xs
xsm
sm
md
lg

“ณัฏฐ์ เทพหัสดิน” เปิดใจ สอนลูกเน้นคุณภาพอารมณ์ ไม่ต้องเรียนเก่ง ปีนี้ลูกอีกคนไม่มาคือจบ!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“ณัฏฐ์ เทพหัสดิน” ขอบคุณภรรยาช่วยเลี้ยงลูกเต็มตัว อยากเลี้ยงเหมือนที่แม่เลี้ยงมา ให้น่ารักกับทุกคนไม่ใช่แค่คนในครอบครัว ไม่เน้นต้องฉลาดต้องเรียนเก่ง แค่เติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ดี ไม่ห้ามลูกดูมือถือ แต่ต้องกำหนดเวลา เผยอ้อนเมียตลอดอยากมีลูกคนที่สอง ตอนนี้ปล่อยธรรมชาติ ปีนี้ไม่มาคือจบ แต่ถ้าตกลงก็พร้อมไปปรึกษาหมอ เพื่อความชัวร์และความปลอดภัย

เรียกว่าแฮปปี้กับชีวิตคุณพ่อสุดๆ สำหรับนักแสดงหนุ่ม “ณัฏฐ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา” ที่ตอนนี้ลูกสาวสุดที่รักอย่าง “น้องเนล่า” เพิ่งจะอายุครบ 3 ขวบไปหมาดๆ ซึ่งงานนี้คุณพ่อและคุณแม่ ก็ได้จัดงานฉลองวันเกิดให้แบบน่ารักสมวัย ล่าสุดได้เจอหนุ่มณัฏฐ์ เจ้าตัวก็อัปเดตหน้าที่การเป็นคุณพ่อให้ฟัง ว่าไม่คิดว่าการเลี้ยงกันเอง แบบไม่มีพี่เลี้ยงจะเหนื่อยขนาดนี้ เหมือนงานประจำที่ลาไม่ได้ หยุดไม่ได้ แต่ถึงอย่างนั้นตัวเองก็ยังอ้อนคุณภรรยา “นาน่า ธันยา” ตลอด ว่าอยากมีลูกคนที่สองอีกสักคน

“จริงๆ ตั้งแต่ลูกคลอด ก็คุยกับภรรยาว่าเราจะเลี้ยงกันเอง โดยไม่มีพี่เลี้ยง มันก็เลยเป็นเหมือนงานประจำ ที่ยิ่งกว่างานประจำ หยุดไม่ได้ ลาไม่ได้ ป่วยไม่ได้ (หัวเราะ) คือเรารู้อยู่แล้วว่ามันเป็นอะไรที่ต้องทุ่มเท แต่บางทีเราก็ไม่คิดว่ามันจะเหนื่อยขนาดนี้ ในฐานะพ่อแม่ครั้งแรก แต่จริงๆ เราต้องขอบคุณภรรยา ที่เขาเหมือนเป็นหลักให้เราเลย ว่าต่อให้เราไม่อยู่บ้านหรือไปทำงาน เขาก็ยังเป็นคนที่อยู่ข้างๆ ลูกเสมอ ซึ่งเราก็วางใจ ถ้าเราฝากพี่เลี้ยง เราก็ไม่สบายใจเต็มร้อยในการไปทำงาน”

อยากเลี้ยงลูกเหมือนที่โดนเลี้ยงมา ไม่ต้องฉลาด ไม่ต้องเรียนเก่งมาก แค่เติบโตมาเป็นผู้ใหญ่ที่ดี
“ผมอยากเลี้ยงลูกในแบบที่เราถูกเลี้ยงมา คุณแม่ผมเขาจะสอนเสมอ ว่าให้ลูกน่ารักกับทุกคน ไม่ใช่แค่กับคนในครอบครัว ถ้าลูกเติบโตไปอยู่ในสังคม เราก็วางใจได้ ว่าทุกคนจะรักลูกเราอย่างที่เรารัก เราก็พยายามที่จะทำแบบนั้น ซึ่งมันก็ทำได้บ้างไม่ได้บ้าง แต่ว่าหลักๆ เราก็อยากให้เขาเติบโตมาเป็นผู้ใหญ่ที่ดี ไม่เน้นเรื่องความฉลาดเฉลียวนะ ไม่ต้องเรียนเก่งอะไรขนาดนั้น เรียนผ่าน เรียนโอเคพอ สิ่งที่อยากเน้นคือคุณภาพทางอารมณ์ ซึ่งผมว่าในยุคสมัยนี้ มันยากมากที่จะเลี้ยงเด็กให้โตมาอย่างมีคุณภาพ”

