xs
xsm
sm
md
lg

“หนุ่ม คงกระพัน” เผยเป็นเพื่อนคนเดียวที่ “เมฆ” ไม่มาหา! ขออย่าดรามาใส่ “อ.ไพศาล” รักษาไม่หาย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ยังคงทำหน้าที่เพื่อนสนิทที่ดูแลกันจนวินาทีสุดท้าย สำหรับ “หนุ่ม คงกระพัน แสงสุริยะ” ที่วันนี้ (25 มี.ค.) ได้มาทำหน้าที่เป็นผู้อ่านประวัติ ในงานฌาปนกิจของ “เมฆ วินัย ไกรบุตร” ที่วัดศิริพงษ์ธรรมนิมิต โดยงานนี้เจ้าตัวได้เปิดใจ ว่าจากนี้ก็จะดูแลครอบครัวของเพื่อนรัก ให้เหมือนเป็นคนในครอบครัวแบบที่ผ่านมา และรู้สึกสบายใจมาก ที่ได้ยินว่าเมฆไปหาเพื่อนๆ แบบผิวพรรณดี หล่อเหลา อยากให้จบดรามาเรื่องวิธีการรักษาได้แล้ว หลังถูกหลายคนต่อว่า ว่าไม่ยอมเชื่อวิธีที่แนะนำ เลยต้องสูญเสียแบบนี้ ส่วนคอนเสิร์ตที่จะจัดขึ้นในวันพรุ่งนี้ (26 มี.ค.) ที่โรงเบียร์เยอรมันตะวันแดง มีศิลปินติดต่อเข้ามาเยอะมาก จนคิดว่าอาจจะขึ้นร้องได้ไม่หมด

“วันนี้ส่งเพื่อนเป็นครั้งสุดท้าย และรับหน้าที่เป็นคนอ่านประวัติ ก็เตรียมตัวมาตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว จะพยายามทำหน้าที่ให้ดีที่สุดครับ แต่มันผ่านเวลาหลายวันแล้ว เชื่อว่าทั้งครอบครัวและทุกๆ คน คงเริ่มทำใจได้แล้ว แม้แต่ตัวเราเอง ก็รู้สึกผ่อนคลายและคิดว่าพี่เมฆทำดีที่แล้ว ไม่ต้องห่วงอะไร 

พอมีข่าวออกไปว่าทุกคนก็จะช่วยผลักดันลูกพี่เมฆ เราก็ดีใจกับครอบครัวเขา ส่วนของเราก็ไม่ต้องพูดอยู่แล้วล่ะ มันก็ดูแลกันไปเหมือนครอบครัวอยู่แล้ว วันนี้ก็เป็นวันที่มาส่งเป็นครั้งสุดท้าย ก็พูดกันในครอบครัว ว่าหลังจากพรุ่งนี้ไป ที่บ้านก็คงจะเงียบเหงาเล็กน้อย ก็โชคดีที่บ้านเขามีพี่น้องเยอะ ถ้ามองในแง่บวกเอ๋ก็จะเหนื่อยน้อยลง เพราะคนป่วยไม่อยู่แล้ว ทุกๆ วันเขาต้องดูแลและทำหน้าที่แม่ด้วย ทำงานด้วย รับส่งลูกด้วย พอคนป่วยไม่อยู่ ภาระหนักๆ อย่างหนึ่งมันก็หายไป เหลือแต่ทำงานกับดูแลลูกๆ ให้ดี ก็ให้กำลังใจเขาตลอด ต้องทำหน้าที่เป็นหัวหน้าแล้วตอนนี้ เอ๋เขาก็เป็นคนเข้มแข็งอยู่แล้ว”

อัปเดตคอนเสิร์ตเพื่อ “เมฆ วินัย” วันพรุ่งนี้ มีศิลปินติดต่อมาเพิ่มเยอะมาก จนเกรงใจว่าจะขึ้นได้ไม่หมด
“จริงๆ ก็มีนะ แต่เราก็ไม่กล้ารับปากว่าจะได้ขึ้นหรือเปล่า ที่เห็นในโปสเตอร์เยอะมาก จนตอนนี้เราให้ศิลปินขึ้นคนละ 2 เพลง ซึ่งตอนนี้ก็จะร้อยเอา ทุกคนพอได้ข่าวพี่เมฆ เขาก็อยากจะมาร่วมงาน พอมาแล้วจะไม่ให้เขาขึ้นเราก็เกรงใจ แต่ก็กลัวจะไม่มีพื้นที่ กลายเป็นว่าคนที่เขาตอบรับมาก่อนจะลำบาก เพราะต้องมารอหรือเลทเวลาเขา เราก็กังวลเรื่องนี้ เลยยังไม่กล้าใส่อะไรเข้าไปเพิ่มเติม อะไรจะเกิดขึ้นเดี๋ยวเราดูหน้างาน ศิลปินมาที่ทุกคนมาด้วยใจ ไม่มีค่าตัว เพราะฉะนั้นทุกคนมีงาน เราก็ต้องรีบจัดคิว รวมๆ แล้วก็ประมาณ 40 ชีวิตบวกลบ โต๊ะตอนนี้เต็มหมดแล้ว เพราะเรามีจำนวนจำกัดจริงๆ เพราะทางโรงเบียร์เขากำหนดมา แต่จริงๆ ปริมาณของคนที่โรงเบียร์ ก็เข้าได้อยู่แล้ว มาหน้างานก็จ่าย 300 บาทแล้วเข้ามาดูได้เลย”

