xs
xsm
sm
md
lg

“จันจิ” เข็ดเปิดแฟลชกลางคอนเสิร์ต โต้ไลฟ์บีบน้ำตา บอกไม่จำเป็นเลย น่าเกลียด!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“จันจิ” ยันขอโทษเพราะรู้สึกผิดจริงๆ ไม่ได้บีบน้ำตา ยอมรับไม่มีมารยาทเปิดแฟลชถ่ายคอนเทนต์ตัวเอง ยกเป็นบทเรียน ไม่ได้ฉลาดทุกเรื่อง ขอบคุณคนที่ตักเตือนและคนเข้าใจ สบายใจได้เคลียร์ตัวเองแล้ว คนนั่งข้างหลังทักมาได้พร้อมรับผิดชอบ เข็ดคอนเสิร์ตต่อไปไม่กล้าเปิดแฟลชแล้ว ยอมลงรูปแบบหน้าเขียวหน้าดำ

แม้ว่าสาว “จันจิ จันจิรา จันทร์พิทักษ์ชัย” จะออกมาทวิตฯ ยอมรับผิด พร้อมยังไลฟ์ขอโทษไปแล้ว สำหรับกรณีดรามาเปิดแฟลชถ่ายคอนเทนต์ตัวเอง ขณะดูคอนเสิร์ต “บรูโน มาส์” แต่ก็ยังมีหลายคนมองว่าบีบน้ำตาหรือเปล่า ล่าสุดวันนี้ (3 เม.ย.) ได้เจอสาวจันจิ ในงานแถลงข่าว โครงการรณรงค์ป้องกันไข้เลือดออก เจ้าตัวก็ได้เปิดใจเคลียร์ถึงเรื่องนี้อีกครั้ง ว่าถึงแม้ตัวเองจะไม่ใช่คนต้นเรื่องในคลิปดรามา แต่ก็ถือว่าเป็นการกระทำที่ไม่มีมารยาทเหมือนกัน เลยอยากจะออกมาขอโทษและรับผิดชอบการกระทำของตัวเอง และเชื่อว่าหากตอนนั้นมีคนสะกิด ตนก็จะหยุดถ่ายแน่นอน

“สำหรับดรามาที่เกิดขึ้น ก็ค่อนข้างเป็นอะไรที่จันจิต้องยอมรับ ว่าการกระทำอันนี้ เรียกว่าอาจจะไม่มีมารยาทในตอนนั้น แต่ว่ามีคนตักเตือน เหตุเกิดจากต้นคลิป ที่เขาเหมือนเปิดแฟลชแล้วสะกิด อันนั้นไม่ใช่จันจินะคะ คือถ้าสมมติรอบข้างมีคนมาสะกิดเตือน จันจิคิดว่าจะหยุดทันทีแน่นอน จะไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้แน่นอนค่ะ แต่การทำของจันจิมันก็ไม่ถูกต้องจริงๆ ก็ถือว่าเป็นบทเรียน แล้วก็ให้กับทุกคนที่อาจจะเป็นแบบจันจิ เวลาไปคอนเสิร์ตชอบเปิดแฟลชทำคอนเทนต์ ก็ระวังในเรื่องนี้ด้วยค่ะ

ก่อนหน้านี้ไม่เคยคิด ว่าการเปิดแฟลชจะรบกวนคนอื่น
“จริงๆ การเปิดแฟลช จันจิก็ไปในทุกคอนเสิร์ตก็จะมีการเปิดแฟลช แต่บางทีเราไม่คิดว่าจะไปกวนเขา ด้วยสแตนที่จันจินั่ง มันก็เหมือนข้างบนหัวจันจิอยู่ที่หัวเข่าของคนด้านบน เลยคิดว่าไม่โดนหรอกมั้ง ไม่ได้คิดว่ามันจะส่องกระจายไปขนาดนั้น”

บรรยากาศ ณ ตอนนั้น ไม่มีใครสะกิดเตือนหลังถ่ายเสร็จ
“จริงๆ ไม่มีใครเตือนเลยค่ะ หันไปพี่ๆ ก็ยิ้มแย้มให้จันจิ ก็เลยไม่คิดว่าจะรบกวน แต่ว่ามันรบกวน”

