xs
xsm
sm
md
lg

“แม่เมฆ วินัย” ร่ำไห้ มาไม่ทันดูใจลูก! เผยเมฆร้องเพลงให้ฟังครั้งสุดท้าย ขอบคุณสะใภ้ดูแลดีมาตลอด (คลิป)

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“แม่เมฆ วินัย” หลั่งน้ำตา สภาพจิตใจแย่สูญเสียลูกชาย 5 ปีที่ผ่านมาบินไปกลับกระบี่-กรุงเทพฯ บอกลูกชายสู้มาก ตัวเองที่เป็นฝ่ายท้อเอง ครั้งสุดท้ายเมฆยังร้องเพลงให้แม่ฟัง ทั้งที่ก่อนหน้านั้นลิ้นจะคับปาก แต่วันนั้นร้องเพลงชัดและเพราะมาก เผยก่อนกลับเห็นแล้วว่าลูกเหนื่อยมากแล้ว คืนก่อนที่จะได้ข่าวการเสียชีวิตก็นอนไม่หลับ เสียใจมาไม่ทันดูใจ ชม “เอ๋“ ลูกสะใภ้ดูแลทุกอย่างได้ดีมากๆ ลูกสะใภ้แบบนี้หาไม่ได้อีกแล้ว



เป็นความเสียใจอย่างที่สุดสำหรับครอบครัว ไกรบุตร หลังจากที่สูญเสียลูกชายสุดที่รักอย่าง “เมฆ วินัย ไกรบุตร” ไปอย่างไม่มีวันกลับ ซึ่งคุณแม่ ห้าม๊า หมดจด แม่ของเมฆก็ได้เดินทางมาจากจังหวัดกระบี่เพื่อมาร่วมส่งลูกชายเป็นครั้งสุดท้าย และให้สัมภาษณ์เปิดใจทั้งน้ำตาว่าลูกสู้มาถึงที่สุดแล้ว ครั้งสุดท้ายที่เจอกันยังร้องเพลงให้แม่ฟังด้วย

“ทุกอย่างที่เขาทำให้แม่ได้ ทำให้น้องได้ เขาทำทุกอย่าง 5 ปีที่ผ่านมาสู้มาด้วยกันพี่ๆ น้องๆ ลูกสะใภ้สู้มาด้วยกันตลอด แม่ก็เพิ่งกลับไปบ้าน เพราะว่ามาอยู่ด้วยกันที่บ้านเขามา 10 วันแล้ว ก็เพิ่งกลับไปพอรู้ข่าวก็บอกไม่ถูกเหมือนกัน ที่ผ่านมาก็เดินทางไป-กลับอย่างนี้มา 5 ปีแล้ว และหลังๆ ก็มาทุกเดือน

ครั้งสุดท้ายที่ได้คุยกันคือวันที่ 14 มี.ค. ที่ผ่านมา เขาร้องเพลงให้แม่ฟังด้วย เพลง มาแล้วแก้วตา ก็ไม่ได้ฟังเขาร้องเพลงนานมากแล้ว วันนั้นเขาก็ไม่สบายมากแล้วนะ แม่กำลังจะกลับบ้าน อยู่ดีๆ เขาก็ร้องให้แม่ฟัง เสียงเขาก็ยังเพราะเหมือนเดิม ธรรมดาเขาจะพูดลิ้นเต็มปากนะ แต่พอวันนั้นร้องเพลงเสียงชัดเลย เหมือนเขาร้องเพลงครั้งสุดท้าย วันนั้นก็คุยกันไปเรื่อยๆ ก็ให้กำลังใจทุกครั้ง บอกให้เขาสู้ๆ เขาก็บอกว่าจะสู้ค่ะ”

