xs
xsm
sm
md
lg

“ชาคริต” ทำถึง! เมียอินละครหนัก เรียกจิก “อีชาคริต” ภูมิใจ “น้องโพธิ์” อยากกลับไปขายผลไม้ หาเงินจัดวันเกิดเอง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“ชาคริต” ดีใจ “สงครามสมรส” ประสบความสำเร็จ ถือคำด่า “ปรเมศวร์” เป็นคำชม ลบคำสบประมาท ไม่ใช่แค่ละครผัวเมีย มีคุยบทกับ “แอฟ ทักษอร” ในฐานะคนมีประสบการณ์ครอบครัว เผยภรรยาอินหนักมาก โดนเรียกจิก “อีชาคริต” เวลาดูด้วยกันต้องนั่งห่างๆ รีวิวสงกรานต์กับครอบครัว สนุกมากไม่ได้นั่งท้ายกระบะนานแล้ว ภูมิใจ “น้องโพธิ์” อ้อนอยากกลับไปขายผลไม้ เพราะอยากหาเงินมาจัดงานวันเกิดเลี้ยงเพื่อน

กำลังเข้มข้นเลยทีเดียว สำหรับละครเรื่อง “สมครามสมรส” ที่ทำผู้ชมอินหนักกันทั้งบ้านทั้งเมือง ไม่เว้นแม้แต่ภรรยาตัวจริงของ “ชาคริต แย้มนาม” อย่าง “แอน ภัททิรา แย้มนาม” ที่ดูแล้วอินหนักมาก จนถึงขั้นเรียกสามีด้วยชื่อจริงว่า “อีชาคริต” ล่าสุดชาคริตได้เผยถึงเรื่องนี้ให้ฟัง ในงานแถลงข่าว “GMMTV 2024 Up & Above Part 2” เปิดตัวคอนเทนต์ GMMTV ปี 2024 ส่วนที่ 2 ว่ารู้สึกดีใจมากที่ละครประสบความสำเร็จ สามารถลบคำสบประมาทได้ ว่าไม่ใช่แค่ละครผัวๆ เมียๆ

“ช่วงสงกรานต์มีโอกาสได้พาลูกไปเล่นสงกรานต์หลังกระบะ ก็ได้เจอกับพี่น้องแฟนคลับ ทุกคนก็น่ารัก บอกว่า ปรเมศวร์ ขอหน่อยเถอะ ขอประแป้งหน่อย ก็ดีใจที่ทุกคนติดตาม ถือว่าคำด่าช่วงนี้เป็นคำชม ตอนเจอเราไม่มีใครด่านะ มีแต่แซวว่าทุเรียนมายัง (หัวเราะ) คือตัวละครทุกตัวมีความเป็นมนุษย์มากๆ เลยไปทัชใจใครหลายๆ คนในปัจจุบัน ที่ผู้หญิงสามารถปกป้องตัวเองได้แล้ว”

คนชมมีการแนะนำเรื่องกฎหมายเยอะ
“ใช่ ต้องให้เครดิตทีมเขียนบท ได้ยินเข้าคุยกันตั้งแต่เปิดกล้องมา ว่าที่ผ่านมาละครเกี่ยวกับกฎหมาย มีฉากในศาล จะไม่ค่อยประสบความสำเร็จเท่าไหร่ เพราะกลัวคนดูไม่อิน แต่ยุคนี้ทุกคนสามารถเข้าถึงความรู้และโลกที่เปิดกว้างขึ้น คนเลยหันกลับมาสนใจในสิ่งเหล่านี้มากขึ้น”

ดีใจลบคำสบประมาท ไม่ใช่แค่ละครผัวเมีย
“ก็ดีใจกับทางผู้จัดและทางช่อง ตัวเราเองก็ภูมิใจในฐานะทีมงานและนักแสดง ทุกคนเหนื่อยและตั้งใจเหมือนกัน ทำทุกอย่างเต็มที่ เรื่องนี้รู้สึกอบอุ่นมาก ต้องขอบคุณผู้ชมที่ซัปพอร์ต เรื่องนี้ยากมาก การเป็นนักแสดงนอกจากจะเข้าเรื่อง เข้าใจตัวละครแล้ว ในฐานะชาคริต เราต้องเข้าใจปรเมศวร์ ต้องแสดงออกมาเพื่อให้มันมีเหตุและผลที่เขาเป็น”

