“แอน จักรพงษ์” ควงทนายโต้เดือด “ทีซีจี” ฟ้องกลับจุกๆ 4 คดี แฉไม่จ่ายเงินสักบาท แต่แอบอ้างนำเครื่องหมายการค้าไปทำเหรียญจักรวาล แอบอ้างเอกสารแค่ 2 หน้า ทั้งที่ไม่มีผลผูกพันตามกฎหมาย พูดเอามันส์ฟ้องเจเคเอ็นพันล้าน ไหนเงินวางศาล? จวกไร้สาระหาขโมยของราคา 4 หมื่นไปขาย ทั้งที่ให้บริษัทในเครือยืม 50 ล้าน ลั่นเจอกันแน่ ดิฉันจะจัดการเอง!
หลังจากที่มีการรายงานข่าวสะพัดโลกออนไลน์ ระบุว่า “แอน จักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บมจ. เจเคเอ็น โกลบอล กรุ๊ป (JKN) เตรียมถูกออกหมายจับ กรณีที่ บริษัท ทีซีจี โซเชียลมีเดีย จำกัด ยื่นหลักฐาน แจ้งความฟ้องดำเนินคดียักยอกทรัพย์ที่สถานีตำรวจภูธร กบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี โดยตร.ได้ออกหมายเรียกไปแล้ว 2 ครั้ง แต่ไม่มาตามนัด
ล่าสุดวันนี้ (23 มี.ค.) แอน จักรพงษ์ ควงทนาย แถลงฟ้องกลับ 4 คดีจุกๆ ประกาศลั่นเจอกันแน่ ไม่ปล่อยคนแบบนี้เอาไว้ในสังคม งงโกรธที่ตัวเองทำผิดแล้วมาพูดเอามันส์จะฟ้องเจเคเอ็นพันล้าน ถามผ่านมาแล้ว 6 เดือนไหนเงินวางศาล?
แอน : “วันนี้มาให้ข้อมูล ข้อเท็จจริง หลายคนถูกกลั่นแกล้ง หลายๆ คนถูกระบบการถูกกล่าวหาก่อนไปไต่สวนเป็นอย่างไร ท้ายที่สุดควรได้ข้อคิด ในสังคมควรมีจุดยืนอย่างไร สังคม สื่อมวลชน ประชาชนทุกท่าน ควรบริโภคข่าวสารอย่างไร กลั่นกรองอย่างไรก่อนเขียนและเผยแพร่กัน
วันนี้แปลกใจ ทำไมต้องมานั่งแถลงกันตรงนี้ มีแต่พวกเราที่ต้องไปสถานีตำรวจไปแจ้งความเขา ตลอดจนไปศาลอาญา เพื่อเอาโทษเอาผิดเขา เพราะฝั่งเรามีแต่ได้รับผลกระทบ จากการถูกละเมิดทุกสิ่งทุกอย่าง”
ทนาย : “ที่มาที่ไป เดิมทีเจเคเอ็นลงทุนในโรงงานน้ำดื่มบริษัท เอ็มเอ็น เบฟเวอเรจ ถือสัดส่วนร้อยละ 60 รวมของเดิมถือร่วมด้วย 40 เปอร็เซ็นต์ ตอนหลังกลางปี 66 เจ้าของเดิมถอนตัว นำหุ้น 40 เปอร์เซ็นต์ไปขายให้ทีซีจี หลังขายไปแล้ว เจ้าของเดิมติดต่อมาทางเจเคเอ็นว่าทีซีจีมีความประสงค์จะขอเข้ามาพบผู้บริหารของเจเคเอ็น มีการอ้างว่าเหตุในการเข้ามาซื้อหุ้น 40 เปอร์เซ็นต์นี้ เพราะเห็นว่าเจเคเอ็นถือหุ้นอยู่”