เผย 5 ปีที่ผ่านมายอมรับว่าตัวเองก็ท้อ แต่ลูกชายกลับเป็นฝ่ายบอกว่าให้สู้ไปด้วยกัน
“ตลอด 5 ปี เขาก็ท้อนะ แต่เขาก็จะสู้ เขาจะหายให้ได้ เพื่อลูกเพื่อแม่เพื่อเมีย สิ่งที่ทำให้เขามีกำลังใจก็มีลูกๆ พี่ๆ และเมียเขานั่นแหละ เขาสู้ตลอด กับแม่เขาบอกว่าจะสู้ไปด้วยกัน ถามว่าแม่ท้อบ้างไหม แม่ก็ท้อไม่รู้จะท้อยังไง แต่ก็ต้องสู้ อย่างตอนนี้ก็ยังอยากให้เขาสู้นะ แต่เขาไม่สู้แล้ว ตอนลูกสะใภ้โทร.ไปบอกว่าจะส่งเขาไปรพ.จุฬาฯ แม่ก็บอกว่าเอาเลย จะส่งก็ส่ง แต่ก็บอกลูกสะใภ้ว่าเขาจะไหวเหรอ เพราะตอนที่แม่กลับไปเมื่อวันที่ 14 ก็ดูเขาไม่มีแรง จะไม่ไหวแล้วนะ

พอทราบว่าเขาไม่อยู่แล้ว ใจมันหมดไปเลย ตอนลูกสะใภ้โทร.ไปก็ยังไม่หลับนะ เพราะนอนไม่ค่อยหลับ เป็นห่วงเขา พอเขาโทร.เสร็จลูกสาวอีกคนหนึ่งก็โทร.หารถตู้ ทั้งที่จริงจองตั๋วเครื่องบินไว้แล้วว่าจะมาตอนเย็นวันนี้แหละ พอเขาโทร.มาก็ทิ้งตั๋ว มารถตู้เลย จริงๆ แม่ก็พอจะรู้ตั้งแต่ตอนบ่ายๆ เมื่อวาน ตอนโทรศัพท์ที่คุยว่าจะส่งเขาไปรพ.จุฬาฯ แม่ก็บอกว่าจะไหวเหรอลูก เพราะแม่รู้แล้วว่าเขาไม่ไหวแล้ว (น้ำตาคลอ) ก็ได้บอกเขาว่าให้เขาหลับให้สบายนะลูก ไม่เจ็บไม่อะไรแล้ว”

ชม “เอ๋” ลูกสะใภ้ดูแลทุกอย่างดีมากๆ ตนก็รักลูกสะใภ้เหมือนลูกตัวเองจริงๆ
สภาพจิตใจของแม่ตอนนี้ก็แย่มากๆ เลย กับลูกสะใภ้ก็เหมือนลูกตัวเองเลย รักเขามาก เขาทำทุกอย่าง เหมือนลูกที่เกิดมาเองเลย เขาทำให้แฟนทุกอย่าง ไม่ให้นอนสกปรก ซักผ้าอะไรสะอาดหมด อยู่กับเขาตลอดเวลา หาไม่ได้แล้วนะลูกสะใภ้ ถึงไม่มีเมฆแล้ว แม่ก็ยังจะมาหาเหมือนเดิม ถามว่าแม่เตรียมใจไว้ไหม เตรียมใจไว้แล้ว เพราะเห็นอาการเขาแล้ว ยังบอกกับลูกสาวคนโตว่าพี่เขาไม่ไหวแล้วนะ บอกเขาแล้ว บอกให้ทำใจ

แต่ก็เสียดายมากที่มาไม่ทัน เพราะแม่ก็ตั้งใจว่าจะมาอยู่แล้ว ลูกสาวคนเล็กก็ร้องจนตาบวม จะมาแล้วแต่ก็มาไม่ทัน นิดเดียวเอง ถ้ามาทันก็อยากบอกให้เขาสู้นั่นแหละ เพราะทุกครั้งที่อยู่กับเขาก็จะบอกว่าสู้ๆ นะ แล้วพอลูกสาวโทร.มาบอกว่าไปกรุงเทพฯ แม่ก็รู้แล้วว่าเขาเสียแล้ว ไปแล้ว ก็อยากบอกเขาว่าหลับให้สบาย ไม่ต้องเป็นห่วงลูก ไม่ต้องห่วงเมีย ครอบครัวช่วยกันได้ กับลูกสะใภ้ก็รักเขามาก ก็เป็นห่วง เขาเก่งและรับผิดชอบทุกอย่างทั้งฝั่งเขาและฝั่งที่บ้าน มีอะไรก็ช่วยเหลือกัน อยู่เป็นครอบครัวเดียวกัน”

