ก็คอยระวังอยู่ค่ะ”

แน็ก : “เมื่อวานตี 5 ผมยังกินอยู่เลย คือพอเขามาไทย เรากับทีมงานก็พยายามหาของอร่อยๆ ให้ทดลองหลายๆ อย่าง เพื่อจะได้รู้ว่าจริงๆ แล้วชอบอะไร แต่นี่อาจจะทดลองเยอะไปหน่อย เวลาเหลือผมก็จะชอบกิน อร่อย เราก็ได้กินอะไรหลายๆ อย่าง น้ำหนักมันก็เลยดีดขึ้นเยอะมาก ตอนเขามาผมหนัก 50 แต่ตอนนี้ไป 70 กว่า มันขึ้นไวมาก ถ้าสังเกตหน้าผมแรกๆ ตอนที่สัมภาษณ์ก่อนเขาจะมา หน้าผมยังตอบอยู่เลย แต่ตอนนี้เต็มอิ่มแล้วครับ เขาก็บอกว่าชอบผมแบบนี้นะ (หัวเราะ)”

กามิน : “ตอนนี้ชาลีหล่อ แต่ตอนมาเห็นครั้งแรกก็ตกใจ ชาลีผอมมาก กามินไม่ชอบผอมแบบนั้น ชอบแบบตอนนี้มากกว่า มีน้ำมีนวล มีกล้ามนิดนึง”

แน็ก : “ตอนนี้ซิกแพ็กก็ไม่เหลือแล้วครับ (ยิ้ม)”

กามิน : “ซิกแพ็คไม่มี (หัวเราะ) กำลังน่ารักๆ จริงๆ”

แน็ก : “โชว์ไม่ได้แล้วครับ ไม่เหลือแล้วครับตอนนี้ รวมเป็นก้อนเดียวแล้วครับ (หัวเราะ) ก็พยายาม เดี๋ยวคงต้องเริ่มกลับมาออกกำลังกายบ้าง หรือกินให้มันน้อยลง เพราะผมกินเยอะมากจริงๆ กินทั้งวันทั้งคืนจริงๆ ครับ จนตี 5 ก็ยังหาของกินอยู่เลย ก็ไม่แปลกใจนะ เพราะวันนึงผมกิน 7-8 กิโล ถ้าเอามาชั่งเป็น 10 จาน 10 มื้อต่อวัน ขนมเยอะมาก เมื่อก่อนอาจจะกินต่อมื้อ 2-3 จาน แต่เดี๋ยวนี้กลายเป็นมื้อนึง 6-7 จาน มันเยอะมาก น้ำหนักขึ้นกันทั้งทีมเลยครับ ทีมงานผมก็ไม่ธรรมดา กินกันเยอะมาก

แต่ตอนหลังก็พยายามกินให้น้อยลง เพราะบอกเขาแล้วว่ายังไงอยู่ที่นี่การผอมหรือมีรูปร่างที่ดี มันหางานได้ง่ายกว่า เพราะถ้าปล่อยอีกนิดอาจจะคุมยากแล้ว คนเรียกร้องอยากเห็นซิกแพ็กอีก ผมไม่รู้จะเอามันกลับมายังไงครับตอนนี้ ถ้ามีงานโชว์บอดี้เข้ามาก็โชว์ไม่ได้ ก็เลยไม่ได้มีงานที่โชว์เลยตอนนี้ (หัวเราะ)”

“กามิน” เผยยังไม่มีแพลนกลับเกาหลี และ “แน็ก” ก็ไม่ได้เร่งอยากจะเจอครอบครัวที่เกาหลีแล้ว
กามิน : “ก็คิดว่ามาอยู่ที่ไทย อยู่กับชาลีแล้วจะทำงานหรือทำอะไรดีค่ะ แพลนกลับเกาหลียังไม่มีเลยค่ะ (หัวเราะ) ชอบประเทศไทย”

