“เก้า จิรายุ” แชร์วิธีรักษาความสัมพันธ์ ต้องมีมุกตลก และไม่ต้องเจอกันบ่อย ให้ทำตัวยุ่งๆ เดี๋ยวก็คิดถึงกันเอง บอกอย่าไปทำถูกใจทุกเรื่อง ต้องขัดบ้างเดี๋ยวน่าเบื่อ จืดชืด ช่วงนี้กลับมารับงานแสดง แต่หลักๆ คืองานวง Retrospect ขอบคุณแฟนเพลงเปิดใจ อดทนอยู่ดูพัฒนาการ จนเห็นความเปลี่ยนแปลง
ให้สัมภาษณ์ทีไร ก็มีตำนานใหม่ทุกที สำหรับหนุ่ม “เก้า จิรายุ ละอองมณี” ที่ล่าสุดวันนี้ (7 พ.ค.) ในงานบวงสรวงเปิดกล้องภาพยนตร์ “แสนสนั่น พันธุ์สั่นสู้” ก็ได้ออกมาเผยวิธีรักษาความสัมพันธ์ให้ไม่น่าเบื่อ ด้วยการบอกให้ทำตัวยุ่งๆ เข้าไว้ ไม่ต้องเจอกันบ่อย เพื่อให้ความคิดถึงได้ทำงาน อย่างเช่นการบอกหวานใจ “วี วิโอเลต วอเทียร์” ว่าไปทัวร์คอนเสิร์ต แต่จริงๆ แล้วโกหกให้คิดถึงเล่นๆ
“จริงๆ ผมก็ตั้งใจว่าจะรับปีละเรื่องครับ ก็เลยถ่ายแค่ช่วงเดือนสองเดือน เราก็เต็มที่ทุกงานที่ทำอยู่แล้วครับ อย่างเวลาเราเล่นดนตรี ผมว่ามันก็เหมือนเป็นความรู้สึกอีกแบบหนึ่ง เพราะเราไม่ได้เจอคนเยอะ ส่วนใหญ่ถ่ายหนังหรือถ่ายละคร ก็จะอยู่กับคนที่เรารู้จัก แต่ว่าเวลาเราออกไปเล่นคอนเสิร์ต เราจะเจอผู้คนใหม่ๆ ตลอด ผมว่ามันก็เป็นอีกความรู้สึกหนึ่ง ซึ่งมันก็ยังใหม่สำหรับผม เพราะเพิ่งจะได้ทัวร์จริงๆ จังๆ แบบนี้มาปีสองปี คือไม่ว่างานอะไรเราก็เต็มที่แหละ แต่พออยู่ตรงนั้นบนเวที เห็นคนที่เขาสนุกกับเรา มันเหมือนเป็นความรู้สึกที่สะท้อนกันกลับไปกลับมา มันเป็นภาพใหม่ๆ ที่เราตื่นเต้น พี่ๆ ทุกคนในวงเขาก็แฮปปี้ เขาดูแลเราเป็นอย่างดี ก็รู้สึกสนุกและอยากทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ”
ขอบคุณแฟนเพลงทุกคนที่เปิดใจ
“ความตั้งใจของเรา เรามาเพื่อจะพัฒนาให้มันเก่งขึ้นไปเรื่อยๆ ให้คนดูเขารู้สึกว่าเขามาดูคอนเสิร์ตเรา มาฟังเพลงที่เราทำกัน แล้วเขาเห็นพัฒนาการ และได้เอ็นจอยมากขึ้นเรื่อยๆ เราพูดอะไรไม่ได้นอกจากขอบคุณทั้งวงเอง แล้วก็ทีมงาน ทั้งคนฟัง แฟนเพลงที่ให้ความอดทนด้วย คือหลายๆ คนก็เปิดใจ เรามองตัวเองเราก็รู้สึกว่าเราไม่ได้เก่งหรอก แต่ก็ดีใจที่หลายๆ คนรอ จนเห็นความเปลี่ยนแปลง พัฒนาการมันอาจจะทีละนิด ทีละหน่อย ก็ขอบคุณมากที่ยังมาดูกันอยู่ เติบโตไปพร้อมๆ กันนะครับ ก็ขอบคุณทุกคนครับ”
