หลังที่มีภาพ “ไอซ์ ปรีชญา พงษ์ธนานิกร” จุ๊บกับหนุ่มลูกครึ่งว่อนโซเชียล เจ้าตัวก็ออกมาชี้แจงว่าตนกับหนุ่มคนนี้จบความสัมพันธ์กันไปแล้ว ไม่ใช่รักใหม่อย่างที่หลายคนเข้าใจ แต่เรื่องยังไม่จบ ฝ่ายชายที่ตอนนี้อยู่ต่างประเทศได้ออกมาชี้แจงผ่านอินตราแกรมส่วนตัว ว่า แอ็กเคานต์ติ๊กต็อกที่มีการโพสต์คลิปรัวๆ นั้นถูกแฮก
“ได้ข่าวจากเพื่อนมาเรื่องข่าวที่กำลังเป็นประเด็นอยู่ตอนนี้ แต่เรื่องจริงคือไม่ได้เล่นติ๊กต๊อกนานหลายเดือนแล้ว ผมได้ข่าวมาว่าสำนักข่าวในไทยอยากติดต่อผม อย่างนั้นติดต่อผมทางอีเมล์”
จากนั้นได้โพสต์ร่าวยาวเป็นภาษาอังกฤษผ่านทางอินสตาแกรม ชี้แจงอีกว่า “อันดับแรก ผมไม่ได้เข้าติ๊กต๊อกมาหลายเดือนและตอนนี้พยายามกลับเข้าไปอีกครั้ง เพราะผมล็อกอินเข้าไม่ได้แล้ว ไม่มีใครรู้พาสเวิร์ดผมนอกจากไอซ์
ผมถ่ายกับไอซ์ไว้หลายโพสต์เพราะเราต้องการเปิดเผยความสัมพันธ์ของพวกเราในวันวาเลนไทน์ โพสต์เหล่านั้นอาจจะถูกโพสต์ไปแล้ว ซึ่งผมไม่ได้ทำ มีแค่ไอซ์ที่มีพาสเวิร์ด ผมพยายามกู้การเข้าถึงและลบทุกอย่างหลังจากเพื่อนบอกผมว่ามีเรื่องนี้เกิดขึ้น
ผมเคยเสนอให้เธอย้ายมาอยู่ที่บ้านผมซึ่งอยู่ใกล้กับบ้านเธอ เพราะเธอมีความทรงจำที่แย่ๆ ในบ้านของเธอ ผมรู้ว่าแฟนคลับกำลังจะกล่าวหาว่าผมหิวแสง แต่ไอซ์รู้ดีว่าผมไม่สนใจชื่อเสียง และมีผู้ติดตาม 200,000 คนอยู่แล้ว
ผมรักไอซ์มากและไม่เคยคาดหวังอะไรเหมือนแฟนเก่าเธอ (สเตฟาน) แม้ไอซ์จะพูดถึงเขาทุกวันตลอดความสัมพันธ์ของเรา ผมก็ไม่เคยบ่น ผมยอมรับเอาไว้ทุกอย่างและทุกคำด่า เพราะผมค่อยๆ เรียนรู้เกี่ยวกับภาวะซึมเศร้ารุนแรงที่เธอเป็น ผมพยายามซัปพอร์ตเธอในทุกทางที่ทำได้และไม่เคยออกมาจากบ้านของเธอ
ผมเขียนจดหมายรัก ทำอาหารให้เธอ ทำของขวัญทำมือ เซอร์ไพรส์ของขวัญวันเกิดชิ้นใหญ่ ซึ่งยากมากสำหรับผมเพราะภาษาไทยผมแย่มากและผมพยายามเรียนอยู่ทุกวัน ผมยังช่วยแม่และพี่สาวทำอาหารโปรดให้เธอ ผมจองร้านอาหาร fine dining ให้ด้วย
จากนั้นผมก็ประสบเหตุมอเตอร์ไซค์ชน ผมอยู่โรงพยาบาลกับแม่ พี่สาว และคนขับรถของไอซ์ จากนั้นไอซ์ก็บล็อกผมและจบความสัมพันธ์กัน ผมไม่ได้มีบทสนทนาสุดท้ายแบบเป็นกิจจะลักษณะด้วยซ้ำ ตอนที่เราอยู่ด้วยกัน ไอซ์บอกว่าแฟนเก่าจะกลับมาหา ซึ่งทำให้ผมเจ็บมาก ผมออกจากงานบินไปภูเก็ตเพื่อคอยปลอบเธอทุกวัน เธอต้องการให้ผมอันฟอลโลว์เพื่อนทุกคน เธอบ่นที่ผมฟอลโลว์ลิซ่า (แบล็กพิ้งก์) ด้วย ผมทำทุกอย่างเพื่อทำให้เธอพอใจ พ่อแม่ผมก็รู้เรื่องนี้ รวมทั้งแม่และพี่สาวของไอซ์ด้วย
