“ลาล่า อาร์สยาม” ตัดผม ลดน้ำหนัก หลังเลิกแฟน ตั้งเป้าลด 15 กิโล เพื่องานและเงิน ยังคิดถึงอยู่แต่ไม่โฟกัสแล้ว ยินดีปรับความเข้าใจถ้ากลับมาขอคืนดี ถ้ามันจะใช่ก็ปล่อยไปตามธรรมชาติ ไม่ปิดใจแต่ยังไม่พร้อมเปิดรับคนใหม่ มูฟออนยาก คงอีกนานกว่าจะใช้คำว่าแฟน คนที่เข้ามาต้องรับนิสัยกันได้ เหตุผลฮิตที่โดนบอกเลิกคือไม่มีความเป็นส่วนตัว ตอนนี้งดปาร์ตี้ 2 เดือน เพื่อถวายสิ่งศักดิ์สิทธิ์
แม้จะเลิกรากันมาได้ 3 เดือนกว่า สำหรับ “ลาล่า อาร์สยาม” หรือ “ขวัญนภา เรืองศรี” กับแฟนหนุ่ม “ตูน” มือกลอง “ก้อง ห้วยไร่” แต่ล่าสุดวันนี้ (1 พ.ค.) สาวลาล่า ก็ขอยอมรับแบบตรงๆ ว่ายังคิดถึงอยู่ และยินดีที่จะปรับความเข้าใจ หากฝ่ายชายจะกลับมาขอคืนดี แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขอปล่อยไปตามธรรมชาติ เพราะไม่อยากโฟกัสแล้ว ส่วนตัดผมสั้นก็เพราะอากาศร้อน ไม่เกี่ยวอกหัก น้ำหนักที่ลดส่วนหนึ่งก็เพราะความเฮิร์ต แต่ก็ตั้งใจที่จะลดเองด้วย ตั้งเป้าไว้ที่ 15 กิโล ซึ่งตอนนี้ก็ลงไปได้ถึง 8 กิโลแล้ว
“มันอาจจะเพราะโสดแล้ว แต่อันที่จริงเราตั้งใจจะทำเป้าหมายตรงนั้นไว้อยู่แล้ว คือตั้งใจจะตัดผมอยู่แล้ว เพราะอากาศมันร้อน แล้วก็จะเลี้ยงผมใหม่ แต่จังหวะมันประจวบกับช่วงนี้พอดี แล้วเราก็ตั้งใจจะลดน้ำหนัก เพราะอาจจะเฮิร์ตด้วย อะไรหลายๆ อย่าง แต่น้องๆ ก็แซว ว่าตัดผมแล้ว ตัดใจได้หรือยังจ๊ะ (หัวเราะ) คือมันไม่ได้เกี่ยวกับการตัดผมเพราะอกหัก เพราะถามว่าตัดใจได้หรือยัง ก็ยังไม่ได้ร้อยเปอร์เซ็นต์หรอก ยังมีแว๊บหนึ่งที่คิดถึง ก็ปล่อยมันคิดถึงไป ไม่ทรมานตัวเองไม่ผิดที่จะคิดถึง เราต้องยอมรับตรงนี้ มันแค่เปลี่ยนสถานะ เขาไม่ได้จากเราไปไหน ก็มีโอกาสได้เจอกันอยู่แล้ว ฉะนั้นมันอยู่ที่ว่าเราจะดึงสติ ดึงความสุขกลับมาให้เร็วที่สุด ในเมื่อมันเปลี่ยนแปลงความรู้สึกคิดถึงไม่ได้ ก็คิดถึงให้มันมีความสุขไปเลย อย่าคิดถึงแบบนี้ทุกข์
