xs
xsm
sm
md
lg

ตร.ทองหล่อ ขวาง “กรรชัย” เข้าห้องน้ำ ยกมือไหว้ขอโทษ! รับกดดัน ไม่มีเจตนาพูดไม่ดี ชาวเน็ตแซวยับ ไหว้สวย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ทัวร์ลงหนักเลยทีเดียว สำหรับการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ทองหล่อ เพราะหลายคนมองว่าเป็นการกระทำที่ดู 2 มาตรฐาน หลังเมื่อวานนี้ (3 มิ.ย.) ครอบครัวเชื่อมจิต พร้อมทนายความ “ธรรมราช สาระปัญญา” ได้ที่เดินทางมารับทราบข้อกล่าวหา ที่ถูกพิธีกรชื่อดัง “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” ฟ้องหมิ่นประมาท ทั้งส่วนตัวและบริษัท โดยหนุ่มได้แจ้งความไว้เมื่อวันที่ 16 เมษายนที่ผ่านมา ซึ่งทางตำรวจได้อนุญาตให้ครอบครัวเชื่อมจิตและทนายพิมพ์ลายนิ้วมือที่ชั้น 1 ทั้งที่ปกติจะต้องพิมพ์ลายนิ้วมือที่ชั้น 2 ซึ่งเป็นห้องคุมขัง เพียงเพราะพ่อแม่ของเด็กไม่ยินยอม ต้องการให้ลูกชายวัย 8 ขวบอยู่กับตนตลอดเวลา โดยดรามาปะทุหลังเกิดเหตุการณ์ชุลมุน ตร.ไม่อนุญาตให้ “หนุ่ม กรรชัย” ไปเข้าห้องน้ำด้านในสน. ที่ชั้นดังกล่าว อีกทั้งยังใช้ถ้อยคำที่ระบุว่าตนเองมีอำนาจไม่ให้ผ่านไปเข้าห้องน้ำ จนกรรชัยต้องไปปัสสาวะข้างกำแพงแทน ซึ่งเรื่องราวดังกล่าวเดือดจนถึงขั้นขึ้นเทรนด์ทวิตเตอร์ 

ล่าสุดวันนี้ (4 มิ.ย.) พันตำรวจเอกพันษา อมราพิทักษ์ ผกก.สน.ทองหล่อ พร้อมผู้ใต้บังคับบัญชาอีก 2 นาย หนึ่งในนั้นคือ “พ.ต.ต.กฤษฎา ซอประเสริฐ” สวป.สน.ทองหล่อ ตร.ที่ห้ามหนุ่ม กรรชัย ตามที่ปรากฎในคลิปตามสื่อ ก็ได้เดินทางมาหาและขอโทษ “หนุ่ม กรรชัย” พร้อมยกมือไหว้และชี้ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยยืนยันว่าไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่แบบ 2 มาตรฐาน ซึ่งงานนี้ “หนุ่ม กรรชัย” ก็เผยว่าไม่ได้ติดใจแล้ว

“คือเมื่อวานนี้มันก็เกิดความไม่สบายใจกันเยอะ ในฐานะที่เราเองก็เป็นผู้เสียหาย และมีการไปแจ้งความไว้ที่สน.ทองหล่อ แต่กลับได้รับการปฏิบัติเหมือนเราไม่ได้เป็นผู้เสียหาย แต่ผู้ต้องหากลับได้รับการปฏิบัติแบบเป็นวีไอพีเลย มีการปกป้องทุกอย่าง ขนาดเขาเอารถออกไป ก็ยังมีรถตำรวจตามไปอีก ขณะที่ผมเป็นผู้เสียหาย ผมต้องนั่งมอเตอร์ไซค์กลับบ้าน แล้วตาสีตาสาจะทำยังไง ผมอยากฝากตรงนี้จริงๆ ผมเป็นห่วงประชาชนคนอื่น ที่เขาอาจจะรู้สึกว่า ต่อไปนี้ไปสน.ทองหล่อ จะนั่งพิมพ์ลายนิ้วมือตรงไหนก็ได้ คนนั้นยังพิมพ์ตรงนั้นได้เลย มีตำรวจมากันด้วย ผมไม่อยากให้มันเป็นมาตรฐานของสน.ทองหล่อ หรือตำรวจทั่วไป

ตอนนี้ก็ไม่ได้ติดใจอะไรแล้ว คือตอนแรกถามว่าโกรธไหม ผมก็โกรธนะ และเป็นห่วงคนอื่นๆ ขนาดเรายังโดนแบบนี้เลย ผมว่าจริงๆ มันแค่บิดที่วิธีการนิดเดียว เช่นบอกว่าพี่จะใช้ห้องน้ำใช่ไหม ผมขออนุญาตนะ เดี๋ยวมันจะมีเหตุปะทะกัน ผมก็ไม่สบายใจ ขออนุญาตเอาตำรวจตามพี่ไปนะ มันจบเลยครับ ผมก็โอเค ผมไม่ได้ติดอะไรอยู่แล้ว