แอน : “เขาถือหุ้น 40 เปอร์เซ็นต์โดยซื้อจากพาร์ตเนอร์เดิมของเรา เราไม่รู้จักเขามาก่อน พอเขาซื้อเสร็จเรียบร้อย มีการโทรศัพท์มาแนะนำตัวเอง และขอพบแอน วัตถุประสงค์หลักที่ซื้อ 40 เปอร์เซ็นต์ เพราะต้องการเจอตัวแอน ก็ให้เกียรติกัน เป็นพาร์ตเนอร์ก็มาเจอกัน พอเจอกันเขาก็เสนอก่อนเลยว่า MU Coin เราถามว่ามันคืออะไร เขาบอกว่ามันคือเหรียญจักรวาล
เราฟังแล้วไม่ค่อยเข้าใจ ก็ทำ MOU ศึกษาร่วมกัน เรียนรู้ร่วมกันหน่อยว่ามันคืออะไร แต่มันไม่ใช่สัญญา หลายคนไม่เคยได้เห็น จะโชว์ที่แรก การทำ Due Diligence ต้องเข้าไปศึกษาทั้งตัวคุณให้หมดก่อนเรียบร้อยว่าคุณเป็นใคร หลักการที่มาและเหตุผลในการทำเหรียญ มีความลึกซึ้งแค่ไหนจะขายอย่างไรทำอย่างไร สองชัดเจน มันไม่ใช่สัญญา ไม่ได้ผูกพัน ผูกมัดอะไรกันเลย
ข้อสาม ฝั่งเขาผิดเต็มๆ คือการรักษาความลับ เป็นแค่เพียงการศึกษากันนะ อย่าเปิดเผยนะ อย่าไปทำอะไรนะ เรารักษากฎระเบียบเรื่องข้อมูลซึ่งกันและกัน อย่าเพิ่งแพร่งพรายให้ประชาชนได้รับทราบสุดท้ายคือทั้งสองฝั่งไมได้ถือว่าเอกสารแค่สองใบนี้เป็นการทำธุรกิจ
สรุปพูดง่ายๆ เราไม่ได้ทำธุรกิจกัน คุณเดินเข้ามาแล้วบอกว่าสวัสดีค่ะ ไม่รู้จักกันมาก่อนขออนุญาตเซ็นก่อนนะ เอกสารสองใบนี้ อยากทำเหรียญจักรวาล ก็เซ็นลงไปเลย เขียนลงไปว่าต้องการอะไรบ้าง ต้องใช้เวลาศึกษากันอย่างไร แต่นี่ไม่มีผลทางกฎหมาย ไม่ใช่สัญญานะ เก็บรักษาเป็นความลับนะ พอพร้อมแล้วค่อยประกาศ ถ้าพี่อยากทำกับคุณ สุดท้ายเขียนว่าไม่ได้ผูกพันกันนะ ไม่ได้ทำสัญญานะ มีแค่เท่านี้
เขาเอาใบเท่านี้ไปใช้งานเลยทันที อยากถามว่ามีที่ไหนบนโลก จ่ายเงินสักบาทหรือยังคะ มีลายเซ็นหรือยังในเรื่องของการทำสัญญา ใครเป็นคนเซ็นสัญญากับคุณคะ และในนี้เขียนชัดเจนว่าเราเป็นบริษัทมหาชนทั้งที่นิวยอร์กและที่นี่ ต้องมีบอร์ดในการอนุมัติก่อน เอาที่ไหนมาคุยว่านี่คือสัญญา แล้วเดินทางไปฟิลิปปินส์ ไปเปิดตัวเรียบร้อย ดิฉันตกใจ ส่งหนังสือออกทั่วโลกเลยว่าไม่จริง นี่คือการเอาเอกสารสัญญาของเราสองหน้ากระดาษ ไปใช้งานฟรีๆ
คนเรามีที่ไหน ไม่มีการจ่ายสักบาท เอาเครื่องหมายการค้าของเขาไปทำเหรียญจักรวาล แล้วบอกว่านี่คือโครงการอย่างนั้นอย่างนี้ ไปเข้าฟิลิปปินส์เพราะแฟนคลับนางงามเยอะไงจุดเริ่มต้นคือฟิลิปปินส์ แล้วค่อยไปทั่วโลกหลังจากนั้น