พอคิดได้แบบนี้มันก็ดีขึ้น ตอนนั้น 2 เดือนเราพยายามปรับจูนแล้ว แต่สุดท้ายมันเป็นไปไม่ได้ เราก็แปลงความทุกข์ให้เป็นความสุข ไปในสถานะแฟนไม่ได้ ก็อยู่ให้มีความสุขในสถานะเพื่อน เราก็ไม่ได้เสียเขาไป แค่เป็นเพื่อนกัน แต่ ณ ตอนนี้ก็ยังไม่ได้มีเหตุต้องเจอกัน ก็ไม่รู้ว่าจะต้องไปเจอแล้วเริ่มคุยกันยังไง จากแต่ก่อนที่เป็นตัวเองจ๊ะจ๋า จะเริ่มยังไงก็ยังคิดภาพนั้นไม่ออก ต้องรอว่าเจอกันจังๆ จะเกิดอะไรขึ้นก็ให้มันเกิดไป หลังให้สัมภาษณ์ไปรอบที่แล้ว เขาก็ไม่ได้ติดต่อมา ก็ไม่เป็นไร เพราะขนาดเพื่อนปลอบเรายังร้องไห้ ถ้าเขายังติดต่อมา ก็จะทำให้เราคิดไปเอง ว่าเขายังมีเยื่อใยอยู่ แต่ก่อนเขาจะบอกลดสถานะ เขาก็บอกแล้ว ว่ายังไงก็ยังเป็นห่วงเหมือนเดิม ยังคอยซัปพอร์ตทุกอย่าง”
ตั้งเป้าอยากลดน้ำหนัก 15 กิโล ตอนนี้ทำได้ 8 กิโลแล้ว ยิ่งลดงานเงินยิ่งเข้า
“น้ำหนักลงไป 8 กิโล แต่มันบวกกับเราอยากลดด้วย ก็ถือว่าเป็นการดูแลรักษาสุขภาพไปแล้วกัน มันจะได้มีงานดีๆ เข้ามา แล้วมันก็มีเข้ามาจริงๆ ตอนเราอวบงานก็หายนะ แต่พอน้ำหนักลง งานและเงินมันกลับเข้ามา เลยคิดว่าเราจะคงน้ำหนักไว้ประมาณนี้น่าจะดี แต่ยังอยากลดอีก อยากได้สัก 15 กิโล อีก 7 กิโลเอง มาครึ่งทางแล้ว ก็ค่อยๆ เป็น ค่อยๆ ไป ค่ะ ถ้าลดแบบเครียดมันจะยิ่งไม่ลด ถ้าเครียดลงกระเพาะก็จะป่วยอีก ตอนนี้ก็กลายเป็นเลือกกิน”
ผ่านมา 3 เดือนกว่า ยังมีร้องไห้อยู่ สถานการณ์หัวใจยังไม่ปกติ
“ยังไม่ปกติ (หัวเราะ) ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ก็ประมาณ 3 เดือนกว่า ตั้งแต่ก่อนวันหมั้น ธัญญ่า อาร์สยาม ยังมีร้องไห้บ้าง ไม่ได้ปิดใจ แต่มันยังไม่พร้อมที่จะศึกษาใครกลัวว่าถ้าเป็นซ้ำอีก เห็นสภาพตัวเองแล้ว ขออยู่กับคำว่าเพื่อนให้มันนานๆ แต่ถ้าเขาคิดจะจริงจังกับเรา ก็ให้เขาใช้ความพยายามของเขาดีกว่า เราไม่อยากอ่านข้อความคำสมน้ำหน้า วันนี้เราเข็ดแล้ว เราอยากให้เห็นใจผู้หญิงคนหนึ่ง เราเป็นอย่างนี้มันก็แก้นิสัยอย่างนี้ของเราไม่ได้”
ไม่รู้ยังรอหรือเปล่า แต่ยินดีปรับความเข้าใจ ถ้าจะกลับมาขอคืนดี
