“แพรรี่ ไพรวัลย์” ขอโทษรายการโหนกระแส ที่ตนเป็นส่วนหนึ่งทำให้ต้องถูกระงับออกอากาศ 1 วัน เข้าใจการทำงานของ กสทช. เพราะถ้ามีคนไปร้องเรียนเยอะก็ต้องมีมาตรการลงมา แต่ตอนนั้นยอมรับว่าส่วนตัวไม่รู้เรื่องกฎเกณฑ์ในการพูดมาก่อนว่าได้มากน้อยขนาดนั้น ยันเป็นคนพูดตรงๆ สิ่งที่พูดออกไปบางทีก็คิดว่าเป็นสิ่งที่สมควรพูดแล้ว ไม่ห่วง “หนุ่ม กรรชัย” เชื่อเอาอยู่
หลังจากที่มีประกาศจากสำนักงานกสทช. (คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ) ให้ทางช่อง 3 ระงับการออกอากาศรายการ โหนกระแส เป็นเวลา 1 วัน ในวันที่ 7 มิ.ย. นี้ เพื่อให้ดำเนินการแก้ไขปรับปรุงกระบวนการกำกับดูแล ตรวจสอบกลั่นกรองเนื้อหารายการ ให้เป็นไปตามมาตรฐานทางวิชาชีพและจริยธรรม เพราะตั้งแต่เมื่อช่วงเดือน เม.ย.2566 กสทช.เคยมีมติแจ้งให้ บริษัท บีอีซี-มัลติมีเดีย จำกัด แก้ไขปรับปรุงกระบวนการกำกับดูแล ตรวจสอบ กลั่นกรองเนื้อหารายการมาแล้ว จากปัญหาการออกอากาศรายการ ในหัวข้อ “ก็มาดิคะ แพร์รี่พร้อมบวก ลั่นสึกแล้วยังจะมีมารผจญ”และรายการในหัวข้อ “ศรี ตกลงทนได้ไหม”และ หัวข้อ “ทีนี้ก็ว้าวุ้นเลย ตบสนั่นตลาด! สาวท้อง 6 เดือนโดนตบ อีกด้านโต้ก็มึงตบแม่กูก่อน” ทำให้ทางกสทช.มองว่าไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขการอนุญาตประกอบกิจการโทรทัศน์
ล่าสุดทางฝั่ง “แพรรี่ ไพรวัลย์ วรรณบุตร”ที่กลายเป็นส่วนหนึ่งในหัวข้อที่ถูกยกขึ้นมาเป็นเหตุให้ต้องระงับการออกอากาศในครั้งนี้ ได้มาร่วมงานแถลงข่าว Miss Trans Thailand 2024 ณ หน้าลาน MCC HALL The Mall Lifestore Bangkapi พร้อมเปิดใจว่าได้มีการโพสต์ขอโทษรายการไปก่อนหน้านี้ แต่บางเรื่องมันก็เป็นฟีลที่ตนก็สมควรจะต้องพูดแบบนั้น แต่ก็เข้าใจทางกสทช.เช่นกัน
“มันก็ต้องนิดนึง หนูขอโทษ จริงๆ หนูไม่ทราบ และพอเห็นข่าวที่สำนักข่าวเอามาแชร์ที่ว่า กสทช.เขามีคำสั่งให้รายการโหนกระแสงด 1 วัน คือวันที่ 7 มิ.