“แน็ก ชาลี” ลั่น มันน่าอาย! หยุดเปรียบเทียบ “กามิน” กับ “เก๋ไก๋ - ลิซ่า” คนละระดับกัน (คลิป)

“แน็ก ชาลี” ขอให้หยุดเปรียบเทียบ “กามิน” กับ “เก๋ไก๋- ลิซ่า” บอกมันน่าอาย คนละระดับกัน เบรกได้ก็จะเบรก ลั่นคุมโซเชียลทุกอย่างไม่ได้ ทุกวันนี้ยังโดนด่าเกาะกามิน เล่าโมเมนต์เกือบขอเป็นแฟน แต่ถูกเตือนอย่าเร่งเกินไป เพิ่งเจอ 20 วัน ลั่นอยากคบ มีโอกาสก็จะรุกเรื่อยๆ ขำๆ กามินบอกรอครบ 100 วันค่อยเป็นแฟน

งานชุกเลยทีเดียว สำหรับ “แน็ก ชาลี ไตรรัตน์” หลังประกาศจีบ “กามิน” ติ๊กต๊อกเกอร์สาวชาวเกาหลี ที่ตอนนี้มาทำงานที่เมืองไทย ใกล้ชิดกัน เรียกว่าจับมือกันปัง มีไลฟ์สดทุกวัน อีเวนต์ถี่ๆ แต่ไม่วายมีกระแสดรามา หลังจากชาวเน็ตบางรายเทียบความสวยกามินกับ “เก๋ไก๋ สไลเดอร์” ณัฐธิชา นามวงษ์ แฟนเก่า รวมทั้งมีการพาดพิง “ลิซ่า แบล็กพิงก์” ลลิษา มโนบาล ทำนองว่าบางอย่างทำไปเพราะอยากเป็นกามิน

ล่าสุดหนุ่มแน็กก็เปิดอกเคลียร์ทุกเรื่องในงานเปิดตัวภาพยนตร์ Digital Sound Check ชุด New! Isuzu V-Cross 4X4 โดยขอให้หยุดเปรียบเทียบเพราะมันน่าอาย รู้ดีว่าตนกับกามินอยู่ระดับใด ตอนนี้แฮปปี้งานคู่เยอะ เก็บไว้ดูตอนแก่
 
“ช่วงนี้ต้องขอบคุณทุกสิ่งทุกอย่าง ที่ทำให้เราได้ทำงาน เป็นอะไรก็ไม่ได้เกิดขึ้นง่ายๆ ก็ต้องขอบคุณลูกค้า ขอบคุณทุกคนที่คอยสนับสนุน แต่ละคนดูเราเหมือนดูเรียลลิตี้ เป็นอะไรที่แปลกดี มาทุกเวลา 2 ทุ่ม คนก็เหมือนได้ดูละคร ส่วนใครที่มีกำลังสนับสนุน ก็ค่อยสนับสนุน ใครที่ไม่มีกำลังสนับสนุนก็ไม่ต้องฝืนซื้อของที่ผมเอามา ผมก็จะพยายามคัดของที่มันโอเคและดีจริงๆ

ผมก็เลือกก่อนเกือบทุกครั้งครับ บางอย่างเราก็อาจจะไม่ได้เลือกได้ร้อยเปอร์เซ็นต์นะ เพราะก็เป็นของที่ตัวเขาชอบด้วย หลายๆ อย่าง หลังๆ จะมีของเกี่ยวกับผู้หญิงเยอะขึ้น ที่อาจไม่รับคือต้องบอกว่าสินค้าตอนนี้ มีคนทำเพิ่มมากมายทุกตลาดเลย แล้วมันอาจจะเป็นสินค้าที่ใหม่เกิน แต่บางอย่างผมก็เสียดายนะ เพราะสินค้าใหม่ไม่ใช่ว่าไม่ดี แต่หลายๆ มันยังดูไม่พร้อม หรือบางสินค้าอาจจะไม่ค่อยน่าเชื่อถือ แต่เขาก็มีกำลังที่จะจ้าง เราก็เลยอาจจะยังรับไม่ได้ ก็จะพยายามรับสินค้าที่มีมาตรฐานที่ดี ส่วนใหญ่ผมจะเน้นของที่ใช้ได้จริง และคอยถามเพื่อนๆ ว่ามันใช้ดีไหม”