เลี่ยงไม่ให้ดูจอคงทำไม่ได้ เลยใช้วิธีกำหนดเวลาแทน
“จะให้ไม่ใช้เลย มันเป็นไปไม่ได้หรอก เมื่อก่อนพูดว่าจะไม่มีวันให้ลูกดูจอ แต่มันเป็นไปไม่ได้ครับ ยังไงเขาก็ต้องดู วิธีที่เราใช้ก็คือดูกับเขาด้วย คอยบอกเขา คอยสอดส่องว่าเขาดูอะไร ที่มันไม่ควรดูก็ไม่ให้ดู ที่สำคัญเลยคือกำหนดเวลาไม่ให้เกิน 15 นาที คือ 20 นาทีถึงครึ่งชั่วโมงนี่เต็มที่สุดแล้ว เพราะถ้าเกินกว่านั้นเขาจะถูกดูดเข้าไปในจอ ถามว่าเขามีงอแงขอดูต่อไหม เราจะมีวิธีของเราครับ ว่าเราตกลงกันแล้วนะทเราจะไม่ไปอยู่ดีๆ แล้วดึงออกมาเลย เราจะบอกว่าป๊าให้ดูอีก 5 นาทีนะคะ เสร็จแล้วเราหยุดนะ เราบ๊ายบายจอแล้วนะ เขาก็จะโอเค แต่ถ้าไปดึงมาเลย ร้องแน่นอน เพราะเคยผ่านมาแล้ว”

ไม่ตีลูกแต่จะใช้น้ำเสียงเอา แต่บางทีก็เกินเบอร์จนเมียต้องห้าม
“เราเป็นคนที่รู้สึกว่าไม่จำเป็นต้องตีลูก แต่จะใช้น้ำเสียงให้ลูกเข้าใจ ซึ่งบางทีมันก็จะเกินเบอร์ไปนิดหน่อย ด้วยความที่เราเป็นคนเล่นละคร บางทีเราใช้เสียงดุเกินไป เมียก็บอกพ่อ ใจเย็นๆ ลูกแค่ 2 ขวบ บางทีเราก็ต้องดึงตัวเองกลับมา คือผมเป็นคนดุไง เป็นคนเป๊ะ คนเนี๊ยบ แต่พอมีลูกแล้วทุกอย่างต้องโยนออกไปหมดเลย เพราะมันเป็นไปไม่ได้ เด็กก็คือเด็ก”

อ้อนตลอดอยากมีลูกคนที่สองมาก ถ้าปีนี้ไม่มาคือจบพับแพลน
“อยากมีมากเลย อ้อนจนไม่รู้จะอ้อนยังไงแล้ว คือไม่ใช่เขาไม่ใจอ่อน แต่พออายุมากแล้วมันมายากครับ แล้วเราอยากให้เป็นธรรมชาติแบบคนแรก ก็พยายามแล้ว และพยายามมาอย่างต่อเนื่อง (หัวเราะ) คนแรกก็ปีนึงพอดีแล้วก็ติดครับ แต่คนที่สองไม่มาสักที 2 ปีแล้ว แต่ไม่ซีเรียสนะ มาก็มา 

คือจริงๆ ก็พูดตั้งแต่ปีที่แล้วแล้ว ว่าเลยปีนี้ก็ไม่เอาแล้ว เมียก็เหมือนจะสองจิตสองใจ ว่าถ้ามีก็เหนื่อยนะ แต่พอเขาไปอุ้มหลานชาย ก็บอกเด็กผู้ชายก็น่ารักดีนะ คือสรุปเธอจะเอายังไงกันแน่ (หัวเราะ) จริงๆ ถ้าเขาตัดสินใจคุยกับผมตรงๆ เลย ตอนนี้ก็คงต้องเป็นหาหมอแล้ว เพราะมันชัวร์สุด เรื่องอายุ เรื่องความปลอดภัยของเด็ก เราก็กังวล แต่ถ้าเขายังเป็นแบบนี้อยู่ ผมก็จะปล่อยธรรมชาติไป แล้วถ้าเกินปีนี้ไม่มา ก็คือจบแล้ว พอแล้ว คนเดียวก็พอ เลี้ยงคนเดียวก็เหนื่อยแล้ว (หัวเราะ)”











กำลังโหลดความคิดเห็น