ด้าน “เอ๋” ภรรยาก็เผยว่าสามีเป็นห่วงแม่มาก แต่ตนก็จะทำหน้าที่ดูแลแทนให้เอง
“ตอนที่ได้เจอแม่ก็ให้กำลังใจกัน เพราะพี่เมฆเขาห่วงแม่ คือเราคุยกันเสมอว่าครอบครัวเอ๋ก็เหมือนครอบครัวพี่เมฆ ครอบครัวพี่เมฆก็เหมือนครอบครัวเอ๋ เราไม่เคยแยกว่าครอบครัวใคร เราพูดเสมอว่านี่คือครอบครัวเรา ตอนนี้เขาคงไม่ห่วงแล้ว ถามว่าเคยเตรียมใจไว้ไหม ไม่เลย ไม่เคยคิดว่าเขาจะไปด้วยซ้ำ แม้กระทั่งเมื่อคืนก็คิดว่าเขาต้องสู้แต่หมอปั้มชั่วโมงหนึ่งแล้ว ที่ไม่ถอดใจก็ต้องถอด เพราะหัวใจไม่ขึ้นแล้วค่ะ

ตอนที่ตัดสินใจโทร.ไปบอก เอ๋ไม่ได้บอกแม่ตรงๆ แต่บอกกับพี่สาวคนโต เพราะว่าเอ๋กลัวแม่ช็อก ก็บอกกับพี่สาวไว้ว่าอย่าเพิ่งบอก ให้ค่อยๆ บอก ไม่อยากให้ดูสื่ออะไรเลย อย่างที่บอกว่าไม่คิดว่าเขาจะไป ไม่มีเซ้นส์หรืออะไร หรือมีก็ไม่รู้เลยว่ามันคือเซ้นส์เตือนว่าเขาจะไปแล้ว เพราะคิดเสมอว่าเขาจะสู้ไปกับเรา แต่อย่างที่บอกว่าก่อนเข้าโรงพยาบาลเขาบอกว่าเขาเหนื่อย เขาเหนื่อยมากเลยนะซึ่งเขาไม่เคยพูด ก็บอกเขาว่าถ้าเหนื่อยก็นอน”

บอกจะสนับสนุนลูกๆ ให้ดีที่สุดตามที่ “เมฆ” ต้องการ
“โปรเจกต์งานหลังจากนี้นอกจากที่พี่หนุ่ม (คงกระพัน แสงสุริยะ) บอกว่าจะมีจัดคอนเสิร์ตให้พี่เมฆ คือมันก็ปุบปับ เรายังไม่ได้คิดอะไรกัน คิดแค่ว่าเอาตรงนี้ให้มันเรียบร้อย ส่งเขาให้ดีที่สุดก่อน สิ่งสุดท้ายที่เขาอยากทำคือพี่เมฆบอกเอาไว้เสมอว่าให้เอ๋สนับสนุนลูกให้มากที่สุด ไม่ว่าลูกอยากจะทำอะไร คือเขาเป็นคนที่ไม่ได้บังคับอยู่แล้วว่าลูกอยากจะเรียนอะไรยังไง เขาถามลูกเสมอว่าอยากเป็นอะไร อยากทำอะไร และเขาก็สนับสนุนในเส้นทางที่ลูกเลือก เขาก็บอกให้เอ๋พยายาม จากนี้เอ๋ก็จะทำหน้าที่แทนพี่เมฆต่อไปค่ะ”













กำลังโหลดความคิดเห็น