แม้คลิปดรามาจะไม่ใช่ตัวเอง แต่ตัวเองก็ทำเลยอยากขอโทษ ยินดีรับผิดชอบให้คนที่นั่งด้านหลัง
“จริงๆ ถ้าพูดตรงๆ นะคะ ถ้าไม่มีใครเตือนจันจิก็คิดว่ามันไม่ใช่เรื่องขนาดนั้น พอมีคนคอมเมนต์จันจิก็รีบลบเลยว่าติดหน้าคนอื่นด้วยนะ ส่องคนอื่นด้วย มันเรื่องใหญ่มากๆ แล้วมีคนเอาคลิปจันจิไปแชร์ ก็เลยคิดว่าต้องทำอะไรสักอย่าง ก็เลยออกมาขอโทษทุกคนใน X (ทวิตเตอร์) จริงๆ ต่อให้ไม่ใช่จันจิ ก็รู้สึกว่าสิ่งที่จันจิทำมันไม่ถูกต้อง ถือว่าไม่เป็นไรค่ะ หมายถึงว่าสุดท้ายแล้วจันจิก็เปิดแฟลชเหมือนเขาเหมือนกัน ไม่ใช่ว่าไม่เปิดเลย แต่แค่ว่าถ้ามีคนมาเตือนเหมือนคนนั้น จันจิมั่นใจว่าจะปิดแน่นอน แต่สุดท้ายแล้วจันจิก็รบกวนคนด้านหลังจริงๆ ขอโทษจริงๆ ค่ะ ถ้าใครอยู่ด้านหลังจันจิแล้วถ่ายแฟลชไปรบกวนสามารถทักมาได้ สามารถพูดคุยกันได้ จันจิยินดีรับผิดชบในส่วนของคนที่อยู่ด้านหลังของจันจิ”

มีคนเข้ามาตักเตือนเยอะ ต้องขอบคุณที่เข้าใจ แต่บางคนก็เกินเรื่อง เรียกจิกอีนั่นอีนี่
“โห…จันจิว่าเขาตักเตือนค่ะ ส่วนใหญ่ตักเตือน แล้วเรามีการขอโทษ แล้วทุกคนเข้าใจ แล้วก็เหมือนจันจิว่าทุกคนให้อภัยจันจิเยอะมาก จันจิต้องขอบคุณทุกคนที่เข้าใจ ที่จันจิต้องพูดว่าไม่ฉลาด แล้วก็ไม่ได้ไตร่ตรองว่ามันจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ค่ะ ก็มีคนเข้าใจเยอะมาก ส่วนที่คนไม่เข้าใจก็ไม่เป็นไร มันก็เป็นความคิดส่วนบุคคล ก็ให้ทุกคนได้แสดงความคิดเห็น จะได้ชูขึ้นว่าเรื่องการเปิดแฟลชในคอนเสิร์ตมันรบกวนคนอื่นเขา (มีใครเข้ามาด่าแรงๆ ไหม?) แรงๆ จันจิว่า เอาจริงจันจิไม่ค่อยรู้สึกว่ามันต้องใจเจ็บขนาดนั้น แต่บางคนก็เรียกจันจิว่าอีนั่นอีนี่ จันจิรู้สึกว่ามันเกินเรื่องเหมือนกัน การที่คนมาว่าว่าไม่มารยาทหรืออะไรจันจิก็ยอมรับในส่วนนั้นได้”

ยอมรับได้กับความเห็นที่เข้ามาตักเตือน อยากขอบคุณและขอโทษอีกครั้ง
“ใช่ จันจิรู้สึกว่ามีคนตักเตือน แล้วก็มีคนให้กำลังใจ ในคลิปที่จันจิร้องไห้ จันจิรู้สึกว่า อยู่ดีๆ มีคนให้กำลังใจจิเยอะมากทั้งๆ ที่จันจิทำผิดขนาดนี้ เลยรู้สึกแย่กับตัวเองมากๆ ว่าทำไมเราต้องได้ร้บโอกาสการให้อภัยเยอะขนาดนี้ ก็ถือว่าขอบคุณทุกคน ที่แบบเป็นกำลังใจให้ แล้วก็ขอโทษอีกครั้งนะคะ จันจิก็ถือว่าเป็นบุคคลตัวอย่างเป็นอินฟลูเอนเซอร์คนนึงที่ปฎิบัติตัวไม่ถูกต้องในการไปดูคอนเสิร์ต”