ผมยังคงบอกไอซ์ว่าต้องการสิ่งที่ดีที่สุดให้กับไอซ์เพราะเธอต้องผ่านอะไรมามาก และผมยังคงหวังให้เธอมีชีวิตที่ดี เพราะผมรู้ว่าเธอมีด้านที่อ่อนหวานที่ทำให้ผมหลงรักอยู่
เรารู้จักกันบนแอปฯ (Bumble) แล้วเธอก็ทักมาทางอินสตาแกรม ตอนนั้นผมไม่รู้จักคนดังสักคนเลยด้วยซ้ำ และผมไม่อยากจะถูกกล่าวหาแบบผิด ๆ แต่มันเจ็บปวดมากที่โดนกล่าวหาเพียงเพราะพยายามมอบความรักและพลังงานดีๆ ให้เธอเท่าที่จะเป็นไปได้
แล้วก็ต้องมาได้ยินข่าวแบบที่กำลังเป็นพาดหัวขณะนี้ “ฉันต้องการแค่ความรัก เงินไม่ใช่ความสุข” นี่คือเหตุผลเดียวที่ผมต้องการเดตกับเธอและเปิดใจให้เธอ เพราะผมเคยเจอเรื่องราวแบบเดียวกันในชีวิตมาก่อน ผมคิดว่าคนดังที่มีเงินน่าจะมีค่านิยมแบบเดียวกันและเข้าใจผมด้วยมุมมองเดียวกัน
จากนั้นไม่กี่สัปดาห์ต่อมา จู่ๆ ไอซ์ก็บอกว่าผมเป็นเกย์ คุณแม่เธอบอกว่าไอซ์กำลังไม่ปกติ ซึ่งผมเข้าใจ ดังนั้นผมเลยไม่ติดต่อไอซ์อีก แล้วแม่เธอก็แนะนำให้ผมบล็อกเธอซะเพื่อให้ตัวผมเองโอเคขึ้น เพราะช่วงนั้นผมกำลังพยายามกลับมาทำงานและโฟกัสกับชีวิตตัวเองอีกครั้ง และเธอเองก็รู้ว่าผมเป็นพวกรักต่างเพศ 100% ไอซ์รู้ดีที่สุด เราเคยนอนค้างด้วยกันหลายคืน เรายังคาดหวังไปถึงว่าจะมีลูกด้วยกันด้วยซ้ำ วางแผนแต่งงาน และไปโบสถ์เพื่อเปลี่ยนเป็นศาสนาคริสต์ เธอบอกผมว่า สตีฟเป็นแค่คนรัก แต่เธอมองผมเป็นคู่ชีวิต
พวกคุณถามคนในโบสถ์ก็ได้ นี่เป็นสิ่งที่ผมสามารถพิสูจน์ได้ มีพยาน มีวิดิโอ และรูปจำนวนมาก ผมต้องการพูดคุยแบบคนทั่วไปกับเธอ ซึ่งเธอไม่เคยเปิดใจหรือพร้อมเลย เธอเอาแต่ทะเลาะกับผมแทนที่จะหาทางคุยกันแบบสงบ
ผมเพิ่งย้ายมาที่ประเทศไทยปีที่แล้ว และนี่คือความสัมพันธ์แรกที่ผมมีที่นี่ ผมอยู่คนเดียวในบ้านหลังใหญ่โดยไม่มีเพื่อนเลย พ่อแม่ผมอยู่ที่เยอรมนี และผมลำบากมากในการเรียนรู้ภาษาไทย ผมมาอยู่เมืองไทยเพราะผมรักอาหารไทย คนไทย และวัฒนธรรมไทย
แต่ผมไม่เคยคาดคิดว่าเรื่องนี้จะเกิดขึ้น และหลังจากเลิกกัน ผมก็มีปัญหาในการสื่อสาร ซึ่งไอซ์ทราบดี และผมยังคงพยายามทำให้ดีที่สุดด้วยความพยายามและพลังงานแบบเต็มร้อย เพื่อนสนิทเธอก็รู้ ผมมั่นใจ”