xs
xsm
sm
md
lg

“ก้อย” แฮปปี้ชีวิตโสด! ชัดเจนไม่รีเทิร์น “นิกกี้” เลือกตอบในไอจี เพื่อให้รับรู้ทุกคน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“ก้อย อรัชพร” เคลียร์ใจตอบโพสต์ “นิกกี้” อวยพรวันนี้ จะตีความว่าไม่รีเทิร์นก็ไม่ติด แต่เป็นคำที่อึดอัดเลยไม่อยากพูด เลือกตอบโพสต์ในที่สาธารณะเพื่อให้ทุกคนรับรู้ จะได้ไม่กดดันทั้งสองฝ่าย แฮปปี้ชีวิตโสด ไม่เหงา มีคนเข้ามาแต่ไม่อยากรีบมีแฟน

ใครว่าเป็นเพื่อนกับแฟนเก่าไม่ได้ งานนี้สาว “ก้อย อรัชพร โภคินภากร”พิสูจน์ให้แล้ว ว่าเลิกกันไม่จำเป็นต้องเกลียดกันเสมอไป หลังเข้าไปคอมเมนต์ยาวใต้โพสต์ ที่หนุ่ม “นิกกี้ ณฉัตร จันทพันธ์”ลงคลิปอวยพรวันเกิดให้ ประมาณว่าขอโหสิกรรมให้ทุกเรื่อง และยังเป็นคนที่ห่วงที่สุดคนหนึ่งในชีวิตในฐานะเพื่อน เวลามีไม่มาก อย่าเสียเวลากับการรอใคร ขอให้มูฟออนอย่างแข็งแรงไปด้วยกัน ล่าสุดวันนี้ (2 พ.ค.) ได้เจอก้อย ในงาน “บางกอกคณิกา Meet & ซี้ด” เจ้าตัวก็ได้เผยถึงเรื่องนี้ รับสิ่งที่พิมพ์ไป แล้วแต่คนจะคิด แต่ถ้าตีความว่าหมดโอกาสรีเทิร์นก็ไม่ผิด

“จริงๆ ก็ตามนั้นเลย ก้อยรู้สึกว่าสิ่งที่ก้อยโพสต์ไปพิมพ์ไป ก็ค่อนข้างชัดเจนในสิ่งที่ตัวก้อยพูดอยู่แล้ว อะไรที่มันไม่ชัดเจน หรือมันมีอะไรที่สงสัย ก็ขอเป็นตัวก้อยคุยกับพี่นิกกี้เองแล้วกัน แต่ว่าสำหรับก้อย ก้อยรู้สึกว่าจุดยืนค่อนข้างชัดเจน ก้อยว่าตีความได้หลายแบบ ก้อยรู้สึกว่าไม่อยากห้ามให้คนตีความแบบไหน แล้วแต่จะคิดเลย แต่ว่าก้อยว่าแมสเสจที่เลือกที่จะพิมพ์เข้าไป ที่ส่งไปถึงพี่นิกกี้ ก้อยว่าเขาได้รับ แล้วก็เราเป็นเพื่อนกัน อะไรที่มันนอกเหนือไปกว่านั้น ก้อยก็ได้คุยกับเขาอยู่แล้ว”

จะตีความหมายว่าไม่มีการรีเทิร์นก็ไม่ผิด แต่ส่วนตัวอึดอัดที่จะพูดคำนั้น
ถ้าคำไหนที่ก้อยไม่ได้เลือกพูด แสดงว่าก้อยอึดอัดที่จะพูดคำนั้น เหมือนก้อยไม่ชอบจะพูดอะไรที่มันแรงเกิน ไม่อยากให้มันเหมือนมาบีบรัดเรา ที่จะต้องพูดคำนั้น แต่จริงๆ แล้วในความหมายของสิ่งที่ก้อยพิมพ์ไป ถ้าพี่จะตีความแบบนั้น ส่วนตัวก้อยคิดว่าไม่ได้ผิดแต่ว่าคงไม่ใช่คำที่ก้อยจะมาพูดว่าไม่ค่ะ จะไม่อย่างโน้น ฉันจะไม่อย่างนี้ ก้อยรู้สึกว่าวิธีหรือการพูดของก้อยเท่านั้น คือสิ่งที่ก้อยอยากพูด”

