ภรรยาเล่าทั้งน้ำตา “เมฆ วินัย” อาการหนักหลังจากที่ฝันว่ามีคนบอกให้รูดผิวหนังออกให้หมด สามีทำตามจนเลือดท่วมเตียง เป็นที่มาของการติดเชื้อ เผยสังหรณ์ใจ เพราะบอกรัก และขอหอมตลอด แต่เชื่อที่ผ่านมาฝืนเพราะกลัวตนจะไม่ไหว บอกสามีครั้งสุดท้าย ไม่ไหวอย่าฝืน เหนื่อยก็พัก ไหว้ขออโหสิกรรมแทน หากสามีพูดไม่ค่อยระวังแล้วแทงใจใคร จากนี้จะเป็นทั้งพ่อและแม่ให้ลูก สานต่อให้ดีที่สุด ไม่ต้องห่วง ไม่ตามพี่เมฆไปหรอก
หลังจากเคลื่อนร่าง “เมฆ วินัย ไกรบุตร” ถึงวัดศิริพงษ์ธรรม “เอ๋ อรชัญญาช์” ภรรยา ของ เมฆ วินัย ได้เปิดใจต่อสื่อมวลชนด้วยน้ำตา ยอมรับว่าทุกอย่างปุบปับ วันที่ 15 มี.ค. เมฆมีอาการเหมือนหยุดหายใจไปพักนึง พอกระตุ้นจนฟื้น ก็เรียกตัวเองมาหอม บอกรักตลอด ก่อนจะเข้ารักษาตัววันที่ 18 มี.ค. เหตุมีอาการชักเกร็ง และไม่ได้สติอีกเลย
“วันนี้รดน้ำศพวันแรก มันปุบปับ แต่ก็อยากทำให้ดีที่สุด ให้คนมาร่วมส่งพี่เมฆเป็นครั้งสุดท้าย พี่เมฆเข้ารพ.ครั้งล่าสุดคือวันที่ 18 มี.ค. แต่ก่อนหน้านั้นวันที่ 15 น้องเล่าให้ฟังว่าพี่เมฆเหมือนหยุดหายใจไปพักนึง ตอนเอ๋ออกไปรับเด็ก เอ๋ก็รีบกลับบ้าน พอไปถึงน้องกระตุ้นให้ฟื้นก่อน ตอนแรกคิดว่าเขาอาจแค่ค้างไป แต่พอหลังจากวันนั้นเขาก็แปลกไป เขาจะเรียกมาหอมตลอดเวลาแล้วก็บอกรัก บอกว่าเขารักนะๆ (น้ำเสียงสั่นเครือ) เรียกหอมตลอดเวลา ทำอย่างนี้อยู่สองสามวัน แล้วบอกว่าเขาเหนื่อยมากเลย เราก็คิดว่าเขาเหนื่อยจากแผล เหนื่อยจากเข้ารพ.ครั้งล่าสุดที่เข้าไปให้น้ำเกลือ คิดว่าเขาเพลีย ก็บอกให้เขานอน เหนื่อยก็พัก ก็นอน วันที่ 18 จู่ๆ เขามีอาการเกร็ง เอ๋ก็เรียกฉุกเฉิน หลังจากวันนั้นก็ไม่ได้คุยกับเขาอีกเลย เขาไม่มีสติอีกเลย
ถามว่าก่อนหน้านี้สังหรณ์ใจไหม ก็สังหรณ์เหมือนกัน เพราะมันผิดปกติ เพราะปกติพี่เมฆไม่เคยบ่นเหนื่อย จะพูดกับเราเสมอว่าให้สู้ไปด้วยกันนะ สู้อีกนิดเดียวก็จะหลุดแล้ว สภาพจิตใจ พอเขาพูดประโยคนั้น เราก็ใจไม่ดี แต่เราไม่คิดว่าเขาจะไป คิดว่าเขาคงหนัก รอบนี้อาจจะหนัก”
เผยอาการหนักหลังจากที่มีคนเข้าฝันบอกให้รูดผิวหนังออกให้หมด สามีทำตามจนเลือดท่วมเตียง เป็นที่มาของการติดเชื้อ
“จริงๆ ก่อนหน้านี้พี่เมฆดีขึ้นช่วงนึง เขาเหมือนมีแผลเยอะ เขาก็ไปให้เลือดกับน้ำเกลือที่รพ.สายไหม คืนแรกที่เขาไป เขาบอกว่าเขาฝันว่ามีคนบอกให้เขารูดออกให้หมดเอาออกให้หมด เขาก็เลยไปรูดผิวหนังตัวเองออกหมดเลย ขาแขนเป็นแผลเต็มไปหมดเลย เราตื่นขึ้นมาคิดว่าเขาเป็นอะไร พอเดินไปดูเลือดท่วมเตียงเลย ก็เรียกพยาบาลมาดู ปรากฏว่าถุงให้เลือดถูกดึงออกหมด พอมีสติเขาก็ขอโทษ แล้วเขาหัวเราะ เขาบอกว่าเขาฝันว่ามีคนบอกให้เขารูดออกให้หมด หลังจากวันนั้นมา เขาก็เป็นแผลทั้งตัว เป็นที่มาของการติดเชื้อ”
