xs
xsm
sm
md
lg

“แอฟ ทักษอร” อินตั้งแต่อ่านบท! ใช้ประสบการณ์ตรงเล่น “สงครามสมรส” เรื่องแต่ง “นนกุล” พร้อมเมื่อไหร่เดี๋ยวบอก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“แอฟ ทักษอร” เผย “สมครามสมรส” พิเศษกว่าเรื่องอื่น เพราะใช้ประสบการณ์ตรงมาเป็น “บัวบงกช” ตัดสินใจไม่ผิดที่เล่นเรื่องนี้ รู้สึกถูกที่ถูกเวลาแล้ว ขอบคุณ “น้องเจ้าคุณ” และ “น้องปีใหม่” ช่วยให้ถ่ายทอดตัวละครออกมาได้ดี รู้สึกอินและทัชใจตั้งแต่อ่านบท แต่ก็มีหลายจุดที่ไม่เห็นด้วย ตอบไม่ได้จะรับละครผัวเมียอีกไหม คงต้องใช้เหตุผลเดียวกับเรื่องนี้ ส่วนเรื่องสร้างครอบครัวกับ “นนกุล” พร้อมเมื่อไหร่เดี๋ยวบอกเลย

จบไปเรียบร้อยแล้ว สำหรับ “สมครามสมรส” ละครผัวเมียมิติใหม่แห่งยุค ที่นำเสนอเรื่องกฎหมายแทนฉากตบตี ซึ่งเมื่อวานนี้ (3 มิ.ย.) เหล่านักแสดงและผู้กำกับ ก็ได้มาดูตอนจบร่วมกับแฟนคลับแบบเอ็กซ์คลูซีฟ ที่โรงภาพยนตร์ SF WORLD CINEMA โดยงานนี้นักแสดงนำอย่าง “แอฟ ทักษอร ภักดิ์สุขเจริญ” ก็ได้เปิดใจกับสื่อก่อนเข้าไปชมตอนสุดท้าย ว่าเรื่องนี้รู้สึกพิเศษตั้งแต่อ่านบท ตัดสินใจไม่ผิดที่มาเล่นเป็น “บัวบงกช”

“ก็คือแค่อยากจะบอกว่า ปกติทุกๆ งาน แอฟก็รักและทุ่มเทในการทำงานอยู่แล้วค่ะ แค่สำหรับเรื่องนี้ที่แอฟรู้สึกพิเศษ เพราะมันยากตั้งแต่ตอนตัดสินใจรับเล่นแล้ว เพราะเคยบอกไว้ว่าไม่รับละครผัวเมีย แล้ววันหนึ่งก็มาเล่น โดยเฉพาะเรื่องของการมีเมียน้อย ไม่ได้อยากไปแนวทางนั้น แต่เรื่องนี้เป็นเหตุผลพิเศษ เพราะด้วยตัวบท แอฟรู้สึกว่าคนดูจะต้องได้ประโยชน์อย่างแน่นอน แล้วพอออกมา ไม่ใช่เฉพาะคนดู แต่แอฟเองในฐานะหนึ่งในคนดู ก็ได้อะไรกลับมาเช่นเดียวกัน เลยรู้สึกว่าตัดสินใจไม่ผิดเลยจริงๆ ค่ะ

แล้วเมื่อกี้ที่บอกไปว่าเรื่องนี้พิเศษ เพราะปฏิเสธไม่ได้ว่าด้วยประสบการณ์ชีวิตส่วนตัว รวมทั้งทัศนคติส่วนตัวด้วย มันเลยทำให้ค่อนข้างจะตรงกับแนวคิดในบทที่แอฟมีแมสเสจบางอย่างที่อยากจะสื่อกับคนดูจริงๆ มันเลยรู้สึกลึกกว่าปกติ เอาอย่างนี้แล้วกันค่ะ ซึ่งทุกเรื่องแอฟก็เล่นด้วยความรู้สึกจริงๆ ออกมา แต่ว่าเรื่องนี้มันเป็นความรู้สึกลึกๆ ที่อยากจะบอกคนดู ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย หรือคนที่มีชีวิตคู่ ชีวิตครอบครัวก็ตาม แอฟคิดว่าแอฟสามารถจะสะท้อนมันออกมาได้ในมิติที่ลึกขึ้นกว่าปกติ เพราะเราเคยมีประสบการณ์มาก่อน เราเคยมองในมุมนี้มาก่อน เราเคยพลาดมาก่อน