งานคู่กามินเยอะ ไม่เบื่อ ไม่เครียด มีความสุข เก็บไว้ดูตอนแก่
“เยอะครับ ส่วนใหญ่จะเป็นงานคู่กับกามินตลอด ก็ดี ทำให้เราทำงานแล้วไม่เบื่อไม่เครียด แล้วก็มีความสุขด้วย ชีวิตไม่เคยมีภาพมุ้งมิ้ง น่ารักๆ ก็ดี เก็บไว้ดูตอนแก่ (หัวเราะ) วันนี้ออกงานคนเดียวก็เหงานิดหนึ่ง ไม่หรอก ไม่เหงาแต่เกร็งๆ หน่อย

ส่วนที่เขาบอกว่าเราไม่ต้องทำงานหนักก็ได้ เดี๋ยวเขาทำงานหาเลี้ยงเราได้เอง มันก็ไม่ได้หรอก สุดท้ายเราก็เป็นผู้ชาย เขาก็พูดเล่นน่ารักๆ เขาก็มีความหวังดี ก็ต่างคนต่างทำงาน ตัวผมก็พยายามหางานให้เขาได้มากที่สุด ก็จะคอยถามตลอด ว่าทำไหม หลังเลิกงานจะประชุมกันตลอดว่าไหวไหม ยังอยากทำไหม จะได้แฟร์ๆ กันในกานทำงาน

แฟนคลับเขาเพิ่มขึ้นเยอะมากๆ ก็เป็นอะไรที่ดี ก็ขอให้เขาเป็นคนที่น่ารักๆ แบบนี้ตลอดไป ใครให้ใจเรามา ก็ขอให้เขาเต็มที่กับการให้ใจกลับไป ให้เขาทำตัวน่ารักอย่างนี้ อยู่กับพวกเราไปนานๆ จะได้เห็นการพัฒนาของเขาในการพูดภาษาไทยมากขึ้น ตอนนี้ขายของเก่งมาก เดี๋ยวงานเดี่ยวก็มีแล้ว ไม่ต้องมีผมแล้ว (หัวเราะ)”

บอกกามินได้พักเต็มที่ นอนวันละ 10 ชม. จากเดิมนอนแค่วันละ 1-3 ชม.
“ผมกล้าพูดว่าการที่เขาอยู่ไทย เป็นการพักผ่อนที่เยอะมาก ผมเคยคุยกับเขาก่อนเขามา เราเห็นเขานอนวันละ 1-3 ชั่วโมง ไม่เคยเกินนี้ แต่มาไทยเขานอน 10 ชั่วโมง ผมรู้สึกมีความสุขมากที่สิ่งที่เราพูดไว้ตลอด ว่ามาไทย ผมจะทำให้คุณได้หลับ 10 ชั่วโมง ตื่นสายๆ ไปเลย ผมว่าเขาน่าจะชอบนะ เราถามย้ำตลอดว่าชอบไหม อยากทำอยู่ไหม”

ขอให้สนับสนุนงานเกี่ยวกามิน
“ผมว่าเรื่องหนึ่งที่ทุกคนต้องเปิดใจ คือในอนาคตเขาต้องมีงานเดี่ยวอยู่แล้ว เราก็ต้องสนับสนุนเขาให้เต็มที่ ผมว่างานผู้หญิงมันเยอะกว่าผู้ชาย ถ้าเขามีโอกาสก็อยากให้ได้ทำให้ดีที่สุดหลายๆ งาน บางสินค้าถ้าเขาถนัดเนี่ย ผมแทบไม่ได้ขายเลย ไปยืนหน้ากล้องยังไม่ได้เลย”
 
