“พลพล” ดึงสติ “หนุ่ม กะลา - จูน เพ็ญชุลี” เผยทุกอย่างเป็นชื่อเมีย หากเกิดปัญหา ขอไปแต่ตัว!

“พลพล” เปิดแนวคิดพ่อบ้าน ยึดคติ แม้ตนเองจะเป็นคนหาเงินมาได้ แต่จะทำเป็นตนไม่มีอะไรเลย ทุกอย่างให้ภรรยาจัดสรรหมด ตนไม่มีเงิน ไม่มีทางไป ขออย่าทิ้งไปไหน ไปไหนทำอะไรหน้าลูกหน้าเมียลอยมาตลอด กับเรื่องราวของ “หนุ่ม กะลา” และ “จูน เพ็ญชุลี” ขอให้เคลียร์กันลงตัว จบด้วยดี ดึงสติสิ่งที่ต้องคิดถึงที่สุดคือลูก

เป็นนักร้องตัวอย่างที่ใช้ชีวิตสงบ ราบรื่นมาตลอด ไม่มีเรื่องนอกลู่นอกทางให้ภรรยากังวลใจ สำหรับ “พลพล พลกองเส็ง”ที่เจ้าตัวได้เผยถึงแนวคิดการใช้ชีวิตครอบครัวที่ตนเองยึดถือเป็นหลัก รวมไปถึงเรื่องบริหารจัดการเงินในฐานะหัวหน้าครอบครัว


“ผมใช้ชีวิตกันแบบครอบครัวเล็กๆ ตอนที่ยังไม่ได้แต่งงานกัน เราใช้ชึวิตกันก็บอกเขาว่าเรามีเงินอยู่ก้อนนึง เอาไปให้หมดเลย หลังจากนี้ผมหาเงินมาได้เท่าไหร่จะให้หมดเลย แต่มีข้อแม้ว่าต้องดูแลผมด้วยนะ ดูแลทุกอย่างในชีวิต เขาก็บริหารเงินให้ทั้งหมดเลยดูแลบ้าน รถ ลูก เขาจัดการบริหารจัดสรรทั้งหมด เรามีหน้าที่ไปทำงานมาแล้วก็เอาให้เขา

ก็ไว้วางใจให้ภรรยาบริหารจัดการทั้งหมด ไม่เคยไปตรวจสอบอะไร เงินที่เข้าจากบริษัทก็เป็นชื่อบัญชีผม แต่เมียสามารถเบิก ทำธุรกรรมได้หมด ผมอนุญาตทุกอย่าง แต่ผมไม่มีบริษัท จะเป็นเงินเข้าบัญชีส่วนตัว ก็ให้เขาจัดการทั้งหมดเลย เบิกเท่าไหร่ จะไปกระจายใส่บัญชีไหนให้เขาจัดการเลย เอาที่บริหารจัดการแล้วมีความสุข ใช้ชีวิตให้มีความสุข กินให้อร่อย นอนให้เต็มที่ ใช้ชีวิตง่ายๆ สบายๆ”

ยึดคติไม่มีเงิน ไม่มีทางไป ให้ภรรยาดูแลชีวิตด้วย ขออย่าทิ้งตน
“ผมไม่ได้คาดหวังว่าจะดูแลกันไปชั่วชีวิตนะ แต่ถ้าเป็นไปได้ก็ดี เขาเองก็ต้องมั่นใจแล้วแหละที่จะอยู่กับเรา มั่นใจในตัวเราว่าเขาจะไม่ถูกทอดทิ้ง ไม่ถูกลอยแพ ที่แบบอยู่ดีๆ ก็มาบอกเลิกกัน ไป ไม่มีเงิน เรามีเงินอยู่ ไม่ได้เลย ผมกลับมองอย่างนี้นะ เขามีเงิน ผมไม่มีเงิน ผมไม่มีทางไป ผมก็จะไม่เลิกกับเขา เพราะเขามีเงินไง อย่าไล่กูไปไหนนะผมจะทำตัวให้เป็นพ่อที่ดี ดูแลลูกให้ดี พาไปไหนมาไหน แต่อย่าทิ้งพ่อนะ

จะซื้ออะไรก็บอกกัน ก็เบิกไป ผมก็ขอเงินเมียใช้ทุกวัน ทุกวันนี้ไม่มีเงินเดือน บางวันก็ขอบางวันก็ไม่ขอถ้าเงินยังเหลือ หรืออาทิตย์นี้ขอ 1 หมื่น เมียก็ดูแลผมดีครับ สม่ำเสมอ มีบ่นบ้างช้อปออนไลน์เยอะแล้วนะ แอบโอนที 400-500 บาท แต่ไม่ได้เดือดร้อน มันอยู่ในงบ คือเขาก็อยากเก็บเงินเก็บทองเยอะๆ เขาบอกทุกวันนี้อยากเก็บเงินสดเยอะๆ“

เผยข้อดีของการที่ให้เมียบริหารเงินในบ้าน
“สำหรับผมคือมันสบาย ผมไม่เก่งเรื่องบัญชี ไม่เก่งเรื่องจะต้องไปตามจ่ายค่าต่างๆ ตัวผมบัตรเครดิตไม่มี ธุรกรรมทุกอย่างไม่ทำ บางทีจำรหัสไม่ได้ด้วยซ้ำ ทุกวันนี้ไม่ได้กดเลย เอทีเอ็ม ใช้แบงก์กิ้ง กลายเป็นเราสบาย แลกเปลี่ยนกับการที่เขาดูแลเราทั้งหมด เขาหนักกว่าเราอีกเขาดูแลเงินไม่ใช่ว่าเขาสบายใจนะ เขาต้องบริหารจัดการเงินทุกเดือนให้มันลงตัว เราสบาย เอาเงินไปมเนจหน่อย”

