“เอ๋ อรชัญญาช์” รับทักแชตหา “หมอปลาย” ขอให้เลิกพูดถึงสามี “เมฆ วินัย” กลัวกระทบลูก บอกส่วนตัวอโหสิกรรมให้ แต่ไม่อยากให้ลูกเกลียดใคร ห้ามลูกไม่ให้เสพข่าวพ่อไม่ได้ พร้อมเผยสอนลูกอย่างไรในวันที่สูญเสียคนที่รัก
แม้สามี “เมฆ วินัย ไกรบุตร” จะจากไปเดือนกว่าแล้ว แต่ภรรยาอย่าง “เอ๋ อรชัญญาช์ ไกรบุตร” ก็ยังตัดใจไม่ให้คิดถึงไม่ได้ บอกแม้ภายในจะดูเข้มแข็ง แต่ภายในอ่อนแอมากๆ แต่ก็พยายามฮึบ ไม่ท้อแท้
“สภาพจิตใจเรื่องคิดถึงพี่เมฆมันไม่มีดีขึ้นเลย เรายังคิดอยู่ตลอดเวลาว่าเขายังวนเวียนอยู่ใกล้เรา น้องเมิร์สจะชอบพูด แต่สิ่งที่เราเปลี่ยนคือเปลี่ยนโฟกัส เวลาจะทุกข์ก็รีบงัดความรู้สึกตัวเองออกมา เราต้องทำได้ ต้องสู้ได้เพื่อลูก เพื่อครอบครัว เพื่อธุรกิจ เพื่อความก้าวหน้า ก็หาทางมู อะไรที่จะรุ่ง อะไรที่จะก้าวหน้า จะรวยทำหมด เอ๋เองเหมือนจะเข้มแข็งแต่ข้างในคืออ่อนแอมาก เราเป็นผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่งที่สูญเสีย แต่เรามีภาระ เราไม่อยากท้อแท้ เราอยากจะเป็นตัวอย่างให้กับคนที่สูญเสียเหมือนกันว่ามันต้องสู้ได้สิ อย่าท้อ การฆ่าตัวตายไม่ใช่ทางออก ต้องตั้งสติ ต้องหาจุดยึด”
ลูกชาย “เมิร์ส” ยังเห็นพ่อมาวนเวียน เชื่อสามี “เมฆ วินัย” ไม่คิดจะเอาตนไปอยู่ด้วย
“พักหลังๆ น้องเมิร์สจะเข้ามากอดแล้วบอกว่าไม่อยากให้หม่าม๊าไปไหน เมิร์สรักหม่าม๊าจังเลย ป่าป๊าบอกคิดถึงหม่าม๊ามาก แต่เจอหม้าม๊าไม่ได้ ป่าป๊าอยากให้หม่าม๊าอยู่ด้วย พ่อแม่เอ๋ได้ยินเขาก็จะรีบพูดเลยว่าแบบนี้ไม่เอานะ แต่เอ๋เชื่อเสมอว่าที่พี่เมฆเลือกแต่งงานกับเราเพราะเขามั่นใจว่าถ้าเขาจากไปก่อน เขาจะดูแลครอบครัวได้ ดังนั้นเอ๋ไม่เชื่อว่าเขาอยากจะเอาเอ๋ไปอยู่ด้วย หรือเขาจะเอาคนในครอบครัวไปอยู่ด้วย อันนี้มั่นใจล้านเปอร์เซ็นต์
เขาบอกป่าป๊าอยากให้หม่าม๊าอยู่ด้วย แต่อยู่ด้วยกันไม่ได้ ป่าป๊าบอกไปสวรรค์แล้ว แต่ก็ถามเขานะว่ามาไหม ก็มา เขาเห็นเป็นแว๊บๆ ตัวเอ๋ไม่เคยฝันเห็นเลย อยากฝันเห็นอยู่นะ เอ๋ก็พูดต่อหน้าลูกเลยนะว่ามาให้เจอบ้างก็ได้นะ มาในฝันก็ได้ มาพูดคุย”
เตรียมพา “น้องเมิร์ส” ข้ามน้ำข้ามทะเลเปลี่ยนดวง