ขอให้หยุดเปรียบเทียบกับ “เก๋ไก๋ สไลเดอร์” หรือ “ลิซ่า ลลิษา มโนบาล” เพราะตนเองกับกามินคนละระดับกับลิซ่า ต้องขอโทษด้วย
“ผมขอบอกว่า ถ้าหยุดการเปรียบเทียบได้ จะเป็นอะไรที่ดีมากเลยนะ เพราะแต่ละคนไม่ได้อยากให้มีใครมีผลกระทบกัน แต่ละเรื่องมันก็ผ่านมาแล้วด้วย แล้วผมรู้สึกว่าไปเปรียบเทียบกับบางคนมันไม่ได้จริงๆ พวกผมไม่ใช่คนหลงตัวเองกัน ผมมันคนละระดับกัน อย่างไปเปรียบเทียบลิซ่า ผมไม่เข้าข้างตัวผมหรือตัวคนที่ผมคุยนะ แต่เราคนละระดับกันจริงๆ ครับ ผมขอโทษแทนด้วย (ยกมือไหว้) ใครที่เอาไปเปรียบเทียบ ชอบใครรักใครก็รักคนนั้นให้สุดๆ น่ารักๆ ไปอย่าเอาไปเปรียบเทียบกัน ตัวผมยังรู้ระดับตัวพวกผมกันอยู่”

เบรกได้จะเข้าไปเบรก ทั้งที่ไม่ได้เป็นคนสร้าง ไม่ชอบพาดพิงใคร น่าอาย
“ผมเนี่ยเห็น แล้วอันไหนที่ผมเข้าไปเบรกได้ ผมก็จะกระโดดเข้าไปเบรกเลย ทั้งที่จริงๆ ตัวผมไม่ใช่คนสร้าง ไม่ใช่คนทำให้มันมีกระแส เพราะเราไม่ชอบอะไรที่มันไปพาดพิงใครอยู่แล้ว แล้วมันน่าอายปกติตัวผมเป็นคนไม่ชอบเปรียบเทียบเรื่องการมีสิ่งของ หรือแม้หน้าตาผมจะหล่อมาก แต่ผมก็ไม่เคยเอาหน้าตาของผมไปเปรียบเทียบที่ไหน (หัวเราะ) แซวเล่นนะ ผมรู้สึกว่าเราอยู่ของเรา ทำของเราให้ดีที่สุด เราสนับสนุนใครได้ มันก็เป็นอะไรที่ดีครับ

เวลาเห็นอะไรแบบนี้เราก็เตือน ผมโดดลงไปคอมเมนต์เลย ลงไปตลอด หรือถ้าวันไหนผมไม่ไหวจริงๆ ก็จะเข้าไปไลฟ์ แล้วก็พูดถึงว่าให้ทุกคนช่วยหยุดพูดถึงบางเรื่องที่มันไม่ควรพูดนะที่มันไม่จริงนะ หรือบางเรื่องที่เก็บกดมาก พูดได้ไม่ได้บ้าง เราก็จะมีช่วงเวลาระบายบ้าง ออกจะโดดไปไอจีบ้าง ยูทิวบ์บ้าง ก็ไปหลายๆ ที่ ได้เจอเพื่อนๆ แปลกใหม่ดีครับ”

กระแสโซเชียลคุมทุกอย่างไม่ได้ ขนาดตนยังถูกด่าเกาะกามิน
“มันควบคุมไม่ได้อยู่แล้วครับ มันเยอะมาก แล้วมีคนที่เข้ามาใหม่ๆ อีกเยอะแยะมากมาย ทุกวันนี้ยังมีคนบอกว่าผมเกาะกามิน ซึ่งผมก็ไม่รู้จะเถียงยังไง รู้สึกว่าไม่เป็นไร คนเข้ามาใหม่ เข้ามาเก่า เดี๋ยวเขาก็ช่วยๆ กันแก้ไขเอง แต่ตัวผมก็ทำให้ดีที่สุด ถ้าเราสนับสนุนใครได้ ทำให้ทุกคนมีโอกาสทำงานที่ชอบ เราก็อยากเต็มที่ที่สุด เพราะเราไม่รู้ว่าจะมีโอกาสทำสิ่งนี้ได้อีกนานแค่ไหนครับ”

