“ต่อ ธนภพ” เผยไปถ่ายละครกลางทะเลทำผิวที่แขน-คอไหม้ บอกตอนนี้ก็ยังไม่หาย แถมยังต้องเตรียมตัวไปถ่ายต่อ ยอมรับเป็นคนรักผิว แต่ถ้าเพื่อให้งานออกมาดีตนก็พร้อมแลก ดีใจที่ได้เล่นเรื่อง หนึ่งในร้อย กับ “ญาญ่า” เพราะตั้งใจทำงานอย่างสุดหัวใจ ไม่โฟกัสรัก “แอฟ ทักษอร” กับ “นนกุล” ต้องโฟกัสงาน แต่ยินดีไปกับความรักของเขา
ขึ้นชื่อว่าเป็นนักแสดงมากความสามารถอีกคนที่ทุ่มเทให้กับงานแสดง สำหรับพระเอกหนุ่ม “ต่อ ธนภพ ลีรัตนขจร” ที่ล่าสุดกองละครเรื่อง หนึ่งในร้อย ของผู้จัด “แอน ทองประสม” ยกกองไปถ่ายทำกันกลางทะเลที่จังหวัดตรัง ก็ทำเอาผิวขาวๆ ของหนุ่มต่อไหม้ไปทั้งที่แขนและคอ ซึ่งเจ้าตัวก็บอกว่าปกติเป็นคนรักผิวอยู่แล้ว แต่ถ้าเพื่อให้งานออกมาดีตนก็พร้อมแลกได้
“ตอนนั้นผมต้องออกไปพายเรือในทะเลน้ำกร่อย แล้วพอเราไปอยู่กลางทะเล แล้วมันเป็นเรือโบราณ เราไม่มีที่ เพราะเรามีโดรนด้วย เราก็ไม่มีที่ที่จะเอากันแดดออกไปทาเลย ก็ปกป้องกันเองอยู่ตรงนั้น มันก็เลยเกิดการไหม้ของแขน เพราะว่าชุดผมมันเป็นเสื้อเชิ้ตพับแขน ซึ่งทุกวันนี้คนอาจจะไม่รู้สึก แต่ที่จริงมันยังไหม้อยู่ คอก็ไหม้
มันก็รู้สึกว่าหน้าเราลอย เวลาคอมันดำ แต่หน้ามันเท่าเดิม (หัวเราะ) ผมก็แปลกใจเหมือนกันว่าหน้ามันไม่ดำขึ้น แต่คอดำ มันร้อนมาก นี่ยังไม่ทันหาย พรุ่งนี้ต้องไปต่อ คือผิวผมมันแปลกมากเลย มันลอกน้อยด้วย ปกติน่าจะกลายเป็นแผ่นๆ แต่นี่ไม่ค่อยลอก และดำนานด้วยครับ มันเป็นขุย แต่ไม่ได้ลอกเหมือนที่เขาลอกกันเป็นแผ่นๆ เพราะถ้าลอกเป็นแผ่นๆ มันอาจจะหายไวกว่าไหมไม่รู้ มีคนบอก
มันก็มีผลต่อการถ่ายฉากต่อไปสุดๆ แต่เรามีเมกอัปที่เริ่ดอยู่ และทีมตากล้องเราเก่ง ทุกคนพร้อมช่วยเหลือ เพราะทุกคนหนักหมด พรุ่งนี้เราจะไปทะเลต่ออีกครับ แต่ว่าโค้งสุดท้ายแล้วนะ หนึ่งในร้อย รอได้เลยครับ ถามว่าเรารักผิวแค่ไหน เอาจริงๆ ผมรักนะ แต่ถ้าเพื่องานผมก็แลกได้หมด ถามว่าเรื่องนี้คือที่สุดไหม จริงๆ ผมว่าในแง่อากาศร้อนสุดจริงๆ ครับ แต่มันไม่ได้ผิดที่แค่คอสตูมที่เราเจอ ผมว่ามันคือสภาพอากาศ ที่สุดท้ายเราก็ยังรณรงค์ว่าช่วยเถอะ ร้อนจนไม่ไหวแล้ว”
บอกผู้จัด “แอน ทองประสม” เวลามากองก็ปลอบใจ ช่วยเหลือเป็นอย่างดี