ความรู้สึกตอนขึ้นเวทีแรก คือต้องคิดให้น้อยที่สุด ไม่งั้นจะทำไม่ได้
“จำได้ครับ ความรู้สึก ณ เวลานั้น ผมไม่ได้คิดเยอะมาก เราแค่อยากสนุกกับพี่ๆ ทุกคน เพราะถ้าผมคิด ผมจะไม่สามารถขึ้นไปได้เลย ต้องพยายามคิดให้น้อยที่สุด ว่าเขาจะคิดยังไงกับเรา คือหลักๆ เรารู้ ว่าเรามาที่นี่เพื่อร้องเพลง เราก็ต้องร้องให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ แล้วก็มาเอ็นเตอร์เทนคน ก็ทำให้เขามีความสุข สนุกที่สุด แต่สำคัญที่สุดเหนือสิ่งอื่นใด คือการที่เราอยู่บนเวทีกับทีมของเรา ถ้าเราสัมผัสความเป็นทีมเวิร์กได้ ทุกอย่างมันจะโอเคเอง เราระวังหลังให้เขา เขาระวังหลังให้เรา ล้มไปทางไหนมันอาจจะเจ็บ แต่ก็สบายใจ อุ่นใจ”
รับงานแสดงเป็นช่วงๆ ตามโอกาส หลักๆ คืองานวง Retrospect
“มันก็อาจจะเป็นช่วงๆ มันจะมีช่วงที่เรารับงานแสดงเยอะมาก มันอาจจะไม่ได้เป็นความตั้งใจ ช่วงหลังโควิดทุกอย่างมันมาประจวบเหมาะกัน ซึ่งเราเองก็ไม่ได้ชอบทำอย่างนั้น เราชอบเล่นทีละเรื่อง ค่อยๆ ทำทีละงาน แต่ก็อาจจะโชคดีด้วย ก็ขอบคุณทุกคนที่ให้โอกาส แต่เราอยากทำให้มันดีที่สุด ก็อาจจะต้องดูบาลานซ์กัน ตอนนี้ก็มาถ่ายเรื่องนี้ แล้วก็รอดูต่อไปว่าจะมีอะไรหลังจากนี้ แต่หลักๆ ก็คือมีวงครับ”
ไม่ได้ตั้งใจไว้หนวดแค่ขี้เกียจโกน แต่หวานใจชอบให้โกนมากกว่า
“ก็แล้วแต่คนชอบแหละ แต่ว่าส่วนตัวผมก็แล้วแต่เลย ถ้าช่วงไหนผมขี้เกียจโกน คือไม่ได้ตั้งใจจะไว้หรอก แค่ขี้เกียจ แต่โกนก็ดี อาจจะดูเด็กลงมั้ง ไม่รู้เหมือนกัน คือไม่ได้อยากจะเข้มหรืออะไรเลย แต่บางทีเราเห็นตัวเองทุกวัน เราก็เบื่อๆ ก็อยากทำอะไรใหม่ๆ แค่นั้นเลยครับ ไม่ได้คิดว่าจะเปลี่ยนลุคให้มันดูเป็นผู้ใหญ่ (วีชอบแบบไหน?) ก็อาจจะชอบให้โกนหนวด (วีเคยบอกว่าอยากให้โกน แต่เราตีมึน?) คนเรามันก็แบบนี้แหละ บางทีบอกโกนดีว่า พอโกนปุ๊บก็บอกชอบตอนไว้หนวดเหมือนกันนะ”
บอกอย่าไปทำถูกใจทุกเรื่อง เดี๋ยวรสชาติชีวิตมันจืดชืด น่าเบื่อ
“ถามว่าเอาใจยากไหม เราก็ไม่เป็นไร ผมว่ามันก็อย่างนี้แหละ ยื้อๆ กันไปมา เป็นรสชาติของชีวิตดี เราก็อย่าไปทำถูกใจเขาทุกเรื่อง มันจะน่าเบื่อ จืดชืด ไม่ได้ เราต้องขัดใจกันบ้างครับ เขาก็ตลก เดี๋ยวนี้เริ่มเรียนรู้มุกตลกใหม่ๆ แบบชาวไทย เพราะเขาจะดูแต่ตลกต่างชาติไง ถ้ามาเจอโบ๊ะบ๊ะสามช่า ก็อาจจะงงๆ แต่ผมก็ซัดสไตล์ไทย เขาก็เริ่มเข้าใจ เริ่มทันมุกคนไทยมากขึ้นนิดหน่อย”