เชื่อ “นิกกี้” เข้าใจในสิ่งที่โพสต์ เลือกลงในที่สาธารณะ เพราะทุกคนจะได้เข้าใจจุดยืนเดียวกัน
พูดกันตรงๆ การที่เราเลือกที่จะโพสต์ในที่สาธารณะ มันคือการที่ก้อยสเตทเมนต์ ถึงจุดยืนของก้อย ไม่ได้แค่บอกเขา แต่บอกทุกคนแต่อะไรที่ก้อยอยากบอกเขา ก้อยบอกเขาเองอยู่แล้ว มันรู้อยู่แล้ว การที่เราพิมพ์แบบนี้ ทุกคนจะเห็นแบบเรา นั่นคือจุดที่ก้อยเลือกแล้ว ว่านั่นคือจุดยืนของเรา เพื่อที่คนจะได้ไม่กดดันเขาด้วย ไม่กดดันเราด้วย แล้วก้อยรู้สึกว่าในความสัมพันธ์นี้

จริงๆ สำหรับก้อยมันเป็นความสัมพันธ์ที่ดีมาก แต่มันก็คาราคาซังมานาน แล้วก็มีความไม่ชัดเจนในหลายๆ อย่างแค่รู้สึกว่าในวัย 30 ของก้อยแล้ว ก้อยอยากทำอะไรให้ความสัมพันธ์ หรือการใช้ชีวิตของก้อยมันเรียบง่าย ไม่ต้องมาเอ๊ะยังไงกันแน่ๆ แค่นั้นเอง”

ไม่กดดันคนถามจะรีเทิร์นไหม แต่รู้สึกว่าต้องมีคำตอบที่ชัดเจน ให้กับตัวเองและอีกฝ่าย
“มันไม่ถึงกับกดดันหรอก แต่ว่าก้อยรู้สึกว่าก้อยเป็นคนที่เหมือนตั้งคำถาม เเล้วต้องได้คำตอบกับตัวเอง ว่ากับสถานการณ์ตอนนี้ เราควรเอายังไงกันแน่นะ กับระยะเวลาที่ผ่านมานานขนาดนี้ เราจะเอายังไงกันแน่ เราอยากแค่ก้าวไปในวัยที่โตขึ้น ด้วยความชัดเจนกับตัวเองแค่นั้นเอง แล้วมันไม่ใช่แค่ชัดเจนกับตัวก้อย แต่มันเป็นการชัดเจนกับคนที่สำคัญคนหนึ่งในชีวิตของก้อย ก้อยก็เลยเลือกที่จะทำสิ่งนั้นแค่นั้นเอง”

คนที่เข้ามาต้องจัดการตัวเอง เพราะความสัมพันธ์ของตัวเองและ “นิกกี้” เป็นแบบนี้
“อ๋อ หนูไม่ได้สนใจตรงนั้นเลย หนูรู้สึกว่าเรื่องของหนูกับพี่นิกกี้ มันเป็นเรื่องของหนูกับเขามากๆ ในขณะที่คนอื่นเขาจะเข้ามาแล้วเขาติด ก็เป็นอะไรที่ห้ามความคิดของเขาไม่ได้อยู่แล้ว หรือแม้กระทั่งไม่ว่าเขาจะเข้ามาจากฝั่งไหนก็ตาม เป็นเรื่องที่เราจัดการเขาไม่ได้ ไม่ใช่สิ่งที่หนูจะต้องห่วงแทนเขา แต่เป็นสิ่งที่เขาอาจจะต้องจัดการตัวเอง เพราะว่าหนูว่าความสัมพันธ์นี้ของหนูกับพี่นิกกี้ มันค่อนข้างชัดเจนมาตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว แต่ว่าตอนนี้หนูแค่รู้สึกว่าหนูไม่ได้คิดสิ่งนี้เบสจากคนอื่น ไม่ได้คิดว่าคนจะมองเราว่ายังแบบนี้อยู่เลย ไม่ หนูแค่รู้สึกว่าตัวเราต้องการอะไรในชีวิต และเราอยากมอบอะไรให้เขาในชีวิต”

ฟีดแบ็กของ “นิกกี้” คือส่งหัวใจมา และตัวเองก็ส่งกลับ
“เขาส่งหัวใจ มาแล้วหนูก็ส่งหัวใจกลับ แล้วก็เหมือนเดิม ถ้าเกิดสมมติมีแบบน้องหมา มีเรื่องครอบครัว คือคำที่หนูว่าจริงๆ แล้วสำคัญและชัดที่สุดคือ เพราะคนนี้เป็นคนที่หนูห่วงมากที่สุดคนหนึ่งในชีวิตมันก็จะเป็นแบบนั้น แต่แค่มันจะถูกเปลี่ยนไปในรูปแบบอื่นแล้วแค่นั้นเอง

