xs
xsm
sm
md
lg

“แชมเปญ เอ็กซ์” ตำนานเซ็กซี่สตาร์ รับหายหน้า 20 ปี คิดถึงวงการบันเทิง อัปเดตชีวิตถูกโกง ขายน้ำพริก กินข้าววันละ 3 ช้อน! (คลิป)

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“แชมเปญ เอ็กซ์” ภูมิใจ หายหน้า 20 ปี คนยังจำได้ ยังอยากรับงานบันเทิง เพราะเป็นอาชีพแรก แต่ถึงแม้ถูกลืม ก็ไม่คิดมาก ยุคใครยุคมัน ลั่นทิ้งแบรนด์เนมหมดแล้ว ออกงานต้องหาเช่าชุด ตอนนี้อยู่กรุงเทพฯ ทำน้ำพริกขาย แต่ยังทำไร่เหมือนเดิม พ้อถูกลูกน้องโกง เคล็ดสวย กินข้าววันละ 3 ช้อน นอนวันละ 4 ชม. อยู่อย่างพอเพียง มีน้อยใช้น้อย บอกตอนนี้เหมือนเป็นอีกโลกที่ต้องอยู่ให้ได้ แต่ประเทศไทยก็ยังดีที่สุด



หายหน้าไปนานมากๆ สำหรับวงการบันเทิง ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้เจอตัว “แชมเปญ เอ็กซ์”อดีตเซ็กซี่สตาร์ของเมืองไทย ที่เฟดตัวเองออกจากวงการไปทำเกษตรกร นานถึง 20 ปี โดยวันนี้เจ้าตัวมาออกอีเวนต์ Grand Opening Petra Wellness Center Sukhumvit 39 สาวแชมเปญในวัย 53 ปีก็ยังสวยไม่สร่าง โดยเจ้าตัวเผยว่าดีใจที่คนยังจำได้อยู่ และยังอยากทำงานในวงการอยู่เพราะเป็นอาชีพแรก แต่ก็เข้าใจ ไม่คิดมาก
“ก็ยังมีคนเข้ามาทักตลอด บางคนก็จำชื่อไม่ได้ แต่จำหน้าเราได้ก็มี ก็รู้สึกภูมิใจนะคะ เพราะถึงเราจะหายหน้าหายตาไปเกือบ 20 ปี แต่พอไปไหนแล้วคนจำได้ก็รู้สึกดีใจเพียงแต่ว่าเราไม่ได้มาอยู่ในวงการบันเทิง และอีกอย่างจังหวะโอกาสและเวลาทุกอย่างมันเปลี่ยนไป ถ้ามีโอกาสมาเมื่อไหร่เรื่องละคร เรื่องอะไรก็แล้วแต่ ถ้ามีโอกาสเราก็คงได้ทำ แต่ถ้าโอกาสมันยังไม่มา จังหวะมันยังไม่ใช่ก็ไม่เป็นไร เพราะเราก็ผ่านมาหมดแล้วเมื่อก่อน”

ไม่มีงานติดต่อ เพราะไม่ได้เจอใคร คิดถึงและอยากรับงานในวงการเพราะเป็นอาชีพแรก แต่ไม่คิดมาก
“ไม่ได้ติดต่อค่ะ เพราะเราก็ไม่ได้เจอใครเลย อยู่แต่บ้าน ไม่ได้ออกไปไหนเลย ทำกับข้าวที่บ้าน ชวนเพื่อนมาบ้าน นอกจากไปงานสังคม ไปช่วยเหลือสังคมอย่างที่เป็นจิตอาสาก็ไป แต่ถามว่าคิดถึงงานในวงการไหม มันเป็นอาชีพของเราตั้งแต่เริ่มแรก ก็ยังคิดถึงและยังรับอยู่ค่ะ เพียงแต่ว่า ณ วันนี้น้องๆ เด็กๆ รุ่นใหม่เขาเข้ามาเยอะ และเราก็ไม่ได้เจอผู้จัดเลย ก็ทำให้คนเขาลืมเราไปบ้าง แต่เราก็อย่าไปคิดมาก เพราะมันขึ้นอยู่กับแต่ละยุค แต่ละสมัย เราต้องทำใจว่ายุคใครยุคมัน เชื่อว่าจังหวะโอกาสและเวลาถ้ามันใช่ของเรา อยู่ตรงไหนมันก็มา”

ไม่เสียดายชื่อเสียง เฟดตัวเพราะวงการซบเซา
“ถามว่าอิ่มตัวไหมก็อิ่มตัว แต่ที่เฟดออกเพราะมีช่วงนึงที่วงการเรามันซบเซาหลายๆ อย่าง จนมาถึงยุคต่างชาติเข้ามา ยุคเกาหลี แล้วหน้าเราเกาหลีที่ไหนล่ะ หน้าตุ้มเม้ง (หัวเราะ) แล้วตอนนี้ก็เป็นเจนวายแล้ว ซีรีส์วายมาหมดแล้ว

