“สันต์ ศรีแก้วหล่อ” รับประกันความอลังการ “บางกอกคณิกา” เผยอยากทำเรื่องโสเภณีสมัยร.5 ที่ถูกมองเป็นคนไม่เท่ากัน บอกเป็น 8 ตอนสุดเข้มข้น ดูเหมือนแรงแต่มีจริยธรรมและศีลธรรม ส่วนอันคัตในสตรีมมิ่งไม่ได้โป๊เกินงาม เล่าตามบริบทที่จำเป็น ชม “อิงฟ้า” เป็นคนเก่ง ทำได้ดีกับละครจริงจังเรื่องแรก ไม่แปลกใจความดัง เพราะความสามารถเทียบ “อ้อม พิยดา” และ “นก ฉัตรชัย” พูดนิดเดียวเข้าใจและเปลี่ยนได้ทันที
หลังออนแอร์ตอนแรกไปเมื่อคืนนี้ (8 พ.ค.) ก็ทำเอาเรตติ้งถล่มทลาย สำหรับละครที่น่าจับตามองแห่งปี “บางกอกคณิกา” ล่าสุดวันนี้ (9 พ.ค.) ได้เจอผู้กำกับของเรื่อง อย่าง “สันต์ ศรีแก้วหล่อ” เจ้าตัวก็ได้เผยถึงเรื่องนี้ว่าแม้จะมีเพียงแค่ 8 ตอน แต่ก็เป็น 8 ตอนที่เข้มข้นสุดๆ และจะอลังการขึ้นเรื่อยๆ ส่วนในของฉากอันคัตที่จะฉายในสตรีมมิ่ง ก็ไม่ได้โป๊จนเกินความจำเป็น เพราะไม่ได้ทำหนังโป๊หรือ AV ก่อนจะชื่นชมฝีมือการแสดงของสาว “อิงฟ้า วราหะ” ในบทบาท “แม่กุหลาบ” โสเภณีตัวท็อป ว่าทำได้ดีมากกับละครจริงจังเรื่องแรก สมกับที่ทำการบ้านหนัก ถึงขั้นวนรถไปดูว่าของจริงเข้าบริการกันยังไง
“จริงๆ ผมว่าการแสดงมันคือการเลียนแบบชีวิตอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นอะไรที่ไม่รู้จัก ก็ต้องไปทำความรู้จัก ให้มันเข้าเลือดเข้าเนื้อตัวเอง ให้มันพอจะมองเห็นภาพ อย่าง สมครามสมรส ตรี (ภรภัทร ศรีขจรเดชา) ก็ต้องไปศึกษาเรื่องทนาย ไปนั่งดูในศาล ผมว่ามันก็คือเคสเดียวกัน สมมติอิงฟ้าไปตามดู บางทีเราอาจจะไม่รู้ก็ได้ ว่าทำได้ขนาดนี้เลยเหรอ พอไปเห็นแล้วมันอาจจะเกิดบรรลุอะไรบางอย่าง แล้วเอามาใช้ในการแสดงก็ได้ เพราะฉะนั้นการไปเฝ้าสังเกตพฤติกรรมของมนุษย์ในอาชีพต่างๆ เพื่อเอามาใช้ในการแสดง มันอยู่ในหลักสูตรการแสดงอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นไม่ใช่เรื่องแปลก ผมว่าเป็นเรื่องที่ดีด้วยซ้ำ”
สมัยนี้รับบทเป็นอะไร ควรไปศึกษาอาชีพนั้นมาก่อน จะได้เข้าใจแบ็กกราวด์ของตัวละคร
“ใช่ มันต้องศึกษา ไม่อย่างนั้นเดินเข้าฉากไปก็จะกลวงๆ ไม่รู้แบ็กกราวด์ ไม่รู้ที่มาที่ไป สมมติเป็นโสเภณี ห้องแบบนี้คุณทำอะไรตรงไหน ถ้าสมมติคุณอยู่กับมันมาสัก 10 ปี คุณต้องหลับตาเดินได้ ต่อให้มืดแค่ไหนคุณต้องจับถูก ว่าหัวเตียงอยู่ไหน อะไรอยู่ไหนยังไง มันคือการใช้ชีวิต เพราะฉะนั้นการบ้านของนักแสดง มันคือสร้างแบ็กกราวด์ สร้างความรู้สึกให้ตัวละคร ถามว่าแล้วเรื่องนี้เป็นโสเภณี จะศึกษายังไง มันคือการสังเกต จะลงพื้นที่ไปดูเขา ว่าเวลาทำงานเขาเป็นแบบนี้ เลิกงานเป็นแบบนี้ ไปกินข้าวตรงนี้ คุยกับเพื่อนแบบนี้ ใช้ชีวิตแบบนี้ มันคือการไปสังเกต เพราะเอาเข้าจริงๆ อย่างอาชีพโสเภณีมันก็ไม่ได้มีแบบเดียว คนมันก็มีหลากหลายแบบ เพราะฉะนั้นการไป เพื่อบางทีเราจะได้เห็นคาแรกเตอร์ที่ไปขวาสุดเป็นแบบนี้ ซ้ายสุดเป็นแบบนี้ เราก็หยิบมาใช้”