ที่สัมภาษณ์ล่าสุดบอกไปลงทุนเรียบร้อย เปิดบูธขายโน่นนี่ นี่คือ intention หรือการตั้งใจใช้ของฟรีคนอื่นโดยไม่ได้จ่ายเงิน การเอาเอกสารไปแอบอ้างว่านี่คือสัญญาโดยตัวเองมีเครื่องหมายการค้า มีลิขสิทธิ์ มีสิทธิในการทำการค้าเรียบร้อย ทั้งที่สองใบนี้เป็นแค่เพียงการเซ็นว่าฉันรู้จักเธอ เธอรู้จักฉัน การเข้ามาซื้อ 40 เปอร์เซ็นต์ ยังคิดได้เลยว่าเข้ามาเพื่อโรงงานเครื่องดื่มจริงๆ หรือ หรือเข้ามาต้องการเจอแอน แล้วทำยังไงก็ได้ เพื่อให้ได้ใบอะไรมาก็ได้ แล้วมีลายเซ็นของเราให้เร็วที่สุด เพื่อเอาเอกสารที่ไม่ใช่สัญญา ไม่มีการจ่ายชำระเงินอะไรกันเลย ไม่มีข้อตกลงอะไรกันเลย ไปใช้งานอย่างฟรีๆ พูดง่ายๆ ว่าแอบอ้างนำไปใช้ ทั้งที่ไม่มีสิทธิ์เลย”
ทนาย : “ตัวเอกสารที่ถืออยู่ฉบับนี้ เป็นตัวฉบับคำแปล บันทึกความเข้าใจ ซึ่งเอกสารฉบับนี้มันถูกแปลโดยทีซีจี ใช้นำส่งศาล ถ้าสังเกตหน้าที่สอง ระบุชัดเจนว่า MU Coin ต้องได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการขององค์กรนางงามจักรวาล และคณะกรรมการของเจเคเอ็นทั้งสิ้น ส่วนความไม่มีผลผูกมัดให้ระบุว่าบันทึกฉบับนี้ไม่มีผลผูกพันทางกฎหมายใดๆ จนกว่าจะได้ทำสัญญากัน เรื่องการรักษาความลับก็ระบุชัดเจนว่าเอกสารฉบับนี้ห้ามมิให้บุคคลภายนอกใดๆ ก็ตามทราบ และห้ามมิให้มีการเผยแพร่ออกข่าวประชาสัมพันธ์จนกว่าจะได้รับความยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษรจากฝ่ายหนึ่งก่อน ปราศจากซึ่งความสัมพันธ์ในรูปแบบกิจการร่วมค้า ก็ระบุชัดเจนว่าเจเคเอ็นกับทีซีจีไม่มีผลเป็นหุ้นส่วนกันในการดำเนินโครงการนี้”
ชี้ฟ้องเจเคเอ็นแก้ขวย ทั้งที่แอบอ้างใช้เอกสาร ไม่ตรงไปตรงมา โกรธทั้งที่ไม่ได้สำนึกว่าตัวเองทำผิด ก่อนอัดฟ้องพันล้าน วางเงินศาลหรือยังคะ?
แอน : “แปลโดยทีซีจี คือแปลโดยเขา เขาเป็นคนแปลเอง ก็อยากถามว่าเวลาแปล มันไม่ใช่สัญญา แล้วคุณไปฟ้องอะไร ล่าสุดการที่เขาบอกว่าไปฟ้อง มันคือการแก้ขวย เพราะเราส่งออกไปทั่วโลกว่าไม่ใช่เหรียญจักรวาลของมิสยูนิเวิร์ส ออแกไนเซชั่น ถูกแอบอ้าง ในการใช้เอกสาร 2 ใบ และนำไปใช้ฟรี พฤติกรรมแบบนี้ไม่ต้องใช้ภาษาไทยชัดๆ แต่มันหมายถึงอะไรกันคะ มันไม่ใช่ความตรงไปตรงมา มันมาด้วยคำว่ากลยุทธ์ในการที่จะเอาของฟรีไปใช้งาน พอใช้งานไม่ได้เพราะดิฉันกับทีมงานแจ้งความทั่วโลกเลยว่ามันเป็นไปไม่ได้ นี่ไม่ใช่เหรียญจักรวาลของเรา เราไม่ได้อนุมัติ
