xs
xsm
sm
md
lg

ไม่เคยพูดที่ไหน! “เอ๋ ไพโรจน์” เปิดใจเลิกภรรยาอายุห่าง 21 ปีแล้ว เหตุความฝันต่างกัน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ทำแฟนๆ ต่างช็อกเลยทีเดียว หลังจากที่อดีตพระเอกชื่อดัง “ไพโรจน์ สังวริบุตร” ได้เผยผ่านรายการ Club Friday Show เมื่อวันที่ 6 เม.ย. ที่ผ่านมา โดยยอมรับว่าได้แยกทางกับ “เอ๋ ชญานิศวร์ พิริยศุภกาญจน์” ภรรยาซึ่งมีอายุห่าง 21 ปีไปแล้ว แต่ยังปรารถนาดีต่อกัน
 
“หลังเราผ่านมรสุมชีวิตเรื่องภรรยาคนก่อน เราก็เริ่มเรียนรู้ว่าจริงๆ เรื่องความรักเป็นแค่จุดนัดพบของชีวิตเท่านั้นเอง หลังจากนี้ไปก็ไม่ใช่เรื่องความรักแล้วล่ะ เป็นเรื่องโชคชะตา ฟ้าลิขิต เหมือนในหนังบางครั้งคนเรามาอยู่ด้วยกัน ไม่ได้มาอยู่เพราะความรักหรือชู้สาวเข้ามาอย่างเดียว มันมีความสงสาร เห็นอกเห็นใจกัน มีเหตุการณ์อะไรที่บังคับให้คนสองคนมาเจอกัน แล้วร่วมทางกันไป

เราคบกับสาวเหนือ ชื่อเอ๋ เหมือนกัน อายุห่างกัน 21 ปี ความต่างวัยคิดว่ามี ทุกวันนี้ก็ถือว่าเป็นปัญหาอยู่ด้วยเหมือนกัน ปัญหาล่าสุด เป็นเรื่องมาจากแต่ละคนก็มีความฝันอันยิ่งใหญ่ของตัวเอง เขาเองก็มีความสามารถมาก เขารักศิลปะ เขาแต่งเพลงเก่งมาก แต่ไม่มีโอกาส แต่งเพลงดี อยากเป็นนักแสดง คนเป็นศิลปินนั่งอยู่ตรงนี้ เรามักเห็นความฝันของเรายิ่งใหญ่กว่าคนอาชีพอื่น สมัยก่อนเขาถึงได้บอกว่านักแสดงไส้แห้ง แต่ทุกคนยังยอม

มันเป็นเรื่องความฝัน พอมาถึงจุดนึง ทำให้ต่างคนต่างมีความฝัน ความฝันยิ่งใหญ่ของคนเรา ไม่สามารถสร้างได้คนเดียว บางครั้งต้องการผู้ช่วย บางทีต้องจับมือไปด้วยกัน แต่เมื่อไม่สามารถจับมือไปด้วยกัน มันคือปัญหาที่เกิดขึ้น ต้องกลับมาตกลงกันอีกว่า ถ้าคุณเป็นผู้ตามที่ดีไม่ได้ คุณก็ต้องเป็นผู้นำอีกทางหนึ่ง แต่ผมก็คงตามไปเป็นผู้ตามไม่ได้เหมือนกัน แต่เราก็ไม่ได้โกรธกัน

ตอนนี้เราตกลงกันว่า ถ้าเป็นอย่างนี้ เราก็เป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน คนรอบข้างก็เริ่มรู้ แต่เราไม่ได้เป็นคนอยากสร้างข่าว หาแสงให้ตัวเอง เราชอบอะไรเงียบๆ แต่ที่พูดให้ฟัง เราอยากให้คนที่ไม่ว่ายุคไหนเข้าใจว่า ความรักไม่สำคัญเท่าความปลอดภัยในชีวิตกับการเป็นครอบครัว พอเป็นแบบนี้ไม่ได้เราก็แยกกัน แต่เราไม่จำเป็นต้องโวยวายอะไร เราก็ยังเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน มีอะไรก็ยังเอื้อเฟื้อเกื้อกูลกัน เพียงแต่เราเปลี่ยนสถานภาพ จากอยู่กันแบบสามีภรรยา ก็มาอยู่กันแบบเพื่อน มีอะไรก็ให้ความช่วยเหลือกัน ไปในสังคมทั่วไปถ้าไม่ใช่คนมาเกี่ยวพันกับแบ็กกราวด์ชีวิตเรา ก็ไม่ต้องให้เขารับรู้อะไร”

