ซัดกันนัว บ่าว-สาวแต่ง 5 วันเลิก! แม่สองฝ่ายโต้กันเดือด ปมทวงเงิน 3,500 จุดเริ่มต้นแตกหัก แม่ฝ่ายชายบอกขอความเห็นใจ แต่งได้แค่ 3 วัน เงิน 2 แสน ทอง 2 บาท มากเกินไป ขอคืน 5 หมื่นพร้อมทอง “กรรชัย” กล่อมจนยอมจบ ไม่เอาเงินสินสอดคืน ฝ่ายหญิงร่ำไห้ รักแต่ให้เขาไปอยู่กับแม่ หนุ่มทนไม่ไหวขอด่า ถามตรงๆ เลิกกันเพราะแม่?
กรณีเจ้าบ่าวราชบุรี ได้ออกมาโพต์ภาพงานแต่งและข้อความซัดฝ่ายเจ้าสาวแต่งงานกันไม่ถึง 5 วันขอเลิก บอกจะคืนสินสอดให้ 5 หมื่นบาท แต่ตนเองขอทอง 2 บาทคืน แต่ฝ่ายเจ้าสาวไล่ให้ไปฟ้องศาลเอาถ้าอยากได้ แบบนี้หรือที่เรียกว่ารัก ขณะที่ฝ่ายเจ้าสาวออกมาโต้กลับว่าเรื่องเกิดจากฝ่ายเจ้าบ่าว ทวงเงิน 3,500 บาท
รายการโหนกระแส ออกอากาศวันที่ 25 มี.ค. 67 ดำเนินรายการโดย “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทางช่อง 3 กดเลข 33 สัมภาษณ์สองมุม นัท ฝั่งเจ้าบ่าว, แม่เดือน แม่นัท , ฝ้าย น้องสาว อีกฝั่ง น้องบีม เจ้าสาว , โบว์ พี่สาว, แม่ละไม แม่บีม มี ทนายไพศาล เรืองฤทธิ์ เป็นทนายคนกลาง
อายุเท่าไหร่?
นัท : 31 ครับ
บีม : 22 ย่าง 23 ค่ะ
เรื่องราวเกิดอะไรขึ้น?
นัท : ปีนี้เข้าปีที่ 3 แล้ว รู้จักบีมในเฟซ ทักจีบประสาหนุ่มสาว ตอนนั้นเขาขายของตามตลาดนัดกับแม่เขา ที่ราชบุรี เราก็แวะไปช่วยขายบ้าง
รู้จักแม่เขามั้ย?
นัท : ครั้งแรกยังไม่รู้จัก ไม่เคยเจอหน้ากันมาก่อน
ถูกใจอะไรเขา?
นัท : เขาขยันตั้งใจทำงาน มีอาชีพค้าขายคล้ายๆ กัน ผมก็ทำผักขายเหมือนกัน
ชอบอะไรในตัวบีม?
นัท : เขาเป็นคนมุ่งมั่น ตรงไปตรงมา
คุยนานมั้ยกว่าจะตกลงเป็นแฟน?
นัท : นานพอสมควร ประมาณ 3-4 เดือน เราก็ชอบครับ
ระหว่างคบหา 3 ปี มีทะเลาะเบาะแว้ง มีเลิก?
นัท : ไม่ได้เลิก แต่ทะเลาะ ผู้หญิงจะบอกว่าเลิกกันมั้ย แต่ผมเป็นฝ่ายง้อตลอด ทะเลาะกันหลายเรื่องราว
วันนี้มานั่งคุยตรงนี้ คิดว่าเราสองคนจะกลับไปรักกันเหมือนเดิมได้มั้ย?
นัท : มันน่าจะไม่ได้แล้ว น่าจะอยู่ด้วยกันลำบากแล้ว
บีมคิดว่าจะกลับไปคบกันได้มั้ย?
บีม : ไม่ได้ค่ะ
มุมคุณ โพสต์เยอะแยะมากมาย คืออะไร?
นัท : ระหว่างที่เราคบกันอยู่ ช่วง 6 เดือนที่คบกัน ทางเขาจะไปทำงานที่กรุงเทพฯ เราก็บอกว่าเราจะตามไปด้วย ตามไปทำด้วย จะมีพี่สาวเขาด้วย ผมจะไปทำเซเว่น เขาไปทำอเมซอน อยู่ด้วยกันแต่แยกห้องอยู่ ช่วงระหว่างคบกัน 6 เดือนก่อนแต่ง เขาบอกว่าถ้าผมจะไป ให้ผมแต่งก่อน แต่ช่วงนั้นผมบอกว่าผมไม่พร้อม ขอหมั้นก่อนได้มั้ย ผมยังไม่มีเงินด้วย แต่เขาบอกว่าไม่แต่งก็ไม่เป็นไร เพราะพี่สาวเขาอยู่กรุงเทพฯ เขาก็จะดูแลเอง
เขาขอให้เราแต่ง?
นัท : แม่เขาเป็นคนพูด เขากลัวลูกเขาจะเสียหาย
คุณหนุ่มเซเว่น เขาสาวอเมซอน อยู่ปั๊มเดียวกัน แม่ให้แต่งเพราะอะไร?
นัท : เหมือนห่างกับแม่ ปกติเขาอยู่กับแม่ตลอด ผมก็ไม่เคยไปอยู่บ้านเขาเลย ไปหาแค่ไปๆ มาๆ เขากลัวลูกเขาได้เสียกับผมหรือเปล่า ก็เลยอยากให้แต่งงานกัน
เป็นอย่างนั้นใช่มั้ยแม่?
แม่ละไม : ไม่ ลูกสาวจะมาอยู่อเมซอน เป็นปั๊มพี่สาวเขา ลูกของพี่สาวแม่ แต่ทางนี้จะตามไปด้วย เราก็คิดว่าถ้าตามไปด้วย นัท จะไม่ยอมให้ไป นัท บอกว่าขอหมั้นได้มั้ย แม่บอกว่าไม่ให้หมั้น ถ้าจะแต่งก็แต่งเลย มันเลยกลายเป็นว่าเหมือนแม่ไปบังคับให้เขาแต่ง ฝั่งนี้เขาขอตามไปด้วยเพราะกลัวบีมมีแฟนใหม่ เขาขอหมั้นน้องบีม แต่พี่สาวเขาก็บอกว่าหมั้นไม่ได้ ถ้าแต่งก็คือแต่ง ไม่ให้หมั้น ก็ไม่ได้แต่ง เขาก็ตามไปทำงานด้วย แต่ไม่ได้อยู่ด้วยกัน
บีม : หนูอยู่กับพี่สาวค่ะ
เราไปขอหมั้นเขาก่อนจริงมั้ย?
นัท : ใช่ครับ ผมก็ขอหมั้น เขาบอกไม่ยอม ถ้าจะแต่งก็แต่งเลย ไม่ให้หมั้น ทางผมบอกว่าผมไม่ค่อยพร้อม ก็ขอทำงานเก็บเงินก่อนได้มั้ย
นั่นคือช่วงแรก แล้วอยู่ได้กี่เดือน?
นัท : ผมอยู่ได้ 4-5 เดือนแล้วกลับมาราชบุรี ช่วยแม่ทำงาน
อยู่ไม่ได้?
นัท : อยู่ไม่ได้ มันมีภาระด้วย ทางเขาก็ยังอยู่ ไม่กลับ ปกติผมเป็นคนขี้หวงอยู่แล้ว เขาก็รู้ว่านิสัยเป็นยังไง
ขี้หึงเพราะแฟนสวย?
นัท : ประมาณนั้น
น้องสวยจริงๆ เหมือนดาราหนังจีน แล้วยังไงต่อ?
นัท : เราสองคนจะมีแอปฯ ที่ดูได้ว่าเขาอยู่ที่ไหน เราอยู่ที่ไหน วิดีโอคอลหากันบ้างเวลาว่าง แอปฯ ก็เหมือนจีพีเอส
บีม : เขาติดตั้งเลย เอาง่ายๆ เขาคอยดูว่าเราไปไหนมาไหนประมาณนี้
หวงมากเหรอ?
นัท : เราเองก็ไม่ไว้ใจ
ทำไม คบ 3 ปีฝ่ายหญิงเคยนอกใจเหรอ?
นัท : คบปีกว่าก็มีครั้งนึงที่เคยจับได้ว่าเขาแอบคุยกับผู้ชาย
แต่เขาไม่ได้ไปอะไร?
บีม : เป็นแชตเก่า เป็นแชตนานแล้ว หนูคุยกันไม่ได้อะไรเลย เหมือนเขามาจีบเล่นๆ
นัท : เป็นแชตที่เขาลบไปแล้ว แต่เป็นรูปที่เขาแคปไว้แล้วไม่ได้ลบ
ไม่เสียดายเขาเหรอ จะไม่กลับไปคบ?
นัท : เสียดายครับ แต่คงเป็นไปไม่ได้จริงๆ
ฟังแล้วก็นึกขำ คิดมั้ยว่าต้องมานั่งอยู่ตรงนี้?
บีม : ไม่เคยค่ะ
แม่ละไม : ถ้าไม่โพสต์จะไม่มีอะไรเลย
บีม : สำหรับหนูการประชดประชันเป็นแฟนกันก็เป็นเรื่องปกติใช่มั้ยพี่ แต่ถ้าเขาคิดสักนิดนึงว่าทำไมเขาถึงโพสต์ เรื่องแค่นี้ แต่นี่ไปโพสต์ประจาน เรื่องไม่นานเลย ใจเย็นๆ แล้วมาคุยกัน
ทางนี้มันทรมานหัวใจ เหมือนถูกเหยียบย่ำศักดิ์ศรีเหรอ?