ความโกรธเกิดขึ้นสิ เพราะตัวเองลงทุนไปนี่ ไม่รู้ได้เงินจากใครมาหรือเปล่า อาจต้องมีผลกระทบคืนเงินนายทุนหรือเปล่า เลยกลายเป็นว่าโกรธ แต่ความโกรธที่ไม่ได้มีจิตสำนึกว่าตัวเองทำผิดกับเขา ฟ้องเขา ปัจจุบันบอกฟ้องเรา 1 พันล้าน เงินวางที่ศาลหรือยังคะ”
ทนาย : “เคสนี้ฟ้องคดีแพ่ง เกี่ยวเนื่องคดีอาญา แต่ทีซีจีเรียกค่าเสียหายกับเจเคเอ็นในมูลค่า 1 พันล้านบาท ต่อมาศาลมีคำสั่งให้ทีซีจีวางเงินค่าขึ้นศาล จนถึงปัจจุบัน ณ วันนี้ ทีซีจียังไม่ได้วางเงินค่าขึ้นศาลเลย เท่ากับว่าศาลยังไม่ได้รับฟ้องในส่วนแพ่ง”
แอน : “พูดง่ายๆ ว่าเป็นสงครามทางสื่อ อย่าตกเป็นเหยื่อนะคะ ไม่ว่าจะประชาชน สังคม หรือสื่อมวลชน คุณต้องเสนอเหรียญสองด้าน และต้องเกิดการไต่สวนก่อน นี่ยังไม่ได้เกิดการไต่สวนเลยเพราะอะไรรู้ไหม เขาพูดเอามันส์ไง ฟ้องพันล้าน โทษที ยังไม่ได้วางเงินกับศาลตั้งแต่พ.ย.ปีที่แล้ว จนถึงตอนนี้ 6 เดือนแล้ว แล้วไหนคือการฟ้อง มีแต่ดิฉันกับทีมงาน ทนาย ต้องไปอยู่สถานีตำรวจกับศาลอาญาเพื่อฟ้องเขา ให้มีความรู้สึกว่าสิ้นซากในการทำงานจะได้รู้สึกสำนึกว่าคุณเสียหายเพราะตัวคุณเอง คุณกระทำการไม่สุจริต ไม่ประสบความสำเร็จกับความไม่สุจริตของคุณ แล้วคุณจะมาโกรธเขาด้วยเรื่อง? หาเรื่องมันเลย แต่เงินก็ไม่ได้วางศาล เอาแต่พูดๆๆ บนหน้าจอ
พูดแบบนี้ไม่ได้หมายความว่าท้าทายกัน โกรธแล้วต้องเอาให้ตายกันไปข้างนึง แต่เมื่อถูกกลั่นแกล้งก็ต้องออกมาปกป้องตัวเอง เพราะเราเป็นคนค้าขาย เราไม่ใช่ค้าความ พอเราเห็นงานถูกละเมิดมาตั้งแต่ปีที่แล้ว เราก็ออกมาพูดแล้ว เราบอกไปทางสื่อแล้ว ด้วยจิตคิดว่าเวลาพูดไปแล้ว ความรู้ความเข้าใจแบบนี้น่าจะ simple น่าจะเข้ามาคุยที่บริษัทแล้วจบไป เพราะเรามีงานเยอะแยะที่ต้องทำ”
ฟ้องกลับ 4 คดี อาญาทั้งนั้น นอนเซ้นส์ให้บริษัท เอ็มเอ็น เบฟเวอเรจ ยืมเงิน 50 ล้าน แล้วจะขโมยของ ราคา 44,000 บาท ไปขาย ไร้สาระที่สุด
ทนาย : “ทีซีจีร้องทุกข์กล่าวโทษคุณแอน จักรพงษ์และกรรมการอีก 4 ท่าน เอ็มเอ็น เบฟเวอเรจ ข้อหาร่วมกันยักยอกทรัพย์ จากการสอบถามพนักงานสอบสวนเบื้องต้น ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า มันมีทรัพย์สินที่เขาอ้างว่าเรายักยอก ได้แก่เครื่องสแตนเลท ชั้นวางรองเท้า ทรัพย์สินอื่นๆ มีมูลค่าความเสียหายอยู่ที่ 44,000 บาท”
