“แน็ก - กามิน” เผยช็อตฮา จกเป้า สะดุ้งหน้าแทบฟาดกระทะ แน็กบอกไม่เป็นไร รู้สึกดี เผยจุดจบเป็นอย่างไรไม่รู้ แต่ตอนนี้มีกามินคนเดียว ใช้โอกาสทำงานมุ้งมิ้ง พร้อมขอความร่วมมือ อย่าตามถึงบ้าน อย่าเกินขอบเขต เล็งทำงานครบปี แข็งแรง จะปล่อยให้อิสระ ฝ่ายหญิงประกาศรับรู้ถึงความจริงใจ
หยิบจับอะไรเป็นเงินเป็นทองไปหมดแล้ว สำหรับ “แน็ก ชาลี ไตรรัตน์” กับ “กามิน” ติ๊กต๊อกเกอร์ชาวเกาหลี ที่มาทำงานอยู่เมืองไทยชั่วคราว พักหลังๆ มีสินค้าติดต่อให้ไลฟ์ขายของตรึมไม่พอ ล่าสุดทั้งคู่ไลฟ์สดขายน้ำพริกปลาสลิดนางงามให้กับ “ณวัฒน์ อิสรไกรศีล” ทำเอาทุบสถิติทั้งคนดูไลฟ์สด และยอดขายปังๆ ทะลุกว่า 7 ล้าน รวมทั้งมีช็อตฮา กามิน ลูบเป้า แน็ก ชาลีไม่ตั้งใจ ทำเอาฮาสนั่นโซเชียล
ล่าสุดในงาน เปิดตัวแคมเปญใหม่ “Taste The Truth ข้าวตังเจ้าสัว ท้าชิมก่อนเชื่อ” ทั้งสองคนก็ได้มาเปิดใจถึงเรื่องที่เกิดขึ้น รวมทั้งประเด็นที่มีคนตามกามินไปถึงพื้นที่ส่วนตัว จนแน็กต้องขอร้อง รักแต่ต้องมีขอบเขต
แน็ก : “ได้กินไก่หรือยัง (หันไปถามกามิน)”
กามิน : “กินแล้วค่ะ ทุกวัน”
แน็ก : “เขาชอบครับ แต่ว่าตอนหลังเขาได้เจออาหารไทยหลายอย่างมากขึ้น แต่สิ่งหนึ่งที่ทำให้เขาอยากอยู่ที่ประเทศไทยนะ ก็คือว่าอาหารอร่อย (ไม่ใช่เราเหรอ?) ไม่ๆ สาธุ (ยกมือไหว้ ยิ้มเขิน) คือว่าเขาชอบอาหารไทยจริงๆ ผมจะไม่ยัดเยียดอาหารไทยที่เวลาต่างชาติมาจะต้องกินเป็นธรรมเนียม ผมจะให้เขาลองกินอาหารง่ายๆ หลายๆ อย่าง เขาก็จะง่าย กระเพราหมูสับ คะน้าหมูกรอบ ผัดซีอิ้ว ถ้าชอบล่าสุดเลยคือ กุยช่าย”
กามิน : “อร่อยมากๆ”
แน็ก : “อาหารมีกลิ่นก็กินได้ สบายเลย แต่ก็ยังมีบางอย่างที่ยังไม่ได้ชอบมาก หรือบางอย่างดมกลิ่นครั้งแรกไม่ชอบ แต่พอชิมชอบ ก็ให้เลยต้องให้ลองหลายๆ อย่าง (กามินชอบอยู่ไทยเพราะอาหารอร่อย หรือเพราะแน็ก เจ้าตัวยิ้มเขิน)”
กามิน : “โอ้ มาย ก๊อด จริงๆ เป็นคนให้สำคัญกับอาหารเป็นหลัก ที่อยู่ที่ไทยก็เลือกที่จะอยู่เพราะพี่แน็ก”
ดีใจและกดดัน ยอดไลฟ์ทะลุล้าน
