“เสก โลโซ” จัดคอนเสิร์ตใหญ่ครบรอบ 28 ปี LOSO Original หลังเคยทะเลาะกับเพื่อนร่วมวงจนวงแตกเพราะอีโก้ ร้องไห้น้ำตาท่วมวันเคลียร์ใจ ซาบซึ้งเหมือนเพลง เราและนาย เพื่อนไม่ทิ้งกัน เผยบทเรียนเจ๊ง 100 ล้านใน 2 ปี แต่โชคดีมีเงินเก็บเลยไม่เครียด
แฟนๆ ตำนานร็อกแอนด์โรลตัวจริงเสียงจริงของเมืองไทย ได้ตื่นเต้นและดีใจ หลังจากที่มีการจัดงานแถลงข่าวคอนเสิร์ต “28 YRS LOSO WE ARE THE ROCK & ROLL CONCERT” ของวง “LOSO Original” ที่มีสมาชิกดั้งเดิม คือ เสก เสกสรรค์ ศุขพิมาย, ใหญ่ กิตติศักดิ์ โคตรคำ และ กลาง ณัฐพล สุนทราณูกลับมารวมตัวกันจัดคอนเสิร์ตใหญ่ในรอบ 23 ปี และเป็นการครบรอบ 28 ปีของวง LOSO Original ยอมรับว่าทะเลาะกันจนวงแตก เหตุผลที่ทะเลาะไม่ใช่เรื่องเงิน แต่เป็นเรื่องของอีโก้ของแต่ละคน ตอนกลับมาเคลียร์ใจกันครั้งแรกถึงกับร้องไห้น้ำตาลูกผู้ชายไหล สิ่งที่ค้างคาได้หายไปหมดแล้ว คอนเสิร์ตนี้เลยมีความพิเศษหลายอย่าง แฟนเพลงจะได้กลับไปเห็นบรรยากาศในยุคดั้งเดิม ในคอนเสิร์ตนอกจากวง LOSO Original แล้วยังมีวง “เสก LOSO” ซึ่งเป็นวงของเสกหลังวงแตกด้วย แฟนคลับจะได้ดู 2 วงพร้อมกัน จัดขึ้นวันที่ 6 กรกฎาคม 2567 ที่ อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี
เสก : “ครั้งนี้จะเริ่มต้นจาก LOSO Original เลย แล้วตามด้วยวง SEK LOSO เล่นกัน 2 วง เพลงที่ขนมาร้องในวันนั้นคงจะเยอะน่าดู สนุกแน่นอนครับ การกลับมาเพราะผมไม่ได้เจอ ‘ใหญ่’ (กิตติศักดิ์ โคตรคำ) กับ ‘พี่กลาง’ (ณัฐพล สุนทรานู) นานแล้ว มีความคิดถึงกัน นัดเจอกัน ปรับความเข้าใจในเรื่องเก่าๆ ที่ผ่านมา พอได้กอดกัน น้ำตาซึม ก็รู้สึกว่าต้องมีคอนเสิร์ตใหญ่ ผ่านมา 2 ปี ก็คนติดต่อมาว่าจะทำคอนเสิร์ต ก็รับปากตกลง วันนั้นเราไปเคลียร์ใจ สิ่งที่ค้างคาก็หายหมดเลย ไม่เหลือเลย ตอนนั้นยังเด็กมากที่แยกตัวกันไป อายุ 20 กว่าๆ เอง”
ใหญ่ : “ตอนโน้นเราทะเลาะกัน มันไม่ใช่เรื่องอื่น ส่วนมากจะมีปัญหากันเรื่องเงิน แต่เราไม่มีเรื่องพวกนั้น คือเราเป็นวงที่ประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุยังน้อย งานทั้งหมดเราเป็นคนทำเองหมด จะมีอีโก้ว่าไม่กลัวใครแค่นั้นเลย พอวันนึงเรากลับมาเคลียร์กันนิดเดียวนั่งคุยกัน ตอนนั้นพวกเรายังเด็ก”
