“บอย ปกรณ์” ไม่นิ่งนอนใจ ดรามา “หน่อง” เช็ดตัวน้องสาว “วันใหม่” น้อมรับคำแนะนำของผู้ที่หวังดี จะระวังให้มากขึ้น ฉะคอมเมนต์อกุศล เขาอาจจะถูกเลี้ยงดูมาแบบนั้น ถึงคอมเมนต์อะไรแย่ๆ ออกมาได้ ขอปล่อยผ่านเหนื่อยกับคอมเมนต์แย่ๆ ไม่อยากวุ่นวายเสียเวลา
เป็นประเด็นอยู่ไม่น้อยกับดรามา “หน่อง ธนา ฉัตรบริรักษ์” เช็ดตัวน้องสาว “วันใหม่”ที่ตอนนี้โตเป็นสาวขึ้นแล้ว ที่พอมีภาพแชร์ออกไปทำเอาชาวเน็ตวิจารณ์ในหลายแง่มุม จนนำไปสู่ประเด็นดรามา งานนี้พี่ใหญ่ของบ้าน “ฉัตรบริรักษ์” อยาก “บอย ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์” ก็ออกมาชี้แจงถึงกระแสที่เกิดขึ้นว่าไม่ได้นิ่งนอนใจ และขอปล่อยผ่านกับคอมเมนต์อกุศลทั้งหมด
“ความจริงแล้วเรื่องนี้ ก็ต้องแบ่งเป็นหลายๆ พาร์ต หลายๆ ส่วน อย่างแรกเลยสำหรับที่มีประเด็นออกมา คอมเมนต์ดีๆ ที่มีการแนะนำเข้ามาเกี่ยวกับว่าน้องน่าจะโตเป็นสาวแล้ว อันนี้พวกเราก็ขอบคุณมากๆ ครับ สำหรับคำแนะนำที่บอกพวกเรามา ตรงนี้พวกเราก็จะระวังให้มากขึ้น ส่วนคอมเมนต์ที่ออกไปในเชิงท็อกซิกเกินไป คอมเมนต์บางอันที่เชิงอกุศล ตรงนี้ก็คงต้องปล่อยผ่าน เขาอาจจะถูกเลี้ยงดูมาแบบนั้น
ผมรู้สึกว่าการที่จะพิมพ์คอมเมนต์อะไรที่แย่มากๆ เกินจริง อกุศลแบบนั้นออกมา มันก็เป็นสิ่งที่บ่งชี้ระดับจิตใจของเขาไปแล้ว ก็ปล่อยไปแค่นั้นเอง การเห็นคอมเมนต์แย่ๆ ไม่ชอบอยู่แล้วครับ ยิ่งเกิดขึ้นกับน้องสาวของเรา บางคอมเมนต์เขียนออกมาได้ยังไงก็ไม่รู้ อันนี้เฉพาะที่แย่ๆ นะครับ อันที่ดีๆ ก็ขอบคุณมากๆ เราอ่านแล้วก็แค่ปล่อยไป เรารู้ดีว่ามันคืออะไร ยังไง
ความจริงแล้วถ้าคนที่ได้เห็นคลิปเต็มๆ จะเห็นว่าทุกคนอยู่กันในห้องหมด หลายคนนึกว่าอยู่กันสองคนหรือเปล่า ผมก็อยู่เตียงข้างๆ ผู้จัดการของภัทร (น้องชาย) ก็อยู่ คุณแม่ก็นอนอยู่ข้างๆ แต่คุณแม่เพลียแดดเลยฝากให้หน่อง ธนา เช็ดตัวน้องให้หน่อย
ถามว่าในครอบครัวคุยกันไหมเรื่องนี้ ความจริงเห็นครับ ผมกับแม่ก็แค่กลัวว่าหน่องจะคิดมากหรือเปล่า ก็บอกไปว่าไม่ต้องคิดมากเรารู้ว่าอะไรมันคืออะไร
แต่ถ้าจะให้ฝาก ผมฝากเรื่องการนำเสนอข่าวของบางอันที่ผมเห็นแล้วอาจจะเกิดความไม่ค่อยสบายใจ ผมว่าคนที่ได้ดูคลิปเข้าใจและรู้ว่ามันคืออะไร ผมว่าการหยิบไปนำเสนอมันเลือกมุมดีๆ ได้ หรือแม้แต่การพาดหัวข่าว การแคปภาพออกมาเป็นภาพนิ่งแล้วทำให้เกิดการเข้าใจผิดมากขึ้น อันนี้ก็ฝากไว้ด้วยครับ ผมใช้คำว่าบางอันที่เป็นส่วนน้อย ผมว่าคนที่ดูเต็มๆ เข้าใจอยู่แล้วว่ามันไม่มีอะไรครับ”