“ไม่รู้ ตอนนี้บอกไม่ถูก อยากจะให้มันเป็นไปตามธรรมชาติ ถ้าเขาจะกลับมาขอคืนดี ก็ยินดีปรับความเข้าใจ อย่างที่บอกว่าไม่มีใครถูกใครผิด มันเป็น ณ ช่วงเวลาหนึ่ง ครั้งหนึ่งเราเคยบอกเลิกเขาเหมือนกัน ในวันที่เราไม่ไหว รู้สึกว่าเขาไม่โอเคกับเรา ณ วันนี้เขาเป็นฝ่ายบอก เขาก็คงไม่โอเคในบางอย่างของเรา ก็ปล่อยไปตามธรรมชาติ ถ้าวันนี้เราใช่กันจริงๆ ก็ปล่อยเป็นไปตามวาระของมัน แต่ถ้ามันไม่ใช่ก็ต้องปล่อยไป แต่ถามว่าตอนนี้จะเปิดให้คนใหม่เข้ามาไหม ก็ขอพักใจก่อน ศึกครั้งนี้ใหญ่หลวงนัก (หัวเราะ)”
ปล่อยไปตามธรรมชาติ ถ้าคิดถึงก็คิดถึง
“พอไปปฏิบัติธรรมก็โอเคขึ้นมาเกิน 50 เปอร์เซ็นต์แล้ว มันก็มีแค่เสี้ยวหนึ่ง บางทีบรรยากาศ เปิดเพลงแล้วมันพอดี ก็คิดถึง คือในบรรดาคนที่คบมา ก็ใช้เวลาเป็นปีกว่าจะมูฟออนได้ เพราะเราก็เป็นคนย้ำคิดย้ำทำ อยู่คนเดียวมาหลายปี นานๆ จะมีผู้ชายผ่านเข้ามาสักที ความรู้สึกมันแก้ยาก ก็ปล่อยให้มันเป็นไปตามธรรมชาติ ไม่โฟกัส คิดถึงเขาก็ปล่อยให้คิดถึงไป ทำอะไรไม่ได้”
คนที่จะเข้ามาหลังจากนี้ ต้องยอมรับในนิสัยส่วนตัวได้ แล้วจะอยู่กันแบบไม่เปิดตัว แต่ก็ไม่ได้ปิด
“อันดับแรกต้องคุยให้เข้าใจ สิ่งที่จะไม่ปิดคือนิสัยส่วนตัว อยากให้รับนิสัยส่วนตัวของเราได้ จากสถิติผู้ชายที่คบมา พอเราเปิดตัวปั๊บก็จะไป เหตุผลซ้ำๆ ที่เราได้ยินบ่อยๆ คือเขาไม่ไพรเวตแล้ว หลายๆ คนแนะนำว่าลองปิดดูไหม คือไม่จำเป็นต้องเปิด แต่ก็ไม่ปิด ไม่โฟกัส ปล่อยสบายๆ ก็โอเค ถ้าจะเข้ามาคุย ก็ให้ทุกคนรู้ ว่าเราจะไม่เปิด แต่ก็ไม่ปิด แล้วก็จะไม่โฟกัส อยู่ด้วยกันแบบเป็นเพื่อน ที่มากกว่าคำว่าเพื่อนแล้วกัน คุยกันเข้าใจ”
อยู่คนเดียวได้แล้ว งดปาร์ตี้ 2 เดือน เพื่อถวายสิ่งศักดิ์สิทธิ์
“ตอนนี้อยู่ได้แล้ว ตั้งแต่ไปปฏิบัติธรรม แต่ก่อนหน้านี้ 2 เดือนอยู่บ้านไม่ได้ แล้วก็ต้องงดแอลกอฮอล์ 2 เดือน เพราะเราอธิษฐานไว้ ปีนี้เขาบอกว่าเรื่องผู้ชายหยุดก่อน ถ้าจะเอาเงินกับงาน ก็ต้องเบาตรงนี้ให้หมด งดปาร์ตี้รื่นเริงก่อน 2 เดือน เพื่อถวายสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพราะเรารื่นเริงมาเยอะเกินไปแล้ว ก็น่าจะเป็นบทลงโทษของเรา เป็นการเรียนรู้คนด้วย เลยรู้สึกว่าไม่ได้โกรธ ไม่ได้เกลียด มันไม่เชิงรอเขานะ แต่รู้สึกว่าก็จะพยายามไม่โฟกัส ถ้ากลับมาก็ไม่คาดหวัง คงจะใช้คำว่าแฟนกับใครยากแล้ว น่าจะนาน ขอตั้งหลักพักหนึ่ง”