ยันคู่ตนไม่ได้หวาน ที่ “ก้อย อรัชพร โภคินภากร” ให้สัมภาษณ์ว่าหวานที่สุดในแก๊ง อาจจะแค่เบี่ยงประเด็น
“ไม่หรอกๆ เขาเบี่ยงประเด็นไง อันนี้ก้อยใช่ไหม ไปถามอะไรเรื่องเขาล่ะ เขาก็เลยมาเรื่องเราไง อันนี้ผมก็ไม่รู้ ไปคุยกันเองๆ ผมไม่เกี่ยวอยู่แล้ว ถามว่าหวานไหม ผมก็ปกตินะ ไม่ได้ขนาดนั้นหรอก ผมไม่รู้ๆ ไปถามเขาเอง”
หวานที่สุดในแก๊งยกให้ “นัตตี้” รองลงมาก็คู่ตัวเอง แล้วค่อยเป็น “ดรีม”
“น่าจะเป็นนัตตี้ (นันทนัท ฐกัดกุล) มั้ง เขาแต่งงานแล้ว เขาก็น่าหวานสุดแหละ ส่วนคู่ดรีม (อภิชญา พานิชตระกูล) ผมว่าเขาก็โอเค ก็ใช้ได้ แต่อาจจะเป็นรองผมอยู่นิดหนึ่ง แต่ผมก็พูดไปเรื่อยครับ อย่าไปถือสาเอาความอะไรกับผมเลยนะครับ เดี๋ยวพูดไปใครจะหมั่นไส้ แต่เราก็พอจะได้อยู่ พูดถึงในความเราเป็นคนขี้เล่นไง ก็จะมีเล่นมุก แต่ผมมองตัวเองก็ไม่ได้หวานขนาดน้้นหรอก (แต่คนอื่นเขามองว่าหวาน?) เราปกติ แต่อื่นไม่ปกติ ผมปกติคนเดียว บนโลกใบนี้ (หัวเราะ)”
มาตรฐานไม่ได้สูงกว่าคนอื่น แค่รู้วิธีทำให้ความสัมพันธ์ไม่น่าเบื่อ
“ไม่นะ ผมก็ปกตินะ แต่เรามีวิธีการที่จะสนุกของเรา เพราะบางทีคนคบกันมาสักพักหลายๆ ปี ผมก็เห็นเขาอาจจะมีปัญหาเรื่องเบื่อๆ กันเปล่า ไม่รู้เหมือนกัน ก็อาจจะต้องหาอะไรสนุกสนานมั้งครับ อาจจะไม่ต้องเจอกันบ่อยๆ ทำตัวยุ่งๆ เดี๋ยวมันก็จะคิดถึงกันเอง บางทีผมก็ไม่มีงานนะ ผมก็ทำเป็นว่าไปทัวร์คอนเสิร์ต แต่จริงๆ ผมโกหก ผมอยากไปเที่ยว แต่จริงๆ ผมก็ไม่ได้อยากไปเที่ยวหรอก ผมก็ไปนั่งเฉยๆ แต่เขาจะได้คิดถึงเราเล่นๆ เชื่อไหม ไม่จริงๆ ใครมันจะไปทำอย่างนั้น จริงๆ ไม่ต้องพยายามก็ได้ มันก็ไม่ได้เจอกันบ่อยทุกวันขนาดนั้น”
ไม่ลงโซเชียล ไม่ได้แปลว่าเลิกกัน
“เราก็ทำอะไรไม่ได้นะครับ เดี๋ยวนี้คนก็ดูแต่โซเชียลมีเดีย บางทีไม่ลงอะไรเขาก็ไม่รู้เรื่องเรา คือก็ทำอะไรไม่ได้ ผมไม่ได้เป็นคนชอบเล่นอะไรขนาดนั้นครับ พวกโพสต์หรืออะไร ผมก็อยากโพสต์บ่อยๆ นะ แต่ว่าไม่รู้จะโพสต์อะไร ขี้เกียจด้วย วันหยุดก็อยากนอน แต่เขาจะเล่นไง เขาเป็นสาวโซเชียลมีเดีย อยากรู้อะไรก็ไปถามเขาแล้วกัน”