นัท : ไม่ได้ถูกเหยียบย่ำศักดิ์ศรี แค่รู้สึกว่าถ้าเขาจะเลิกกับเรา ทำไมไม่ยอมคืน
ประเด็นไม่ได้อยู่ที่คืนไม่คืน ทำไมถึงรีบไปโพสต์?
นัท : ที่ทะเลาะกัน ต้องถามเขาว่าเรื่องอะไร ที่เขาให้พี่ชายเขาโทรมา
วันที่แต่งงาน ทำไมไปแต่งกับเขาได้?
นัท : ตอนแรกผมบอกว่าไม่พร้อม แต่พอคบกันเข้าปีที่สาม ก็บอกว่าจะพาพ่อแม่เข้าไปคุยนะเรื่องแต่งงาน ผมก็ถามเขาว่าเธอโอเคมั้ย เขาก็ไม่ได้อะไร เขาก็ถามแค่ว่าจะพามาคุยเมื่อไหร่ พอเราคุยกันเสร็จ ผมก็บอกพ่อแม่ว่าจะพามาคุยที่ร้านอาหาร พาญาติผู้ใหญ่มาตกลงกัน คุยกันประมาณ 21 ธ.ค.
บีมบอกแม่มั้ย?
บีม : ก็บอกว่าเขาจะเข้ามาคุยเรื่องแต่งงาน เขาก็นัดคุยที่ร้านอาหาร คุยไปคุยมา แม่นัท ก็บอกว่าตกลงตามนี้นะ ให้ผู้ใหญ่เขาคุยกัน
แม่เดือน แม่ของนัท ยังไง?
แม่เดือน : ก็ถามว่าแม่บีมจะเรียกเท่าไหร่ ค่าสินสอด แม่บีมบอกว่าเงิน 2 แสน ทอง 2 บาท แล้วก็บอกว่าแม่ยังไม่เจรจาต่อ เพราะเขาไม่มีสถานที่จัดงาน บ้านเขาจัดงานไม่ได้ เพราะสถานที่มันแคบ เราก็ถามว่าจัดที่บ้านเจ้าบ่าวมั้ย สถานที่มันกว้าง ถ้าเรื่องซื้อกับข้าวเลี้ยงแขก จะหาคนทำกับข้าวแบบบุฟเฟต์ให้ เพื่อให้ได้เงินเต็มๆ เงินสินสอดจะได้ไม่ต้องเสียมาก จะได้ไม่ต้องคิดยากกับเรื่องนี้ แม่สปอร์ตกับเรื่องนี้แล้ว ให้โอกาสแบบนี้กับฝ่ายหญิงเขา เขาบอกไม่สะดวก ขอเช่าสถานที่ข้าราชการ แล้วบอกว่าแม่ต้องจัดรับขันหมากลูกชายนะ เพราะเขาจะทำหน้าที่ต้อนรับลูกเขย
แม่ยอมรับสิ่งที่เขาบอกมั้ย?
แม่ละไม : เขาบอกมีคนทำกับข้าวหมด แต่ทุกอย่างเราต้องออก เราคิดว่าถ้าไปทำที่โน่น จะไม่มีญาติพี่น้อง แขกเหรื่อไปเลย เพราะมันไกล ตอนแรกเขาให้เราต้อนรับ เขาจะเลี้ยงเย็น แต่ไปๆ มาๆ เขาบอกลูกว่ามากินเที่ยงร่วมกัน ตอนแรกแม่คิดจะเลี้ยงขันหมากเขาอย่างเดียว แต่เขาบอกว่ามากินรวมกัน แม่ก็บอกว่างั้นต่างฝ่ายต่างเรียกโต๊ะจีนคนละครึ่ง เขาขอ 20 โต๊ะ เรา 10 โต๊ะ แม่บอกจะทำขนมจีนแกงไก่ สั่งอาหารเลี้ยงขันหมากก่อน เพราะฤกษ์โต๊ะจีน 11 โมง ทางนี้ก็บอกว่าไม่ต้องเลี้ยงอะไรเยอะ เพราะเขาจะเลี้ยงทางบ้านมาแล้ว
แม่บอก 10 โต๊ะ แม่นัท ขอ 20 โต๊ะ เงินใครจ่าย?
แม่ละไม : คนละครึ่งค่ะ
บีม : หนูเสนอแม่ว่าจะออกกับนัท คนละครึ่ง ในเมื่อเขาขอ 20 แต่หนูขอคนละครึ่ง เอาเงินค่าซองจ่าย เพราะทั้งสองตกลงกันแล้วว่าซองยกให้บ่าวสาว ก็ให้เอาค่าซองจ่ายค่าโต๊ะจีนไป
ตกลงกันดีแล้วนี่ แล้วเกิดอะไรขึ้น?
นัท : ขอค้านนิดนึง เรื่องโต๊ะจีน ผมคุยกับบีม ว่าเขาจะให้แม่ช่วยค่าโต๊ะจีนครึ่งนึง ก่อนเริ่มงาน ตั้งแต่หาโต๊ะจีนมาแล้ว ว่าจะให้แม่ผมช่วยค่าโต๊ะจีนครึ่งนึง ก็บอกว่าเดี๋ยวเราจะเอาค่าซองมาช่วย ไม่ได้บอกว่าช่วยทั้งหมด
บีม : ก็ครึ่งนึงไง
นัท : ผมไม่ได้ตกลงว่าเอาเงินแม่มาช่วย แต่เอาเงินค่าซองมาช่วยครึ่งนึง
จริงๆ ต้องมีตู้ไว้หยอดซอง?
แม่ละไม : มีค่ะ แต่ไม่มีใครหยอด
บีม : ทางนัท จะมาเป็นทางรับไหว้ ใครมานั่งไม่มีการหยอดตู้หรือหยอดกล่องที่วางเอาไว้ คือมานั่งโต๊ะ แล้วเรียกพิธีรับไหว้ เอาซองใส่พาน รับไหว้แค่บ่าวสาว
แม่เดือน : ตกลงกันว่าญาติใครญาติมัน
นัท : แยกกันครับ ฝ่ายเจ้าบ่าวไหว้ก่อน ตามด้วยฝ่ายเจ้าสาว แยกญาติใครญาติมัน แต่ซองทั้งหมดรวมกัน
แม่เดือน : พอแยกเสร็จก็จะเอาซองมารวมกัน เพราะญาติทางเราเยอะ แล้วญาติเขาแค่ 10 กว่าคน
แม่ละไม : แต่ไม่ได้รวมนะ แม่เขาหอบซองกลับไป ไม่ได้รวม
แม่เดือน : เราบอกว่าญาติเจ้าบ่าวเยอะ งั้นก็เรียกญาติเจ้าบ่าวก่อน เพราะซองจะได้ไม่ปนกัน เพราะเราซื้อของไหว้ 80 ชิ้น ที่แม่ซื้อจะไปรับไหว้ญาติตัวเอง
แม่เอาซองกลับไป เพราะต้องการเอาเงินค่าซื้อของ 80 ชิ้นออกมาก่อน?
นัท : ที่เขาบอกว่าแม่เอาซองกลับ เป็นเงินรับไหว้ ไม่ใช่เขาเอามาหยอดในกล่อง
แม่เดือน : เราบอกแต่ญาติมาไหว้ตรงนี้ แม่เอาไปเพราะเป็นของเจ้าของเจ้าบ่าวเจ้าสาว เพราะเจ้าสาวก็ต้องกลับมาอยู่กับแม่ มาเลี้ยงโต๊ะจีนที่บ้านอีก 10 โต๊ะ เลี้ยงให้เพื่อเขาสองคนนี่แหละ
บีม : จริงๆ เงินซองกับเงินรับไหว้ต้องมากันคนละซอง เงินซองก็คือเงินซอง เงินรับไหว้ก็คือเงินรับไหว้ แต่เจ้าบ่าวมาคิดว่าเป็นของเขา แต่ไม่ได้คิดว่าเป็นของส่วนรวมคือบ่าวสาว ญาติเขามาถึงก็รับไหว้ทางเจ้าบ่าวก็คิดว่าเงินรับไหว้ทั้งหมดเป็นของเขาคนเดียว
แม่ละไม : เขาคิดอย่างเดียวว่าญาติเขาเยอะ ของเจ้าสาวก็รับไหว้เหมือนกัน ก็เก็บไปในพานถุงหมดเลย
บีม : ทางหนูก็น้อยจริง แต่ก็เก็บไปทางโน้นหมดเลย
แม่ละไม : ไม่ได้แยกแม้แต่ซองเดียว
แม่เดือน : ไม่ ขอค้านเลย ซองคือญาติมใครญาติมัน ให้ประกาศว่าให้เรียกฝั่งเจ้าบ่าวมาไหว้ให้หมดก่อน ทางญาติบีมจะได้ไม่ปนกัน ญาติบีมแทรกมา 10 ซองซึ่งอยู่กับเรา ญาติเราก็ไปอยู่กับเขาอีก 10 ซอง ต่างคนต่างเก็บ
ตกลงงานแต่งเกิดขึ้น?