กับเรื่องราวของ “หนุ่ม กะลา” และ “จูน เพ็ญชุลี หนูแก้ว” ขอให้เคลียร์กันลงตัว จบด้วยดี ดึงสติสิ่งที่ต้องคิดถึงที่สุดคือลูก
“จริงๆ อยากจะให้คุยกันก่อน เคลียร์กันไม่ต้องถึงขั้นฟ้อง มันเหนื่อยและสงสารลูกๆ เราสงสารน้องทั้งสองคนเพราะรู้จักทั้งสองฝ่ายมาตั้งแต่แรกๆ เลยตั้งแต่น้องประกวดจนมาอยู่ค่ายเดียวกัน ก็ให้กำลังใจน้องทั้งสองฝ่ายให้มันผ่านไปด้วยดีนะ ให้มันจบโดยที่ไม่มีคนเจ็บเยอะ

เขาไม่เคยมาเล่าอะไรนะ ผมเป็นฝ่ายส่งข้อความไปให้กำลังใจเขาทั้งสองฝ่าย ให้มันผ่านไปได้ด้วยดีนะ ให้มันไม่มีอุปสรรคใดๆ สิ่งที่ต้องคิดถึงที่สุดคือลูก ลูกตอนนี้กำลังโต กำลังเก็บข้อมูล เด็กเขาก็ผ้าขาว อยากให้จบด้วยดีทั้งสองฝ่าย ถึงจะอยู่ด้วยกันไม่ได้ จะไม่อยู่ด้วยกันแต่ก็ให้ผ่านไปด้วยดี ไม่มีเรื่องราวที่มันรุนแรงไปกว่านี้“

เล่าชีวิตสังคมกลางคืน ไปไหนหน้าลูกหน้าเมียลอยมาตลอดอยู่แล้ว เพราะเจอสาวๆ เข้ามาทุกวัน

“ชีวิตทำงานกลางคืนมันเจอคนเยอะ เจอจริงๆ นะ มันมีเข้ามาทุกวันแหละ หูย… เจ้าภาพคนนี้เซ็กซี่จัง ก็อยู่ที่ความเข้าใจ เราเข้าใจเจ้าภาพ เจ้าภาพเข้าใจเรา และเมียเข้าใจเรามันก็จบจริงๆ มันผ่านจุดที่ต้องหนักแน่นมานานมากแล้ว ตอนนี้ปล่อยสบายๆ ทุกคนรู้ว่าเรามีลูกมีครอบครัว ทุกวันนี้ไปเล่นคอนเสิร์ตมีแต่คนถามเมียไปไหน ลูกไปไหน เออ… พี่มาร้องเพลง

ไปไหนหน้าลูกหน้าเมียลอยมาตลอดอยู่แล้ว มันคือความรับผิดชอบ ด้วยความที่เราไม่ชอบมีปัญหา ก็เลยไม่เอาตัวไปอยู่ปัญหามันก็จบ จริงๆ ก็เคยเกิดเคสเหมือนกันนะ ตั้งแต่สมัยแรกๆ เลย สมัยฮอตๆ เราจะบอกให้เขาไว้ใจเลย เชื่อใจเลยมันเป็นไปไม่ได้ ก็บอกว่าเดี๋ยวจะทำให้ดูว่าเดี๋ยวจะเป็นไปในแบบนี้ ชีวิตเราจะสบายไม่ต้องคิดมากเลย เรื่องนี้เราจะอยู่กันแบบสบายๆ ครอบครัวเล็กๆ ผมจะทำให้เป็นครอบครัวเล็กๆ ตลอดไป ไม่ให้มันใหญ่ขึ้น ไม่ต้องเอาเรื่องอะไรวุ่นวาย เรามีทรัพย์สมบัติเยอะๆ แต่เราอยู่กันแบบเล็กๆ ชีวิตเราก็จะสบาย ถ้าเกิดมีปัญหาผมก็ไปแต่ตัว เพราะทุกอย่างเป็นชื่อเขาหมด อย่าทิ้งพี่นะ (หัวเราะ)”

กับเพลง “ชั่วฟ้าดินสลาย” ที่ตอนนี้กลับมาเป็นที่พูดถึงกัน จากกรณี “หนุ่ม กะลา” ที่โซเชียลใช้ดึงสติ สัญญาใจไม่มีจริง
“เพลงนี้มาจากกาพย์ยานี 11 คนแต่งเดียวกับเพลงคนเดินถนน ซึ่งจริงๆ แล้วมันเป็นเพลงที่ไม่มีตัวตน คนแสดงในเรื่องเลย เหมือนนั่งบ่นอยู่คนเดียว มีความรู้สึกกับความรักที่ผ่านมาของตัวเองจนแบบต่อไปนี้จะไม่รักใครแล้ว เป็นเรื่องราวที่ถ่ายทอดยากพอสมควร (วันนี้เพลงนี้ได้กลับมาทำงานอีกครั้ง?) คนชอบเพลงนี้เยอะ พูดถึงคนรักเก่าที่ทิ้งเราไป มันก็เห็นภาพ”