ต่อไปไม่เปิดแฟลชแล้ว จะลงแบบหน้าเขียวหน้าดำ
คอนเสิร์ตต่อไปไม่เปิดแล้วค่ะ หน้าม่วงหน้าเขียว ดำๆ ก็จะลงค่ะ จริงๆ มีเยอะเหมือนกันค่ะ”

ร้องไห้กลางไลฟ์เพราะเสียใจ ไม่อยากให้คนผิดหวังในตัวเอง ไม่จำเป็นต้องบีบน้ำตา เพราะมันน่าเกลียด
“จริงๆ ก็อย่างที่บอกว่ามีคนให้กำลังใจเยอะมาก มีคนดูประมาณ 7 พัน แล้วแบบ ไม่เป็นไรๆๆ อย่างนี้ มันไม่ใช่เรื่องไม่เป็นไรสำหรับเรา มันเลยรู้สึกเสียใจยิ่งกว่าเดิมว่ามีคนเข้าใจเรา เราเลยรู้สึกเสียใจว่าบางคนรู้สึกผิดหวังในตัวเราหรือเปล่า เราก็ไม่อยากให้ทุกคนผิดหวังในตัวเรา เพราะเราก็เจออะไรมาเยอะ พอเราทำอะไรผิดเราก็เลยรู้สึก ทั้งรู้สึกผิด ทั้งขอบคุณ รู้สึกเยอะมากตอนนั้นเลยร้องไห้ออกมาค่ะ ไม่ได้ตั้งใจจะบีบน้ำตาเหมือนที่ทุกคนว่านะคะ มันไม่จำเป็นเลย มันน่าเกลียดด้วย"

รู้สึกผิดกว่าเดิม หลังทุกคนให้อภัยและซัปพอร์ต
จันจิไม่ได้ดีใจ แต่จันจิรู้สึกผิดยิ่งกว่าเดิมมากกว่า ยิ่งมีคนให้กำลังใจ จันจิยิ่งรู้สึกว่า…เห้ย เราทำผิด ทำไมถึงได้รับการอภัย ณ ตอนนั้นนะคะ จิเลยรู้สึกว่าเออ เราจะไม่ทำเหตุการณ์แบบนี้อีก จะไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้อีกค่ะ”

น้อมรับผิด ถือเป็นบทเรียนให้ตัวเอง
“โอเคค่ะ ยอมรับ แล้วก็ถือว่าเป็นบทเรียนให้ตัวเองและผู้อื่นด้วย ใครที่เป็นอินฟลูเอนเซอร์หรือดารา จะได้ป้องกันไว้ก่อน จะได้ไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้อีก เพราะว่าเราก็เป็นบุคคลตัวอย่างให้กับสังคม เอาจันจิเป็นตัวอย่างแล้วกันนะคะ ส่วนใครที่อยู่ต้นคลิป จันจิช่างเขาเถอะ ไม่เป็นไร ก็น้อมรับไว้ค่ะ”

หวังเป็นการสร้างบรรทัดฐาน เรื่องมารยาทในการดูคอนเสิร์ต
“ใช่ค่ะ มีมารยาทในเรื่องของการถ่ายคลิป ไม่ใช่ว่าถ่ายคลิปหน้าเราดำ แต่ติดคนอื่นก็ต้องระวังนิดหนึ่ง มีการเบลอให้เขานิดหนึ่งด้วย ก็ถือว่าเป็นบทเรียนให้กับสังคม

สบายใจขึ้นหลังได้ออกมาขอโทษ ยอมรับไม่ได้ฉลาดทุกเรื่อง ถ้ารู้ว่ารบกวนคนอื่นคงไม่ทำ
“จันจิก็สบายใจค่ะ ที่รีบออกมาแก้ไข บางคนก็บอกว่าถ้าไม่มีใครเตือนจะไม่รู้ตัวหรอก จันจิพูดตรงๆ นะคะ ก็นั่งกับคนข้างๆ ไม่มีใครรู้หรอกค่ะ ว่ามันจะรบกวนคนขนาดนี้ คือถ้าจันจิรู้ จันจิคงไม่ทำ บางทีเราก็ไม่ได้ฉลาดในทุกเรื่อง เราก็ต้องเรียนรู้กันไปค่ะ ก็ต้องขอบคุณทุกคนที่เข้าใจค่ะ”













กำลังโหลดความคิดเห็น