ไม่บอกดรามากับกามิน
“ผมไม่ค่อยชอบบอกในเรื่องที่เครียดๆ หรือบางทีเขาก็เป็นคนสร้างเรามาขึ้นมา (หัวเราะ) คือพอเขาพูดภาษาไทยคำไหนออกมาแล้วมันน่ารัก อย่างคำว่า ฉันหิวๆ เขาก็จะชอบพูดซ้ำ เพราะเขาเห็นคนชอบขำกัน แต่พอขำไปขำมา คนซวยคือผม คนแม่xมองว่าผมไม่หาข้าวให้กิน ผมก็โอ้โห (หัวเราะ) หาให้ทั้งวันทั้งคืน เขาน่าจะเป็นนักแสดงคนเดียว ที่คนดูแลเป็น 10 คน มีทุกแผนกการดูแล

แม่ผมซื้อก็ซื้อข้าวซื้อขนมมาเยอะมาก ทุกคนพยายามเอาของกินของไทยให้เขาได้ลองกิน ตัวเขาชิม แต่ตัวผมเนี่ยกินจริง เมนูโปรดของเขาตอนนี้ก็ทุกอย่าง เพราะกินจนจำชื่ออาหารไม่ได้ สิ่งที่เขาย้ำอยู่ตลอด คือสิ่งที่ทำให้เขาอยู่ไทยได้ เรื่องหนึ่งคือเป็นเพราะอาหารด้วย อาหารไทยถูกปากเขา เขาชอบกินเผ็ด ก็พยายามปรับปรุงกันไป นี่ก็ 20 วันแล้ว มันไวมาก ก็ปรับเปลี่ยนกันไปเรื่อยๆ”

แจงดรามากามินทำผมเหมือนเก๋ไก๋ ผู้หญิงมีสิทธิ์ตัดผมแบบไหนก็ได้
“ผมว่าจริงๆ ผู้หญิงไทยก็มีสิทธิ์ตัดผมแบบไหนก็ได้ ใครตัดแล้วสวยแบบไหน ตัดเหมือนกันแล้วสวย ก็ขอให้น่ารักๆ มีความสุขกันทุกๆ คน อย่าไปดรามาเลยแต่ผมว่าเรื่องนี้มันก็ห้ามใครไม่ได้อยู่แล้วนะ ก็ปล่อยไป เดี๋ยวมันก็เงียบเองครับ ตัวผมก็จะพยายามเบรกทุกคนให้ได้มากที่สุด

(เก๋ไก๋โดนคอมเมนต์โจมตีเยอะมาก?) การโดนเยอะเนี่ย ผมจะบอกให้ว่าโดนกันเยอะทุกๆ คน แม้ตัวแต่ผม ถ้าเยอะสุดที่โดน ผมบอกเลยว่ามันคือตัวผม แต่ผมก็จะทำหน้าที่ของผมให้ดีที่สุด ก็คือจะพยายามเบรกทุกคน อะไรที่มันเกินเลย ที่มันไม่ดี ผมรักแฟนคลับของผม แต่ถ้าอะไรมันผิดพลาด มันเกินเลย ผมไม่เคยสนับสนุนสิ่งที่ผิดอยู่แล้วทั้งตัวผม ตัวกามินหรือใคร ผมต้องให้ทุกคนปรับให้ได้มากที่สุด จะได้ไม่มีปัญหาอะไรเกิดขึ้น

ผมก็บอกให้เลิกคอมเมนต์ ผมบอกจนไม่รู้จะบอกยังไงแล้ว มันก็ทั้งฝั่งเรา ฝั่งเขา หลายๆ อย่างผมรู้สึกว่า เดี๋ยวมันก็ผ่านมา ก็อย่าไปใส่ใจอะไรที่ทำให้รู้สึกไม่ดีในตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นฝั่งผมหรือฝั่งเขา ก็ถ้ามันผ่านมาแล้ว ก็ขอให้ใช้ชีวิตให้ดีที่สุดกัน