อย่างในบทของ บัวบงกช ก็มีตัดสินใจถูกบ้าง ผิดบ้าง อันนี้แอฟถึงเข้าใจในตัวละครมากๆ เลย ว่าใครไม่ได้อยู่ในสถานการณ์นี้ไม่เข้าใจหรอก ว่าการเป็นผู้หญิงคนเดียวแล้วต้องเลี้ยงลูก บางทีด้วยสถานการณ์กดดัน ด้วยความกลัว กลัวจะเสียลูก กลัวโน่นนี่ กลัวรับผิดชอบลูกไม่ไหวหรืออะไร แล้วด้วยความเป็นตัวเอง ไม่มีประสบการณ์ ทุกๆ อย่างมันก็อาจจะทำให้มีจังหวะตัดสินใจพลาดบ้าง แอฟเลยรู้สึกเข้าใจในตัวละคร ว่ามันก็มีถูกบ้าง ผิดบ้าง แต่สุดท้ายเข้าสามารถกลับเข้ามาในทางที่ถูกต้อง และนำพาชีวิตครอบครัวให้อยู่รอดได้ยังไง

มีฉากที่รู้สึกอินและทัชใจเยอะตั้งแต่อ่านบท
เยอะไปหมดเลยค่ะ (หัวเราะ) ส่วนใหญ่มันก็จะเป็นเรื่องของการสื่อสารกับลูกค่ะ เราจะทำยังไง ที่ผู้หญิงคนหนึ่งเวลามีเหตุการณ์อะไร แน่นอนทางตัวบัวเองก็ไม่ได้เต็มร้อย แต่ทำยังไงเขาจะต้องทำให้มันเต็ม เพื่อลูกจะได้เต็มเช่นเดียวกัน ลูกจะได้ไม่ขาด แต่ความจริงแม่ในใจไม่เต็มหรอก แต่ต้องทำเต็มร้อยเพื่อลูกค่ะ ก็รู้สึกตั้งแต่ตอนอ่านบทค่ะ แต่พอมาเล่นจริงๆ กับน้องเจ้าคุณ มันยิ่งเกินกว่าที่เราคิดไว้ตอนที่เราอ่านบทค่ะ”

หลายจุดก็ไม่เห็นด้วยกับตัวละคร
“มีหลายจุดค่ะ ว่าถ้าเป็นเราเราจะไม่ทำ (หัวเราะ) คืออย่างที่บอกค่ะ บัวก็เหมือนผู้หญิงทุกๆ คน มีถูกบ้างผิดบ้างในการตัดสินใจ สิ่งที่เขาตัดสินใจผิด ก็เพื่อจะสะท้อนให้คนดูเห็น เผื่อจะได้เป็นบทเรียนจากความผิดพลาดของบัว”

รู้สึกถูกที่ถูกเวลา ความเป็นแม่ทำให้ถ่ายทอดความรู้สึกออกมาได้
“ขอบคุณค่ะ คือแอฟรู้สึกว่าต้องขอบคุณที่มันถูกช่วงถูกเวลาสำหรับแอฟ แอฟเชื่อว่าต่อให้แอฟจะมีความตั้งใจในการทำแสดง แอ็กติ้งดีขนาดไหน แต่ถ้าเรายังไม่ได้มีประสบการณ์ความเป็นแม่ แอฟคงไม่สามารถจะถ่ายทอดความรู้สึกที่บางอย่างมันอธิบายยากค่ะ ระหว่างความสัมพันธ์แม่ลูก แต่อันนี้เรามีตรงน้้นแล้ว ก็เลยทำให้เราเข้าใจ และสามารถสื่อสารออกมาได้ดีค่ะ”