“เขาก็พูดมาเรื่อยๆ ให้พาน้องเมิร์สไปเปลี่ยนดวง ไปแล้วกลับมาน้องจะไปในทิศทางที่ดีขึ้นทุกอย่าง อากงอาม่าได้ยินก็บอกให้พาไปเลย เขาจะซัปพอร์ตให้ ก็จะพาไปเปลี่ยนดวงด้วยการข้ามน้ำข้ามทะเลไปฮ่องกง ไปไหว้เจ้าแม่กวนอิม ไปรับพลัง ให้เขาได้ไปปลดปล่อยด้วย ให้เขารู้สึกว่าต่อให้ไม่มีป่าป๊า หม่าม๊าก็ยังดูแลเขาได้ ตอนแรกเราฟังก็เฉยๆ นะ แต่พอน้องพูดถี่ๆ เราก็ชักไม่สบายใจ เราก็รู้สึกว่าไม่เชื่อแต่ก็ไม่ลบหลู่ ไปก็ไม่เสียหายอะไร ถือว่าพาลูกไปเที่ยว”
ทักส่วนตัวไปหา “หมอปลาย พรายกระซิบ” ขอไม่ให้พูดถึง “เมฆ วินัย“ อีกแล้ว ส่วนตัวอโสหิกรรมให้ ไม่อยากให้ลูกเกลียดใคร
“หมอปลายอาจจะคิดไม่ครอบคลุม เอ๋เชื่อว่าเขาไม่ได้คิดไม่ดี แกคิดดี เพียงแต่แกอาจจะไม่ได้มองในมุมมองของลูกๆ เอ๋ เอ๋ไม่ได้ห่วงภาพลักษณ์อะไรเลยนะ เอ๋ห่วงความรู้สึกเด็กๆ ลูกเอ๋เปิดโซเชียลเยอะมาก แล้วเอ๋ไม่อยากให้เขาเกลียดใคร เอ๋ก็มีอินบ็อกซ์ไปหาหมอปลายว่าขอไม่พูดเรื่องพี่เมฆแล้วนะคะ มันจบไปแล้ว ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ตาม จริงไม่จริงไม่รู้แต่มันจบไปแล้ว ความรู้สึกเอ๋ก็คิดว่าหมอปลายน่าจะรับทราบ จากนี้ก็ไม่น่าจะมีอะไรแล้ว
ตัวเอ๋ไม่โกรธ เอ๋ยึดหลักอโหสิกรรม เราอโหสิกรรมให้ใครบุญมันเกิดกับตัวเอง อย่าไปโกรธใครเลย จบได้ก็จบเถอะ มันยังมีอะไรให้เราทำอีกเยอะแยะมากมายเลย แม้แต่หมอปลายเองก็ยังมีอะไรให้ทำอีกเยอะ คนอยู่ในสายนี้ต้องทำความดี สะสมความดี และช่วยเหลือผู้อื่น”
ห้ามลูกไม่ให้เสพข่าวพ่อไม่ได้ เล่าสอนลูกอย่างไรในวันที่สูญเสียคนที่รัก
“เขาก็มีเลื่อนโซเชียลแล้วร้องไห้ จะบอกว่าขอกอดหน่อย คิดถึงป่าป๊า เราห้ามเขาไม่ได้ด้วยนะสมัยนี้ เอ๋ไม่มีหน้าไปบอกใครว่าสอนลูกแบบไหน เพราะเราไม่รู้ว่าแบบไหนสอนถูกแบบไหนสอนผิด แต่สิ่งที่เรารู้คือเราสอนลูกเราเป็นคนดี ไม่ให้เอาเปรียบคนอื่น และให้ซื่อสัตย์ นี่คือสิ่งที่เราจะสอนลูกเราเสมอตั้งแต่พี่เมฆยังอยู่จนจากไป และพยายามสอนไม่ให้เขาเกลียดใคร เอ๋จะบอกเสมอให้เขาอโหสิกรรมให้ทุกคนเลยนะ อย่าไปยึด เกลียดเคียดแค้นใคร มันจะทำให้เรามีพลังลบ ต่อไปเราจะเติบโตยาก
แต่หลังๆ เขาก็ร้องไห้น้อยลง แต่เขาก็จะพูดบ่อยว่าเขาคิดถึง เอ๋จะบอกเขาเสมอว่าป๊าก็อยู่ในตัวลูกแหละ ครึ่งหนึ่งของลูกเป็นหม่าม๊า ป่าป๊านะ เลือดในตัวของลูกก็คือลูกของป่าป๊า ดังนั้นลูกคิดถึงดีแล้ว นั่นหมายถึงความกตัญญูอยู่ในตัวลูกยังมีอยู่”