เปิดโอกาสให้อีกฝ่ายได้ทำตามฝัน
“ไม่เคยพูดที่ไหนมาก่อน ถ้าไม่ถามเราก็ไม่พูด ผมเป็นคนไม่ถามก็ไม่พูด แต่ถ้าถาม ผมก็จะไม่โกหก ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาแล้ว แต่อันนี้ถ้าพูดแล้วน่าจะดีด้วยกันทั้งสองฝ่าย ตัวเขาเองบางทีคนเราจะถึงความฝันอันยิ่งใหญ่ก็ต้องมีคนช่วย แต่ในเมื่อผมช่วยไม่ได้ เขาก็ต้องเปิดโอกาสหาใครก็ได้มาช่วยให้เขาทำได้ตามฝันที่เขาอยากได้ ผมว่าเป็นเรื่องที่เราต้องแสดงสปิริตซึ่งกันและกัน วัยผมก็คงไม่ได้มานั่งนึงถึงชู้สาวกันแล้ว ถ้าต่อไปอนาคตเราก็ต้องนึกถึงว่าจะมีใครมาเป็นเพื่อนเดินถือไม้เท้าไปด้วยกัน (หัวเราะ) แต่ห่างกัน 21 ปี เขายังมีโอกาสไปประสบความสำเร็จ ผมประสบความสำเร็จมาแล้วในอาชีพ แต่เขายังอยากประสบความสำเร็จ ฉะนั้นบางทีเขาก็ต้องการผู้ช่วย แต่ถ้าในสังคม เขายังไม่เข้าใจตรงนี้ก็ไม่มีใครกล้าเข้ามาช่วย ก็โอเพ่น เราก็ยังให้ความปรารถนาดีกับเขา ยังให้คำปรึกษา ออกสังคมบางทีก็ยังไปด้วยกัน

คนเติมเต็มความฝันตอนนี้คือลูกสาว เขาก็จะรู้เรื่องตลอดในสิ่งที่เกิดขึ้น 5-6 ปีจะเห็นว่าผมอยู่กับลูกสาวตลอด ไม่อยากให้ทุกคนมองว่าดาราก็ต้องเป็นงี้ อยู่ด้วยกันแล้วต้องเลิก ไม่เกี่ยว เราไม่ต้องการให้คนมองแบบนั้น เราพิสูจน์ให้เห็นว่าตลอด 5-6 ปี ที่มีปัญหากันมา ผมก็ไม่เคยทำอะไรให้เสื่อมเสีย ทำงานก็ทำกับลูก ไปไหนก็ไปกับลูก

กับภรรยาคนนี้ก็ 10 กว่าปี ก็ไม่ใช่เฟิร์สเลิฟ เป็นเหตุผลของชีวิต ที่เราโตแล้ว และยอมรับ เป็นสิ่งที่คนเราจะพัฒนาอะไรมาเป็นสเต็ป เราเข้าใจ ปัญหาก็ค่อยๆ เกิดขึ้น”

นอกจากนี้ เอ๋ ไพโรจน์ ได้ฝากข้อความถึงลูกสาวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า “อยากบอกลูกสาวว่าตอนนี้เราอยากทำอะไรให้ดีที่สุด เรารู้ว่าเราไปดึงลูกมาลำบาก ในวันที่เราเริ่มสร้างกับวันนี้เป็นเหตุการณ์ของโลก ที่เราคอนโทรลมันไม่ได้ ถ้าเรารู้ว่า เราทำให้ลูกลำบากกับเรา ก็พยายามจะแก้ปัญหาตรงนี้ให้ บอกได้แค่นี้ พยายามทำทุกสิ่งทุกอย่างให้ดีที่สุด”









กำลังโหลดความคิดเห็น