ย. แล้วปรากฎว่ามันมีเทปที่หนูเคยไปออกด้วยและถูกร้องเรียน แต่มันหลายปีมาแล้วนะคะ ตอนนั้นเพิ่งสึกใหม่ๆ เลย แพรรี่พร้อมฟาดอะไรนั่นน่ะ แต่ก็ไม่ใช่เทปหนูเทปเดียวนะคะ มันหลายเทป ก็เข้าใจการทำหน้าที่ของ กสทช. เขานะคะ เขาก็มีหน้าที่ เพราะคนไปร้องเรียนเยอะขึ้นๆ แต่เขาก็ไม่ได้ทำโทษหนักอะไรเท่าที่ดูก็แค่ 1 วัน และเห็นว่ามีรายการโหนกระป๋องมาแทน หนูว่าป๋าหนุ่ม (กรรชัย กำเนิดพลอย) เอาอยู่ๆ แล้วค่ะ ถือว่าได้พักผ่อน 1 วัน ไม่มีอะไร
แต่หนูในฐานะที่ไปออกรายการ แล้วฟีลตอนนั้นเหมือนโดนชงให้พูด แล้วเราเป็นคนพูดตรงด้วย และบางทีเราก็ลืมไปว่าการเผยแพร่ของสถานีมันก็ต้องอยู่ในกฎระเบียบ แต่ถ้าเป็นรายการออนไลน์มันก็พูดได้ แต่พอต้องหยุดไปเราก็ต้องขอโทษเขาว่ามีส่วน ก็รู้ว่าเราอาจจะพูดแรงไป ส่วนหนึ่งยอมรับเลย เพราะว่าฟีลบางทีมันก็สมควรที่จะพูดเหมือนกันนะคะ (หัวเราะ) ก็คิดว่าสมควรแหละที่ต้องพูดไปแบบนั้น แต่ว่าด้วยอะไรหลายๆ อย่าง มันก็เป็นมาตรฐานด้วยว่าต่อไปรายการที่เชิญแขกไปก็ต้องทำการบ้าน แม้แต่ตัวของแขกรับเชิญ นี่พูดถึงตัวเองนะคะ โทษตัวเองว่าเวลาไปออก คือเราเองก็อยากพูดตรงไปตรงมา แต่เราก็ต้องให้เกียรติสถานี ให้เกียรติรายการและให้เกียรติคนดู”
บอกถ้าจะไปออกแต่ละรายการ จะต้องเป็นเรื่องที่ตนถนัด ก็คือเรื่องเกี่ยวกับศาสนาเท่านั้น
“เราไม่คิดว่าสิ่งที่เราพูดมันจะผิดระเบียบเขาขนาดนั้น ตอนนั้นไม่ทราบจริงๆ โดยข้อบังคับอะไรต่างๆ ตามระเบียบของ กสทช. หนูไม่ทราบค่ะ ถามว่าต่อไปนี้ถ้าไปออกรายการต้องระวังมากขึ้น คือมันจะมี 2 ช่วงค่ะ มีช่วงที่ออนทีวีกับออนไลน์ ถ้าออนทีวีเราก็จะระวังนิดนึง แต่ถ้าออนไลน์ก็เดี๋ยวเจอกันนะคะ (หัวเราะ) แต่กับโหนกระแสก็ไปออกบ่อยค่ะ และแต่ละเรื่องที่ไปออกมันก็หนักๆ ไม่มีเรื่องซอฟต์ๆ ให้เอาไปพูดเลย แต่ละเรื่องนี่หนักจิตมากเลย มีเชื่อมจิตน่ะเชื่อมไป แต่พอหนูไปออกนี่หนักจิตมากเลย (หัวเราะ)
ความจริงก็คือความจริงนะคะ ความจริงพูด 100 รอบมันก็ต้องเหมือนกัน 100 รอบ ไม่ใช่ความจริงพูดแต่ละรอบไม่ต้องเหมือนกัน มันก็ไม่ใช่ และแต่ละอย่างที่ไปถ้าเป็นเรื่องที่ไปพูดแล้วสังคมไม่ได้ประโยชน์ หนูก็ไม่ไปนะ แต่หลายเรื่องที่ไปมันตรงกับเรื่องที่ว่าเราควรต้องพูด อย่างประเด็นความเชื่อเรื่องศาสนาเนี่ย มันไม่มีคนออกไปพูดเท่าไหร่ กลายเป็นว่าเรารู้สึกว่าเราต้องรับผิดชอบไปแล้วในฐานะที่เราบวชเรียนมา ก็อย่าให้มันสูญเปล่าเลย อย่าให้มันเปล่าประโยชน์เลย สึกมาแล้วก็ทำหน้าที่ได้ เราก็ทำหน้าที่ไป ช่วยกันดูแลสังคม ดูแลศาสนา”
