xs
xsm
sm
md
lg

“มิเรียน” เคลียร์ เล่นกับไฟ คบผู้ชายเจ้าชู้ เล่าชีวิตที่ผ่านความเศร้ามาได้ สูญเสียสามี - เพิ่งคลอดลูกได้ 1 เดือน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เปิดใจเต็มๆ ผ่านรายการ โต๊ะหนูแหม่ม สำหรับสาวคนสนิท “พีเค ปิยะวัฒน์ เข็มเพชร” อย่าง “มิเรียน สุเดชา อัคเซลการ์ด” ซึ่งเจ้าตัวได้สะท้อนมุมมองบวกๆ ในชีวิตหลายอย่าง ทั้งการฉุดรั้งพีเคให้ลุกขึ้นมาในวันที่ดิ่ง วันที่สูญเสียสามีคนแรก ขณะเพิ่งคลอดลูกได้ 1 เดือนกว่าๆ เธอผ่านมาได้อย่างไร

โดยมิเรียนเผยว่า จริงๆ อยู่กับพีเคตลอด ใช้คำว่าแฟนก็ได้ จริงๆ ไม่ได้เพิ่งรู้จักกัน รู้จักกันนานมากๆ ผ่านคุณแม่กับพี่หนุ่ม (พี่ชายพีเค) เขาไปเที่ยวที่เชียงใหม่ ก็ดูแลเทคแคร์คุณแม่ ช่วงนั้นกำลังทำพวกอีเวนต์ ออแกไนซ์ คุณแม่ก็บอกว่าเอาลูกชายแม่เป็นพิธีกรนะ เผื่อมีงาน เขาชวนไปกินข้าว ก็เลยได้เจอกัน

หลังจากรู้จักกัน มีทำงาน เลยชวนเขามาเป็นพิธีกรให้ น่าจะ 6-7 ปีที่แล้ว ตอนนั้นต่างคนต่างมีครอบครัว มีภาระของตนเอง ตอนนั้นไม่ได้ทักด้วยค่ะ ถ้าแฮปปี้ก็ต่างคนต่างอยู่ แต่ช่วงหนูเสียสามีเขาก็ทักมาว่าเป็นยังไงบ้าง ก็โอเค

เริ่มคุยกันจริงจัง ในช่วงวิกฤตของเขา เราเหมือนทักเขาไปว่าเป็นยังไงบ้าง เราไม่ได้ติดตามเขา แต่มันเด้งขึ้นมาทุกวัน เราก็เหมือนถามเพื่อนว่าโอเคไหม เขาก็ตอบว่าไม่โอเค วันนั้นมีประชุมที่กรุงเทพฯ ก็เลยถามเขาไปว่าอยู่กรุงเทพฯ ไหม กินข้าวกันไหม เราว่างช่วงประมาณ 4-5 โมง ก่อนขึ้นเครื่อง ขึ้นเครื่อง 3 ทุ่มที่สุวรรณภูมิ เลยแวะไปกินข้าวกับเขาแป๊บนึง สักพักเขาก็ร้องไห้ เราก็เลยไม่ได้กลับเลย ตกเครื่อง (หัวเราะ)

แว๊บแรกที่เห็นสภาพเขา เราเจอเขาตอนทำงาน กินข้าว ก็อยู่ในโหมดที่ปกติ วันนั้นที่เจอเขาดูเหมือนปกติ แต่พอคุยไปเรื่อยๆ อาจมีอะไรไปสะกิดใจเขาบางอย่าง เขาก็เริ่มดิ่ง ตอนอยู่กับเขา เขาก็พรีเซนต์ตัวเองว่าเขาโอเค ตัดช่วงที่เขาเศร้าออกไป แต่พอคุยเรื่อยๆ ได้ทำความรู้จักกันเรื่อยๆ

ตอนนั้นไม่ได้คิดว่าอยากช่วยหรือฮีลเขาให้รู้สึกดี เป็นโมเมนต์บายโมเมนต์เลย สมมติว่ากำลังเศร้า ด้วยความที่เราเลี้ยงลูก เด็กเวลาเศร้าก็ต้องเบี่ยงเบนความสนใจ เบี่ยงเบนพฤติกรรม คิดว่าทุกคนเหมือนกัน ใครเศร้าต้องเบี่ยงเบนความสนใจ เปลี่ยนเรื่องท็อปปิกคุย