แน็ก : “จริงๆ มันมีทั้งความดีใจและความกดดันนะครับ ผมเป็นคนพูดตรงๆ เลยนะ เราจะเน้นการขายแต่ไม่ให้ใครมากดดันเรื่องยอด เพราะสินค้าแต่ละอย่าง เราต้องบอกลูกค้าว่า อาหารขายง่าย อาหารคนตัดสินใจง่ายมีกำลังซื้อ แต่สินค้าบางอย่างก็อยากให้ลูกค้าเข้าใจด้วย คนไม่ได้ใช้จริงๆ ก็จะซื้อยากด้วย แต่ก่อนอื่นผมต้องขอบคุณทุกคน บางคนเขาก็ไม่ได้ซื้อไปใช้เองนะ เขาซื้อไปให้เพื่อนๆ ให้ครอบครัว แต่เขาอยากสนับสนุนมากๆ ก็อยากขอบคุณ และถ้าวันหนึ่งผมทำอะไรกลับคืนได้ก็จะพยายาม ทำกลับคืนให้ได้”
1 ชม. ทำยอด 7 ล้าน “ณวัฒน์ อิสรไกรศีล” มีชื่อเสียงอยู่แล้ว
แน็ก : “ด้วยของกิน และพี่เขาก็มีชื่อเสียงอยู่แล้ว และการมาด้วยสถานที่และมันดูสนุก แต่บางวันเราไลฟ์คนก็มองว่าเขาเครียด แต่จริงๆ เขาไม่เครียดนะ เขาเป็นคนที่แข็งแรงนะครับ ไม่ใช่ผู้หญิงอ่อนแอที่ทุกคนจะต้องมาห่วง มดกัด ยุงกัด ก็มาด่าผม เขาแข็งแรงกว่าผู้หญิงหลายๆ คนที่เพื่อนๆ รู้จักอีก และที่สำคัญ การไลฟ์ทุกวันมันก็มีสนุกบ้าง ไม่สนุกบ้าง ก็อยากให้เข้าใจ แต่ผมกับเขาก็พยายามทำให้ทุกอย่างดีที่สุด เพราะเขาก็พยายามตั้งใจทำงานให้ดีที่สุดตลอดอยู่แล้ว”
กามิน : “สนุกมากที่ได้มาขาย แต่ว่าก็จะมีปัญหาในเรื่องของภาษาที่ไม่สามารถสื่ออกไปให้แฟนๆ ได้เข้าใจทั้งหมด”
แน็ก : “เขาบอกว่าสนุกมากๆ แต่เขาอาจจะกังวลในเรื่องของภาษา ผมก็จะพยายามบอกเขาตลอดว่า แต่การที่พูดไม่ถูกคนก็ชมว่าน่ารัก ไม่ได้พูดถูกต้องทุกอย่างมันก็เป็นอะไรที่น่ารัก และตัวผมก็ไม่ได้สอนคำที่มันหยาบคาย หรือถ้าใครมาสอนเขาผมก็จะเบรกทันที ก็อยากให้เขาน่ารักๆ ไปนานๆ จนกว่าเขาจะแข็งแรงแล้วค่อยจัดการทำอะไรก็ทำ”
ดูแลให้ดีที่สุด
แน็ก : “ก็ดูแลให้ดีที่สุด เพราะเรามาทำงานด้วยกัน คนติดต่องานเยอะ จริงๆ สักพักแล้วครับ ก็ขอบคุณลูกค้าที่ให้เราสองคนได้ทำงาน ความตั้งใจของเขาเวลาเล่นมุก ก็เหมือนคนต่างชาติที่เล่นคำภาษาไทย บางคนอาจจะห่วงเขาเกิน แต่จริงๆ เขาโตแล้ว และเข้าใจอะไรหลายๆ อย่าง และเขาอยากทำงานจริงๆ ความตั้งใจจริงๆ คือมันเป็นโอกาสหนึ่ง เราก็คุยกันว่าไม่รู้ว่านานแค่ไหนที่คนจะรักจะชอบเรา เขาเต็มใจที่จะทำงานและมีความสุขมากที่จะทำงาน ก็อยากให้ทุกคนได้เข้าใจด้วย”