เผยโสเภณีในสมัยร.5 เป็นอาชีพที่ถูกกฎหมายและต้องจ่ายภาษี แต่ถูกจัดให้อยู่ในวรรณะที่ต่ำกว่าทาส เลยอยากเล่าตรงนี้ให้ทุกคนเห็นผ่านตัวละคร
“โสเภณีในรัชกาลที่ 5 มันมีกฎหมายที่ระบุไว้ ว่าคน 33 ประเภทขึ้นให้การในศาลไม่ได้ ในเรื่องนะ เดี๋ยวจะมีพูดถึงสิ่งนี้ โดยระบุว่ามีใครบ้าง ซึ่งรวมโสเภณีด้วย เพราะฉะนั้นพอมันถูกกฎหมายจัดไว้แบบนี้ มันเลยกลายเป็นเหมือนวรรณะที่ต่ำสุดในสังคม ต่ำกว่าทาส ประมาณนั้น ในยุคนั้นจะเรียกโสเภณีว่าหญิงชั่ว จริงๆ มันก็ขัดแย้ง ทั้งที่สมัยนั้นมันถูกกฎหมาย และเสียภาษีเหมือนอาชีพทั่วไป
ถ้าไปอ่านดูก็รู้ว่ามีถนน มีคลองหลายสาย ที่สร้างจากการเสียภาษีของโสเภณี ยกตัวอย่างเช่นที่เขาพูดกันเยอะๆ คือ วัดคณิกาผล ที่สร้างมาจากเงินภาษีโสเภณี คือเหมือนเราได้ภาษีจากเขามา แต่เขาดันถูกจัดให้ไปอยู่วรรณะต่ำสุด มันก็ย้อนแย้งกันนะ การจัดวรรณะไม่เท่าไหร่ แต่การเห็นคนไม่เท่ากัน อันมันก็ย้อนแย้งกันนิดหนึ่ง เราก็เลยมาเล่าสิ่งนี้ ว่าเขาเลยอยากต่อสู้เพื่อทำความฝัน ผมว่าลึกๆ ความฝันของทั้ง 3 คน ก็คือฝันอยากเป็นคนธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้นแหละ ฝันที่ไม่ต้องมาถูกจัดให้เป็นคนที่ไม่เท่ากับคนอื่น”
ชม “อิงฟ้า” เก่งและทำดีมาก กับการแสดงจริงจังเรื่องแรก
“อิงฟ้าเป็นคนเก่ง เก่งมาก คือก่อนหน้าที่ผมจะมาเจอเขาในเรื่องนี้ ผมรู้จักเขาอย่างเดียว แค่ตอนที่เขาร้องประกวดเดอะวอยซ์ (หัวเราะ) ผมเคยเห็นเขาตอนประกวดเดอะวอยซ์แค่นั้น แล้วอันอื่นตอนเขามาเป็นมิสแกรนด์ ผมไม่ใช่สายนางงาม ก็จะไม่ค่อยรู้เรื่องพวกนี้เท่าไหร่ เพราะฉะนั้นก็จะไม่ได้รู้จัก ไม่ได้ตามงานอะไรเขาเลย แต่รู้ว่าเขาดังมาก มีแฟนคลับเยอะ จนมาเจอในบางกอกคณิกา วันแรกๆ ที่เจอกัน ก็รู้สึกได้ว่าเขาอาจจะมีเกร็ง มีตื่น หรืออาจจะเหนื่อยจากที่เขางานเยอะ แต่พอได้พูดคุยกัน ได้ปรับจูนความคิด ว่าเราจะไปแบบไหนๆ กัน คือผมก็รู้สึกว่าเป็นคนมีของมากคนหนึ่ง กับงานแสดงที่ออกมา ถ้าคิดว่าเป็นเรื่องแรกแบบจริงๆ จังๆ ผมว่าดีมาก แทบไม่ได้เคี้ยวเลยครับ คือคุยกันแบบผู้กำกับกับนักแสดงคุยกันเลย”
ไม่กดดันกับความดังของ “อิงฟ้า” เพราะใช้มาตรฐานเดียวกันหมด กับนักแสดงทุกคน