เรื่องเสื้อสีขาว ก็เป็นทฤษฎีเบี่ยงเบน วันนั้นที่ไปพัทยา แล้วก็มีข่าวออกมาว่าสาวหมวย แต่วันที่ไปไอคอนก็มีข่าวว่าสาวลูกครึ่ง อีกวันที่ใส่เสื้อเขียนด้านหน้า เราบอกงั้นเป็นสาวอินเดียเลยไหม เป็นเหตุผลที่เราแต่งหน้าให้ดูเข้มขึ้น เราก็เล่นกัน จริงๆ คุยกันคนก็มองเราว่าเราเป็นโจลี่ (โจลี่ เหงียน) หรือเปล่า เราก็บอกเขาว่าไม่ไหวแล้ว เพราะตอนนั้นที่คนมองคือเขามองพี่พีเคก็จะยิ้มให้ แต่พอมามองเราเขามองด้วยสายตาไม่โอเค เราทนไม่ไหวแล้ว เดี๋ยวจะไปซื้อเสื้อแล้วเขียนว่า I'm not เป็นชื่อเขา แล้วเขาก็หัวเราะ แต่จริงๆ มันดูไม่ค่อยออก ถ้าเดินอยู่ก็ดูไม่ค่อยออก

เขามีพูดขึ้นมาว่า ตอนนี้สำหรับเขามันแย่มาก เราก็เลยบอกว่าไม่ได้แย่ขนาดนั้น อยู่ที่มุมมองของเราว่าเราจะรับสิ่งที่เราเจอยังไง เขาบอกว่าไม่มีใครเข้าใจเขา เราก็บอกว่าเดี๋ยวจะทำความเข้าใจว่าเขากำลังเจออะไรอยู่ ก็บอกว่าต่อให้มีข่าวที่มันแย่ เราจะทำให้เขาดูว่าวิธีการจัดการกับใจของเราต่อข่าวที่เกิดขึ้น เราทำยังไง เราก็ไม่สนใจ เอ็นจอยไป “เราต้องทำให้โลกของผู้ชายที่กำลังแย่ เป็นสีชมพู เป็นเรนโบว์ให้ได้ ก็ทำไปเรื่อยๆ แต่เราบอกเขาว่าขอเวลา 7 วัน ไอจะทำให้ยูดีขึ้น”

เขาก็ดีขึ้น แฮปปี้ขึ้นเรื่อยๆ หลังจากเราคิดว่า 3 วันเขาดีขึ้นแล้วนะ 7 วันเขาก็ดีขึ้น วันนี้เขาก็ดีขึ้น เริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงทุกวัน เขาไม่ค่อยเครียดแล้ว

ส่วนที่คนมองว่าเขาเป็นคนเจ้าชู้ ก็ให้มันเป็นเรื่องส่วนตัว การกระทำของเขาอาจจะทำให้คนอื่นมองว่าเขาเป็นคนเจ้าชู้ แต่เวลาที่เขาอยู่กับหนู เขาต้องการอยู่ด้วยตลอดเวลา แล้วเขาจะเอาเวลาไหนไปเจ้าชู้ มันแทบไม่มีเลย การที่เขาอยู่กับใครสักคน อยากใช้เวลากับคนนั้นตลอดไป เราย้อนกลับมาคิดด้วยซ้ำว่าถ้าเรามีผู้ชายที่ดูแลเราดีขนาดนี้ เราจะเก็บเขาไว้ยังไงมากกว่า แทนที่จะไปหาคนนั้นคนนี้

ส่วนที่คนมองว่าเหมือนเรากำลังเล่นกับไฟ เราชอบให้คำปรึกษาเพื่อน ถ้าวันนึงเราเคยให้คำปรึกษาเพื่อนหนึ่งคน เขาได้คนเดียว แต่บางทีการสัมภาษณ์เราอยากแชร์มุมมองประสบการณ์ที่เรียนรู้มาในชีวิต คำบางคำ บางประโยค อาจช่วยใครสักคน ไม่ได้โฟกัสคนแสนคนที่ด่าเรา เราโฟกัสคนร้อยคนที่เขาได้อะไรไปจากเรา เราสะกิดเขา แล้วเขาแฮปปี้ขึ้น โฟกัสแค่คนๆ นั้น ถ้าวันนึงเขามาเจอแล้วได้ยิน คิดว่าใช่ มันไปแก้ไขสถานการณ์เขาได้ มิเรียนดีใจ แค่นั้นเลย