มั่นใจแค่นี้ “หนุ่ม กรรชัย” เอาอยู่
“ก็มองบนไงคะ (หัวเราะ) ไม่ใช่ไม่เห็นด้วยกับคำสั่งนะคะ หนูเข้าใจ หนูเห็นใจ กสทช. ด้วยนะคะ เพราะเขาเป็นห่วงงานและเขามีหน้าที่โดยตรง ถ้ามีคนไปร้องเรียนเยอะๆ แล้วเขาไม่ทำงาน เขาก็โดนเหมือนกัน หนูไม่รู้นะ อาจจะคิดไปเองคนเดียวก็ได้ หนูรู้สึกว่านี่มันคือแม้ตัวเขาไม่อยู่แล้ว แต่อิทธิฤทธิ์เขายังอยู่ (หัวเราะ)เพราะรายการที่หนูไปออกมันเกี่ยวกับพี่ศรี (ศรีสุวรรณ จรรยา) ด้วยนะ หนูไม่รู้ว่าคนไปร้องตอนนั้นเป็นพี่ศรีสุวรรณหรือเปล่า หนูไม่มั่นใจ แต่คำสั่งมันเพิ่งออกมา
กับพี่หนุ่มปกติก็คุยกันนะคะ แต่เรื่องนี้เห็นว่าพี่หนุ่มไปคุยกับคนที่หนูรู้จัก และเขาก็แจ้งว่าแพรรี่เข้าใจผิด จริงๆ มันไม่ใช่เทปแพรรี่หรอก แต่ว่าที่หนูดูข่าวมันขึ้นมาเลยเทปแรก แพรรี่พร้อมฟาด (หัวเราะ) ถามว่าจะให้กำลังใจพี่หนุ่มยังไง หนูว่าถ้าจะให้กำลังใจพี่หนุ่ม ให้กำลังใจพวกเราเองเถอะค่ะ (หัวเราะ) คนอย่างพี่หนุ่มไม่จำเป็นต้องมีใครไปให้กำลังใจเขาหรอก (หัวเราะ) หนูว่าแค่นี้เขาเอาอยู่ หนูมั่นใจว่าพี่หนุ่มเอาอยู่”
เผยรู้ลิมิตตัวเองดี แต่ตอนนั้นอาจจะถึงพริกถึงขิงไปหน่อย
“หลังจากนี้ออกรายการก็คงไม่เกร็ง หนูรู้ว่าลิมิตที่หนูได้ จริงๆ คือหนูควบคุมได้ แต่จริงๆ ก็อยากให้ถึงพริกถึงขิงนั่นแหละ แต่มันถึงไปหน่อย ใส่พริกเยอะไปหน่อย ใส่ขิงเกินไปหน่อย (หัวเราะ) มันก็เลยเกินปริมาณไป แต่ถ้าพอดีๆ ก็ได้ หนูก็รู้อยู่ อย่างหลังๆ ที่ไปออกก็ไม่มีปัญหาเลยนะคะ กับน้องใบบุญ กับอะไรหลายๆ เคส หนูก็นิ่งอยู่พอสมควร
ถ้าโหนกระแสชวนไปอีกก็จะไปค่ะ ทุกรายการเลยไม่ใช่แค่โหนกระแสนะคะ ถ้าเป็นรายการที่ไปพูดเรื่องที่หนูมีความรู้ และสามารถแสดงทัศนะได้ก็จะไป แต่ไม่ใช่ทุกเรื่องนะคะ เรื่องผัวๆ เมียๆ ตบตีกัน เมียน้อย ชู้อะไรล่าสุดไม่ต้องเชิญหนูไปนะคะ หนูไม่เชี่ยวชาญเรื่องนี้ (หัวเราะ)”
