เป็นอีกคู่ที่แม้จะทะเลาะกันผ่านโซเชียล ผ่านสื่อ แต่สุดท้ายทั้ง “โชค รถแห่”หรือ “โชค ไหทองคำ”และ “นัส จุฑารัตน์”ก็ตัดสินใจจบสถานะสามีภรรยาลงด้วยดีต่างฝ่ายต่างเลือกที่จะเงียบและแยกย้ายกันไปทำมาหากิน ใช้ชีวิต เหลือแค่ทำหน้าที่พ่อและแม่ให้กับลูก
อาจจะเป็นเพราะกระแสข่าวดัง ล่าสุด นัส จุฑารัตน์ อดีตภรรยาของโชค ก็ได้ออกมาโพสต์เล่าเรื่องราวชีวิตหลังหย่ากับโชค และอีกมุมของโชคที่ไม่ได้ออกมาบอกทางเฟซบุ๊กว่า…
"ก่อนเลิกกัน โชคทำนัสเจ็บมาก เขามีคนอื่น อย่างที่ทุกคนเห็น แต่เรื่องเงินโชคแฟร์สุด เขายกทุกอย่างให้นัสและลูก เพราะเขารู้ว่าเขาผิด เขายอมไม่เหลืออะไรและจากไปตัวเปล่า เราเลยไม่ได้เกลียดกัน แต่ที่มันมาถึงจุดนี้ก็เพราะความปากดีของเราส่วนหนึ่ง
ดังนั้นถึงเราจะเลิกกันไป แต่เราก็ยังเป็นพ่อและแม่ของลูก และนัสก็ยังอยากให้ลูกภาคภูมิใจในตัวพ่อเขา ไม่รู้เหมือนกันว่าอนาคตข้างหน้าจะเป็นยังไง การแยกย้ายกันไปเติบโตก็ทำให้เราใจเย็นขึ้น และเรียนรู้ที่จะเป็นผู้ใหญ่ที่ดีขึ้น ขอบคุณที่ทุกคนช่วยปลอบ ช่วยด่า เลยทำให้นัสเข้าใจโลกมากขึ้นเยอะเลย ขอบคุณทุกคนจากใจเลยนะคะ"
ทั้งยังแชร์ประสบการณ์สอนผู้หญิง ในฐานะแม่ของลูก ในฐานะภรรยาที่มีทะเบียนสมรสควรวางแผนสำรองไว้ในใจ และให้ทำบันทึกข้อตกลงร่วมกันระหว่างเราและสามีก่อนหย่า ด้วยแคปชั่น… “บันทึกข้อตกลงคือสิ่งที่เห็นร่วมกันทั้งสองฝ่าย ถ้าเขาไม่มั่นใจ มึงเตรียมหางานทำได้เลย”
โดยในคลิป นัส จุฑารัตน์ เผยว่า….
“ถ้ามีผัวหรือสามีเจ้าชู้ผู้หญิงทุกคนต้องมีแผนB นะคะ แผน B ที่ว่าของนัสไม่ใช่การทุจริต คดโกงใคร แต่เพื่อความปลอดภัย มั่นคงในชีวิตลูก ผู้หญิงที่มีลูกด้วยกัน การที่เราสละร่างกายสละชีวิต เพื่ออยากมีครอบครัวกับเขา แปลว่าเราต้องรักเขามากๆ เพราะฉะนั้นการที่เรามีครอบครัวและมีลูก แล้ววันหนึ่ง เราเริ่มรู้สึกว่าเรานอนหลับไม่สนิทแล้ว รู้สึกว่าเราไม่สามารถไว้ใจเขาได้โดยสนิทใจ สิ่งที่พวกเราทุกคนต้องมี ก็คือแผน B
และแผน B แต่ละคนไม่เหมือนกันแตกต่างกันไป แล้วแต่การจัดการการแก้ปัญหา แต่สำหรับบางคนแผน B ก็…. นัสคิดว่าสิ่งที่ต้องควรทำเลยนะ คือลุกขึ้นมาหาเงินให้ได้ด้วยตัวเองค่ะ เพราะในวันนึงที่เรารู้สึกว่าเขาเริ่มไม่ได้รักเราคนเดียวแล้ว เขาเริ่มจะนอกลู่นอกทางแล้ว ถ้าเรามีหน้าที่การงานมีเงิน ต่อให้เขาจะทิ้งเราเราสามารถไปต่อได้อย่างสวยๆ ค่ะ
แผน B ที่ 2 ทำข้อตกลงร่วมกันทำไว้เลยว่าถ้าวันนึงเธอนอกใจฉัน ฉันนอกใจเธอ ทรัพย์สินที่เป็นสมรสหรือว่าเราอยู่ร่วมกันมาเนี่ย จะตกเป็นของใคร ไม่ใช่เพราะว่าทำเพื่อความเห็นแก่ตัวของเรา แต่ทำเพื่อป้องกันว่าใครคนใดคนหนึ่งนอกใจ
ถ้าสมมติว่าเขาไม่นอกใจเรา ทรัพย์สินทั้งหมดก็ยังเป็นของเธอเหมือนเดิมแล้วเป็นของเธอไปจนตลอดชีวิต สิ่งที่นัสเคยทำบันทึกข้อตกลงขึ้นมาเพื่อคิดว่าวันนึงเขาจะเกรงกลัวต่อสิ่งที่เขาจะต้องเสียไป แต่ปรากฏว่าสำหรับบางคนมันก็ไม่ได้ผล มันก็อาจจะไม่ได้แคร์ตรงนี้ กูรู้สึกว่ากูอยากสนุก กูอยากเที่ยว กูอยากมี แล้วทำไม เสียก็เสียไปช่างมัน แต่ว่าวันนึงจะมาโอดโอยไม่ได้เพราะเราเซ็นด้วยลายมือของเราเองนั่นคือความปลอดภัยที่แม่ของลูกหรือภรรยาที่มีทะเบียนสมรสควรทำค่ะ
นัสขอสนับสนุนให้ทุกคนมีแผน B เสมอถ้ารู้สึกว่าเราเริ่มนอนหลับไม่สนิทแล้วเพราะว่าความมั่นคงคือสิ่งไม่แน่นอนเพราะฉะนั้นความปลอดภัยของเราและลูกของเรานั่นคือสิ่งที่แน่นอนที่สุดค่ะ ระมัดระวังกันด้วยนะทุกคนไปสังเกตเลยว่าคนที่บ้านเนี่ยเริ่มทำให้เรานอนหลับไม่สนิทแล้วหรือเปล่า”