แม่เดือน : แม่ถือซองประตูเงินประตูทอง แม่เอาไป 6 พัน คิดว่าเขาจะต้อนรับเยอะ แต่ไม่ถึง แม่จ่ายไป 4 พัน
พอแต่งกันไป อยู่กันได้ 5 วัน?
นัท : อยู่ได้แค่ 3 วันครับ อยู่ที่บ้านผม เพราะเข้าเรือนหอที่บ้านผม เข้าหอ 3 วันตามประเพณี เราสองคนตกลงกันไว้ว่าจะให้เขากลับไปทำงานที่อเมซอนก่อนถึงสิ้นเดือน แล้วผมจะกลับมารับ อยู่กินกันที่บ้านผมเลย เพราะตอนตกลงกับผู้ใหญ่ เราตกลงกันว่าจะให้ผู้หญิงแต่งออกมาอยู่กับผู้ชาย ผมก็ยอม ณ ตอนนั้น
แล้วทะเลาะอะไรกัน?
นัท : มันก็เป็นเรื่องเงิน เรื่องอะไร
มีปัญหาอะไรกัน?
บีม : เอาง่ายๆ เลยสาเหตุคือหนูกลับมาทำงาน หนูบอกว่าพี่นัท หนูกลับมาทำงานที่นี่ถึงสิ้นเดือนนะ ตอนนั้นอยู่ราชบุรีแล้ว แต่จะขอทำงานถึงสิ้นเดือนแล้วลาออกไปทำงานกับเขา ที่ทำงานก็เข้าใจ พอกลับมา พี่นัท ก็เริ่มต้นปัญหาด้วยการทวงถามว่า 3,500 แม่เราจะเอายังไง หนูก็ถามว่าค่ารูปเหรอ พี่นัท ก็ให้เอาเงินค่าซองที่รับไหว้ไปสิ ในเมื่อเงินอยู่พี่นัท หมดเลย พี่นัท ให้เงินติดตัวหนูแค่ 4,000 บาท เราก็คิดว่าถามทำไม เงินแค่นี้ทำไมให้แม่เราไม่ได้ เขาก็บอกว่าไม่ แค่ถามเฉยๆ ก็ให้ได้ ไม่เห็นต้องทักมาโน่นนี่เลย เราก็บอกว่าเงินแค่นี้ยังมีปัญหาเลย แล้วถ้าหนูใช้ชีวิตร่วมกับพี่นัท ไปเรื่องอื่นจะไม่มีปัญหาจริงเหรอ
เขาตอบว่าไง?
บีม : เขาตอบทำนองว่าก็ตัวบอกว่าแม่ตัวจะให้ ตัวเป็นคนขอยืม หนูบอกว่าใช่ หนูขอยืม แต่เมื่อซองก็ใช้ร่วมกันเขาก็หักให้แม่เขาได้ เงินซอง เงินรับไหว้อยู่กับเขาหมดเลย
นัท : เงินส่วนนี้ เป็นส่วนที่ผมยืมแม่ก่อนแต่งแล้ว เขาทักมาว่าขอยืมเงินก่อนได้มั้ย3,500 เพราะต้องจ่ายคนละครึ่งกับผม ครึ่งแรกผมจ่ายไปก่อนหน้านี้แล้ว ครึ่งที่เขาต้องจ่าย ทั้งหมด 7 พัน เขาทักว่าขอยืมผม 3,500
เอาง่ายๆ จะบอกว่าเป็นเงินยืม?
นัท : ใช่ เขาบอกว่าเดี๋ยวเคลียร์เรื่องของจุกจิกเสร็จจะคืนให้
ทางนี้รู้สึกว่าเงินอยู่กับคุณหลายซอง ทำไมคุณจ่ายไม่ได้?
นัท : ที่ผมถาม ไม่ได้ถามว่าแม่เขาจะเอายังไง เงิน 3,500 แม่ผมถามนะ มันเป็นเงินส่วนรวม เราเป็นผัวเมียกันแล้วก็ต้องถามว่าจะเอายังไง จะจ่ายได้มั้ย
บีม : แต่พี่นัท พูดกับบีมว่าแม่ตัวจะเอายังไง
นัท : พี่มีแชตนะครับ
บีม : พี่คุยโทรศัพท์
นัท : พี่ไม่ได้คุยโทรศัพท์
บีม : ตอนที่หนูโทรไป พี่บอกว่าแค่ถามว่าแม่ตัวจะคุยยังไง ในแชตก็คือในแชต แต่คำพูดพี่เป็นแบบนี้
แม่ละไม : แม่ก็ได้ยิน
โบว์ : 3,500 คือเงินยืม น้องต้องการให้เอา 3,500 ไปคืนเพราะคือเงินยืม
แม่ละไม : เขาคุยกันสองคน แม่ไม่รู้เรื่อง
นี่เลิกกันเพราะเงิน 3,500 เหรอ?
นัท : ไม่ได้เลิกเพราะเงิน 3,500 แต่เป็นจุดเริ่มต้นที่ทะเลาะ
ทำไมเขาถึงออกจากบ้านคุณ?
นัท : ตอนนั้นเขาออกไปทำงานของเขาครับ จากนั้นพอผมไปส่งเขาแล้ว จะมีเรื่องเงินซองที่เรานับกัน ที่เขาบอกว่าแม่ผมเอากลับไป แม่เอากลับไป แต่แม่ถือว่าซองเก็บไว้ 3 วันค่อยแกะ
ทำไมต้องแยกซอง?
แม่เดือน : ตอนไหว้ญาติใครญาติมัน ตอนแรกเขาบอกยกให้เจ้าบ่าวเจ้าสาวหมดเลย
ตอนนี้ซองอยู่ไหน?
แม่ละไม : นี่ไม่ได้เก็บเลย รับซองที่แขก 11 โมงมาค่ะ
นัท : ซองที่แม่ผมเป็นซองรับไหว้ ส่วนซองผู้หญิงเป็นซองช่วยงาน มันต่างกัน
สุดท้ายซองรับไหว้ก็เป็นของเจ้าบ่าวเจ้าสาว ไม่เข้าใจว่าซองรับไหว้ สามารถหัก 3,500 ไปได้มั้ย?
นัท : ได้ครับ
แล้วไปถามเขาทำไม?
นัท : มันเป็นเงินรวมของเรา ก็ถามเขาด้วยว่าเขาให้จ่ายมั้ย เพราะผมตัดสินใจคนเดียวไม่ได้ เพราะเป็นเงินของเราสองคน
แต่ทางนี้บอกว่าคุณถามว่าทางแม่จะจ่ายมั้ย?
นัท : ไม่นะครับ ผมอธิบายให้ฟังแล้ว ผมแค่ถามเฉยๆ ว่าจะเอายังไง จริงๆ ตามหลักแล้ว มันเป็นเงินส่วนตัวที่เขาต้องจ่ายก่อนหน้านี้แล้ว
แต่มีเงินที่แม่ถือซองไว้ ก็ควรเอาเงินนั้นคืนแม่ไป 3,500 เท่านั้นเอง?
แม่เดือน : แม่บริสุทธิ์ เปิดด้วยกัน 3 คน ฝ่ายแม่ได้ 6 หมื่น แล้วมีเรื่องตอนอยู่งาน เขาจะแกะซองตรงนั้นจ่ายค่าโต๊ะจีนทั้งหมด ไอ้นี่ไม่ยอม เพราะมันตั้ง 5 หมื่น ค่ารับไหว้เจ้าบ่าวเจ้าสาวก็ไม่เหลือ เราก็เลยตัดสินใจแยกออกมาก่อน
แม่คิดว่าเงิน 2 แสนที่จ่ายให้เขาไปเป็นสินสอด เอามาจ่ายค่าโต๊ะครึ่งนึง ทางนี้จะจ่ายให้อีกครึ่งนึง เงินสองแสนต้องควักมาสองหมื่น ทางนี้เอาเงินซองมาอีก 2 หมื่นเป็น 4 หมื่น?
นัท : ความเป็นจริงคือซองอยู่กับแม่ผม แม่ผมถือว่า 3 วันค่อยแกะ แต่เขาโอนเงินสดให้ผมอยู่ในบัญชี 2 หมื่นแล้ว ค่าโต๊ะจีน แม่เจ้าสาวจ่ายค่าโต๊ะจีนไปก่อน 4 หมื่น อยู่ที่ผม 2 หมื่น มันก็เหลือค่าออแกไนซ์กับช่างแต่งหน้า รวมกัน 2 หมื่น
ใครต้องจ่าย?
นัท : จริงๆ ทางเขาต้องจ่าย แต่เขาจ่ายค่าโต๊ะจีนไปแล้ว ทางผมก็เลยเอา 2 หมื่นจ่ายค่าออแกไนซ์ แล้วจ่ายค่าช่างแต่งหน้าด้วย
คุณเลิกกันทำไม?