เล่าโดนต่อว่าเยอะหลัง “เมฆ” เสียชีวิต บอกไม่ยอมเชื่อวิธีรักษาที่แนะนำให้ ยืนยันทุกคนทำเต็มที่แล้ว
“จริงๆ ทุกคนทำเต็มที่ให้พี่เมฆ แม้แต่ตัวเราเองหรืออาจารย์ไพศาล แสนไชย ท่านก็พยายามที่จะทำให้เต็มที่ตามกำลังความสามารถของท่านแล้ว แล้วเงินทองท่านก็ไม่ได้เรียกร้องอะไร เขาช่วยคนแบบนี้มา 40 ปีแล้ว เราก็พยายามบอกคนดูทุกครั้ง ว่าเราทดลองไปด้วยกันนะ เรียนรู้ไปด้วยกัน เราก็ไม่มีความรู้พอจะบอกได้ว่าชีวิตมนุษย์ การเวียนว่ายตายเกิดเป็นยังไง คนเราชาตินี้ชาติที่แล้วเป็นยังไง เราไม่มีความรู้พอที่จะบอกได้ ก็อยากให้คนดูเรียนรู้ไปด้วยกัน ตอนนี้หายหรือเปล่าไม่รู้ แต่อย่างน้อยมันสร้างกำลังใจ การไปขออโหสิกรรม ทำบุญไหว้พระ มันเป็นอะไรที่ดีอยู่แล้ว เงินทองก็ไม่ต้องเสีย ไม่ต้องกินยาเหมือนทุกครั้งที่พี่เมฆจะลองการรักษาใหม่ๆ ที่ไม่ใช่ทางวิทยาศาสตร์ แต่ทางวิทยาศาสตร์เราก็ทำควบคู่ตลอด

ก่อนหน้านี้ที่เขาทดลองอะไรที่มันอาจจะไม่ใช่ทางคุณหมอ ก็จะต้องเป็นเรื่องของการกิน การฉีด การทา วุ่นวายไปหมด แต่อันนี้มันไม่มีอย่างนั้น เราก็มองว่ามันเป็นอะไรที่ปลอดภัย และเสริมสร้างกำลังใจ ทุกคนก็ทำหน้าที่เต็มที่แล้ว ก็ยังดีใจว่ากลับมาเขาก็รู้ดีอยู่แป๊บหนึ่งนะ ไปวิ่งกลางแดด เราก็ดีใจ แต่พอหลังจากนั้นไม่นาน ไม่กี่อาทิตย์แกก็ทรุดด้วยอาการอะไรก็ไม่ทราบ ก็กะทันหันเหลือเกิน เราก็ทำใจไม่ได้เหมือนกัน เพราะทุกคนก็ทำหน้าที่ดีที่สุดแล้ว อย่าไปดรามาอะไรกันเลย ทุกคนพยายามทำให้พี่เมฆด้วยใจทุกฝ่าย

แม้แต่ที่ผ่านมาที่ส่งความช่วยเหลือเยอะมาก บางทีเราไม่ปฏิเสธ ไม่ตอบรับ ก็โกรธว่าใหญ่เลย ด่าว่าก็มี ไม่เชื่อผมพี่เมฆตาย ไม่มีใครอยากให้เขาตายหรอก อยากให้เขาหาย อยู่ที่เคารพการตัดสินใจของผู้ป่วยว่าเขาจะเลือกแบบไหน เขาทดลองมาแล้ว เขาเคยพลาดเห่อขึ้นเกือบตายมาหลายรอบ เพราะฉะนั้นเป็นเรื่องปกติที่เขากลัวจะเอาอะไรเข้าไปในร่างกาย เขาก็มีสิทธิที่จะเลือกวิถีของเขา สุดท้ายแล้วมันเป็นเรื่องของโรคที่รักษาไม่หาย เราก็ไม่รู้จะทำยังไง