เมื่อก่อนมีชื่อเสียงเราก็ไม่เสียดายค่ะ จริงๆ แล้วอยากจะบอกทุกคนว่าเราหาประสบการณ์ ตั้งแต่แรกที่แชมเปญเข้ามาในวงการก็เพื่อมาหาประสบการณ์ และบังเอิญประสบความสำเร็จ งานมันก็เข้ามาเรื่อยๆ แต่ทีนี้เราต้องรู้จักตัวเองว่ามันมาอยู่แค่ไหน ต้องรู้ว่าเราเรียนอะไรมา เราทำอะไรได้ คือทุกอย่างมันไม่แน่นอนทั้งหมดแหละ”

ความสุขที่แท้จริงคือสุขภาพและครอบครัวที่ดี อยู่แบบพอเพียง
“ความสุขก็อยู่ที่เรามีสุขภาพที่ดี มีครอบครัวที่ดี เรื่องอาชีพเราก็อยู่แบบพอเพียง มีมากเราก็กินมาก มีน้อยเราก็กินน้อย ก็จะไม่มีปัญหา ซึ่งในหลวงรัชกาลที่ ๙ สอนเราให้พอเพียง มีน้อยกินน้อย มีมากกินมาก อันไหนลดได้ลด อันไหนอดได้อด”

ทิ้งแบรนด์เนมหมดแล้ว ออกงานต้องหาเช่าชุด
“อันนั้นทิ้งหมดเลย สมัยก่อนมีรองเท้าคู่ละเป็นแสนนะ ไปเดินเมาพอส้นหักก็ทิ้ง เพราะสมัยก่อนได้เงินเยอะมาก แต่ตอนนี้เราใช้อะไรก็ได้ ใส่วับๆ แวมๆ ทุกวันนี้ออกงานบอกตรงๆ ว่าเรายังต้องไปหาเช่าชุด เพราะเราไม่มีชุดอลังการ เพราะตอนนี้เราทำไร่เนอะ จะไปเอาชุดที่ไหน”

ผันตัวเป็นแม่ค้าทำน้ำพริกขาย แต่ยังทำไร่เหมือนเดิม โอดเพิ่งถูกลูกน้องโกง
อยู่กรุงเทพฯ ค่ะ เพราะต้องทำน้ำพริกขาย ไปทำที่ไร่ไม่ได้ เพราะว่ามันธรรมชาติก็จะมีแมลงเยอะ เราจะควบคุมเรื่องมดอะไรต่างๆ ไม่ได้ ส่วนไร่เมื่อก่อนก็มีคนดูแล แต่เขาก็โกงเราไป เราก็ไล่ออก พอไม่มีใครดูแล เราก็ตัดใจว่าช่างมันเถอะในเมื่อมันไม่มีใครก็ปล่อยไว้ ดูสิมันจะเป็นยังไง สุดท้ายตอนนี้ลูกน้องเก่ามาขออยู่ด้วย ก็รับมา อย่างน้อยก็มีคนดู จากไร่รกๆ มันก็ไม่รก ก็อุ้มชูกันไปค่ะ

ตอนนี้ก็มีปลูกยาง ยางราคาดี แต่คนกรีดยางของเราก็ไม่ค่อยกรีด แล้วก็มีปลูกข้าว ต้องปลูกข้าวกิน เพราะหลังจากนี้อยากจะบอกทุกคนว่าจะไม่มีชาวนาปลูกข้าวให้เรากินแล้ว เพราะชาวนาขายที่ไปหมดแล้วและไม่มีใครอยากลำบาก เราก็จะไม่มีข้าวกิน แต่เราก็ยังปลูกข้าวอยู่ ข้าวของเราก็ไม่ใส่อะไรเลย บางทีนกก็มากินเกือบหมด แต่เราก็ต้องทนทำไป ถึงเม็ดจะไม่สวย แต่เราก็ได้กินที่มันปลอดภัย เพราะไร่ของเราปลอดจากสารเคมีมา 15 ปีแล้ว ไม่มีสารเคมีเลย