นัท : เงิน 3,500 ก็จบแล้ว แต่เขาพูดประชดว่าเอาเงินสินสอดคืนเลยมั้ย กล้ามั้ย
บีม : พี่นัท พูดก่อนดิว่าทำไมหนูถึงบอกว่าเอาเงินสินสอดคืนเลยมั้ย หนูถามว่าแค่นี้พี่ยังมีปัญหาเลย แล้วนับประสาอะไรกับเงินเล็กๆ น้อยๆ จุกจิก ถามโน่นนี่นั่น ถ้าเป็นอย่างนี้ ถ้าหนูไม่กลับไปบ้านพี่นัท จริงๆ ภายในสิ้นเดือนหนูให้เงินสินสอดคืนเลย มันเป็นการประชดประชันกันเรื่องปกติ เขาบอกว่าได้ คืนได้นะ กูก็ไม่ติดเหมือนกัน หนูแค่ถามว่าถ้าเรื่องแค่นี้มีปัญหาแล้วเราจะไปต่อกันได้มั้ย หนูจบกับพี่มั้ย เขาก็บอกว่างั้นคืนมาดิ หนูบอกว่าถ้าภายในสิ้นเดือน ไม่คืนดีกัน หนูยกให้หมดเลย
คิดว่าจะกลับมาดีอยู่แล้ว?
บีม : ใช่ แค่คำว่าง้อหนูนิดเดียว หนูประชดพี่ แต่เขาบอกว่าได้นะ ตอนแรกทะเลาะกัน เขาบอกว่าอยากคุยกับแม่ ให้แม่เป็นพยาน ถ้าบีมไม่กลับไปสิ้นเดือน แม่ก็บอกว่าได้ ถ้าลูกแม่ไม่คืนไป แม่คืนสินสอดให้นัท
แต่ยังไม่ถึงสิ้นเดือน นัท ก็โพสต์แล้ว?
นัท : จะไม่โพสต์ได้ไง เขาบอกผมว่าอยู่บ้านผมมันไม่มีอะไรกิน เขาลำบากใจที่จะอยู่
บีม : ถ้าคนคิดจะลำบากใจ คงไม่ตัดสินใจแต่งงานหรอกนัท ไม่ใช่ไม่เคยไปบ้านนัท บีมไม่ได้เพอร์เฟกต์ถึงขั้นบ้านตัวเองรวยแล้วไปอยู่บ้านนัท แล้วจะไม่มีกิน คิดใหม่
นัท : แต่เธอลำบากใจเรื่องการทำงาน
บีม : แล้วนัท มาตัดสินใจว่าเราลำบากใจ แล้วเราจะแต่งงานกันทำไม หนูไปหาคนอื่นที่ดีกว่านี้ไม่ดีกว่าเหรอ นัท ติดนิสัยผู้หญิง คิดว่าบีมไม่ได้รักนัท จริง นัท จะตัดสินหนูแบบนี้ตลอด
นัท : แต่เรื่องสินสอด เธอไม่ควรพูด สินสอดเงินไม่ใช่น้อยๆ จะยกมาทะเลาะไม่ได้ มันเกินไป
แม่ละไม : มันเป็นการประชดกัน
บีม : ทีเรื่องอื่นประชด ไม่เห็นอะไรเลย
ล่าสุดเรื่องถึงตร.แล้ว?
บีม : ใช่ค่ะ แล้วเรื่องค่าโต๊ะ ตอนแรกพี่นัท ไม่ได้บอกว่าแม่โอนมาให้ก่อน พี่นัท พูดว่าทำไมต้องจ่ายค่าโต๊ะ พี่นัท ไม่ได้เสนอมาตั้งแต่แรก พี่นัท บอกเดี๋ยวไปขอแม่
นัท : ก่อนเริ่มงานแต่ง ผมบอกผู้หญิงว่าไม่รู้จะช่วยค่าโต๊ะจีนได้เท่าไหร่ จะเอาเงินซองจ่ายค่าโต๊ะจีนอยู่แล้ว แต่ไม่ได้ตกลงว่าคนละครึ่งหรือยังไง แต่ที่แม่มาถาม เพราะซองรับไหว้แม่ผมเอาไป เขาก็เดินมาถามว่าค่าโต๊ะจีนจะเอายังไง ก็ตกลงกันว่าจะจ่ายคนละครึ่ง เอาซองจากแม่ผมจ่ายครึ่งนึง
คุณอยู่บ้านเขาได้ 3 วัน แล้วจะกลับไปอยู่บ้านแม่ก่อนแล้วทำงานจนถึงสิ้นเดือน แล้วลาออกมาอยู่กับนัท แล้วทางนัท บอกยังไง?
บีม : ก็ทะเลาะกัน ทะเลาะไปทะเลาะมา เขาบอกแยกกันอยู่ก็ไม่ต่างจากเลิกกันหรอก ก็มันไม่ได้เลิกกัน หนูบอกว่าถ้าสิ้นเดือน หนูไม่กลับไป หนูถึงยกสินสอดให้ แต่หนูก็เลือกทำงานแล้วกลับไป
นัท : เขาพูดตั้งแต่ที่ผมพูดเรื่องเงิน 3,500 แล้ว ถ้าเขาจะคืนผมก็โอเค ผมก็ถามว่าเขาจะรับผิดชอบไหวมั้ย ถ้าจะคืนทั้งหมด
บีม : เขาไม่ได้ง้อ แต่รอง้อ
นัท : ผมก็อธิบายนะว่าถ้าไม่อยู่ด้วยกัน เราจะแต่งให้เราเสียเงินทำไม
เขารอคุณง้อ รู้มั้ย?
นัท : เขาให้พี่ชายโทรมาถามผมว่าบีมทำไมพูดว่าคืนสินสอดเขาไปเถอะ ผมทำงานอยู่ในไร่ เขาพิมพ์มาว่าหนูขอโทษนะ ในเมื่ออยู่ด้วยกันไม่ได้ หนูเป็นคนผิดเอง เดี๋ยวหนูส่งสินสอดคืนให้
บีมบอกว่าขอโทษทุกอย่าง ถ้าทำตังไม่ดี ใส่ตลอดที่ผ่านมา ก็ขอจบเท่านี้ อย่าโกรธกันเลยนะ ขอโทษถึงครอบครัวพี่ ในเมื่อไปต่อกันไม่ได้แล้วก็พร้อมจบทุกอย่างเอง ขอโทษจริงๆ พี่ หนูเหนื่อย หนูยอมแล้ว เดี๋ยวคืนของให้?
นัท : ผมก็ทำงานของผมต่อ เขาก็ให้พี่โทรมาถามผมว่าทำไมผู้หญิงถึงพูดอย่างนี้ ผมก็บอกว่าผมไม่รู้อะไรเลยพี่ พี่ชายเขาก็ประมาณว่าคืนไม่ได้สินสอด ก็มีปากเสียงกัน จนผมบอกว่าค่อยไปคุยกัน เพราะผู้หญิงบอกจะคืนสินสอด
ด่ามึงกูกับพี่ชายเขามั้ย?
โบว์ : แต่ก็กวนประสาทไง บอกว่าแล้วพี่มายุ่งอะไรกับพวกผมสองคน ขนาดแม่นัท ยังมาเอี่ยวด้วยเลย แล้วนี่เป็นน้อง ยุ่งไม่ได้เหรอ
นัท : เป็นเรื่องที่เราคุยสองคนไง
โบว์ : แต่นัท ก็ไม่ได้คุยสองคนไง นัท อ้างว่านัท ทำไร่ ยิ่งตอนนี้นัท ให้คนทั้งประเทศมารุมด่าบ้านพี่ ทุกคนด่าว่าบ้านพี่
นัท : ในเมื่อเราไปคุยกันที่โรงพักแล้ว
โบว์ : แต่นัท ไม่ควรโพสต์
นัท : ที่ผมโพสต์เพราะเราไปเจรจากันแล้วที่โรงพัก ว่าเขาจะเอายังไง ตร.เจรจาแล้ว เขาจะกลับมาอยู่กับผมมั้ย เขาบอกว่าถ้าเป็นแบบนี้กลับไปอยู่ไม่ได้แล้ว ตร.บอกให้ผมไปอยู่กับผู้หญิงมั้ย ผมบอกว่าถ้าผมไปอยู่กับผู้หญิง ผู้หญิงเขารับผิดชอบค่าใช้จ่ายร่วมกันไหวมั้ย
โบว์ : แล้วนัท จะมาอยู่บ้านเฉยๆ เหรอ อยู่นี่ก็ทำกินได้
นัท : ผมไม่ได้จะอยู่เฉยๆ อยู่แล้ว ผมก็ต้องทำงาน แล้วถ้าทำระหว่างเงินเดือนรวมกันสองคน ช่วยใช้จ่าย จะมีเงินเก็บมั้ย
โบว์ : คนรักกันไม่จำเป็นต้องอยู่บ้านเดียวกันก็ได้ นี่พูดถึงถ้าต่างคนต่างมีภารกิจจริงๆ
นัท : มันก็ใช่ แต่มันสมควรคุยกันสองคนมั้ย
โบว์ : แล้วในโพสต์คุยกันสองคนมั้ย
หลังทะเลาะกับพี่บีมไปแล้ว ทั้งสองฝั่งไปเจรจาที่ตร.มาแล้วหนึ่งครั้ง ตร.บอกว่างั้นผู้ชายอยู่บ้านผู้หญิงสิ?
นัท : ค่าใช้จ่ายผมเยอะครับ
แต่เขาก็ไม่ได้มองว่าคุณจะไปอยู่เฉยๆ ให้เขาเลี้ยง คุณไปก็ต้องทำงาน?
นัท : แต่ที่เราตกลงกันก่อนแต่งงาน ผู้หญิงจะมาอยู่บ้านผม
แม่เดือน : ที่ตกลงกันแต่งสะใภ้เข้าบ้าน
งั้นถ้าอยู่ไม่ได้ขอสินสอดคืน ตร.บอกให้คืน 5 หมื่น?