ถามว่าถ้าวันหนึ่งกามินรู้เกี่ยวกับดรามานี้ เราจะอธิบายเขายังไง ผมว่าไม่ใช่เขาไม่รู้หรอกครับ อยู่ที่ว่าเขารู้ แล้วเขาจะอธิบายมันออกมาได้ไหม ผมว่าพวก PK หลายๆ คนเนี่ย เขาพยายามหาข่าวนะ เดี๋ยวนี้การแปลภาษามันง่ายนิดเดียว ทำไมเขาจะไม่รู้ เขาต้องรู้อยู่แล้วแหละ อยู่ที่ว่าเขาจะพูดว่ายังไง แล้วสำคัญคือเขาเป็นผู้ใหญ่กันหมดแล้ว รู้ว่าอะไรที่พูดแล้วมันอาจจะส่งผลกระทบเขา เหมือนแรกๆ ที่อะไรส่งผลกระทบกับเขา เขาก็จะปรับเปลี่ยน ให้คนไทยรักเขา ชอบเขามากขึ้น ผมก็จะเป็นคนที่คอยซัปพอร์ต คอยเล่าว่าแต่ละอย่างมันเป็นยังไง”

ลั่นไม่เครึยด โดนถล่มมา 3 ปี โชคดีมีครอบครัวที่ใส่ใจ
“ไม่เครียดเลย เป็นสิ่งที่เราต้องรู้อยู่แล้ว เป็นสิ่งที่เราก็โดนมานานมาก หลายๆ อย่างเลย ผมโดนถล่มมาตั้ง 2-3 ปี แต่ผมก็มองว่าผมโชคดี ที่ผมมีครอบครัวที่ใส่ใจ แต่ไม่ได้สนใจว่าเราต้องไปทำให้มันเป็นเรื่องใหญ่ต้องมาฟ้องมาอะไรกัน ถ้าพวกคุณพิมพ์แล้วมันได้ระบาย ได้ความสุข แต่ก็ต้องระวังด้วย ยุคนี้มันไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้ว สำคัญที่สุด คือการเป็นคนที่ไม่ไปทำอะไร ให้มันกระทบกระทั่งคนอื่นได้ มันคือสิ่งที่ดีที่สุดที่เราควรทำกัน ผมเชื่อว่าเตือนไม่ได้ พวกนี้มันอยู่ที่จิตใต้สำนึกของแต่ละคน สุดท้ายถ้าเขาเป็นเด็ก เขาโตขึ้น เขาก็จะรู้เองว่ามันไม่ควรทำ หรือถ้าเขาเป็นผู้ใหญ่ ถ้าเขาโดนด่ากลับมาบ้าง เดี๋ยวเขาก็รู้ตัวเอง ว่ามันไม่ควรทำ เพราะเราช่วยอะไรใครไม่ได้ทุกคนอยู่แล้ว”

ไม่นอยด์คบใครก็ดรามา บอกจีบใคร มีแต่คนสนับสนุน โชคดีที่สุดแล้ว
“ไม่นอยด์เลย ผมโชคดีที่สุดในหลายๆ คนแล้ว ผมเปิดตัวกับใคร ผมจีบใคร ก็มีแต่คนสนับสนุนผมนะ ผมรู้สึกว่าสิ่งที่มันเกิดขึ้นได้ยากมาก อันนี้ผมไม่เคยมีความนอยด์เลย มันเป็นสิ่งที่ผมดีใจมาก จุดเริ่มต้นมันจะเป็นยังไง สวยงามยังไง มันจะถูกปิดบัง ถูกเปิดเผยมายังไง หรือจุดจบจะเป็นยังไงผมก็ไม่สนใจ ผมมองว่าเราได้ผ่านช่วงที่มีความสุข มันก็คือสิ่งที่มาช่วยในช่วงชีวิตเราได้มากที่สุดก็ดีแล้ว แค่นี้ผมมีความสุขแล้ว ขอบคุณทุกคนจริงๆ ก็ฝากให้มีสติในการใช้ชีวิตนะ อย่าไปทำอะไรให้เดือดร้อนใคร ใช้ชีวิตของตัวเองให้มีค่าและดีที่สุด รู้ว่าอะไรควรทำไม่ควรทำ แค่นั้นก็พอแล้ว”