แอน : “แต่บริษัท เอ็มเอ็นบี เป็นบริษัทในเครือเขาและเราทั้งคู่ ทางเจเคเอ็นให้บริษัทนี้ยืมเท่าไหร่ เขาไม่เคยออกสักบาท เราให้เขายืมไปแล้วกว่า 50 ล้านบาท ใช้แต่เงินเราในการลงทุน หวังใจว่ามันจะเติบโต คุณคิดว่าดิฉันหรือบริษัทเจเคเอ็นมหาชน ให้เงินเขายืม 50 ล้านบาท คิดว่ากรรมการผู้ทรงคุณวุฒิทั้ง 5 คนจะไปขโมยตะกร้ามูลค่า 44,000 ไปขายที่ตลาดนัดหรือเปล่าคะ เป็นเรื่องที่ไร้สาระ
เป็นเรื่องที่ฟังแล้วนอนเซ้นส์ สังคมปล่อยให้มีบุคคลอย่างนี้ไปฟ้องหรือกระทำการหรือป่าวประกาศพูดในเชิงเท็จแบบนี้ได้อย่างไรคะ ที่สำคัญคือท้องที่ไหนอะไรยังไงก็แล้วแต่ ทั่วประเทศไทย กราบวิงวอนเถอะค่ะเจ้าหน้าที่ สืบสวนได้หมดกับความไม่ยุติธรรม พอไม่พอใจอะไรกันก็ไปฟ้อง ใส่ร้ายป้ายสีมันก่อนเพื่อดิสเครดิต ท้ายที่สุดก็ไปไต่สวนทีหลัง ชื่อเสียงเขาเสียไปแล้ว แต่โทษทีนะคะ เล่นกับดิฉัน ดิฉันไม่ยอม ดิฉันจึงมาวันนี้”
ทนาย : “ที่เขาแจ้งความเป็นความเท็จก็จะเกิดความผิด ที่เราจะแจ้งความกลับคือข้อหาแจ้งความเท็จต่อเจ้าพนักงาน”
แอน : “นั่นคือคดีที่หนึ่งเป็นคดีอาญา จำคุกได้ถึง 3 ปี”
ทนาย : “สอง ในความผิดฐานรู้อยู่แล้วมิได้มีการกระทำความผิดอาญาเกิดขึ้น แต่ยังไปแจ้งพนักงานสอบสวนว่ามีการกระทำความผิดอาญา เพื่อให้ทีมผู้บริหารเจเคเอ็นต้องรับโทษ”
แอน : “นั่นคือข้อที่สอง รับโทษจำคุกอีก 5 ปีค่ะ เข้าคุกอีก 5 ปี”
ทนาย : “ส่วนคดีที่สาม สืบเนื่องจากทีซีจีฟ้องเจเคเอ็นและผู้บริหาร ในความผิดฐานหมิ่นประมาท ครั้งที่ผ่านมา สัปดาห์ที่แล้วศาลได้ไต่สวนมูลฟ้องไป 1 คดี ทีมทนายเราตรวจสอบดูจากคำฟ้อง คำเบิกความ พยานหลักฐานที่ปรากฏในสำนวนแล้ว ดูแล้วมันเป็นความเท็จเพราะเป็นการยืนยันข้อเท็จจริงที่บิดเบือนไปจากตัว MOU ข้อหาที่เราจะดำเนินการกลับคือข้อหาฟ้องเท็จ เบิกความเท็จ แสดงพยานหลักฐานอันเป็นเท็จต่อศาล”
แอน : “ซึ่งเขาสามารถจำคุกได้อีก 3-5 ปี”
ทนาย : “ข้อที่สี่ สืบเนื่องจาก ณ ตอนนั้นเราเห็นกลุ่มบุคคลนำตัวเครื่องหมายขององค์กรนางงามจักรวาลไปใช้ที่ฟิลิปปินส์ ต่อมาทราบภายหลังว่าทีซีจีนี่แหละ การเอาเครื่องหมายการค้าไปใช้ ใน MOU ระบุชัดเจนว่าห้ามนำไปโฆษณา ประชาสัมพันธ์ ดังนั้นการเอาเครื่องหมายการค้าเราไปใช้ลักษณะนี้ จึงเป็นการกระทำความผิดฐานละเมิดเครื่องหมายการค้า เราจะไปฟ้องร้องที่ศาลทรัพย์สินทางปัญญา”