รับยังห่วง “นิกกี้” ในหลายเรื่อง พอเปลี่ยนสถานะแล้วพูดได้ตรงมากขึ้น
“ก็เยอะ เช่นสงกรานต์หนูก็ถามว่าสติ แล้วหนูรู้สึกว่าการที่หนูถอยออกมาเป็นเพื่อนเขา พี่น้องเขา หนูพูดได้ตรงมาก เช่นไปสงกรานต์หัวแตก หนูก็ถามพูดจริงตายได้เลยนะ หนูก็จะบอกเขาอะไรแบบนี้ หรือแม้กระทั่งเรื่องใช้เงิน เรื่องทัศนคติ แต่มันคือการที่เราเตือน แต่ว่าสุดท้ายแล้วเขาเลือกแบบไหน จริงๆ เห็นแบบนั้นเขาเป็นคนฉลาดนะพี่นิกกี้ เขารู้ว่าเขาจะเอาอะไรในชีวิตประมาณหนึ่ง เราแค่พูดในมุมที่เป็นห่วงเขาในบางเรื่องเฉยๆ เรื่องสุขภาพหลักๆ แต่ว่าในเรื่องทางเลือกชีวิต หนูว่ามีเวย์ของเขาอยู่เเล้ว”

ไม่เหงาเพราะฟินกับการทำงาน และเพื่อนก็ยังโสดอีกหลายคน
“หนูว่าหนูเริ่มจัดการทุกอย่างได้ดีขึ้นเป็นอย่างมาก เพื่อนก็ไปฮันนีมูนแล้ว แล้วก็พี่น่าจะเห็นว่าหนูทำงานเยอะมาก หนูรู้สึกว่าการที่หนูใช้พลังกับการที่ไปลงกับงาน หนูเพิ่งออกเพลง หนูเพิ่งทำโน่นทำนี่ หนูรู้สึกว่าการอยู่คนเดียวและใช้เวลากับตัวเองมากๆ มันก็ฟินอีกแบบ แล้วมันก็มีเพื่อนโสดอีกเยอะ ที่ไม่ใช่แค่เรา ยังมีเพื่อนโสดอีกหลายคน(แต่เพื่อนในกลุ่มมีแฟนหมดทุกคนแล้วนะ?) ยังๆ กลุ่มเรามีคนที่ยังไม่มีอยู่ เป็น LGBTQ แต่ก้อยว่าก้อยมีแม่ ก้อยมีหมา ก้อยมียาย ก้อยมีอะไรหลายๆ อย่าง ถ้ามันมีก็ดี แต่ว่าไม่มีก้อยก็ว่ามีก้อยมีโฟกัส มีอะไรทำ”

มีคนเข้ามาบ้าง แต่ยังไม่อยากรีบมีแฟน
“ก็คงมีบ้าง แต่ถามว่าก้อยจริงจัง แล้วก็อยากรีบมีแฟนไหม ก้อยบอกเลยว่ายัง (อยู่ท่ามกลางพลังความรักสูงๆ รู้สึกยังไงบ้าง?) คือถ้าติดรำนะ จะเป็นฝั่งวีกับเก้า เพราะบ้านนั้นเขาจะเป็นบ้านที่แบบ อุ้ย วันนี้เธอสวยจังเลย เธอก็หล่อจังเลย ชมกันอยู่นั่น ในขณะที่ดรีมกับมีน จะค่อนข้างปกติจะใช้ชีวิตง่ายๆ โดยส่วนใหญ่อยู่กับเพื่อนก็จะมีความสุข เพราะว่าก้อยไม่ได้ทรีตเขาเหมือนเป็นแฟนกัน แต่ว่าทั้งมีนแล้วก็เก้า เป็นเพื่อนก้อยอยู่แล้ว ก็เลยจอย”

แฮปปี้กับชีวิตโสด
แฮปปี้ๆ คือถ้ามีเข้ามาคุยกันรู้เรื่องก็ดี ไม่ใช่ว่าแบบฉันจะครองโสดไปตลอด แต่ ณ วันนี้มันยังไม่ได้มีอะไรที่ชัดเจน ก้อยก็รู้สึกว่าแบบนี้โอเค แฮปปี้ดี”

ตัดสินใจรับอย่างรวดเร็ว กับบท “โบตั๋น” ในละคร “บางกอกคณิกา”
“โอกาสที่เราจะได้เล่นโสเภณีในชีวิตมันไม่ง่าย ก้อยว่าหนึ่งด้วยบท สองด้วยคาแรกเตอร์ สามปกติคนจะเห็นว่าเราเป็นนักเรียน เราติดคอมเมดี้ ตัวก้อยเองก้อยชอบและรักการแสดง การที่เราจะได้รับโอกาส ที่เราจะได้ทำอะไรนอกจากสิ่งที่คนคิดว่าเราจะทำได้ ก้อยก็เลยรับอย่างรวดเร็ว