บีม : ตร.เป็นคนเสนอค่ะ หนูก็คืนค่ะ หนูทักแชตเขาไป เขาบอกว่าไม่เอาหรอก เงินแค่นี้ ตอนแรกเขาไม่พูดคำว่าขอทองด้วย หนูเป็นคนทักไปว่าหนูให้ 5 หมื่นแล้วจบนะ
คุณพูดเรื่องทอง?
นัท : ผมพูดด้วยความโมโห
บีม : พี่นัท อย่าอ้างความโมโหสิ
นัท : หลังกลับจากโรงพัก ผมขับรถกลับบ้านไม่ได้เลย
คุณบอกว่าทำแม่หมดตัว ผลาญแม่มาเยอะ ขอจบเอง สะใจพวกมึงแล้วสินะ ทำแม่เสียเงินเอง ขอจบชีวิตเองดีกว่า จะฆ่าตัวตาย?
แม่เดือน : เขาร้อง ขับรถไม่ไหว พาแม่กลับบ้านไม่ได้ มันเหมือนคนหัวใจโดนทุบแตกสลาย ตอนนั้นกลัวเขาโดดรถ
นัท : 5 หมื่นที่เขาจะโอน เขามีเลขบัญชีอยู่แล้ว ถ้าคนจะคืน ผมไม่เอา 5 หมื่น อยากได้ทองผมคืนด้วย มันไม่มีใครผิด ถ้าเขาคิดจะคืน เขามีเลขบัญชีผมอยู่แล้ว
บีม : หนูเสนอไป พี่นัท บอกว่าเก็บไว้รักษาแม่มึงเถอะ ก่อนออกจากโรงพัก พี่นัท พูดว่าอิ่มแล้วดิ ได้ไปอิ่มแล้ว
นัท : ก็บีมบอกจะไม่คืนสักบาท
บีม : ที่คุยกับตร.คือคืน 5 หมื่น แต่แม่บอกว่าไม่เป็นไร ให้แค่นี้ แม่ไม่เอา แม่บอกว่าจะไปฟ้องศาล
คุยกับตร. 5 หมื่น คุณไม่ไหวก็โพสต์เลย?
ฝ้าย : ตร.ถามว่า 5 หมื่นคืนไม่ได้เหรอ บีมบอกว่าไม่ค่ะ บาทเดียวก็ไม่คืน
บีม : พูดตอนไหน นัท พูดว่าไม่เอาจะเอาทองด้วย
ตัวนัท ก็โพสต์เลย เพราะคิดว่าไม่ได้คืนแล้ว พอโพสต์ทางนี้ก็เสียหาย?
โบว์ : คนด่าพ่อแม่ ด่าครอบครัว แล้วน้องเขาก็ลงสตอรี่เอารูปส้นเท้าแปะหน้าเจ้าสาว นัท เองก็ลงสตอรี่ เอารูปดอกไม้สีเหลืองสีทองแปะหน้าบีม แปลว่าอะไร
เราทำมั้ย?
นัท : ทำครับ ที่ผมโพสต์ผมเจ็บใจ
โบว์ : แล้วทางนี้ไม่เจ็บเหรอ โดนด่ายันพ่อแม่ ทางนี้ไม่เคยไปด่าพ่อแม่ทางโน้นเลย
ทนายมองยังไง?
ไพศาล : ทั้งสองอยากมีชีวิตคู่แต่ไม่เข้าใจเรื่องความรักเลย ประเด็นหลักๆ ต้องเข้าใจนิยามคำว่ารักและชีวิตคู่ก่อน มันต้องใช้ความเชื่อ ความไว้ใจ เป็นเรื่องความรู้สึก ศึกษานิสัยใจคอกันดีแล้วถึงกลายเป็นชีวิตคู่คือสมรส น้องต้องมองบริบทผู้หญิง ถ้ามาแต่ง 5 วันเลิก เขราไม่แต่งหรอก เขาเห็นบ้านน้องแล้ว ผู้หญิงเขามีสิทธิ์เลือกได้มากนะ น้องเขาก็หน้าตาดี เรารักเขา พี่รู้ แต่เวลาสองคนน้อยไป พอน้อยไป ความเชื่อใจ ความไว้ใจมันน้อย ก็เลยมีเงินมาเป็นตัวตั้งว่าของเธอของฉัน ถ้าได้แต่งงานจริงๆ มีเมียอยู่เป็นครอบครัวจริงๆ จะเข้าใจบริบทผู้ชายทั้งโลกว่าไม่ต้องไปทวงหรอกเงิน เพราะสุดท้ายเงินอยู่กับผู้หญิงอยู่ดี ชีวิตคู่ความรักจะไม่ทำให้เสียใจจะไม่ทิ้งกัน เขาเสียใจว่าเงินแค่นี้ทำไมคิดเล็กคิดน้อย เราเป็นผู้นำ จริงๆ ควรดูแลเขามั้ย แล้วนิสัยผู้หญิงเขามาจากอีกดาวนึง ถ้ามองข้ามไปก็จบ ถ้าผู้หญิงเสียทั้งชื่อ เสียทั้งตัว เสียใจ แล้วมา
โพสต์ เขาเดินต่อยากนะ
นัท : หลังเจรจาแล้วผมถึงโพสต์ เรื่องเงินทุกอย่างคุยจบไปตั้งนานแล้ว
โพสต์เพราะโกรธ?
นัท : เขาไม่ยอมคืนตามที่ขอ เขาจะให้เราไปฟ้อง
ไพศาล : ถ้าอยากได้เขาเป็นคู่ชีวิตจริงๆ เงินจะไม่เกี่ยวเลย จะทำทุกอย่างเพื่อไม่ให้เสียเขาไป สองคนนี้มองว่าใช้เวลาน้อย ความรัก ความเชื่อใจมันน้อย ทำให้เป็นเหมือนคนละคนกัน แต่ถ้าเอาตามกฎหมาย สินสอดเขาให้แม่ เพราะผู้หญิงยอมแต่งงานด้วย ของหมั้นเป็นสิทธิ์ของผู้หญิง สมรสตามกฎหมายคือจดทะเบียนสมรสนะ ถ้าไม่ได้จด บางคนอาจตีความว่าเอาคืนได้สิ แต่เหตุการณ์จดไม่จดทะเบียนสมรส มีไม่กี่อย่าง คือมีผู้ชายอื่น กับมีโรค
คุณเอาส้นเท้าแปะหน้าเขา?
ฝ้าย : อันนี้กลับมาจากโรงพักแล้ว เพราะเขาพูดกับตร.ว่าไม่คืน
โบว์ : แต่ไม่มีสิทธิ์โพสต์ด่าใคร
บีม : เป็นฝ้าย ฝ้ายจะทำยังไง
โบว์ : นี่ก็กลับจากโรงพักก็ไม่เคยโพสต์ด่า ไม่จำเป็นต้องโพสต์ด่า
แม่เดือน : ตอนแรกบอกจะให้ แล้วอยู่ๆ มาเปลี่ยนคำ
บีม : แม่จะคิดว่าไม่มีกฎหมายก็ไม่สมควรโพสต์ ถ้าแม่รู้ว่าโดนพรบ.คอมพ์ฯ แม่จะเสียมากกว่า 2 แสน
แม่เดือน : มันเสียความรู้สึก เพราะรักเขาไปแล้ว
โบว์ : แล้วนี่ไม่ได้รักเหรอ ถ้ามันไม่รักจะแต่งมั้ยแม่
ไพศาล : โพสต์นี่น้องผิด หมิ่นประมาทโดยโฆษณา น้องรู้มั้ยโทษ 2 ปี ปรับ 2 แสน ยังไม่รวมทางแพ่งที่เขาเสียหาย น้องบอกอยากได้คืน 2 แสน 2 บาท 2 แสนกับสองปี ยังไม่เท่ากับที่เขาจะฟ้องแพ่ง ถ้าเขาฟ้องแพ่ง มูลค่าความเสียหาย เขาเป็นผู้หญิง เขาเสียชื่ออับอายไปทั่ว มันจะคุ้มมั้ยกับ 2 แสน 2 บาทที่น้องอยากได้คืน ไปสู้กันมันอาจยากด้วยในฝ่ายเรา เราเป็นผู้ชาย ไม่คิดเล็กคิดน้อย อะไรปล่อยได้ปล่อย ฟังแล้วแม่ดีมากเลยนะ รักลูกทั้งคู่ แต่ถ้าเป็นเรื่องคนสองคน ก็จะเตือนฝ่ายหญิง ถ้าเรื่องสองคนคุยกันสองคนก่อน แต่ถ้าถูกทำร้ายค่อยบอกคนข้างๆ ให้ช่วย เพราะถ้ามีคนที่สอง สาม เรื่องมันจะใหญ่
แม่เดือน : ระหว่าง 3 วันที่แม่ดูอยู่ วันแรกพาเมียนอนเปล อากาศมันร้อน เหมือนทำไร่ไม่ได้แล้ว ก็ไม่เป็นไร เดี๋ยวไปขายกาแฟอเมซอนอยู่แล้ว เขามีตัวเลือกหมดเลย แต่ผู้หญิงอึดอัด ซึ่งเราไม่ได้บีบ ไล่ไป
บีม : หนูพูดตอนไหนคะ
แม่เดือน : เถียงกับนัท ในห้อง แม่แอบฟัง
บีม : แล้วแม่แอบฟังทำไม แล้วแม่ถามนัท มั้ยว่าหนูพูดคำว่าอึดอัดมั้ย
แม่เดือน : แม่บอกว่านัท ถ้าบีมอยู่ไม่ได้ เราจะทำกันยังไง เราตกแต่งกันมาแล้ว
บีม : หนูอยู่ไม่ได้ หนูกลับเลยไม่ดีกว่าเหรอแม่
แม่เดือน : แม่พยายามถามลูกทุกครั้ง เพราะบีมมันเด็ก เราถามทุกครั้ง ถามตลอดมา ไม่งั้นเราจะไม่ทุ่มเทกับตรงนี้ เพราะเราอยากได้สะใภ้เข้าบ้าน เป็นคนดีมาช่วยทำจริงๆ
สมมติเป็นผมนะ อยู่ที่บ้านกับพ่อแม่ อยู่ในวิถีชีวิตแบบนึง วันนึงไปอยู่อีกบ้านมันก็อึดอัดเหมือนกันนะ เราต้องเปลี่ยนชีวิตเรา แต่สุดท้ายก็ต้องอยู่ด้วยกัน?