แต่ของเราก็จะไม่ได้อย่างของชาวนาอาชีพหรอกนะคะ ก็ได้เท่าที่เรากิน แล้วก็แจกเพื่อนฝูง ที่เหลือก็แบ่งขายไป อาจจะขายได้ 100-200 กิโลก็ขายไป ก็ขายกิโลละ 100 หรือ 80 บาท ก็ถือว่าถูก แต่เดี๋ยวนี้คนก็อยู่ลำบาก คนไม่มีเงินกินข้าวแล้ว ถ้าเราไม่ขายและกินไม่หมดจะปล่อยให้เสียทำไม เรากินข้าววันละ 3 ช้อนต่อวัน เราก็ขายไปเท่านั้นเอง แต่อยากจะบอกว่าความโชคดีของคนเราไม่เหมือนกัน เราได้ชีวิตที่ดี คู่ครองที่ดี สุขภาพที่ดีไม่ป่วยเป็นโรคอะไร แต่เราอาจจะได้ลูกน้องที่ไม่ดีก็ได้ ได้อย่างเสียอย่างก็ต้องยอม ไม่มีใครได้ดีทั้งหมดหรอก ที่ผ่านมาก็ได้คนดีบ้าง ไม่ดีบ้าง ก็ไม่เป็นไร เราเปลี่ยนคนอื่นไม่ได้ ก็เปลี่ยนที่ตัวเราเอง ไม่มีใครก็ช่างมัน ก็อยู่คนเดียว”

ความรักยังแฮปปี้
“ตอนนี้สามีไปบินค่ะ ปกติก็เจอกัน แต่ตอนนี้เขาได้คอนแทคใหม่ก็ไปบินเลย หายไปเลยอาทิตย์นึงยังไม่เจอกันเลย บางทีก็ 2 เดือนไม่เจอกัน เพราะแกบินไพรเวตเจ็ต ไม่ค่อยเจอกันหรอก เจอบ่อยก็ไม่มีตังค์สิ (หัวเราะ)คิดว่าทุกวันนี้วางแผนชีวิตได้ดีแล้ว ก็คือเราไม่ต้องใช้อะไรมากมาย กินเท่าที่เรามี อย่างที่ไร่เราก็ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว กุ้ง หอย ปู ปลาอยู่ในบ่อ เพียงแต่เราไม่ฆ่าสัตว์ เรายอมซื้อเขาอยู่ มันก็อยู่ได้โดยที่ไม่ต้องใช้สักอย่าง ข้าวก็ของเราเองปลอดภัย ก็ไม่ต้องใช้อะไรเยอะ แต่แฟนน่ะชอบกินข้าวนอกบ้าน พอมาเราก็จะเอาโต๊ะไปตั้งนอกบ้าน จะได้กินข้าวนอกบ้าน (หัวเราะ) แกชอบออกนอกบ้าน ตรงไหนก็ได้ขอให้ออกนอกบ้าน แต่เราชอบอยู่บ้าน ชอบทำกับข้าว ชอบความสะอาด ฉะนั้นเราก็ยอมเหนื่อยที่จะพาเพื่อนมากินข้าวที่บ้าน ยอมล้างเช็ดจานเองเพื่อกินที่บ้านเรา”

ไม่ต้องวางแผนการเงิน พอเพียง มีน้อยใช้น้อย
“จะวางแผนทำไม มีก็พอเพียง มีน้อยก็ใช้น้อย ใช้ให้มันพอเพียง รายได้น้อยก็อย่าไปใช้เยอะ เหมือนแม่ค้าในตลาดทุกวันนี้ สังเกตดูสิทุกวันนี้แม่ค้าในตลาดทุกวันนี้ทำไมน้อยลงเพราะแม่ค้าขี้เกียจ ขายของได้กำไรวันละ 500 อยู่ได้นะ แต่ไม่ทำ อยากจะรวยทางลัด ไปเล่นหวย ไปเสี่ยงโชค พอเสร็จแล้วก็ติดหนี้ติดสินเขา ก็ปิดหนีทิ้งเขาไป ส่วนใหญ่เป็นอย่างนั้นเลยค่ะ เราก็วางแผนใช้ชีวิตของเราให้มันดีๆ มีน้อยก็ใช้น้อย ถามว่าทุกวันนี้ยังต้องไถนาเองอย่างที่เคยลงคลิปไหม เวลาที่ต้องทำก็ต้องทำ ก็ช่วยกันกับคนงาน เราจะได้รู้ เพราะเราก็ไม่ได้เก่ง แต่ที่มันได้ผลผลิตน้อยเพราะว่านกมากินของเราหมด”

เตรียมกลับสระแก้วเดือนหน้า
“นี่ก็เตรียมจะกลับอยู่ค่ะ เพราะต้องกลับไปเตรียมที่ เตรียมต้นกล้า น่าจะกลับไปทำเดือนหน้า ว่างๆ ก็ไปกันนะคะ เพราะทำ Camping ground อยู่ แต่อากาศมันไม่แน่นอนที่สระแก้ว เดี๋ยวร้อน เดี๋ยวหนาว แต่ถ้าอากาศหนาวก็หนาวจริงๆ นะ ไปตั้งเต็นท์ได้ เดี๋ยวทำกับข้าวให้กิน”