แน็ก : “ที่ผมบอกว่าอยากไปเจอครอบครัวเขาที่เกาหลี คือเรื่องนี้ผมตัดไปก่อน เพราะจริงๆ มีการคุยกันตลอดอยู่แล้ว ผมรู้สึกว่ามันต้องอยู่ที่ความสะดวกใจของเขา ถ้าอะไรพร้อมมันก็ไม่น่าจะมีอะไรที่เป็นปัญหา ก็รอเขาพร้อมทุกๆ อย่างแล้วก็ไปกันได้อยู่แล้วครับ เหมือนตอนนี้เขาทำงานด้วยก็เลยยังไม่ได้อยากกลับไป เพราะยังมีงาน ก็ไม่ต้องไปๆ กลับๆ รอวันนึงถ้าเขาอยากกลับไปพักผ่อน หรือเรามีเวลาว่างจริงๆ ก็ว่ากัน แต่เรามองที่อื่นที่จะไปกันมากกว่า

ส่วนที่ประกาศว่าจะหยุดไลฟ์ จริงๆ ก็หยุดกันมาเกือบอาทิตย์แล้ว ผมก็ไปปรับปรุงรอบๆ บ้าน เพราะตอนนี้มีเพื่อนๆ มีพี่น้องแท้ๆ ที่มาเริ่มไลฟ์ มาร่วมกันขายของ ผมก็สนุกที่เห็นหลายๆ คนมาไลฟ์ที่บ้านเรา แต่กามินเขาก็ยังมีไลฟ์ เมื่อวานเขาก็เริ่มทำงานแล้ว แต่ผมก็จัดการรอบๆ สตูฯ อยู่ และพรุ่งนี้ผมก็จะเริ่มทำงานของผมด้วย”

กามิน : “เมื่อวานกามินไลฟ์คนเดียว ชาลีตกงาน (หัวเราะ) ถ้าเขาตกงาน กามินก็เลี้ยงได้ค่ะ ถึงเขาจะกินเยอะก็ไม่เป็นไร กามินชอบเวลาเขากินเยอะๆ ชอบให้เขากินเยอะๆ ดีแล้ว น่ารักดี”

เผยไม่ได้อยากให้ฝ่ายหญิงเร่งรีบเรื่องเรียนภาษาไทย เพราะปัจจุบันเป็นแบบที่คนชอบอยู่แล้ว
แน็ก : “ต้องบอกว่าตอนนี้ให้เก็บชั่วโมง พอไลฟ์กับเรามาหลายครั้งแล้ว ตอนนี้ก็เริ่มไปกับที่อื่นได้แล้ว เริ่มให้เขาได้เจอคนอื่น เริ่มไปไลฟ์กับที่อื่นบ้าง เพราะถ้ายังพูดไม่ได้เลยเวลาไปไลฟ์มันก็ยาก เราก็จะเห็นเขายืนนิ่งๆ อย่างเดียว แต่ว่าตอนนี้เขาเริ่มเล่นมุก เริ่มเข้าใจภาษา สมมติใครเล่นมุกมาตอนนี้ก็เข้าใจหมดแล้ว เล่นมุกตามได้ ก็ทำให้ไลฟ์สนุกขึ้น และเขาก็คุมงานเองได้ด้วย

แต่ตอนนี้เขาเริ่มฟังภาษาไทยได้มากขึ้นแล้ว หลังจากนี้ก็นินทาไม่ได้แล้วครับ แต่ไม่กลัวนะ เราไม่ได้มีการนินทาหรืออะไรพวกนั้นมากมายอยู่แล้ว และเวลาอยู่ด้วยกันเราพยายามถามตลอดว่าถ้าคุณอยากรู้ว่าเราคุยอะไรกัน คุณต้องถามนะ แต่ผมก็ยังพูดภาษาเกาหลีไม่ได้นะ

ผมบอกเขาว่าคุณต้องคิดสิว่าตอนนี้คุณทำงานที่ไหน คุณทำงานที่ไทย และผมก็เป็นคนที่ต้องหางานให้เขาให้ได้เยอะที่สุด เขาก็ต้องพูดภาษาไทยเป็น เขาต้องเป็นคนที่พัฒนาให้ได้มากกว่าผม เพราะตัวผมไม่ได้ใช้ภาษาเกาหลีอะไรมากมาย และผมก็มั่นใจว่าผมไม่ได้ไปทำงานที่เกาหลีอยู่แล้ว เหมือนถ้าตอนผมไปจีน ผมก็ตั้งใจฝึกภาษาจีนอยู่ มันคนละอย่างกัน แต่ตอนนี้เรารู้ว่างานของเขาทำที่ประเทศไทย พูดภาษาไทย ขายของ หรืออนาคตต้องไปเล่นละคร เล่นหนัง ก็ต้องใช้ภาษาไทย”