เผยช็อตฮา กามินจกเป้า สะดุ้งหน้าแทบฟาดกระทะ แต่ไม่เป็นไร รู้สึกดี
แน็ก : “(หันไปพูดกับกามิน) ยูเทสฮอลแลนด์ มือหักๆ ครับ ผมว่าเขาเป็นห่วงแหละ มันใกล้กระทะมาก คือเขาจะไปหยิบเชือกที่ผูกกางเกงแต่พลาดไปหน่อย น่ารักๆ เป็นห่วงกันไปห่วงกันมา แค่จับถูกจุดไปหน่อยครับ (หัวเราะ) ถามว่าตกใจไหม โอ้โห สะดุ้งหน้าแทบฟาดกระทะ แต่ไม่เป็นไรๆ รู้สึกดี”
กามิน : “(หัวเราะ) วันนั้นลมพัดแรงมากค่ะ แล้วพัดไฟไปทางพี่แน็กเยอะเลยเป็นห่วง แล้วเป็นผ้าด้วยเลยไปจับแต่มันดันไปตรงพอดี”
แน็ก : “ผมก็แอบเสียใจ น้อยใจนิดหนึ่ง ตรงที่แม๊…เขารู้ความจริงหมด ว่าไม่ใช่ฮอลแลนด์ (หัวเราะ) ไม่น่าเลย เล่าไว้ซะเยอะ ก็ตลกดี เป็นเรื่องน่ารักๆ ขอบคุณทุกคนที่เอ็นดูเขา”
รู้ชะตากรรม คงไม่ได้ทำงานที่เกาหลี ให้กามินฝึกภาษาไทยแทน
แน็ก : “โอ้โห ไม่ครับ ผมนิสัยไม่ดี ผมให้เขาฝึกภาษาไทยเยอะๆ ผมรู้ชะตากรรมของผมอยู่แล้ว ผมไม่ได้ทำงานอะไรที่โน่นอยู่แล้ว และผมรู้สึกว่างานของเขา คนจะรักเขามากขึ้นก็การที่เขาได้พูดภาษาไทยจนคนเข้าใจ การที่เขาพัฒนาภาษาไทยได้รวดเร็ว จนทำให้คนรู้สึกประทับใจกับสิ่งที่เขาเป็นคือสิ่งที่ดีที่สุด ตัวผมไม่รู้ว่าผมจะฝึกจริงจังมากไปทำไม แต่ก็อาจจะมีฝึกบางคำเรื่อยๆ บ้าง”
แพลนเคลียร์งานแล้วให้กลับไปพักผ่อนที่เกาหลี
แน็ก : “มีครับ คือก็ต้องมีการกลับไปหาคุณพ่อคุณแม่ ไปทำธุระที่โน่นบ้าง เพราะเขาก็ไม่ใช่เด็กแล้ว เขาโตแล้ว ก็มีงานที่โน่นอยู่ด้วย พอเคลียร์งานได้สักพักหนึ่งก็จะให้เขาได้กลับไปพักผ่อนหน่อย แล้วค่อยกลับมาครับ
ถามว่างานยาวไปถึงไหน มันก็ยาวอยู่นะ แต่เราก็แบ่งเวลา คุยกันว่าถ้าเขามีงานที่โน่นด้วย เขาก็ต้องไปทำงานที่โน่นให้ดีที่สุดเหมือนกัน ถ้าเขาอยากกลับมาที่นี่ก็กลับ สลับกันไปมา มันเป็นโอกาสที่ดี ไม่ควรทิ้งที่ใดที่หนึ่งครับ”
รอโอกาสเหมาะไปเกาหลี