“จริงๆ เวลาเขามาเชียร์เราที่กองเขาก็ปลอบใจนะ เขาเห็นเราผิวไหม้แบบนี้ เขาก็สงสารแหละครับ แต่มันแก้อะไรไม่ได้หรอก ผมพูดจริงๆ ว่าพอกองนี้มาเปิดในปีที่อากาศเป็นแบบนี้ ผมกล้าพูดเลยว่าเชื่อผมเถอะ ทุกคนหลุดเกินคำว่าเต็มที่ไปแล้ว มันมากกว่าเต็มที่จริงๆ ครับ เพราะเราเจอทั้งช่างไฟ รวมถึงหน้าที่อื่นที่ฮีทสโตรกในกองเลย ซึ่งสุดท้ายแล้วมาตรการมันก็ต้องมากขึ้น แต่ถามว่าไม่ถ่ายได้เหรอ ก็ไม่ได้อีก แฟนๆ ก็รออยู่ ทุกคนคิดถึงคนดูหมด อะไรก็คนดูต้องไม่ได้ดูมันช้าลงไปกว่านี้ เช่นบางคนบอกว่าปีหน้าแน่ ก็ใจเย็นๆ เราเต็มที่อยู่ ถ้ามันปีนี้ได้ก็อยากปีนี้แน่
ตอนแรกรู้สึกว่าถ่ายได้ช้า แต่พอมันโค้งสุดท้ายจริงๆ อีกไม่เกิน 2 สัปดาห์จะจบแล้ว ก็ใจหาย ใจหายกับทั้งทีมในกอง เพราะสุดท้ายแล้วมันผูกพันหมดแหละ ทุกคนคือเพื่อนหมด มันอาจจะไม่ได้หมายความว่าเราต้องไปไหนมาไหนด้วยกันหรอก แต่สุดท้ายมันชัวร์ว่าเราเป็นเพื่อนกันแล้วนะ เราไม่ใช่คนไม่รู้จักกันนะ”
เป็นเกียรติที่ได้ทำงานกับ “ญาญ่า อุรัสยา เสปอร์บันด์” ตั้งใจทำงานกันสุดหัวใจ
“ถามว่าพอละครออนคนจะได้จิ้นกับพี่ญ่าเลยไหม เอาจริงๆ นะ ที่ผมรู้สึกว่าผมเป็นเกียรติมากๆ กับพี่ญ่า คือใครที่ตามงานผมมา ผมชอบทำงานแนวนี้มาตลอด คือการที่สุดท้ายแล้วผมกับพี่ญ่าเราขายงานกันจริงๆ เราขายสิ่งที่เราตั้งใจทำมันสุดหัวใจ ส่วนอะไรที่มันจะเกิดขึ้น เราเชื่อมั่นว่าปล่อยให้เป็นเรื่องของมัน เราเชื่อว่าคนที่รู้สึกตามได้เขาจะมีสติ เพราะสุดท้ายแล้วทุกคนมีชีวิตของตัวเอง และผมก็เคารพชีวิตทุกคน ผมรู้สึกว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องจริงๆ ที่อยากให้ทุกคนรอดูครับ และผมก็ไม่ได้กลับมาช่วยงานช่อง 3 นานมากๆ ก็เป็นอีกครั้งนึงที่ฝากเชียร์ด้วยนะครับ”
ปัดตอบเรื่อง “แอฟ ทักษอร ภักดิ์สุขเจริญ” กับ “นนกุล ชานน สันตินธรกุล” กำลังอินเลิฟ
“เขาอาจจะอินเลิฟ แต่ผมอินเวิร์กอยู่ครับ คือเราก็ไม่ได้ตามจริงๆ เอาจริงๆ ผมยังไม่ค่อยอยากพูดถึงโปรเจกต์นี้ แต่ การุณยฆาต รอผมอยู่เหมือนกัน ผมจำเป็นจะต้องโฟกัสมันเยอะ คือสุดท้ายก็ชีวิตคนทั่วไปครับ หมายถึงทุกคนมีชีวิตของตัวเอง ก็เคารพให้เกียรติซึ่งกันและกัน ดีใจไปกับเขา ไม่ว่าเขาจะดีใจหรือเสียใจ เราแค่ร่วมไปกับเขา ผมว่าอันนี้น่าจะพอดีสุดในการที่เราอยู่ด้วยกันและเราน่าจะยิ้มไปด้วยกันได้ตลอด”