ยังอยากทำโครงการบ้านพักคนชรา แต่ไม่มีทุน
“ก็อยากทำ แต่เราไม่มีทุน ก็อยากจะหานายทุนเหมือนกัน เพราะที่มันเยอะ อยากหานายทุนที่อยากจะมาทำบ้านพักคนชราที่ยังช่วยตัวเองได้นะคะ ไม่ใช่ง่อยเปลี้ยเสียขาเราก็ดูไม่ไหวหรอกคนเดียว แต่ที่อยากทำเพราะว่าเราเคยดูแลแม่ ดูแลพ่อ และคนชราส่วนใหญ่จะโดนทอดทิ้ง รักแบบไหนก็ไม่รู้ เราก็เข้าใจเขานะ บางทีเขาทำงานเหนื่อย จะมานั่งประคบประหงมคนชราก็ไม่ได้ เราเข้าใจ เราก็อาจจะให้เขามาอยู่ แล้วก็เอ็นเตอร์เทน พาเขาปลูกผัก ปลูกหญ้า ทำโน่นทำนี่ เขาจะได้มีกิจกรรมทำ ก็อยากทำให้คนชราที่ยังช่วยเหลือตัวเองได้ แต่ถ้าป่วยก็ไม่ไหว ต้องมีแพทย์ ก็คือเราก็ต้องมีค่าดูแลแหละ แต่อันดับแรกต้องมีทุนในการสร้างก่อน”

รับชีวิตพอเพียง เพราะงานในวงการน้อยลงด้วย ลั่นประเทศไทยดีที่สุดแล้ว
“ก็ด้วยนะคะ เพราะตั้งแต่ฟองสบู่แตกนั่นแหละงานในวงการก็น้อยลงหมด จนถึงทุกวันนี้ก็น้อยลง ช่างแต่งหน้ามืออาชีพดังๆ ก็ไม่ค่อยมีงานแล้วนะ เมื่อก่อนพวกเราต้องเดินแฟชั่นโชว์ เดี๋ยวนี้แฟชั่นโชว์ก็ไม่มี เมื่อก่อนต้องถ่ายหนังสือ หนังสือใหญ่เล็กแค่ไหนเราก็ถ่าย แต่ตอนนี้ไม่มีหนังสือแล้วก็อยู่ลำบาก มันเป็นอีกโลกนึง เป็นอีกเจนนึง ฉะนั้นเราก็ต้องอยู่ให้ได้ ก็อยู่แบบเรานี่แหละ อยากทำอะไรเราก็ทำ ไม่ได้เบียดเบียนใคร ไม่สร้างความเดือดร้อนให้ใคร ก็คิดว่ามันดีค่ะ อย่างคนที่บอกว่าไปอยู่เมืองนอกดีเลิศ แต่จะบอกว่าประเทศไทยดีที่สุดในโลกแล้ว เรามีทุกอย่าง ไม่มีเงินเราไปขอใครกินก็ได้ แต่อยู่เมืองนอกเราไปขอเขากินไม่ได้นะ ฉะนั้นเป็นคนไทยดีที่สุดค่ะ

“ชีวิตตอนนี้แฮปปี้ค่ะ ไม่ได้เครียดเลย เราก็แฮปปี้ของเรามากเลย สุขภาพก็ปกติ นี่ก็ 53 แล้วนะ นอนวันละ 4 ชม. ตั้งแต่อายุ 15 จนถึง 53 ทำงานหนักเหมือนเดิม เคล็ดลับความสวยไม่มีอะไรนะ กินอาหารดี แต่เราก็ดื่มเยอะไปหน่อยก็ดื่มทุกวัน แต่การดื่มก็ไม่ใช่ว่าทุกคนจะทำได้อย่างเรา ฉะนั้นสิ่งดีๆ ของแชมเปญก็เอาไปเรียนรู้ ไม่ใช่ว่าดื่มเยอะอย่างนั้นอย่างนี้ไม่ดีเลย แต่นั่นคือชีวิตของเรา ฉะนั้นสิ่งดีๆ ของเราก็เอาไปเรียนรู้และไปใช้ในชีวิตประจำวัน เพราะเราได้ทำอะไรตามใจตัวเองด้วย

และเราก็ตั้งปณิธานไว้ว่าจะทำประโยชน์ให้กับคนรอบข้าง ครอบครัวของเรา ทำอะไรก็ได้ให้มันเกิดประโยชน์ เราไม่เคยเห็นแก่ตัว คือคนเราถ้าไม่เห็นแก่ตัวซะอย่างปัญหามันก็จะไม่เกิด ถ้าเห็นแก่ตัวปุ๊บความอิจฉามันก็จะมี อย่างที่เราไปทำจิตอาสาต่างๆ แต่ตามวัดไม่ทำเลย เบื่อเสื้อเหลือง”















กำลังโหลดความคิดเห็น