แน็ก : “ผมมีถามเขาอยู่บ้างเหมือนกัน แต่คงต้องรอโอกาสที่ดีที่เหมาะ ถ้ามีโอกาสไป เขาอนุญาตให้ไป ก็ไปได้อยู่แล้วครับ หน้าที่เราตอนนี้ในช่วงแรกจะขออนุญาตดูงานทุกอย่าง เพราะเรากันปัญหา ถ้าปล่อยให้เขารับทุกอย่างเอง ผมมั่นใจว่ามันจะมีปัญหาแน่นอน คือผมไม่ได้หวงอะไรนะ ผมย้ำตลอด บางคนเข้าใจว่าผมจับเขาเซ็นสัญญาบริษัทหรือเปล่า แต่เรื่องนี้เขาก็ไม่เข้าใจเหมือนกันนะ ว่าทำไมเราไม่เซ็นสัญญา
จริงๆ ผมรู้สึกว่าการที่ผมทำแบบนี้แบบไว้ใจมาก ไม่มีใครทำแบบผม ผมมั่นใจเลย มันมีความเสี่ยงหลายๆ อย่าง แต่ผมอยากใจๆ กับทุกอย่าง อยากให้เขาได้เข้าใจจริงๆ ว่าไม่มีใครทำอย่างนี้ มันมีแต่ผลเสียกับผมอย่างเดียว แต่ผมอยากให้เขามีความสุข เผื่อวันหนึ่งเขาเติบโต อยากทำอะไรก็จะไม่สามารถห้ามกันได้ ผมไม่เปลี่ยนไปอยู่แล้ว เวลาผมทำเพลงให้น้องๆ ผมไม่เคยเรียกร้องส่วนแบ่งใดๆ ทั้งสิ้น ผมทำคือผมลงทุนแล้วก็โยนให้เลย ผมไม่เคยจับใครเซ็นสัญญาจริงจังเลย”
“กามิน” รับรู้ความจริงใจ
กามิน : “เยส (ยิ้ม)”
แน็ก : “ขอบคุณครับ (หัวเราะ) เราจริงจังมากอยู่แล้ว เราจะเสียเวลาไปทุ่มเททำอะไร มันไม่ได้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ง่าย มันมีหลายอย่างที่เราต้องตั้งใจทำ จนมีโอกาสมาอยู่ตรงนี้ เวลาอยู่ด้วยกันสองคนผมจะพูดตลอด ว่ามันเหมือนฝันจริงๆ ข้างหน้าจะเป็นยังไงไม่รู้ แต่ตอนนี้เป็นอะไรที่แปลกมาก วันนั้นเราดูเขาอยู่คนละที่ อยู่ไกลกัน ว้าว วันหนึ่งเราได้มายืนข้างกัน ดูคนที่มาซัปพอร์ตเขา ดีใจมากๆ กับสิ่งที่มันเกิดขึ้นครับ”
ขอความร่วมมือ อย่าตามไปถึงบ้าน รักกามินก็อยากให้มีขอบเขต
แน็ก : “จริงๆ บ้านกับที่พัก ใครจะว่าก็ว่าไป แต่ผมขอช่วงเวลาเลิกงาน ต้องเป็นช่วงเวลาส่วนตัวของเขาบ้าง ไม่ว่าจะเป็นพี่ๆ ที่ดูแลที่พัก ผมก็อยากให้มันเป็นความปลอดภัย เป็นความลับก็ดีนะ เพราะผมรู้สึกว่าเราอย่าไว้ใจใคร แม้แต่คนในบริษัทผมด้วย คือผมเป็นคนจริงจังมาก ไม่ว่าจะเป็นในบริษัทหรือใคร เรารักกันมากแค่ไหน แต่หลายๆ เรื่องเราต้องไม่ไว้ใจ เราต้องดูแลตัวเอง ถ้าเขาอยู่สัก 5-6 เดือนหรือ 1 ปีแล้วเขาชอบ อยากอยู่ไทย แล้วแข็งแรงเรื่องความคิด เรื่องการป้องกันตัวเอง การเจอคน และเข้าใจในอะไร เราก็จะปล่อยอิสระอยู่แล้ว