สนุกมากได้เล่นกับนักแสดงทุกคน มีคุยกับ “แอฟ” เรื่องบท ในฐานะคนมีประสบการณ์ครอบครัว
“สนุก เล่นกับนักแสดงทุกคนก็สนุกมาก คือทุกคนมาเต็มมาก ทำการบ้านกัน มีอะไรก็คุยกันตลอดเวลา ปรึกษากันก่อน ว่าจะไปยังไง เรามีประสบการณ์ครอบครัว แอฟ (ทักษอร ภักดิ์สุขเจริญ) เองก็มี พอมันเจอบทแต่ละอย่าง ก็คุยกันว่ามันสามารถไปต่อกับความรู้สึกนี้ได้จริงเหรอ เพราะเราไม่ได้ประสบสถานการณ์แบบนี้ แบบมันได้ด้วยเหรอ กูจะยอมจริงเหรอ ใช่เหรอ อันไหนมากไปน้อยไปหรือขาดไป ผู้กำกับเขาก็จะบอก แล้วเราก็เติมตรงนั้นให้เต็ม”

ขำๆ ประสบการณ์ในชีวิตจริง เอามาใช้ไม่ได้เลย 
“คนละเรื่องเลย ดีใจมากที่มันเกิดอยู่แค่ในละคร (หัวเราะ) ( แอฟบอกไม่เคยถีบใครมาก่อน?) แอฟบอกแอฟไม่เคยถีบใครนะ เราก็บอกถีบเถอะ คือถีบยังน้อยไป กับการกระทำที่มันเกิดขึ้น ชีวิตจริงคงหนักกว่านี่เยอะ”

เผยภรรยาอินมาก ดูแล้วขึ้น เรียก “อีชาคริต”
อินไม่ต่างกับท่านผู้ชมครับ เรียกอีชาคริต (หัวเราะ) เวลาดูด้วยกันผมก็จะอยู่ห่างๆ นิดหนึ่ง ไม่งั้นตัวเราจะโดนอย่างนี้ตลอด (ทำท่าโดนหยิก) เราก็จะบอกใจเย็นๆ ได้เงินๆ เขาก็สนุกที่ดูเราแสดง เราเป็นนักแสดงแล้วก็เป็นสามีเขา เราก็นึกไม่ออก ว่าเวลาเขานั่งดูเราอยู่ในทีวี กับเราที่นั่งอยู่ข้างๆ เขา ผมไม่เคยมีความรู้สึกแบบนี้ ว่ามันรู้สึกยังไงวะ เพราะฉะนั้นก็ไม่อยากรู้ ขอไม่รู้ดีกว่า (หัวเราะ)”

รีวิวสงกรานต์สนุกมาก พาลูกขึ้นหลังกระบะที่จันทบุรี
“สนุกมาก เราเป็นเด็กที่เล่นสงกรานต์มาตลอด แล้วพอโตมาทำงานหนัก ก็ห่างหายไป ยิ่งผ่านช่วงโควิดมา คือมันเสียดายชีวิต เสียดายเวลา พอมีชีวิตที่มีลูก เราก็อยากให้ลูกได้รู้จักประเพณี รู้จักการรดน้ำดำหัว ก็ให้ออกไปเจอ ไปเล่น ว่ามันจะเป็นอย่างนี้นะ เขาก็ซ่าไง จะ 6 ขวบแล้ว เลยรู้สึกว่าเขาโตพอที่จะรับรู้และไปสนุกกับเราได้ เราเองก็สนุกที่จะมีเขาอยู่ด้วย ก็เลยตัดสินใจว่าเราจะไม่เสียเวลาชีวิตแล้ว เราจะออกไปสนุก ก็สนุกมาก ขึ้นหลังกระบะเล่นล่าสุดตอนลูก 1 ขวบ แต่ก่อนหน้านั้นย้อนกลับไปในยุคสมัยวัยรุ่น เล่นอยู่ข้าวสาร แล้วก็ไม่ได้เล่นอีกเลย รู้สึกเหมือนอิ่มแล้ว รู้สึกว่าเป็นผู้ใหญ่แล้ว ไม่เล่นน้ำ มันจะมีช่วงอีโก้อยู่พักหนึ่ง แต่ตอนนี้ไม่เลย พอมีลูกแล้วไปทุกปีแน่นอน”

“น้องโพธิ์” อ้อนอยากกลับไปขายมังคุด เพื่อเอาเงินมาจัดงานวันเกิดเลี้ยงเพื่อน
“ใช่ๆ บอกเมื่อไหร่หนูจะได้ไปขายมังคุด ตอนนี้อยากกลับสวน อยากไปขายมังคุด ขายทุเรียน เพราะออกไปแล้วเขารู้สึกภูมิใจ ไปตากแดดตากร้อน ไปช่วยผู้ใหญ่ พอเอาไปขายแล้วเขาได้เห็นเงินที่จับต้องได้ ว่ามันเป็นเงินของเขาจริงๆ เขาก็รู้สึกภูมิใจ เราก็ไม่ได้คิดอะไร จนกลับมากรุงเทพฯ อยู่ดีๆ เขาก็บอกว่าหนูจะกลับไปที่สวนอีกได้ไหม หนูอยากไปขายของ เอาเงินมาจัดงานวันเกิด อยากเลี้ยงเพื่อนๆ











กำลังโหลดความคิดเห็น