บอกถ้าเรื่องงานแสดงคงต้องใช้เวลาอีกหน่อย แต่เรื่องร้องเพลงก็ไม่แน่
แน็ก : “ผมก็คอยผลักดันหางานให้เขาครับ แต่ต้องบอกว่าหนังกับละครยังต้องใช้เวลาอีกเยอะ บางทีอาจจะเสียเวลาด้วย ถ้ามีโอกาสงานอื่นที่มันสั้นๆ แต่เงินมันเยอะกว่าไปถ่ายหนังทั้งปี โอกาสตรงไหนที่มันดีเราก็คว้าตรงนั้นไว้ก่อน ผมว่าต้องมีอีกสัก 5-6 เดือนแหละ ก็ปล่อยให้เป็นไปตามพัฒนาของเขาครับ หรือจะเริ่มจากร้องเพลงก็ได้ ผมก็รู้สึกว่าเขาร้องเพลงเพราะ และไม่จำเป็นต้องร้องชัดมาก หรือเข้าใจมาก เพราะเสน่ห์ของคนต่างชาติที่คนไทยหลงรักคือการพูดไม่ได้ชัดมาก การพูดสำเนียงที่ออกมาแล้วน่ารัก การได้เห็นความพยายามที่แสดงออกมา แล้วบิดคำไทยให้มันน่ารัก ตลก คนก็จะหลงรักเขา

สมมติถ้าร้องเพลงก็จะให้ใช้สำเนียงของเขา ข้อได้เปรียบก็คือคนไทยชอบภาษาเกาหลีและคนเกาหลีอยู่แล้ว เขาก็อาจจะเอาภาษาเกาหลีกับภาษาไทยผสมกันในเพลง ก็น่าจะเป็นอะไรที่หลายคนชอบ จริงๆ เราก็พยายามกันบ่อย แต่ผมต้องบอกว่าตัวผมตั้งใจทำทุกเพลงมันไปไม่รอด ผมลองมาเยอะแล้ว มันไม่ได้ง่าย และต้องอย่าลืมว่าแฟนคลับเขากับแฟนคลับเราเป็นแค่กลุ่มนึงที่สนับสนุนกันมากๆ ซึ่งถ้าตั้งใจทำเยอะไปมันก็ยาก แต่ตอนนี้มันเป็นความน่ารัก คือมีเอฟซีของเขาเอาคำพูดประโยคน่ารักๆ ไปลงโซเชียล”

“กามิน” บอกดีใจที่มี ”ชาลี” อยู่ข้างๆ คอยซัปพอร์ต
แน็ก : “ผมว่าเขาก็ดีใจนะ ผมอาจจะยังไม่ได้ให้เรียนอะไรมากมาย เพราะมันจะดูจริงจังไป บวกกับเก่งเกิน เข้าใจมากเกิน เสน่ห์ที่เหลืออยู่มันก็จะไม่มี นึกภาพว่าถ้าเขาพูดไทยได้ชัดเหมือนคนไทยทั่วไป งานก็คงไม่มี ตอนนี้ที่ทุกคนหลงรักเขาตั้งแต่แรกคือความน่ารักที่เขาเป็น และสำเนียงการพูดจาที่เขาค่อยๆ เข้าใจเอง ก็ทำให้คนหลงรักและชอบกับความที่เขาเป็นแบบนี้อยู่”

กามิน : “ดีค่ะที่ชาลีคอยตามใจ เหมือนมีคนที่อยู่ข้างๆ แล้วก็สนับสนุน ก็เป็นเรื่องที่ดีค่ะ เขาไม่เคยขัดใจ แต่มีดื้อ (หัวเราะ) ไม่ใช่ว่าไม่ถูกใจ แต่คนเราก็ไม่เหมือนกัน ก็พยายามปรับตัวเข้าหากันอยู่”

แน็ก : “ใครดื้อกว่ากันเหรอ ยูเวรี่ดื้อ (ยิ้ม)”

กามิน : “จริงๆ ชาลีดื้อกว่า บอกอะไรก็ไม่ค่อยฟัง แต่ชอบบอกว่ากามินดื้อ”

แน็ก : “ก็ดื้อทั้งคู่นั่นแหละ”







กำลังโหลดความคิดเห็น