ซึ่งตอนนี้ก็ยังมีคนเข้ามาที่บ้านอยู่ เพราะบ้านผมไม่มีกำแพงบ้าน ด้วยผมมีบ้านหลายหลัง มีที่หลายผืนที่มันอยู่ใกล้ๆ กัน ผมไม่สามารถทำกำแพงยาวมากได้ เพราะมันคือทั้งซอยจริงๆ ตัวบ้านผม แต่ก่อนผมเปิดให้เด็กๆ เข้ามาเล่นน้ำประจำ แต่ตอนหลังต้องขอโทษด้วยจริงๆ เราไม่ได้เปิดเต็มร้อย เพราะเราอยากให้มันมีความส่วนตัวเวลาเราทำงาน แล้วก็ปลอดภัยต่อเขาด้วย เพราะผมมีห้องน้ำสาธารณะของผมอยู่ด้วยในที่ของผม ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่าใครเข้าออกบ้าง ไม่รู้ว่ามันจะปลอดภัยยังไง เราก็ต้องคอยเตือนกันตลอด ให้ระวังห้องน้ำนะ
ตอนนี้ก็ระวังมากขึ้น คือเขาไม่ได้ถึงกับมาจู่โจมหรอก แต่พอเนื้อที่เรามันเข้าได้คนก็ชอบเข้ามากลับรถ หรือรู้เวลาเราไลฟ์ ก็จะขับเข้ามาในโซนบ้านเรา ผมกลัวว่าพอคนหนึ่งทำได้ อีกคนก็มาทำ แล้วมันจะกลายเป็นว่ามานั่งตรงสวนเราเต็มเหนี่ยวเลย เพื่อรอดูไลฟ์ รอดูเวลาถ่ายงาน ผมรู้สึกว่ามันอาจจะไม่สะดวกต่อผมกับทีม ก็อยากจะขอความร่วมมือตรงนี้จริงๆ ไม่ได้แค่กับผมกับกามินนะ แต่กับทุกๆ คน ทุกๆ ที่เราชอบใคร รักใคร เรารักได้ แต่มันต้องมีขอบเขต ผมอยากพาเขาไปกินข้าวมากๆ นะ อยากพาเขาไปข้างนอกบ้าง แต่เห็นคนไหม ผมมั่นใจว่าไม่ได้กินข้าวแน่นอน ถ้าผมไปนั่งสองคน
บางทีก็อยากมีเวลาที่แบบว่า… พูดตรงๆ ผมรักทุกคนมาก แต่ผมรู้สึกว่าเราเจอกันเงียบๆ ผมไม่ชอบคนที่แบบว่า ผมไปนั่งกินข้าวแล้วคุณเห็นว่าเป็นเราปุ๊บ ตะโกนมาเลยเสียงดังมาก แบบเอ้ย พาสาวมา คือผมรู้สึกว่าไม่เหมาะสม เพราะบางทีกำลังจะตักข้าวเข้าปาก แต่เราต้องกลับกันก่อน มันไม่สามารถกินได้จริงๆ แล้วตัวกามินกำลังน่ารักและคนชอบเยอะมาก ก็ขอความเห็นใจและขอความร่วมมือ เจอกันเงียบๆ ขอถ่ายรูปกันแบบน่ารักๆ ขอแบบไม่ตะโกนแซวเล่นที่มันเกินขอบเขตครับ ยังไงผมก็ยังต้องขอบคุณทุกคนจริงๆ ที่ทำให้เขามีโอกาสมายืนตรงนี้ มีทุกสิ่งทุกอย่างรวมถึงพวกตัวผมด้วย เพราะบางคนเขารัก เราเขาชอบ เราก็ลืมว่าอะไรมันถูกผิดซึ่งเราไม่โกรธกันอยู่แล้ว”
