“ก้อย” ยอมใจ “พี่ตูน” รับงานฉ่ำทั่วไทย แต่เลือกไฟลต์บินที่เช้าที่สุดกลับภูเก็ต เพื่อส่ง “น้องทะเล” ไปโรงเรียน

“ก้อย รัชวิน” เล่าความอึดสามี “ตูน บอดี้สแลม” รับงานอย่างฉ่ำทั่วไทย แต่เลือกบินไฟลต์เช้าที่สุดเพื่อกลับไปหาลูกที่ภูเก็ต และทำหน้าที่ส่งลูกเข้าโรงเรียนเองทุกเช้า บอกไร้ปัญหาค่าใช้จ่าย คุ้มค่าความเหนื่อย แต่ห่วงพักผ่อนน้อย ชมเป็นมนุษย์พ่อที่อยากทำกิจกรรมกับลูกตลอดเวลา

กลับมางานเยอะ รับงานฉ่ำๆ ไม่ต่างจากตอนอยู่กรุงเทพฯ สำหรับ “ตูน บอดี้สแลม” อาทิวราห์ คงมาลัย หลังยกครอบครัวไปปักหลักอยู่ที่จังหวัดภูเก็ต โดยตูนได้เล่าให้ฟังในรายการหนึ่งว่า เวลาเล่นคอนเสิร์ตเสร็จ ต้องไปนอนโรงแรมใกล้สุวรรณภูมิ บินไฟลต์เช้าสุดกลับภูเก็ตเพื่อไปส่งลูกไปโรงเรียน งานนี้ “ก้อย รัชวิน คงมาลัย” ได้เปิดใจถึงเรื่องนี้ในงานนิทรรศการ Immersive Disney Animation เพื่อร่วมเฉลิมฉลองในโอกาสครบ 100 ปี Disney ณ ชั้น 1 เอ็มทาวเวอร์ ณ ศูนย์การค้าเอ็มสเฟียร์ ซึ่งก้อยได้กระเตง “น้องทะเล” มาออกงานด้วยกัน ยอมรับตูนอย่างอึด แต่คุ้มค่าความเหนื่อย

“ตอนนี้น่าจะขึ้นเครื่องบินเยอะกว่านั่งรถ เพราะว่าไลฟ์สไตล์เราเปลี่ยนไป เราอยู่ภูเก็ตเป็นหลัก พี่ตูนก็ยังต้องทำงานเล่นคอนเสิร์ตที่กรุงเทพฯ และทั่วประเทศ ขึ้นเหนือล่องใต้ เขาก็เลยต้องเปลี่ยนวิถีชีวิตนั่งเครื่องบินมาทำงาน แล้วจะจองไฟลต์บินที่เช้าที่สุด เพื่อจะบินกลับไปหาลูกที่ภูเก็ต สมมติไปเล่นที่ภาคเหนือ วันหนึ่งเล่นที่ลำปาง แล้วพักหนึ่งวัน แล้วอีกวันเล่นที่เชียงใหม่ เขาก็เลือกที่จะเล่นลำปางเสร็จแล้วบินกลับมาหาลูกที่ภูเก็ต แล้วค่อยบินกลับไปเชียงใหม่ต่อ สำหรับพี่ตูนเพื่อลูกทำได้ทุกอย่าง มันคุ้มสำหรับความเหนื่อยของเขา เขามองว่าไม่ใช่ความเหนื่อย กลับบ้านมาเติมพลังแล้วกลับไปทำงาน”

ค่าใช้จ่ายไม่ใช่ปัญหา รับงานฉ่ำ ตั้งแต่อยู่ภูเก็ต
“พี่ตูนไม่ได้มองว่าเป็นปัญหาเลย เราก็ทำงานให้เยอะเข้าไว้ ทุกวันนี้เราก็ทำงานกันเพื่อครอบครัว หลายคนคิดว่าเราย้ายไปอยู่ภูเก็ต ไปมีครอบครัวแล้ว งานจะลดลงไหม พี่ตูนจะเล่นคอนเสิร์ตน้อยลงไหม ไม่เลย รับฉ่ำเหมือนเดิม

ถามว่าลำบากไหม มันไม่ได้ลำบาก จริงๆ เราอยู่กรุงเทพฯ เวลาจะเดินทางไปไหนต่างจังหวัดที่ไกลๆ เราก็นั่งเครื่องบินอยู่ดี บางทีเดินทางในกรุงเทพฯ รถติด 2-3 ชั่วโมง มันแค่เหมือนเปลี่ยนจากนั่งรถไปเป็นนั่งเครื่องบิน โชคดีที่ภูเก็ตมันมีไฟลต์บินค่อนข้างเยอะ เพียงแต่ว่าเราจะต้องเผื่อเวลาเดินทางมากขึ้น มันก็อาจจะเหนื่อยกว่าเดิมนิดหน่อย แต่ว่ามันทำได้เพื่อลูก”