พี่เมฆอาการเหมือนรถไฟเหาะ เดี๋ยวดี เดี๋ยวไม่ดี วนอยู่แบบนี้หลายครั้ง เราก็ได้ย้อนไปดูภาพเก่าๆ ก็มีช่วงนี้ดีเหมือนจะหาย แป๊บเดียวก็กลับไปหนัก แต่ก่อนที่เขาจะเสียตุ่มก็เหมือนจะหายแล้วนะ โรคที่เขาเป็นอยู่ลดยาแล้วตุ่มก็ไม่ขึ้น ปกติถ้าลดยามันจะระเบิดออกมาเลย หลังๆ ตุ่มแทบไม่ขึ้นเลย ยาก็ทานน้อยมาก เขามาความดันตกแล้วก็ขาดเลือด ไม่แน่ใจว่าเสียชีวิตด้วยการติดเชื้อในกระแสเลือดหรือเปล่า

ถ้าได้ยินจากคุณเอ๋เล่า เขาลูบขาจนไม่เหลือผิวหนังเลย ซึ่งพอเขากินสเตียรอยด์มาหลายปีผิวเขาบางมาก พอเขาถูกแรงๆ จนมันลอกไปหมดก็เลยยาก ทรุดฮวบเลย ขาดเกลือแร่ ขาดเลือด แล้วหัวใจก็หยุดเต้นในที่สุด ทุกคนพยายามเต็มที่แล้ว วันนี้เราก็มาส่งเขาเป็นครั้งสุดท้าย เราก็ได้เห็นแล้วว่าคนรักเขามากแค่ไหน คนที่ไม่ได้เป็นครอบครัว ไม่ได้เป็นเพื่อนสนิท แต่ก็ส่งความช่วยเหลือผ่านผมมาเยอะ น่าชื่นใจแทนเขามาก วินัย ไกรบุตร เป็นคนที่คนรัก ชื่อเสียงดีทำงานใครก็ชื่นชม วินัยสมชื่อจริงๆ”

ได้คุยกับ “อ.ไพศาล แสนไชย” ก่อน “เมฆ” เสียไม่กี่นาที อีกฝ่ายแนะให้รีบไปทำบุญ
มีโทร.ไปคุยก่อนพี่เมฆเสียไม่กี่นาที เขาบอกว่าเหมือนจะหมดบุญ ให้รีบทำเท่าที่ทำได้ ปล่อยปลา ทำบุญแล้วนึกถึงเขา น้องสาวเขาก็ไปจัดการ หลังจากพี่เมฆเสียก็ยังไม่ได้โทร.ไป ก็เห็นที่นักข่าวไปสัมภาษณ์ หลังๆ แกจะปิดมือถือส่วนตัว คนไปหาแกเยอะ ก็ติดต่อแกไม่ได้ ต้องติดต่อผ่านเลขาฯ ผู้ช่วย”

รู้สึกดีที่ “เมฆ” ไปหาเพื่อนๆ หลายคน แบบผิวพรรณดี หล่อเหลา
“ก็รู้สึกดีว่าเขาไปสบาย อย่างน้อยเขาก็สบายกว่าอยู่ แล้วพี่เขาพูดกับ อ.ไพศาลว่ารู้อย่างนี้มาตั้งนานแล้ว ของผมเขาไม่มีมาหา เขาไปหาทุกคนเท่าที่ฟังข่าว เขารู้ว่าผมเป็นคนกลัวผี เขาไม่มาๆ ผมก็พยายามนั่งมองนะเวลากลางคืน คนกลับไปหมดแล้ว มองหลังโลงบ้างอะไรบ้าง แต่เราก็รู้สึกได้ด้วยใจอยู่แล้วว่าเป็นห่วงกัน อยากให้เขาไปสบายที่สุด ไปดีแบบไม่ต้องห่วง ตามความเชื่อของเราคนพุทธความเป็นห่วงที่สุดคือลูก ลูกเขาก็ยังเล็ก เราพยายามบอกกับเขาเสมอหลังจากที่เขาเสียไปหลายวัน พูดทุกวันคำเดิมไม่ต้องเป็นห่วงนะ ทำดีที่สุดแล้ว ไปให้สบาย หลับให้สบาย ไม่ต้องกังวลทางนี้ เรื่องต้องนี้จบไปแล้ว แก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว เปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้แล้ว เราเองก็ต้องสติ ทำงานไป”













กำลังโหลดความคิดเห็น