“ไม่มี คือผมคุยกับนักแสดงคนอื่นยังไง ผมก็คุยกับเขาอย่างนั้น เหมือนกันหมด คือพอเข้ากองมันก็ต้องถอดหมวก ถอดหัวโขนของแต่ละคนออกอยู่แล้ว ต้องเป็นนักแสดงเข้ามา เพียงแต่ว่าสิ่งที่ผมรู้สึกดีอก็คือว่าผมไม่ต้องไปพูดกับเขาในแบบนักแสดงใหม่ คือสมมติถ้าเกิดไปเจอนักแสดงใหม่บางคน การอธิบายบางอย่างมันอาจจะต้องใช้เวลา 1 2 3 4 5 เพื่อความเข้าใจ แต่กับอิงฟ้าบางทีพูดนิดเดียวเข้าใจเลย เหมือนเวลาผมพูดกับพี่อ้อม (พิยดา จุฑารัตนกุล) หรือพูดกับพี่นก (ฉัตรชัย เปล่งพานิช) พูดนิดเดียวทุกคนก็เข้าใจ เพราะเขามีประสบการณ์มาก พอมาเจออิงฟ้าเป็นแบบนี้ มันก็ประหลาดใจสำหรับผมเหมือนกัน ว่าเก็ตเร็ว พอบอกแล้วเปลี่ยนได้ ปรับได้แบบทันทีทันควัน แล้วเห็นความแตกต่างชัดเจน อะไรแบบนี้ อารมณ์ที่ต้องไปถึง ก็สามารถไปแตะมันได้ ก็ครบเครื่องนะ ยิ่งมีโชว์ให้ได้เห็นทั้งร้องทั้งเต้น ก็ไม่แปลกใจที่เขาดัง”
ขึ้นเป็นนักแสดงท่านหนึ่งได้ไม่ยาก เพราะมีครบเครื่องทุกอย่างแล้ว
“ได้อยู่แล้ว คือตัวเขามีทรัพยากรหลายอย่างมาก ที่จะเอื้อให้เป็นนักแสดงดีๆ คนหนึ่งได้ ไม่ว่าจะรูปร่างหน้าตา ความสามารถ ฐานคนชื่นชอบ เขามีครบแล้ว เพราะฉะนั้นถ้าเกิดเขารักการแสดง ใส่ใจและทุ่มเทกับมัน เพื่อเป็นสิ่งนี้ ผมว่าไม่น่ายากสำหรับเขาครับ”
รับประกันจะอลังการขึ้นเรื่อยๆ เป็นละคร 8 ตอนที่มีแต่ความเข้มข้น
“อลังการขึ้นเรื่อยๆ ครับ (หัวเราะ) เนื่องจากมันมี 8 ตอน เพราะฉะนั้นการเล่าเรื่อง 8 ตอน มันจะมาแต่เนื้อๆ มีแต่ประเด็นหลักๆ ไม่มีซีนเอ้อระเหยลอยชาย ทุกอย่างมันจะมีเหตุและผล ที่ต้องมีซีนนี้ตลอดเวลาเสมอ และนำไปสู่อะไรต่ออะไรเสมอ เพราะฉะนั้นความเข้มข้นของเรื่อง แล้วยิ่งในจุดหนึ่ง เราคิดว่าเราทำเพื่อสตรีมมิ่งด้วย มันก็จะมีดีกรีความฉูดฉาดที่มันมากขึ้น”
เวอร์ชั่นอันคัตจะฉายผ่านสตรีมมิ่ง แต่ไม่ได้โป๊เกินความจำเป็น เพราะต้องมีจริยธรรมและศีลธรรมด้วย
“ก็น่าจะเป็นสิ่งที่มันออนแอร์ไม่ได้ในโทรทัศน์ ฉากของณัฏฐ์ (ณัฏฐ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา) ก็จะมีนิดหน่อยมั้ง คืออันดับแรกเราไม่ได้ทำหนังโป๊หรือ AV เราทำละครที่ว่าด้วยชีวิตของกะหรี่ตามบริบท เพราะฉะนั้นเวลาเล่า สมมติเราเล่าแบบจริงๆ เลย มันก็อาจจะเกินเส้นเรตละคร 2 ทุ่มที่มันออนแอร์ไม่ได้ เราก็ต้องเข้าใจตรงนั้น แต่เนื่องจากเราหวังจะไปสตรีมมิ่งด้วย เราก็ต้องให้มันเกินขึ้นมานิดหน่อย ตามที่สตรีมมิ่งจะรับได้ แต่ในขณะเดียวกันพอไปอยู่ในสตรีมมิ่ง เราก็ต้องมีจริยธรรม มีศีลธรรมของคนเล่าเรื่อง ว่าอะไรคืออนาจาร อะไรคือสิ่งที่มันจำเป็นต้องเล่า เพราะฉะนั้นมันก็เป็นเรื่องของการบาลานซ์ให้มันอยู่ได้ ถ้าดูตอน 2 ทุ่ม ก็อาจจะรู้สึกหือๆ เยอะหน่อย เพราะมันดูเหมือนพร้อมจะแรง แต่ก็ยังอยู่ในกรอบที่เราทำได้ครับ”
