"ดาด้า" เผย "พีเค" ตอบสไตล์เท่ ติดมั่น แต่สำนึกแล้ว สั่งให้ขังตัวเอง คิดผิดหย่า "โยเกิร์ต"

"ดาด้า" เผย *พีเค" สำนึกผิดกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นแล้ว แจงแทนที่บอกอยากรีเทิร์น "โยเกิร์ต" เป็นการพูดสไตล์ติดเท่ บอกที่ผ่านมารู้เรื่องพีเค มาโดยตลอด ทั้งยังช่วยสืบเสาะหาข้อมูลนางแบบเวียดนามไปคอยเตือนสติอีกฝ่ายด้วย ตอนนี้แนะนำให้อีกฝ่ายขังตัวเองในบ้านก่อน งดสัมภาษณ์สื่อ บอกเพื่อนที่ดีต้องคอยเตือนสติ ส่วนตนเองเคยเป็นหมามาหลายรอบ หลายเคสแล้ว

มงลง "พี่แวว" เต็มฟีด หลังจากเตือนสติ "พีเค ปิยะวัฒน์ เข็มเพชร" ถึงเรื่องราวความรักกับสาวเวียดนาม "โจลี่ เหงียน" ที่ ดาด้า ได้พูดเตือน พีเค ว่าผู้หญิงคนนี้ไม่หวังดีแน่นอน ทำเอาชาวเน็ตอวยยศให้ "ดาด้า วรินดา ดำรงผล" แบบนี้แหละเพื่อนที่ดีจนกลายเป็นไวรัล ซึ่ง ดาด้า ได้พูดถึงเรื่องนี้ว่า…

"พี่แววก็ได้เตือนพี่พีเคแล้ว ก็มีหลายคนส่งข้อความต่างๆ มาว่ารอบนี้ฝากเตือนสติอีกครั้งได้ไหม ช่วยดึงสติเขาหน่อย ที่ผ่านมาก็ยังยืนยันเหมือนในรายการนะ เรารู้จักกับพี่พีเคมา 20 ปี เรารู้สึกว่าเราต้องเตือนพี่ชาย ที่ผ่านมาเราบอกตลอดว่าเราไม่สนับสนุนกับอะไรแบบนี้ เรามีครอบครัวเนอะ ก็พยายามเตือนสติ หลังไมค์เลยนะลึกๆ พี่พีเคเขารู้สึกผิดนะ"

ตกใจกับคำตอบ "พีเค" เหมือนกัน ถ้าผู้หญิงกลับมาง้อ แล้วเขาบอกว่าเขาเอา

"ลึกๆ จากความรู้สึกส่วนตัว ด้าว่าเขารู้สึกผิดกับการตัดสินใจในครั้งนี้ แต่ก็เป็นเหมือนเรื่องที่เขาต้องได้บทเรียนแหละในผลของการกระทำของเขา ด้าเชื่อว่าครั้งนี้เป็นบทเรียนที่ยิ่งใหญ่ของพี่พีเค ที่ผ่านมาเราก็พูดคุยกัน ในฐานะเพื่อนร่วมงานเราจัดรายการด้วยกันทุกวัน เวลาที่เขาไม่สบายใจ เราดูออกอยู่แล้ว

อย่างวันที่เขามีปัญหากับครอบครัว เรารู้เรื่องราวเหล่านี้มาตลอด แต่ ณ ตอนนั้นเรายังไม่สามารถพูดออกสื่อได้ ในฐานะเพื่อนร่วมงานเราก็แค่รับฟัง แต่ที่ผ่านมาเราก็จะคอยเตือนสติเขา ลองคิดดีๆ (เรามีสะอึกไหมทึ่เขาตอบกลับมาว่าอยาก?) ก็นิดนึง ตอนนั้นก็ตกใจ แต่ตอนนี้เขาก็พูดกันหลังไมค์นะ หลังจากที่เป็นข่าวอีกครั้ง พี่พีเคบอกว่าตัดแล้ว ไม่เอาแล้ว ชัวร์ แต่เราไม่ใช่เขาก็ไม่รู้ว่าจะชัวร์ 100% ณ ตอนนี้เขาบอกตัดแล้ว”

ที่ผ่านมารู้เรื่อง "พีเค" มาโดยตลอด ทั้งยังช่วยสืบเสาะหาข้อมูลนางแบบเวียดนามไปคอยเตือนอีกฝ่ายด้วย

"เรื่องสมุยเพิ่งรู้หน้างาน แต่ที่ผ่านมาเรารู้เรื่องว่าเกิดอะไรขึ้นกับพี่พีเค เราก็เตือนเขาตลอด เราไม่เคยรู้จักนิสัยเขา(นางแบบเวียดนาม) ด้วยความที่เราเป็นเพื่อน เป็นน้อง เราก็มีไปเสาะสืบหาข้อมูลฝั่งนั้น ส่วนใหญ่ก็ได้จากเพจต่างๆ เราก็ดูในคอมเมนต์คนที่อยู่ที่เวียดนาม แล้วเราก็เสิร์ชว่าข่าวที่เวียดนามเป็นอะไรยังไง ในฐานะน้องสาวเราก็ได้เตือนพี่ชายว่ามีข่าวแบบนี้นะ รู้หรือยัง ก็เท่านั้นเอง"