ไม่อยากพลาดโมเมนต์ไปส่งลูกไปโรงเรียนตอนเช้า
“ใช่ค่ะ ความตั้งใจคือพี่ตูนจะต้องบินกลับมาเพื่อที่จะขับรถไปส่งลูกที่โรงเรียนตอนเช้า จริงๆ ก้อยอยากขับรถมาก แต่พี่ตูนไม่ให้ก้อยขับรถ เขาเป็นห่วงเรา เพราะว่าที่ภูเก็ตขับรถมันค่อนข้างลำบากยากสำหรับผู้หญิง แล้วเขามีความสุขที่จะได้ขับรถพาลูกไปโรงเรียนตอนเช้า ได้จุ๊บลูกกอดลูกก่อนไปแค่นั้นมีความสุข”

ห่วงพักผ่อนน้อย แต่เป็นมนุษย์พ่อที่อยากทำกิจกรรมกับลูกตลอดเวลา
“เราห่วงมาก ก้อยบอกเขาตลอดว่าถ้ามีเวลา พ่อไม่ต้องห่วง ก้อยอยู่ตรงนี้รับบทแม่ฟูลไทม์ เราดูแลลูกตลอด ถ้าช่วงไหนเขาอยากจะพักก็อยากให้เขาได้นอนพักยาวๆ แต่หนึ่งวันที่ว่างของเขา เขาจะแพลนแล้วว่าวันนี้จะพาลูกไปไหน เป็นมนุษย์พ่อที่อยากจะทำกิจกรรมกับลูกตลอดเวลา”

ประกาศขายบ้านที่กรุงเทพฯ ไปแล้ว
“ตอนนี้บ้านที่กรุงเทพฯ ของพี่ตูนก็ประกาศขายอยู่ ใครสนใจก็เรียนเชิญมาดูได้ ยังจะขาย เพราะว่าเราย้ายไปอยู่ภูเก็ตแล้ว คงไม่ได้อยู่ตรงนี้ เวลาขึ้นมาอยู่กรุงเทพฯ จะมาอยู่บ้านคุณยาย บ้านคุณแม่ก้อย ซึ่งมันเป็นโอกาสดีที่ลูกเราจะได้อยู่กับคุณปู่คุณย่าคุณตาคุณยาย ได้มาเจอหลาน ก้อยก็ได้เจอคุณพ่อคุณแม่ด้วย ก็เลยคิดว่าแบบนี้มันลงตัวแล้ว”

แฮปปี้ลูกเลี้ยงง่าย
“ก้อยโชคดี ที่น้องเวลาเลี้ยงง่ายมาก เรารู้สึกว่าเขาเกิดมาเพื่อซัปพอร์ตเราให้เราได้จัดสรรความเป็นคุณแม่ได้เต็มที่ ตอนเช้าตื่นมาก้อยต้องพาลูกเข้าเต้า เสร็จแล้วก็พาน้องทะเลไปโรงเรียน เสร็จกลับมาเข้าเต้าน้องเวลา เราจัดสรรได้ ทะเลกับน้องเวลา ตอนนี้เขายังเล่นด้วยกันไม่ได้ เพราะว่าน้องเวลายังเพิ่ง 4-5 เดือน”

ไม่ได้บอกลูกแม่เป็นนางเอก พ่อเป็นร็อกสตาร์
“เขาไม่รู้ ก้อยยังไม่ได้เล่าเรื่องแม่เป็นอะไรยังไง แต่กับคุณพ่อเขาจะเห็นค่อนข้างเยอะกว่า เราเปิดเอ็มวีให้ดูพ่อร้องเพลง แล้วเขาก็เคยไปดูพ่อที่คอนเสิร์ต เขาจะรู้ว่าคุณพ่อเป็นนักร้อง (นักข่าวถามทะเลวงคุณพ่อชื่อวงอะไร ทะเลบอกว่าบอดี้สแลม ชอบเพลงปรากฏการณ์ผีเสื้อ) มันไม่ใช่ว่าเลือกจะไม่เล่าหรอกค่ะ ตั้งแต่เขาเกิดมาเราก็ทำหน้าที่เป็นแม่ฟูลไทม์ แต่ว่าเขาจะเห็นก้อยถ่ายรีวิว ถ่ายคลิปบ่อยๆ ก้อยก็จะบอกน้องทะเลอันนี้แม่ทำงานอยู่นะ เดี๋ยวโตขึ้นมา ทะเลก็ช่วยแม่ทำงานได้ แต่ของพี่ตูนมันเห็นได้ชัดกว่า เพราะว่าเขาร้องเพลงให้ลูกฟังตลอด”

เล่านาทีตูนจะร้องไห้ ลูกเรียกพ่อในทีวี
“ทะเลเห็นพ่อออกทีวี แม่ก็บอกว่าเดี๋ยวพ่อจะมาอยู่ในทีวีนะ พอเขาเห็น เขาก็ พ่อๆ เขาก็คงงงว่าทำไมพ่อไปอยู่ในทีวี พอเขาออกรายการสดเสร็จก็ส่งมาหาก้อย จะร้องไห้เลย”