เสก : “ตอนนี้เรียกว่าตกผลึกแล้ว อายุก็ 50 กันแล้ว ผ่านอะไรมาเยอะ กลับมารวมตัวกันก็ดีใจและรักกันมากกว่าเดิม”
รับร่ำไห้เคลียร์ใจกันครั้งแรก
ใหญ่ : “ผมว่าชีวิตก็เป็นแบบนี้นะ สุข ทุกข์ ขึ้น ลง ต่างคนต่างมีหนทางตัวเอง วันนึงมันมาบรรจบกันก็ยิ่งรู้สึกดี”
กลาง : “ก่อนกลับมาโลโซ ผมก็ไปทำซาวด์เอ็นจิเนียร์ ทำให้ศิลปินวนเวียนอยู่ในนี้ แต่เป็นเบื้องหลัง”
เสก : “เริ่มต้นที่ผมประสานไป ผมน้ำตาซึมเลยนะที่คุยกับใหญ่ตอนแรก”
ใหญ่ : “ช่วงที่กลับมาเป็นช่วงชีวิตพี่เสกถึงจุดพีกสุด ช่วงที่เขาไลฟ์นานๆ เรามีความเป็นห่วง แต่ไม่รู้จะเข้ามาหายังไง คอยมองอยู่ห่างๆ จนสุดท้ายไปรักษา พอออกมาปุ๊ปก็มีโอกาสได้มีคนที่เขาเชื่อมต่อเป็นกาวใจ เราเองก็อยากคุยกันอยู่แล้ว พอคุยครั้งแรกก็ร้องไห้เลย”
เสก : “มันซาบซึ้ง เหมือนเพลง ‘เราและนาย’ นั่นแหละ ไม่ทิ้งกันตลอดไป วันที่รวมตัวบรรยากาศเก่าๆ ก็กลับมา นั่งดื่ม นั่งคุย คิดถึงบรรยากาศเก่าๆ”
ความเข้าขาในการเล่นดนตรี ไม่ต่างจาก 28 ปีก่อน
เสก : “ผมว่าไม่แตกต่างมากนะ เมื่อก่อนอาจจะสดกว่านี้ แต่คราวนี้จะเก๋ากว่า”
ใหญ่ : “ความเฟี้ยวจะลดลงไป จะมีความเก๋าเพิ่ม เพลงที่เคยเร็วๆ อาจจะลดให้ช้าลงหน่อย (หัวเราะ)”
เสก : “ผมว่าเราไม่ต้องจูนกันใหม่ เมื่อก่อนเราก็เล่นด้วยกันแบบนี้อยู่แล้ว เพลงก็เป็นเพลงที่เคยเล่นกันมาก่อน”
ใหญ่ : “รอบนี้มันจะพิเศษในเรื่องของเพลง เพราะว่าสมัยก่อนเพลงของโลโซ ไม่ใช่มีเพลงที่เล่นแค่ กีตาร์ เบส กลอง จะมีเครื่องดนตรีหลายๆ ชิ้น สมัยก่อนที่ทัวร์คอนเสิร์ตเราไม่สามารถเล่นเพลงพวกนี้ได้ แต่พอเป็นคอนเสิร์ตใหญ่ เราก็สามารถที่จะเสกสรรค์ปั้นแต่งเต็มที่ เพลงที่ไม่เคยเล่นที่ไหนเลยจะมาเล่นที่คอนเสิร์ตนี้”
ดึง “น้องเสือ เสฏกานต์ ศุขพิมาย” ลูกชายเสกเป็นแขกรับเชิญ
เสก : “อย่างเมื่อกี้ที่บอกว่า เสือตามไปเล่นคอนเสิร์ตกับผมตลอดสมัยก่อน ไปทัวร์คอนเสิร์ตต่างประเทศก็ไปด้วยตลอดเขาก็ซึมซับมา ผมไม่คิดเลยว่าเขาจะร้องเพลงเป็น จนอยู่มาวันนึงเขากลับมาจากต่างประเทศ เขาไปร้องคาราโอเกะกับผม ก็มีความรู้สึกว่าลูกจะมาทางผมเขาร้องแรปด้วย ก็ดีครับ คอนเสิร์ตนี้เสือมีเพื่อนมาด้วยเป็นแรปเปอร์ แขกรับเชิญก็มี น้องดา เอ็นโดรฟิน และอีกหลายคนอุบไว้ก่อน แล้วจะทยอยบอก สนุกแน่นอน