ครอบครัวทุกคนไม่มีใครมาเตือนเลยสักคน มีแต่คนบอกว่าเรารู้ว่าถ้ามิเรียนเลือกแล้ว นี่คือสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับมิเรียนแล้ว เขามั่นใจในการตัดสินใจของเราว่าเราเลือกสิ่งที่ดีที่สุด แม้กระทั่งคุณแม่ก็บอกว่าไม่ต้องไปสนใจ ดูแลพี่พีเคดูแลคุณแม่เขาให้ดี เขาน่าจะอยู่กับปัจจุบันกัน ไม่ได้สนใจคำพูดของคนอื่น พี่พีเคก็มีครอบครัวที่น่ารัก บ้านมิเรียนก็ซัปพอร์ตซึ่งกันและกัน ไม่ว่าจะตัดสินใจทำอะไร เขาก็ซัปพอร์ตหมด

นอกจากนี้ มิเรียน ได้เผยถึงเรื่องการแต่งงานและการสูญเสีย ขณะที่เพิ่งคลอดลูกได้เพียง 1 เดือน
“มิเรียนแต่งงานตอนอายุ 27-28 อยู่เชียงใหม่ ตอนนั้นทำธุรกิจคล้ายๆ กับเอเจนซี่คอนเซาท์ มาร์เก็ตติ้ง อดีตสามีทำมะพร้าว อยู่ที่กรุงเทพฯ เขาก็มาจ้างเรา เขามาจีบนั่นแหละแต่ทำเป็นจ้าง เราก็เอ็นจอยกับสิ่งที่เขาทำ รู้สึกเขามีแพสชั่น เป็นผู้ชายที่มองภาพกว้าง มองไปข้างหน้า 5 ปี 10 ปี ซึ่งคนไม่คิดกัน เราก็มองว่ามันท้าทาย เป็นสิ่งใหม่ที่เราทำ ทุกวันนี้ก็ยังแครี่ออนวิชั่นของเขา แม้เขาจะเสียไปแล้ว เราก็เอาวิชั่นเขามาทำธุรกิจของเรา

จริงๆ ตอนนั้นคลอดลูกได้ 1 เดือน เขาก็เสียเลย เพราะทำงานเยอะ ยอดขายจากเมื่อก่อนไม่เท่าไหร่ ช่วงโควิดเป็นความต้องการ ที่คนต้องการกินน้ำมะพร้าว กินมะพร้าวอ่อน จากทำงาน 8 ชม. เพิ่มกะจาก 1 กะ เป็น 3 กะ เวลานอนของเขาก็เลยเพี้ยน ตอนเขาเสียเขาอายุ 34 ค่ะ เขานอนน้อย นอน 3 ชม. บางทีก็นอน 1-2 ชม. เขาดื่มด้วย มีเพื่อนเยอะ พอเพื่อนมาก็เอ็นจอยเต็มที่ แล้วเราก็ไม่ห้าม

วันที่มันขึ้นเกิด มีไซน์มา อย่างเช่นการตื่นขึ้นมาแล้วไอแรงๆ เราก็คอยดูเขาว่าโอเคไหม ไปตรวจไหม เขาก็ไม่ยอมไป โอเค ไม่ไป ก็ปล่อย เราไม่เคยได้ลิ้มรสความสูญเสีย พอสูญเสียก็ค่อนข้างระวังกับตัวเองและคนรอบข้าง

เราคลอดลูกได้ 1 เดือนกับ 5 วัน ก่อนหน้าที่จะเสียพี่โจ๊ก (สามี) ไป หนูเสียยายไปตอนท้องได้ 7 เดือน คุณตาก็เศร้า คุณตาก็เสียใจ สามีหนูไปบอกคุณตาว่าไม่ต้องเสียใจ เขาใช้ชีวิตมาคุ้มแล้ว ลองไปดูสิ ผู้หญิงบางคนคลอดลูกได้เดือนเดียว ผัวก็ตายเขายังอยู่ได้เลย เราก็เลยเสิร์ซดูว่าเขาอยู่ได้จริงๆ เหรอ มันเหมือนมีการเตรียมแบบที่เราไม่รู้ มีการเตรียมใจโดยไม่รู้ตัว พอเกิดขึ้นจริงๆ มันก็ต้องอยู่ให้ได้ สิ่งที่มันขาดหายไปก็แค่เขาไม่โทร.หาเราแล้ว เราโทร.หาเขาไม่ได้แล้ว มันไม่มีร่างของเขาให้เราได้พูดคุยกับเขาแล้วหรือแชร์อะไรกับเขาแล้ว