บีม : แม่อย่าเพิ่งตัดสินหนูแค่ 3 วัน
แม่ละไม : ต้องให้เวลามันปรับตัว
แม่เดือน : เรารู้ เราถึงให้มันไปทำงาน เราหวังว่าสะใภ้ต้องกลับมา เจ้านี่ก็หวังว่าเมียจะกลับมา แต่หลังกลับไปมันก็เถียงกันเรื่อยๆ แม้แต่ซองที่แม่บีม ถ้าบริสุทธิ์ต้องแกะกับลูกด้วยกัน
บีม : แม่หนูไม่ได้นั่งแกะคนเดียว นั่งแกะกับพี่สาวและครอบครัวเหมือนกัน แต่ทางนัท ไปลงข่าวว่าแม่หนูเอาซองไปหมดเลย
นัท : ซองฝั่งผู้หญิงเหมือนซองมาช่วยงาน ผมไม่ได้นั่งดูว่าเขาแกะ
โบว์ : อ้าว พี่ก็ไม่ได้ดูเวลานัท แกะเหมือนกัน
นัท : แต่บีมดู ผมเลยถามว่าซองนี้ใช่ซองฝั่งเธอมั้ย เพราะไม่ใช่ซองสีที่บีมแจกการ์ด เป็นซองอื่นด้วยที่ปนมา เป็นซองรับไหว้ แต่ทางแม่ไม่ได้เปิดต่อหน้าผม ซองเพื่อนผมก็ไม่ได้มีทั้งหมด
สุดท้ายก็จะดึงเรื่องนี้มาพูด ไม่มีประโยชน์ ตอนนี้จะเอายังไง?
แม่เดือน : ขอความเห็นใจ เขาเสียชื่อเสียง แต่แม่เสียทรัพย์ ทั้งชีวิตเลย แต่งแล้ว 3 วันจะใช่มั้ย มาเลิกกับลูกเรา เราก็รอโอกาสอยู่ แต่บีมพูดว่าอยู่ไม่ได้ จะคืนสินสอดให้ ลูกก็จุกเพราะรักไปเต็มที่แล้ว
บีม : แล้วหนูเลิกยังคะ
แม่เดือน : ก็ยังไม่เลิก แต่ว่าพูดอย่างนั้น
บีม : ทำไมแม่ไม่คุยกับหนูเลยล่ะ จะได้รู้ว่าเลิกหรือไม่เลิก
สองคนนี้ยังมีอารมณ์ แต่บอกเลย สัก 3 อาทิตย์ จะทรมาน ตะกุย ไม่น่าโน่นนี่นั่น?
ไพศาล : การสมรสเป็นเรื่องคนสองคน ฉะนั้นให้คุยกันสองคน เข้าใจแม่แหละ แต่อยากบอกว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องทรัพย์สิน เป็นเรื่องที่เขาต้องอยู่กันในภาคหน้า ถ้าคิดว่าแต่งงานกันไป เสียเงินเท่านี้ อยู่ 3 วันได้เหรอ เราอยากให้เขาอยู่ยาวๆ ได้ ให้เขาลองปรับความเข้าใจกัน
ยังอยากกลับไปมั้ย ยังรักเขาอยู่มั้ย?
บีม : พอโดนขนาดนี้ ไม่ได้รู้สึกว่ายังรักเขาค่ะ (ร้องไห้)
ต้องถามตัวเองก่อนว่ายังรักอยู่มั้ย เอาจากใจ?
นัท : ถ้าไม่รัก ผมจะไม่โพสต์เลย ว่าทำไมคนที่ผมรักทำกับผมขนาดนี้ (เสียงสั่น)
เอ็งไม่ใช่ไม่รัก แต่เหมือนไม่รักก็จะทำลายมึงเลย?
โบว์ : แล้วให้คนอื่นมาช่วยรุมด่าด้วย
แม่เดือน : ให้พี่หนุ่มสรุป แม่ฟังแล้วมันไม่สามารถคืนเงินได้จริงๆ มันหักหาญน้ำใจกันไปทั้งหมด
สุดท้ายแล้วให้เด็กได้คุยกันเอง มันเป็นเรื่องของลูก บีมยังรักอยู่มั้ย?
บีม : มันก็รัก แต่มันก็เจ็บ
นัท ล่ะ?
นัท : ก็รัก แต่ก็เสียใจว่าทำไมเขาถึงทำกับเราแบบนี้
ครอบครัวว่าไง?
แม่ละไม : แม่ไม่อยากเข้าไปตัดสินใจกับพวกเขา ให้เขาตัดสินใจไปเอง
โบว์ : แล้วมันจะมองหน้ากันติดมั้ยคะ
ตอนนี้มีเรื่องครอบครัวมาเกี่ยวข้อง ตอนนี้บีมโดนด่ากระจาย คนเหยียดหยามว่าแต่งงาน 5 วันแล้วเอาเงินเขามา?
แม่ละไม : ออกนอกบ้านแทบเอาปี๊บคลุมหัวแล้ว (ร้องไห้)
โบว์ : โดนด่าหลอกแดx ทั้งที่เขาพูดเองด้วยว่าบ้านหนูหลอกแดx เขา
แม่ละไม : พูดในโรงพักเลย
บีม : ถ้าหลอกแดxจริงๆ สามปีได้แค่ 2 แสนเองเหรอ
นัท : แต่ที่ผ่านมาผมซัปพอร์ตเขาตลอดนะ
บีม : นัท ไม่ได้ซัปพอร์ตบีมคนเดียวนะ ทีบีมซัปพอร์ตนัท ล่ะ
แม่ละไม : เป็นผู้ชายหรือเปล่า
นัท : ที่ทะเลาะกัน ถ้าคิดจะจบกัน ผมก็ยอมจบดีๆ
แม่เดือน : ถ้าไม่อยากอยู่ด้วยกันแล้ว เราขอแค่ 5 หมื่น แค่เสี้ยวหน่อยเดียว ถ้าเห็นใจกันมนุษย์ด้วยกัน
ขอแค่เงิน 5 หมื่นคืน?
แม่เดือน : ขอแค่นั้น
นัท : ก็แบ่งครึ่งกันไป
แม่เดือน : ถ้าอยู่ไม่ได้ ก็ขอได้มั้ย เพราะมันไวเกินไป
ตกลงแม่จะเอาอะไรจากเขา?
นัท : ถ้าเขาไม่คิดอยู่กับผม ขอ 5 หมื่นกับทอง 2 บาท
แม่เดือน : จะได้จบกันด้วยดี
ซองที่แม่รับไป จะไปคืนมั้ย?
แม่เดือน : ของเขาหมื่นนึงจะยกให้
มันได้เงิน 6 หมื่น ถูกมั้ย?
นัท : รวม 5 หมื่น แต่เราแยกมา 1 หมื่นมาใช้จ่าย แบ่งให้บีมใช้ 4 พันยันสิ้นเดือนเพื่อไปทำงาน ผมพันห้า แล้วตกลงจะซื้อตู้เสื้อผ้าเข้าหออีก 4.5 พัน
สรุปง่ายๆ ไม่กลับไปแล้ว?
นัท : อาจกลับไปไม่ได้แล้ว
มั่นใจว่าจะไม่ไปตะกุยผนัง ทรมาน ต้องคิดเองนะ แม่ไม่เกี่ยว ต้องตัดสินใจเอง เราตายแม่ก็ไม่ได้ไปด้วย แม่ตายก็ไม่ได้ไปด้วย ตกลงจะเอายังไง ไปต่อหรือพอแค่นี้ ถ้าไปต่อก็ยกพานไปกราบครอบครัวเขา มันเป็นสามัญสำนึกของเราเอง เราเป็นเพศที่แข็งแรง จำเป็นต้องขอโทษเขาก่อน เพราะมุมเขาก็เสียหายนะ เขาโดนด่าทั้งประเทศนะ ถ้าคุณจะไปต่อ ก็ยกพานไปขอโทษเขา ก็ว่ากันไป แต่ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้ คุณไม่ไปต่อ ก็จบ ก็ขอเงิน 5 หมื่น ทอง 2 บาทแล้วแยกย้าย ฝั่งนี้จะเอาไงก็เอางั้น ถูกมั้ย เขากลับมาเอามั้ย?