เพิ่งเจอ 20 กว่าวัน ไม่อยากเร่งกามินมากเกินไป
“เรื่องคล้ายๆ ขอเป็นแฟน ผมไม่แอบหรอก จริงๆ หน้ากล้องหลายคนก็เห็นหลายครั้ง หน้ากล้องเนี่ยตอนหลังๆ ผมอาจจะไม่ได้ติดเล่นมากเกิน เพราะคำถามพวกนี้ ตัวผมก็อยากจริงจังด้วยเหมือนกัน แต่หลังกล้องเนี่ยผมถามบ่อยมาก แต่ด้วยหน้าที่การทำงานหลายๆ อย่าง ทุกอย่างมันต้องใช้การพัฒนาไป บางทีพอผมได้โดนเตือนสติ ผมก็เออ ก็จริงอย่างที่ทุกคนว่า ว่าเพิ่งเจอกัน 2 อาทิตย์เอง เราก็ต้องไม่พยายามไปเร่งหรืออะไรมากเกินไปเพราะว่าพอเรามานับความจริง สำหรับคนที่อายุ 20-30 เนี่ย หรือผมตอนเด็กๆ กว่าผมจะคบคนหนึ่ง ผมคุย 6-8 เดือน บางคนใช้เวลา 1 ปีค่อยคบก็มีนะครับ

ผมยังไม่เคยเจอใครที่เร็วมากแล้วคบเหมือนกัน แต่ว่าถ้ามันมีโอกาสก็ดีเหมือนกัน คือตอนนี้ภาพที่ทุกคนเห็น มันอาจจะดูรักกันมาก คบกันนาน แต่จริงๆ ไม่ใช่ เราเพิ่งเจอกันจริงๆ 20 วัน แต่ตัวผมก็ใส่ใจทุกๆ อย่าง เขาจริงใจ เราก็จริงใจการพัฒนาความสัมพันธ์มันต้องไปเรื่อยๆ หน้ากล้องเราอาจจะตลกกันบ้าง แต่หลังกล้องเราโตๆ กันแล้ว เป็นคนที่อายุ 31-32 คุยกัน

พอเราพูดเรื่องแฟน เขาก็บอกว่ารอครบ 100 วัน (หัวเราะ) คือผมมองก็นั่นแหละ เอาตามที่ทุกอย่างมันเป็นจริง หน้ากล้องความน่ารักก็ได้เห็น ผมก็จะคอยฉวยโอกาสที่หน้ากล้องให้ได้เยอะที่สุด (หัวเราะ) ก็พยายามทำน่ารักๆ หน้ากล้อง เพราะเรามีโอกาสได้ใกล้ชิด มันก็เป็นอะไรที่มีความสุขมาก ส่วนวันว่าง ถ้าว่างมาเมื่อไหร่เราก็จะไปเที่ยวกัน

จริงๆ เขาเปิดเล่นๆ มา ตอนเวลาหน้าไลฟ์ แต่เราก็จะถามว่าเฮ้ย เริ่มต้นกันเลยไหม แต่สุดท้ายคือหนึ่ง เรายังพูดกันไม่รู้เรื่องถึงร้อยเปอร์เซ็นต์เลยในด้านภาษา แต่ผมว่ามันไม่มีอุปสรรคหรอก เพราะว่าเราก็เห็นหลายคู่ที่ว่าคบฝรั่ง แล้วสุดท้ายพูดกันรู้เรื่อง แค่ใช้เวลาหน่อย แต่สุดท้ายสิ่งที่มันจะเป็นปัญหาของจริง มันอยู่ที่เวลา เพราะเราไม่ใช่ว่าเป็นเด็กอยู่ มาเจอกันวันแรกแล้วคบ แล้วสุดท้ายก็มาเลิกกัน เราว่าถ้ามันเรียนรู้กันไปได้ก็ดี อยากคบครับ อยากคบ ถ้ามีโอกาสได้คุยกัน เดี๋ยวผมจะเริ่มบังคับให้เขาคบผมแล้วล่ะ (หัวเราะ)”