หลังสามีเสีย มิเรียนก็แยกออกมา เพราะตอนนั้นไม่ได้จดทะเบียน มาเซ็ตอัปกับพาร์ตเนอร์คนใหม่ ได้พาร์ตเนอร์ที่ดี แต่เราก็ยังแครี่วิชั่นของเขาอยู่ เราดีใจที่ได้เจอกับเขา เพราะมันกลายเป็นธุรกิจที่เราได้เลี้ยงเรา เลี้ยงลูก เลี้ยงครอบครัว

เรื่องนี้เล่าให้พี่พีเคฟัง เวลาเขาดิ่งมากๆ เขาก็จะจมอยู่กับเมมโมรี่ของเขา เราก็บอกว่าเราก็มีเมมโมรี่นะ แต่เราไม่จมกับมัน จะให้ย้อนไปจมก็ได้ แต่เราไม่ย้อนจมไปกับมัน เพราะวันนี้เราอยู่กับปัจจุบันไป เรามีกันและกันแล้ว ถ้าใช้เวลาปัจจุบันจมอยู่กับอดีต เราจะเสียเวลาปัจจุบันมากๆ ก็บอกว่าอย่าเสียเวลากับอดีต”

รักครั้งนี้ดีกว่าครั้งที่ผ่านๆ มา คาดหวังแบบ Day By Day
“มองความรักครั้งนี้เป็นความรักที่ดี เมื่อวานยังบอกเขาอยู่เลยว่า เราเคยรู้สึกดีกับความรักครั้งที่ผ่านๆ มา แต่ครั้งนี้รู้สึกดีกว่าเดิม เพราะว่าเขาเติมเต็มเรา เราเองก็เติมเต็มเขา เมื่อเราให้เขาและเขาก็ได้รับ เราก็ยิ่งได้ ล่าสุดเขาป่วยด้วย ก็บอกให้กินยา หาหมอ ก็พูดยากกว่าลูก ลูกเราง่ายกว่า ต้องบอกเขาว่าเราไม่อยากกลับไปอยู่ในจุดที่เราสูญเสียอีกแล้ว ถ้าเขามีชีวิตอยู่เพื่อรักคนอื่น ถ้ารักเรา ก็ดูแลตัวเองให้ดี เพราะหนูอยากใช้ชีวิตอยู่กับร่างกายเขาไปนานๆ ก็บอกเขาแบบนี้ เมื่อก่อนไม่เคยห้ามอดีตสามีว่าต้องไม่กินเหล้าโน่นนี่นั่น แต่อันนี้เราขอเขา รักษาตัวเองหน่อย อยากให้อยู่ไปนานๆ

ถามว่าคาดหวังกับความรักครั้งนี้แค่ไหน Day By Day ค่ะ เพราะเรามีแค่นี้จริงๆ เราไม่รู้ว่าอนาคตเป็นยังไง ตราบใดที่เรามีเขาอยู่ตรงนี้ เราก็อยู่แค่ตรงนี้

สำหรับคอมเมนต์ลบ เขาแค่ไม่รู้ในสิ่งที่เขาพูดออกมา แต่ถ้าเขาเจอ การให้กำลังใจกันเป็นสิ่งที่สำคัญมาก วันนึงเขาอาจต้องใช้สิ่งนั้น เรื่องนี้ถ้าเราฝึกฝนให้กำลังใจคนอื่น วันนึงเขาต้องการจริงๆ เราก็จะให้ได้ และเราก็ได้รับ เหมือนพี่พีเค เขาให้กำลังใจคนอื่นตลอด วันนึงเขามีปัญหา เขาก็ได้รับกำลังใจท่วมท้น”









กำลังโหลดความคิดเห็น