คือจริงๆ เราไม่ได้ห่วงในมุมของตัวเองหรอกครับ คือเป็นห่วงแค่ว่าไม่อยากให้มันเป็นบรรทัดฐานที่มันจะเกิดขึ้น แล้วคนก็จะเอาเรื่องราวตรงนี้ ไปทำแบบนี้อีก ผมคิดว่า สน.ทองหล่อ เป็นสถานีที่ใหญ่ เพราะฉะนั้นคดีความก็จะเยอะ มันก็มีความน่ากังวลใจ ว่าพอเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น ถ้าวันหนึ่งผู้ต้องหาไปพิมพ์ลายนิ้วมือแล้วอ้างอภิสิทธิ์ ว่าทำไมไม่ทำเหมือนครอบครัวนั้นบ้าง มันจะกลายเป็นแบบนั้น เพราะฉะนั้นผมพยายามป้องปรามตรงนี้มากกว่า เป็นห่วงจริงๆ ไม่งั้นผ่านตรงนี้ไปจะเป็นหนึ่งบรรทัดฐานเลย เป็นสิ่งที่น่าเป็นห่วงมากๆ ครับ”

ด้าน พันตำรวจเอกพันษา อมราพิทักษ์ ผกก.สน.ทองหล่อ ก็ได้น้อมรับคำแนะนำ พร้อมยกมือไหว้ขอบคุณ ที่เมื่อวานนี้ให้ความร่วมมืออย่างเคร่งครัด
“ขอรับในสิ่งที่ให้คำแนะนำนะครับ ในส่วนของ สน.ทองหล่อ ทุกคนก็มีความกังวลในเรื่องของการจะมีปัญหาบนโรงพักทั้งสองฝ่าย ก็พยายามทำหน้าที่ตัวเองให้ถึงที่สุด ก็ขอบคุณทางพี่หนุ่มกับทีมงาน ที่พอได้คุยกันได้อธิบาย ก็เข้าใจและปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดเลยเมื่อวาน ก็ขอบคุณทุกท่านครับ” (เจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 3 นาย ยกมือไหว้ หนุ่ม กรรชัย พร้อมกัน)

ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ทองหล่อ อีกนายหนึ่งที่มาด้วยกัน ก็ได้เผยต่อว่า “ในส่วนนี้ผมได้คุยกับน้องแล้ว ว่ามันเกิดจากการสื่อสารไม่ชัด พูดจาที่ไม่เข้าใจกันตั้งแต่ตรงนั้น ถ้าสื่อสารให้เข้าใจตั้งแต่จังหวะพูดคุยตอนนั้น ก็คงไม่มีภาพออกมาแบบนี้ ทางฝั่งป้องกันปราบปราม และสน.ทองหล่อ ก็กราบขอโทษพี่หนุ่มในเรื่องนี้ครับ ซึ่งเราจะนำไปแก้ไขปรับปรุง และทำให้ดีขึ้นครับ ต่อไปก็จะกำชับให้สื่อสารให้ดีกว่านี้ครับ”

ก่อนสุดท้าย “พ.ต.ต.กฤษฎา ซอประเสริฐ” สวป.สน.ทองหล่อ จะได้เปิดใจกับสื่อถึงกรณีดังกล่าว โดยเผยว่าวันนี้ตั้งใจจะมาขอโทษพี่หนุ่ม ที่เมื่อวานได้ทำกิริยาไม่เหมาะสม
“วันนี้ก็ตั้งใจมาขอโทษทางพี่หนุ่ม กรรชัยครับ เมื่อวานผมใช้ใช้กิริยาที่อาจจะไม่เหมาะสม ผมไม่ได้เจตนาที่ต้องการแบ่งเป็น 2 มาตรฐาน แค่ต้องการป้องปรามไม่ให้มันมีเหตุการณ์ที่จะไม่ดีเกิดขึ้นครับ เมื่อวานก็กดดันระดับหนึ่งครับ แต่ก็พยายามไม่ให้เกิดเหตุการณ์ที่จะมีการปะทะกัน ก็พยายามเต็มที่ครับ พอทราบเรื่องว่ามีกระแสเชิงลบ ก็รับทราบว่ามันไม่ดี เราตั้งใจทำงาน แล้วเราก็คิดว่าจะใช้ระยะเวลาที่เหลือในการปรับปรุงแก้ไขการทำงานของผมและลูกน้อง และคิดว่าหลังจากนี้ก็เชื่อว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีกครับ”

Cr. เรื่องเล่าเช้านี้

Cr. เรื่องเล่าเช้านี้

Cr. เรื่องเล่าเช้านี้

Cr. เรื่องเล่าเช้านี้

Cr. เรื่องเล่าเช้านี้



กำลังโหลดความคิดเห็น