บีม : ตอบตอนนี้ไม่ได้ค่ะ
แม่ละไม : มันไม่ได้แล้ว พี่น้องเขาไม่รับแล้ว
โบว์ : ถ้าคิดจะคบกันก็ไม่ได้ซีเรียส แต่หนูไม่โอเค
คืนมั้ย เขาขอทอง 2 บาท เงิน 5 หมื่น?
บีม : ถ้าหนูเอาโพสต์บีมไปแจ้ง
แม่เดือน : ไม่เป็นไร โพสต์บีมก็มี ไม่เบลอหน้าน้องเหมือนกัน เราเองก็แค่ให้ความเป็นธรรมแค่นั้น
นัท : ที่โพสต์เพราะเขาให้เราไปฟ้อง ถ้าอยากได้ทอง
โบว์ : ฟ้องก็ฟ้อง จะโพสต์ทำไม
นัท : ผมรู้ว่าผู้หญิงเสียหาย ที่ผมขอไปก็อยากจบด้วยดีนะ ถึงเจรจาแบบนี้ แต่ทำไมเขาถึงไม่ยอมเจรจาดีกับเรา ให้เราไปฟ้องอย่างเดียวเลย ทั้งที่เราอยากจบดีๆ
แนะนำทางออกให้นะ เลิกกันไปเหอะ ไม่มีความสุขกับชีวิต?
ไพศาล : แม่บอกว่าลูกอยากให้จบดีๆ คืน 2 บาท 5 หมื่น แม่ไม่คิดว่าเสียหายเหรอ เขาเป็นผู้หญิงนะ ไม่งั้นก็ใช้สิทธิ์ทางกฎหมาย
ผมคุยกับนัท มาก่อนตั้งแต่วันเสาร์ นัท ปรึกษาผม วันนั้นพี่ฟังมุมเดียวจริงๆ ก็บอกว่าจะจัดการให้ เคลียร์ให้ จะคุยกับทนายให้ วันนี้ได้ฟังทางฝั่งนี้ วันนี้จะบอกนัท ในฐานะคุยกันตั้งแต่วันแรก เข้าใจว่าเงิน 5 หมื่นก็เยอะ ทอง 2 บาทก็เยอะ เฉลี่ยนแล้วแสนกว่าบาท แต่ให้เขาไปเถอ พี่เลิกกับใครก็ไม่เคยทวงของคืน?
นัท : แต่อันนี้มันไวไป
อย่าไปคิดว่าแค่ 5 วัน นัท คบเขามา 3 ปี พี่อาจพูดรุ่มร่ามไปหน่อย สัมพันธ์ที่เรามีกับเขาก็มีมานาน อยู่มานาน วันนี้อย่านับแค่ว่าแต่งแค่ 5 วัน แล้วเลิกกันไป บางทีนัท ได้กับผู้หญิงเดือนนึง อาจเสียมากกว่านี้ด้วยซ้ำไป ถ้าวันนี้ไปต่อไม่ได้ก็เลิกรากันไป ถ้าเป็นพี่วันนี้นะ พี่จะไม่ทวงเงินเขาแม้แต่สลึงเดียว แต่จะยกมือไหว้เขาแล้วขอโทษ แล้วบอกถอนแจ้งความได้มั้ย?
โบว์ : แค่นั้นแหละที่หนูต้องการ
มันไม่สนุก บอกเลย การขึ้นศาล ไม่สนุก วันนี้แยกกันนะ ประเด็นเรื่องเงินกับที่เขาแจ้งความ บีมโพสต์ว่าคณะผ้าป่า หมิ่นมั้ย?
ไพศาล : ไม่หมิ่น
Pdpa เข้ามั้ย?
ไพศาล : บางคนเข้าใจข้อกฎหมายนี้ยังไม่ชัดเจน ถ้านัท กับบีมเข้าใจเรื่องความรัก คนนอกไม่เกี่ยว น้องจะไม่เอาเงินคืน น้องจะอยากได้เขาคืนมา เอาความรักมาคุยกัน ไม่ใช่เอาเงินมาคุย
นัท : เราก็ต้องการคุยกันดีๆ นี่แหละแต่เขาไม่ได้คุยดีกับเรา จริงๆ ผมคุยกับเขาแค่สองคน เขาให้พี่เขาโทรมาหาผม
พี่ว่าวันนี้มันผ่านมาแล้ว เอาปลายเลยดีกว่า จะเอายังไง?
นัท : เรื่องเงินถ้าไม่คืนผมก็รับได้ แต่เขายังรักผมอยู่มั้ย ทำไมเด็ดขาดกูก็ไม่คืน ให้ไปฟ้องเอา ทำไมเขาทำกับผมแบบนั้น ถ้าจะเลิกกันด้วยดี ผมก็ยอมจบด้วยดี
บีม : ถ้านัท ยอมจบ นัท จะไปโพสต์ทำไม ในเมื่อนัท พูดเองว่ารู้กฎหมายดี ในเมื่อนัท บอกจบด้วยดีแต่นัท เอาไปลงเฟซ เพราะนัท ใช้อารมณ์ไง
นัท : เรื่องฟ้องศาลพี่รู้ว่าฟ้องไปก็เท่านั้นแหละ
บีม : รู้แล้วโพสต์ลงทำไม บอกจะคุยดีๆ ขนาดคุยดีๆ ยังถามเลยว่าสินสอดอยู่ครบมั้ย
โบว์ : นัท ลงเพื่อให้คนอื่นมารุมด่าบ้านพี่แค่นั้น เพราะคนอื่นเขาฟังความข้างเดียว ข้อความนัท โพสต์เอาดีเข้าตัวหมดเลย แล้วได้อ่านเมนต์บ้างมั้ย สนุก สะใจ คนด่าบ้านพี่หมดเลย
นัท : ผมไม่ได้สะใจ แต่ผมถามว่าเขารักผมจริงมั้ย
แม่เดือน : ขอแค่ความเห็นใจของฝ่ายหญิงนั่นแหละ ถ้าไม่ได้ก็ไม่เป็นไร ให้ยุติ มันเหนื่อย
นัท : ผมบอกแม่แล้วว่าไม่เป็นไร ถ้าเขาไม่คืนก็ไม่เป็นไร เราไปทำหาใหม่เอา
ไพศาล : คดีที่แจ้งความเป็นแพ่ง เรียกสินสอดคืน แต่เขาจะดำเนินคดีเราอาญา หมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ถ้าเขาชนะคดีอาญารูปภาพที่โพสต์ จำคุก 2 ปี ปรับ 2 แสน แต่ส่วนแพ่งที่เขาเรียกจะไหวมั้ย
แต่งงานไปแล้วไม่ได้จดทะเบียน ห้าวันเลิกกัน เงินต้องคืนเขาใช่มั้ย?
ไพศาล : ต้องดูเหตุด้วย ว่าผู้หญิงมีชู้มั้ย มีโรคติดต่อร้ายแรงมั้ย แต่ถ้าเหตุทะเลาะกันแบบนี้ ต้องสืบให้ศาลพิจารณาให้ได้ว่าเพราะอะไร เขาไม่ได้จะไม่สมรส มีเหตุ จะเรียกคืนยังยากอยู่เลย แต่โพสต์ของเขาเป็นอาญา ไม่ต้องถอนหรอก เราแค่บันทึกไว้เป็นหลักฐานในการเรียกสินสอดคืน แต่ถ้าเขาดำเนินคดีเราคืออาญา เราต้องประกันตัว
นัท : ผมไม่ได้ต้องการเงินเลย อยากรู้ว่าเขาทำกับผมได้ยังไง เขาบอกเป็นแบบนี้ก็อยู่กันไม่ได้แล้ว
เอ็งอยากได้เขาคืน?
นัท : ผมอยากได้คืน แต่ถ้าเป็นแบบนี้ พี่น้องจะมองหน้ากันไม่ได้ อยู่ด้วยกันไม่ได้แล้ว ถ้าการใช้ชีวิตคู่ เราก็ต้องเจอพ่อแม่ฝั่งโน้น เขาก็ต้องมาเจอพ่อแม่ผม
มีวิธีอีกเยอะแยะที่จะเข้าหาผู้ใหญ่ วันนี้ผู้ใหญ่ผู้หญิงเขาโกรธ ก็ต้องเป็นแบบนี้ บางทีพ่อเขาเอาปืนมาไล่เอ็งยังมีเลย แต่สุดท้ายอยู่ที่เราเอง ถ้าอยากได้เขาคืนต้องรู้ตัวเอง ถ้าทำแบบนี้เขาจะยิ่งไม่กลับไป เท่าที่ฟังสองมุม เอ็งก็ใจร้ายไปนิดนึง ฝั่งนี้เขาจะไปทำงาน สิ้นเดือนจะลาออกมาอยู่กับเรา แต่คุณก็บอกว่าไปทำงานแบบนี้เหมือนเลิกกันอยู่ดี?
นัท : ไม่ครับ เขาทะเลาะกับผม แล้วบอกว่าไม่กลับไปดีกว่า อยู่บ้านสบายกว่า
บีม : พอทะเลาะไปทะเลาะมา พี่นัท พูดเองว่า บีมกลับมาแบบนี้ก็ไม่ต่างอะไรจากเลิกกับพี่นัท เลย พี่เป็นคนพูดนะ
นัท : ใช่ ก็บอกว่าถ้าอยู่ยาวๆ ก็ไม่ต่างจากเลิกกัน
บีม : สิ้นเดือนยาวตรงไหน
นัท : คำว่าสินสอด เอามาประชดก็ไม่ใช่
เลิกกันดีกว่า?