แอน : “ประมาณ 3-4 คดี ล้วนเป็นคดีอาญาหมดเลย ดิฉันนั่งนิ่งมานาน เพราะเราค้าขาย ไม่ได้ค้าความ หมายใจว่าคนเราต้องฟังภาษาคนรู้เรื่อง แต่นี่คือการกลั่นแกล้ง และคิดว่าแอนคงไม่เอาจริงหรอก อาจยุ่ง มีงานเยอะแยะมากมาย แต่ในเมื่อถูกกลั่นแกล้งแบบนี้
วันนี้ไม่ได้ทำเพื่อตัวเอง แต่ทำเพื่อผู้ถือหุ้น ตลอดจนเพื่อประชาชนหลายๆ คนที่อาจเคยถูกกลั่นแกล้งคดีแตกต่างกันไป แต่ถูกกล่าวหาไปก่อนแล้ว วันนี้ดิฉันจะเป็นตัวอย่างให้กับอีกหลายสิบล้านคนได้รู้ว่ากระบวนการยุติธรรมต้องมี ถ้าดิฉันผิดส่วนไหนจะกราบขอโทษ และจะพูดด้วยความสำนึก แต่ที่พูดมาทั้งหมดเลย คืออีกฝั่งนึงเอารัดเอาเปรียบแอบอ้าง เอาสิ่งที่ไม่ใช่เอกสารการทำสัญญาจริงไปทำมาค้าขาย แล้วทำจริง ณ ต่างประเทศ พร้อมทำจริงเพิ่มเติมประเทศอื่น ทวีปอื่น
เราซื้อองค์กรจักรวาลมารวมทั้งค่าใช้จ่ายทุกสิ่งทุกอย่างเป็นพันล้าน อยู่ดีๆ คือคุณเดินเข้ามาแฝงตัว ซื้อ 40 เปอร์เซ็นต์ในเครือเครื่องดื่ม ซึ่งอยู่จังหวัดปราจีนฯ แล้วเดินเข้ามาทำความรู้จักกับเรา เอาแค่เอกสารแค่สองใบ คุณแปลภาษาไทยเองว่ามันไม่ใช่สัญญาในการทำการค้า เงินสักบาทไม่เคยจ่าย เครื่องหมายการค้าเป็นของเราคุณไม่เคยได้รับสิ่งเหล่านี้ไป ทุกสิ่งทุกอย่างคุณพูดเองสรุปเองแล้วแอบอ้างเองหมด ทุกการให้สัมภาษณ์ของคุณทั่วโลกจะเป็นหอกมาทิ่มแทงกลับมาหาคุณ และจะเป็นคดีอาญาที่หนักและหนักขึ้นเรื่อยๆ วันนี้แอนย้ำอีกรอบ จะเป็นตัวอย่างของผู้หญิงคนนึงที่ถูกกลั่นแกล้ง วันนี้ออกมาทนไม่ได้ค่ะ 4 คดีฟ้องไปเลยค่ะ เป็นตัวอย่างว่าถ้าคุณทำไม่ดี คุณอยู่ในสังคมไม่ได้ นี่คือสิ่งที่เราควรต้องทำ
หยุดเถอะค่ะ ประเทศไทย ไม่งั้นเราจะมีที่ยืนกันอย่างไร ดิฉันขึ้นเฟซบุ๊กเมื่อคืนนี้ เรามาให้ข้อคิดว่าระวังตน ระวังบริษัท จะเปิดประตูเวลคัมใครก็แล้วแต่ แบ็กกราวด์เช็กให้ดี เราใจดีเกินไป คนที่มาแล้วบอกว่ามีวัตถุประสงค์ดีอย่างนั้นอย่างนี้ อาจเป็นคนร้ายที่สุด ที่คุณนึกไม่ถึงเลยว่า เขาไม่มีจิตสำนึกเลยในสิ่งที่ทำ คนอย่างนี้ควรปล่อยในสังคมไหมคะ 4 คดีความ คุณเจอดิฉันแน่นอน”