บอก “น้องปีใหม่” ก็เคยเจอประสบการณ์แบบในเรื่องบ้าง ขอบคุณลูกๆ ทั้งนอกและในจอ
“ลูกเราก็เจอมาบ้าง ไม่เจอบ้าง (หัวเราะ) ก็เลยทำให้แอฟรู้สึกว่าการที่แอฟเล่นบทนี้ได้ จริงๆ ต้องขอบคุณทั้งน้องเจ้าคุณ ที่มาเล่นเป็นปณต ทำให้แอฟสามารถแสดงได้ออกมาแบบนี้ รวมทั้งก็ต้องขอบคุณปีใหม่ด้วยเหมือนกัน เพราะปีใหม่เป็นส่วนที่ทำให้แอฟมีประสบการณ์ความเป็นแม่แบบนี้ค่ะมันรวมๆ กัน ก็ปฏิเสธไม่ได้ ว่ามันก็คงไม่ใช่การแสดงร้อยเปอร์เซ็นต์ มันก็ต้องรวมพื้นฐานส่วนตัวด้วย”

จะรับละครผัวเมียอีกไหม ก็ต้องดูเหตุผลเดียวกัน
“จริงๆ เหตุผลคล้ายๆ เรื่องนี้ค่ะ ก็อาจจะต้องดูว่ามีอะไรเป็นแรงจูงใจ หรือจะสร้างข้อคิด สร้างประโยชน์อะไร ที่ตรงกับที่เราอยากจะสื่อให้คนดูไหม (จริงๆ รับได้ แต่ขอดูในองค์ประกอบรวม?) ใช่ค่ะ คงยังไม่กล้าพูดว่าจะรับหรือไม่รับเลย ละครเรื่องหนึ่งประกอบด้วยองค์ประกอบหลายหลายอย่าง บางทีจั่วหัวมาว่าละครประเภทไหนมันก็แค่นั้น ก็ตัดสินใจไม่ได้

“น้องปีใหม่” ไม่ได้ฟีดแบ็ก เพราะปกติไม่ให้ดูละคร
“เขาก็ฟังคนอื่นมาอีกที (หัวเราะ) เพราะว่าปกติไม่ได้ดูละคร ไม่ให้ลูกดูละครทุกเรื่องที่ผ่านมาที่แอฟเล่นอยู่แล้วค่ะ วันนี้จะเป็นวันแรกประสบการณ์แรกของเขาเลย จริงๆ จะให้เขาดูอะไรที่มันเหมาะกับวัยเขาแค่นั้นเอง เพราะเพิ่ง 9 ขวบ (เกี่ยวกับว่าเป็นเรื่องของความรุนแรงด้วยไหม?) จริงๆ ไม่ได้ดูทุกเรื่องที่แอฟเล่นมาเลย ไม่ใช่เฉพาะเรื่องนี้ค่ะ”

ยอมรับเหลือแค่รอ “แอฟ” ก็ได้ หลัง “นนกุล ชานน สันตินธรกุล” ให้สัมภาษณ์ล่าสุดว่าพร้อมทุกอย่างแล้ว
เหลือแอฟใช่ไหม(หัวเราะ) ตกลงโยนมาที่แอฟ ตามนั้นค่ะ เหลือไว้ที่แอฟก็ได้ค่ะ รอแอฟก็ได้ค่ะ (รอคำตอบจากแอฟว่ายังไง?) รอคำตอบอะไร เขาไม่ได้ถามอะไร เขาบอกว่าเหลือเราพร้อมไหม ค่ะ (หัวเราะ)”

เรื่องสร้างครอบครัว เดี๋ยวพร้อมแล้วบอกเลย
“เราข้ามขั้นตอนไปเลยเหรอคะ เดี๋ยวพร้อมแล้วบอกเลยค่ะ ถามว่าไม่ติดใช่ไหมถ้าเขาพร้อม โยนไปให้เขาก่อนแล้วกันๆ”













กำลังโหลดความคิดเห็น