จุดจบเป็นไงไม่รู้ แต่ตอนนี้มีกามินคนเดียว
เเน็ก : “ผมก็ยังย้ำเหมือนเดิม ผมจะบอกว่ามีเขาคนเดียว เวลาผมคุยกับใครผมก็จะพูดแบบนี้ทุกครั้ง ถึงจุดจบมันจะเป็นยังไงก็ไม่เป็นไร แต่ว่าผมให้เกียรติ มาคนเดียวนั่นแหละ ไม่งั้นผมไม่มาทำอะไรที่มันต้องเสียเวลาหลายอย่าง แต่ว่าเราอาจจะไม่ใช่คนที่แบบว่า หนึ่ง สอง สาม มาตกลงคบกันนะ คนที่อายุ 31-32 ยังไงเราก็ต้องดูธาตุแท้กันไปก่อน ก็ต้องดูสิ่งที่มันเกิดขึ้น ก็ต้องมาทำงานกันทุกวัน เราก็ใช้โอกาสนั้นในการมุ้งมิ้งกัน ในบางช่วงอย่างวันนี้ เลิกเร็วใช่ไหม ผมก็อาจจะขออนุญาตวันนี้ผมไม่มีไลฟ์”
ชมแน็กจริงใจ
กามิน : “พี่เเน็กเป็นคนน่ารักมาก แล้วก็จริงใจ แต่ลึกๆ แล้วก็ยังรู้สึกว่า 2-3 เอง อย่างที่เพื่อนๆ เห็นไม่ว่าจะเป็นเราหรือเป็นใครชีวิตจริง เราจะนิ่งกันมาก หลายคนอาจจะไปเข้าใจว่าเขาเหมือนเด็ก แต่คือเขาเป็นผู้ใหญ่มากๆ ตัวจริงเรากับเขาเป็นผู้ใหญ่มากๆ แล้วการที่เราจะคบกันจริงๆ มันอาจจะต้องใช้เวลาหลายๆ อย่าง แต่ตัวเราก็จะทำให้ดีที่สุดในทุกๆ อย่าง แล้วเขาก็น่ารักมากๆ”
ปัดหึง “พิม พิมประภา ตั้งประภาพร”
เเน็ก : “ก็มีจริงบ้าง ไม่จริงบ้าง แต่ว่าส่วนใหญ่ในการ PK คือหลายคนรู้อยู่แล้วผมก็อยากจะพูดตรงนี้ว่าเวลาผมเข้าไป ผมเป็นนักแสดงทุกคนแสดงเหมือนกันที่เวลาผมเข้าใน PK ผมก็ต้องแสดง แล้วก็เอาความจริงผสมด้วยหลายหลายอย่าง เพราะ PK มันก็คือช่องทางการทำงานช่องหนึ่ง ซึ่งมันไม่ควรที่จะห้ามกันอยู่แล้ว ฝากบอกเพื่อนๆ ด้วยเวลาเข้าไปไม่ต้องเครียดแทนหรืออะไรเพราะว่ามันคืองานของทุกคนอยู่แล้ว”
กามิน : “ไม่ได้หึง”
พูดภาษาไทยได้หลายคำแล้ว
กามิน : “ยินดีที่ได้รู้จัก , ระวัง , ต้มยำกุ้ง , ผัดซีอิ้ว ,กระเพราหมูสับ , ชื่อมันคล้ายๆ กัน บางทีก็สับสน ก็ขอบคุณแฟนทุกคนมาก ขอบคุณที่มาในวันนี้ด้วยขอบคุณมากๆ ที่เชื่อมั่นในเขาที่เป็นเขาขอบคุณมากๆ”