เพื่อนที่ดีต้องคอยเตือนสติ เผยเคยเป็นหมามาหลายรอบ หลายเคสแล้ว

"ไม่เป็นไรเราเป็นหมามาหลายรอบแล้ว ตอนต้นหอม ศกุนตลา เราก็เป็นหมารอบนึงแล้ว รอบนี้รู้สึกว่าเป็นหมาก็ไม่เป็นไร เพราะเราเตือนเพราะเรารักเขา เราไม่อยากจะอวย เราไม่อยากให้เขาหลงทาง แต่เราก็ไม่ใช่ตัวเขา เราก็พูดในฐานะคนนอกมอง บางทีคนที่อยู่ในเหตุการณ์ก็มองไม่ออกหรอกกับเรื่องราวความรัก มันห้ามกันไม่ได้ ไม่กลัวเขาโกรธ ด้าเป็นน้องสาวพี่พีเค ที่ผ่านมาด้าไม่เคยอวย อ้นนี้เป็นธรรมชาติของเราอยู่แล้วเขาก็จะชินกับการพูดของด้าที่เป็นคนพูดตรงๆ


การเป็นเพื่อนที่ดีเมื่อเพื่อนรู้สึกหลงทาง มุมมองบางทีคนเราเรื่องความรัก การที่เรารักใครเราไม่ได้มองว่ามันผิดหรือถูก แต่คนนอกมองมันเห็น ในฐานะที่เราเป็นเพื่อนที่มองจากมุมนอกเราก็จะคอยบอกว่าข้างนอกเขามองกันแบบนี้นะ เราลองไปอีกทางหนึ่งไหม ในฐานะเพื่อนเราต้องเตือนแบบนี้"

ที่ "พีเค" พูดอยากรีเทิร์น จนชาวเน็ตสาปอีกรอบ แจงเป็นการพูดเท่เป็นสไตล์ของ "พีเค" แต่จริงๆ แล้วอีกฝ่ายสำนึกผิดแล้ว

"หลังไมค์ที่คุยกันเขารู้สึกผิด วิธีการพูดสไตล์พี่พีเค นิสัยเขาอาจจะเป็นคนที่ไม่กล้าพูดคำว่าขอโทษกับสื่อเยอะๆ ก็เป็นคาแรกเตอร์ส่วนตัวของเขา แต่ในฐานะที่เป็นเพื่อนร่วมงาน ที่คุยกันตลอดส่วนตัวเขารู้สึกผิด และด้าเองก็สัมผัสได้ว่าในการตัดสินใจครั้งนี้ของเขา เขาเองรู้สึกผิดพลาด

เรารู้จักกันมา 20 ปี เรายังคุยกันได้ปกติ เพิ่งคุยกับเขาหลังจากที่เขาไปให้สัมภาษณ์นักข่าวว่าจะรีเทิร์น ก็เลยได้คุยกัน ก็ได้ถามเขา อันนี้… ก็ด้าถึงบอกว่าเขารู้สึกผิดในใจ (เราเชียร์ให้เขากลับมา?) ก็ต้องถามอีกฝ่ายหนึ่งด้วยว่าพร้อมจะกลับไปรึเปล่า มีลุ้นไหมอันนี้ไม่รู้เลยจริงๆ"

สภาพจิตใจ "พีเค" ตอนนี้อยู่ในช่วงสำนึกผิด ติดมั่น 

"ตอนที่คุยสภาพจิตใจเขารู้สึกผิด แต่คำพูดสไตล์พี่พีเคเขาเป็นคนพูดต้องเท่ นึกออกไหม นี่คือสไตล์เขา (ติดมั่น?) อะไรอย่างนั้นแหละ อันนี้เป็นคาแรกเตอร์เขา แต่ลึกๆ ที่เราคุยกันหลังไมค์เขารู้สึกผิดจริงๆ เขารู้ว่าเขาผิด (หลายคนมองว่าเขาไปโดนของมา?)ไม่น่าใช่ ไม่น่าโดน (หัวเราะ) เพื่อนในวงการดีเจจะรู้กันอยู่แล้วว่าคาแรกเตอร์เขาเป็นคนแบบนี้ ในฐานะคนรู้จักจะรู้สึกชิน ต้องยอมรับว่าพี่พีเคเขาไม่เคยมีข่าวอะไรแบบนี้ แต่พอได้มาสัมภาษณ์กับนักข่าวเยอะๆ คนอาจจะมองอีกมุมนึง ยอมรับว่าพยายามเตือนว่าเวลาสัมภาษณ์มันต้องอีกแบบหนึ่งนะ

เดี๋ยววันพุธเจอกันก็จะพยายามดึงสติพี่ชายว่าพี่ชายเวลาสัมภาษณ์กับนักข่าวพี่ชายอย่าคิดอะไรแล้วพูด ให้คิดเยอะๆ ก่อน ก็เตือนพี่ชาย ตอนนี้อยากบอกว่าพี่ชายขังตัวเองไว้ที่บ้านก่อน อย่าเพิ่งทำอะไรเยอะ พี่พีเคเขารู้จักกับนักข่าวเวลาเขาพูดก็จะสนิทเหมือนคุยกับเพื่อน คุยทีเล่นทีจริงแต่พอสารมันออกไป คนที่อ่าน คนข้างนอกที่ไม่ได้สนิทอ่านหรือดูคลิปเขาจะรู้สึกว่าทำไมเป็นแบบนี้ เราเจอกันบ่อย พอสัมภาษณ์กัน เรารู้สึกว่าเราคุยกับเพื่อน แต่คำพูดบางอย่างมันก็ไม่ควรพูดออกไปให้มันออกสู่สาธารณะแบบนี้ บางคนตีความผิดได้ ด้าในฐานะพี่สาวจะเตือนสติพี่ชายอีกรอบหนึ่ง"