เป็นคนที่รักกัน ส่วน ‘พี่รัฐ’ (อภิรัฐ สุขจิตร์) จะเชิญมา แต่พี่เขาไม่สบายอาจจะเล่นสักเพลงนึง ต้องถามเขาว่าไหวหรือเปล่า คอนเสิร์ตครั้งนี้น่าจะประมาณ 3 ชั่วโมง ตอนนี้แก่แล้ว เล่นไม่ค่อยไหว (หัวเราะ) แต่ก็จะสู้เต็มที่ ถ้า SOLD OUT ก็จะเพิ่มรอบ แต่ตอนนี้ก็รอบเดียวก่อน หลังประกาศไปฟีดแบ็กแฟนๆ ผมมองจากสื่อมวลชนที่มาวันนี้ ผมว่าฟีดแบ็กดีมากๆ ขอบคุณทุกคน เล่น 3 ชั่วโมงไหวอยู่แล้วเพราะมีน้องๆ มาช่วยด้วย ผมไม่ได้ร้องคนเดียว”
ใหญ่ : “อย่างที่บอกครับว่าคอนเสิร์ตใหญ่ครั้งล่าสุดที่เล่น คือคอนเสิร์ตเพื่อเพื่อน เหตุการณ์เมื่อ 23 ปีที่แล้ว สิ่งที่เชื่อมต่อโลโซกับแฟนเพลงก็คือบทเพลงและภาพคอนเสิร์ตในวันนั้น เด็กรุ่นหลังที่ยังติดตามโลโซอยู่ ไม่เคยเห็นเราเล่นด้วยกันอยู่แล้ว ก็ดูจากคอนเสิร์ตนั้นแล้วก็ฟังเพลงเก่าๆ ของเรา วันที่ 6 กรกฎาคม 2567 นี้ มาเจอกัน ฝากด้วยครับ”
รับลงทุนทำธุรกิจเครื่องดื่มชูกำลัง เจ๊ง 100 ล้านใน 2 ปี บทเรียนราคาแพง แต่โชคดีมีเงินเก็บ เลยไม่เครียด หลังเป็นข่าวคนอยากร่วมธุรกิจด้วยอื้อ แต่โบ้ยให้ปรึกษาเมีย
เสก : “เจ๊งไปแล้ว คือผมบอกตัวเองว่าถ้าหมด 100 ล้าน จะไม่ทำต่อ ซึ่งก็หมดจริงๆ แต่โชคดีที่มีเงินเก็บอยู่ ซื้อที่ดินเก็บไว้ เรียกว่าไม่เครียดอะไรมาก แต่ถ้าไม่มีเงินเก็บเลยสงสัยจะเครียดมาก หมดไป 100 ล้าน ในระยะเวลา 2 ปีกว่าเป็นบทเรียนที่ราคาแพงมาก ก่อนที่จะถึง 100 ล้าน ก็เริ่มรู้สึกถอดใจแล้ว แต่ยังสู้ต่อ เพราะลูกน้องบอกบอสต้องสู้นะ ก็สู้ด้วยกัน แต่สุดท้ายไปไม่ได้ จริงๆ แล้ว เครื่องดื่มชูกำลังต้องลงทุนมากกว่านั้นเยอะ อย่างน้อยต้องมี 300-500 ล้าน
ถามว่าพลาดเพราะอะไร ผมมองว่าตอนนั้นเงินเราไม่พอ โรงงานผลิตของเราก็ไม่มี แต่ก็ไม่เข็ดทำธุรกิจนะ อยากจะทำอีก แต่ว่าต้องดูว่าจะทำอะไร เรื่องนี้คนถามเยอะมาก เพราะหลังจากเป็นข่าว ก็มีคนถามอยากจะร่วมธุรกิจด้วย แต่ผมก็ยังไม่พร้อม แต่ก็เป็นไปได้ถ้ามีคนมาร่วมลงทุน ก็ปรึกษาคุณกานต์(วิภากร ศุขพิมาย) ก่อน เขาจะเก่งกว่าผม การทำธุรกิจต้องศึกษาให้ดี ต้องมีทุน พนักงานก็สำคัญมาก ขอให้ทุกคนที่จะทำธุรกิจต้องคิดให้ดี เพราะมีความเสี่ยงและเรื่องขาดทุนเข้ามาเกี่ยวข้อง หลังโพสต์ก็มีคนติดต่อมาซื้อเยอะ เราไม่ขาย เก็บไว้ให้ลูกๆ”