ไม่เคยคิดจะได้เล่นเป็นโสเภณี แต่ชอบทำอะไรใหม่ๆ อยู่แล้ว
“อาจจะไม่ได้คิด แต่ก็เป็นอะไรที่ก้อยอยากทำ ก้อยชอบทำอะไรใหม่ๆ อยู่แล้ว ตอนที่เขาเรียกไปคุยก็รู้สึกว่าเฮ้ย ได้เล่นเป็นโสเภณี แล้วเพื่อนโสเภณีของเราคืออิงฟ้า (อิงฟ้า วราหะ) กับชาร์เลท (วาศิตา แฮเมเนา) แล้วมีพี่อ้อม (พิยดา จุฑารัตนกุล) อีก รู้สึกว่าโปรเจกต์น่าสนใจมาก เเล้วยิ่งไปกว่านั้น คือเนื้อเรื่องที่มันตีแผ่ มันให้อะไรกับสังคม ก้อยว่ามันเป็นประเด็นที่มันมีอยู่จริงในปัจจุบัน เเล้วก็เป็นอะไรที่สังคมเขาจะตั้งคำถาม ก็เลยรู้สึกว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ตัวก้อยอินอยู่แล้ว”

ลงพื้นที่ไปดูของจริง เพื่อให้เข้าถึงตัวละคร
“ก็เดินเข้าไปดูว่า โอเคพี่ๆ คาแรกเตอร์นี้ เขามีวิธีการในการเอ็กซ์เพรสยังไง ในขณะเดียวกันเราเคยไปฝั่งสวนหลวง เราก็จะเห็นว่าจริงๆ อาชีพนี้มีหลากหลายแบบมาก บางคนเขานั่งอยู่ที่พื้น แล้วก็แค่แบบ…แค่รอให้คนมา ในขณะที่บางคนแบบว่า…มาค่ะ เราก็ต้องถามว่าโบตั๋นเป็นแบบไหน คือก้อยรู้สึกว่าตัวละครโบตั๋น เป็นตัวละครที่เขาต่อสู้ แล้วเขารู้ว่าเขาทำสิ่งนี้มา เพราะเป็นเหมือนอาชีพหนึ่งที่เขาต้องทำ เพราะฉะนั้นเขาต้องต้องใช้เรือนร่างของเขาให้ได้มากที่สุดเพื่อให้ได้มา แล้วเขาก็รู้สึกว่าเราเกิดมาแบบนี้ ก็ต้องทำมันให้ดีที่สุด

ท้าทายมากกับการเต้นแบบจริงจัง ส่วนนักแสดงก็ซัปพอร์ตกันดีมาก
“หนูพูดมาตลอด ว่าเต้นเดียวที่ถนัด คือเต้นกับเพื่อน เต้นเที่ยว เต้นไปเรื่อย แต่ว่าอันนี้พอมันจริงจังก็ท้าทาย แต่ถามว่ายากไหม ยากมากเลย ด้วยกล้ามเนื้อแล้วหนูเป็นคนเส้นตึงมาก ด้วยกล้ามเนื้อด้วย ด้วยเพลง ด้วยสไตล์ด้วย แต่สิ่งเดียวที่ทำได้คือฝึกและตั้งใจ แล้วหนูไม่รู้ หนูก็ถามน้องเลย ชาร์เลทพี่ว่าท่านี้พี่ทำแปลกมาก น้องทำให้พี่ดูหน่อย กล้ามเนื้อจัดการยังไง ก้อยรู้สึกว่า…สมมติว่าร้อง ก้อยจะถามฟ้า ฟ้าพี่ร้องแล้วแปลกๆ มีทีมที่ดี แล้วมันซัปพอร์ตกัน”

ชวนมาดูมิติใหม่ของซีรีส์ไทย เป็นคาแรกเตอร์ที่ไม่เคยเห็นแน่นอน
“เชื่อว่านี่คือมิติใหม่ของซีรีส์ไทย แล้วก็ถ้าสำหรับตัวก้อย ก้อยคิดว่านี่เป็นอีกคาแรกเตอร์หนึ่งที่ทุกคนไม่เคยเห็นแน่นอน เพราะฉะนั้นก็ฝากด้วยสำหรับซีรีส์บางกอกคณิกา ออนวันที่ 8 พฤษภาคม สองทุ่มครึ่ง พุธ-พฤหัส ทางช่องวัน”











กำลังโหลดความคิดเห็น