เผย “หน่อง” เองก็ไม่สบายใจ รับฟังคำแนะนำและหันกลับมามองตัวเองในบางทีเราลืมระวังอะไรไป
“พอเห็นก็แน่นอนว่าเขาคงไม่สบายใจนิดนึงแหละ แต่ผมก็รู้ว่าเขาเห็นแล้วไม่สบายใจ ผมกับแม่ก็เลยบอกว่าไม่ต้องคิดมาก เรารู้ว่าอะไรคืออะไร แต่ก็โอเค พอมีคอมเมนต์ดีๆ แนะนำมา เราก็ต้องมามองเราเหมือนกันว่าในบางทีเราลืมระวังอะไรไป ก็ต้องระวังให้มากขึ้นในครั้งต่อไปแค่นั้นเอง อย่างที่ทุกคนเห็นว่าน้องถูกเลี้ยงมาด้วยพวกผม 3 คน อยู่ด้วยกันสนิทสนมมากๆ จนบางทีตรงนั้นเขาพูดมาก็เข้าใจ การลงโซเซียลครั้งนึงด้วยวิดีโอ บางทีมันถูกแคปไปโน่นนี่ ก็อาจจะทำให้เกิดการเข้าใจผิดได้ ก็ต้องระวังให้มากขึ้น ต่อไปนี้ต้องระวังให้มากขึ้น
เราคุยกันครับ เราต้องระวังให้มากขึ้น อย่างที่ผมบอกไปว่าหน้าที่เช็ดตัวเป็นของคุณแม่จะทำตลอด พอดีว่าวันนั้นแม่เพลียแดดแล้วเวียนหัว นอนอยู่ข้างๆ นั่นแหละก็เลยให้หน่องเช็ดให้หน่อย แต่ก็ไม่ได้เกร็งที่ต่อไปจะเล่นกับน้อง ปกติถ้าเล่นเฉยๆ ทั่วไป กระโดดขี่คอ ก็ปกติ แต่คราวหน้าสมมติน้องไม่สบายก็คงให้แม่ทำดีกว่า จะได้ทุกคนสบายใจด้วย”
แจงอีกภาพที่ “วันใหม่” นั่งตักแล้วกอดคอตน ก็ถูกตั้งคำถามอีกว่าเหมาะสมเช่นกัน
“อันนั้นไม่ได้มีอะไร ผมเป็นคนทำอะไรค่อนข้างคิดเยอะมากเหมือนกัน อันนี้ผมก็รู้สึกว่าไม่มีอะไร วันนั้นเป็นเหตุการณ์ต่อเนื่อง นั่งตักเกิดขึ้นก่อน น้องเริ่มเป็นไข้ตัวร้อน ไม่สบาย ซม ผมก็ให้เขามาอยู่ใกล้ๆ แค่นั้นเอง ไม่ได้มีอะไร
อาจจะด้วยความสนิทสนม แต่ผมยังไม่ค่อยเห็นคนพูดถึงเรื่องนั่งตักเท่าไหร่ เห็นพูดถึงเรื่องเช็ดตัวมากกว่า นั่งตักผมเฉยๆ ผมรู้ว่าทำอะไรอยู่ แล้วสถานที่ตรงนั้นก็เป็นที่สาธารณะเปิดโล่ง ผมรู้ดีว่าถ้าสถานที่แบบนั้นถ้าทำไม่ดี ไม่ทำอยู่แล้ว อีกอย่างน้องก็เป็นน้องสาวผมเอง แล้วท่านั่งก็เรียบร้อยด้วย ไม่ได้น่าเกลียดอะไร”
ปล่อยผ่านเหนื่อยกับคอมเมนต์แย่ๆ ไม่อยากวุ่นวายเสียเวลา
“เหนื่อยกับคอมเมนต์ที่แย่มากๆ เหนื่อยที่ต้องมานั่งไล่ฟ้องกันไป การฟ้องครั้งนึงมันก็วุ่นวาย เสียเวลา สุดท้ายคนที่โดนฟ้องก็ต้องมาเสียเงินอะไรโน่นนี่อีก เอาเป็นว่าผมก็ไม่ถึงขั้นว่าวันนึงจะไม่ฟ้อง ถ้าวันนึงเกิดเหตุการณ์จำเป็นจริงๆ ก็ค่อยว่ากันแล้วกัน แต่ถ้าแค่ตรงนี้ก็ปล่อยผ่านแล้วกัน”