แม่เดือน : เลิกกันดีกว่า
นัท : ถ้าเขาจะให้ฟ้อง เราไม่มีสิทธิ์อยู่แล้วจะเรียกคืนได้เท่าไหร่ แต่ถ้าเขาบอกว่าจะให้คืน 5 หมื่น ขอทอง 2 บาทด้วยได้มั้ย
ไพศาล : ยังรักอยู่มั้ย ทำไมพูดแต่เรื่องเงิน
นัท : ผมไม่ได้นึกถึง แต่เขาเป็นคนเสนอมาให้ ผมก็พูดไปแล้วว่าไม่เอา
โบว์ : สรุปเอาหรือไม่เอา
นัท : ถ้ากลับมาไม่ได้จริงๆ ที่ผมโพสต์ ผมก็ไม่ได้อยากได้คืนอะไร แต่ถามว่าเขารักผมมั้ย ถึงทำกับผมแบบนี้ ผมก็คุยกับเขาว่าจบกันดีๆ มั้ย ทำไมเขาไม่คุยกับเราดีๆ
งั้นคุยกันแบบจบดีๆ ?
นัท : ถ้าเธอบอกว่าอยู่กับพี่ไม่ได้ ก็อยากให้จบกับพี่ดีๆ
บีม : หนูก็จบดีๆ ไงพี่นัท หนูขอโทษพี่แล้ว อะไรก็แล้ว แต่พี่บอกว่าถ้าจบดีแล้วเงินสินสอดล่ะ
นัท : พี่ไม่ได้ถามเรื่องเงินสินสอดเลย เธอพิมพ์ว่าจะคืนเงินสินสอด แล้วด้วยทะเลาะกันตอนนั้น มีพี่เธอโทรมา
บีม : พี่หนูโทรไป เขาหมายถึงว่าเรื่องอะไรกัน เพราะหนูบอกว่าพี่นัท คุยกับหนูไม่รู้เรื่องเลย แล้วพี่นัท มาอ้างว่าพี่ทำไร่ พอไปไม่ถูกก็บอกว่าทำไร่
นัท : ก็พี่ทำไร่ ที่เธองอน พี่ทำไร่ ยังไม่ได้ตอบอะไรเลย
บีม : ถ้าไม่ตอบแล้วแชตจะขึ้นมาได้ยังไง
นัท : เธอให้พี่ชายเธอโทรมา
บีม : ก็บีมบอกเขาว่าพี่คุยไม่รู้เรื่อง พี่ก็บอกว่าพี่ชายหนูจะขู่ เขาก็เลยบอกว่าเดี๋ยวจะตามสารวัตร กำนัน ไปคุยที่โรงพัก คุยไม่รู้เรื่องแล้ว คุยไม่รู้เรื่องเลย
นัท : ก็พี่เธอบอกว่ามึงกับกูจบไม่สวยแน่
บีม : หึ เขาบอกว่าพี่กับหนูจบไม่สวยแน่ ตั้งแต่ที่งานแล้ว เขาพูดแบบนี้ พี่ต้องเข้าใจอะไรใหม่
แม่ละไม : เขาบอกว่างานนี้นัท กับบีมจบกันไม่สวยหรอก
ตอนนี้ไม่ต้องพูดเรื่องเก่า เรื่องวันนี้เอาให้จบ เลิกมั้ย ชัดๆ แค่นี้?
บีม : เลิกค่ะ (ร้องไห้)
นัท : ถ้าเขาไม่อยากอยู่ ผมก็ต้องเลิก
เอ็งดูเป็นมั้ย เวลาผู้หญิงเขาพูดเลิกกับเอ็งแล้วร้องไห้ เป็นผู้หญิงแบบไหน?
นัท : ตั้งแต่คบกันมา เขาไม่เคยบอกเลิกผมด้วยน้ำตาแบบนี้ ที่ผ่านมาเราทะเลาะกัน เขาบอกเลิกแล้วหายไป
บีม : แล้วกูเลิกมั้ย ไปจากได้มั้ย ไปพ้นมั้ย ถ้าไปพ้นไม่ไปตั้งตี่ 3 เดือนแรกเลยเหรอ
นัท : เธอฟังก่อน ที่ผ่านมาเธอไม่เคยร้องแบบนี้ รู้ว่าเพราะรัก แล้วพี่รักเธอมั้ย พี่ไปแต่งเธอแบบนี้
แล้วจะเอาไงกับเขา?
แม่เดือน : เขาถามว่ามึงจะเลิกมั้ย
นัท : ผมไม่อยากเลิกเลย แต่ในเมื่อครอบครัวเขาบอกว่าเป็นแบบนี้ มันอยู่ด้วยกันไม่ได้
ไอ้นัท มึงนี่หัวขี้เลื่อยจริงๆ ขอด่าหน่อย?
แม่ละไม : แม่โกรธแล้วนัท เคยยกมือไหว้ แม่ไม่ติดใจอะไรเลยนะ ถามลูกได้ ไม่เคยติดใจโกรธอะไร พอนัท มาขอโทษแม่ก็สงสารนะ
โบว์ : พี่เป็นคนบอกให้บีมบอกนัท ว่ามาขอโทษแม่ซะ เพราะวันงานนัท ก็ว่าแม่พี่ไปเต็มๆ เหมือนกัน
บีม : หนูบอกพี่ไม่รู้กี่รอบ แต่พี่บอกว่าหนูเข้าข้างแม่ตลอด
นัท : พี่เครียดเพราะอะไรเธอก็รู้ พี่ยืนคนเดียว
แม่เดือน : สรุปเลยลูก ในเมื่อไปไม่ได้ ก็อย่ายาว
นัท : ถ้าผมไม่รัก ผมก็ไม่แต่งกับเขา
ตกลงจะเลิกหรือไม่เลิก จะง้อไม่ง้อ จะเอาพานพุ่มไปไหว้กราบหรือยังไง?
แม่ละไม : เป็นแบบนี้คงไปกันไม่ได้แล้วล่ะ
แม่เดือน : ตัดสินใจให้เด็ดขาด
ถ้าเขากลับไปคบ แม่รับได้มั้ย?
แม่เดือน : ก็เหมือนแม่เขาพูด มันน่าจะไปกันไม่ได้ แม่ก็รับไม่ได้ ถ้าเขาจะรักกันก็ไปอยู่กันสองคน ให้ไปสร้างเนื้อสร้างตัวกันเลย ถ้าเขารักของเขา ก็ไปทำงานอยู่ด้วยกัน
บีมเลิกทั้งน้ำตา ถามจริงใจอยากเลิกมั้ย?
บีม : หนูก็รักนะพี่ แต่เลิกดีกว่า ให้เขาอยู่กับแม่เขา ดีแล้ว
เงินเอาคืนมั้ย?
นัท : ไม่แล้วครับ
ทองล่ะ?
นัท : ไม่ครับ
โบว์ : คุยกับแม่ดีๆ นะ
แม่เดือน : ต่างคนต่างเสีย น้องเขาก็เจ็บแทนพี่ชาย อยากยุติกัน
โบว์ : คำด่าหนูเอาคืนได้มั้ย แม่ต้องคิดสิ วิธีอะไรจะทำให้หนูลบ
แม่เดือน : มันผิดพลาดกันทั้งหมด ทางนี้ก็น้อง
โบว์ : หนูก็พี่มันไง คนไม่ได้ไปด่าน้องเขา แต่คนด่าบ้านหนู ด่าพ่อแม่หนู
บีม : ในเมื่อนัท กล้าโพสต์ด่า ก็ต้องกล้าขอโทษนะ จะขอโทษแค่สองคนไม่ได้ ต้องให้คนอื่นได้รับรู้ นัท ต้องไปคิดมาว่าจะยังไง
ถ้าเขาโพสต์ขอโทษ โอเคมั้ย?
โบว์ : ง่ายมาก ให้เขาไปคิด อะไรที่จะดูดีกว่านี้
ไม่กลับแล้วนะ?
นัท : ถ้าเขาไม่กลับ เราก็ทำอะไรเขาไม่ได้ เราทำใจยอมรับตั้งแต่เขาบอกว่าเขาไม่อยากจะอยู่แล้ว
โบว์ : ถ้านัท ไมโพสต์อะไร เราแยกกันแค่สองสามวันให้ใจเย็นๆ เราสามารถกลับมาอยู่กันได้เลย แต่ที่นัท โพสต์ไป นัท ฆ่าตัวเองชัดๆ
นัท : แต่ที่เราคุยกันบนโรงพักน่าจะจบตั้งแต่วันนั้นแล้ว
ตกลงคือเลิก ไม่กลับไปนะถ้ากลับไปคบกันไม่ต้องประกาศ เพราะพี่จะกินอาหารหมาอีก เอ็งไม่เอาเงิน ไม่เอาทองคืน จากนี้จะตามง้อมั้ย?
นัท : มีทางเป็นไปได้ด้วยเหรอครับ
ถ้าเขาจะกลับไป แม่จะว่าไง?
แม่เดือน : ก็ให้เขาไปใช้ชีวิตด้วยกันไป
คิดว่าเรื่องทั้งหมดเกิดขึ้นเพราะแม่มั้ย?
แม่เดือน : ไม่ใช่ เหมือนผู้หญิงเขาแข็งเกินไป แต่ถ้าจบแบบนี้ก็ให้จบแบบนี้แหลิ