ร่ำไห้บอกสามี สู้ไม่ไหวก็พอแล้ว เหนื่อยก็พัก
“ส่วนเมื่อคืนมีการประเมินว่ามีการติดเชื้อในกระแสเลือด เพราะอุณหภูมิในร่างกายเขา 36 องศาตลอด ความดันเขาตก หัวใจเขาเต้นช้าลง แล้วน้ำเริ่มท่วมปอด แต่ความที่ความดันเขาตก เขาไม่สามารถรีดน้ำออกจากปอดได้ มันเป็นภาวะที่อันตราย ก็เลยปล่อย เราอยู่กับเขาทั้งวันเมื่อวานอยู่จนเขาไปค่ะ หมอก็ให้เราเข้าไปคุย ก็บอกกับเขาว่าให้สู้ แต่ถ้าสู้จนแบบ..(ร้องไห้) 5 ปีเนอะ มันยาวนาน เขาก็สู้มาตลอดแล้ว (ร้องไห้) เขาสู้มาก พี่เมฆจะคิดถึงครอบครัวตลอด เขาบอกว่าสู้เพื่อเรานะ (ร้องไห้) เราก็บอกว่าให้สู้ให้ถึงที่สุด แต่ถ้ามันไม่ไหว ถ้าเหนื่อย พี่ก็พักนะ (ร้องไห้) ถ้าไม่ไหวก็พอแล้ว
เมื่อวานคุณหมอบอกตั้งแต่เช้า ว่าอาการนี้มันเสี่ยง อันตรายมาก เราทำเรื่องส่งตัวไปจุฬาฯ แต่ด้วยความที่ความดันเขาตกลงเรื่อยๆ เคลื่อนย้ายผู้ป่วยไม่ได้ ทางโน้นไม่กล้ารับ ทางนี้ก็ไม่กล้าส่ง อาการของเขามันแย่ลง เราเห็นเขาเหนื่อยด้วยแหละร่างกายเขากระตุกตลอด”
เชื่อเมฆฝืนเพราะกลัวตนจะไม่ไหว
“ช่วงหลังเขาเจ็บมาก แล้วเขาเหนื่อย เรารักเขานะ เราทำให้เขาได้ทุกอย่าง พอวันที่มันทรมานมากๆ เรารู้ว่าเขายังห่วงเราอยู่ เราก็ต้องเป็นคนบอกเขาว่า เราไหว เขาจะถามเราตลอดว่าเราไหวไหม ดูแลในบ้าน ทุกอย่างคือภาระของเรามาตลอด เขาก็ถามเราเสมอ เราว่าที่เขาฝืนเพราะกลัวเราไม่ไหว แต่พอหลังๆ เราบอกบ่อยว่าเราไหว เราทำได้ ไม่ต้องห่วง เขาก็คงหมดห่วง”
ขอให้ไปสู่ภพภูมิที่ดี ไม่ต้องห่วง จะสานต่อทุกอย่าง ดูแลลูกให้ดีที่สุด
“ก็ไม่ต้องห่วงแล้ว ขอให้ไปสู่ภพภูมิที่ดี พี่เมฆทำดีที่สุดแล้ว พี่เมฆอดทนมาเยอะมาก เป็นสามีที่ดี เป็นพ่อที่ดีของลูก พี่เมฆสร้างเป้าหมายให้ลูกตลอดเวลา จากวันนี้ไปสิ่งที่พี่เมฆต้องการสานต่อ เราก็จะทำทุกอย่างให้ลูกเราดีที่สุดในฐานะแม่คนนึง ในฐานะเมีย ในฐานะแม่ จากวันนี้ไปจะทำทุกอย่าง
ก่อนเขาจะมีอาการหนัก เราวางแผนเปิดบริษัทเพิ่ม คุยธุรกิจเพิ่มไปแล้ว มีการดีลกันหมดแล้ว บริษัทใหม่ก็เปิดแล้วด้วย จะทำโน่นทำนี่ แล้วเขาก็มาทรุด”
คอนเสิร์ต “เพื่อนมีไว้ทำไม” วันที่ 26 มี.ค. ยังจัดเหมือนเดิม ชี้เจตนาเพื่อช่วยรักษา
“ต้องบอกก่อนว่าด้วยความที่พี่เมฆเป็นหัวหน้าครอบครัว เมื่อก่อนเขาหาเงินได้ พอวันที่เขาป่วยเขาหาเงินไม่ได้ เขาเครียดมาก เขาหยิบยืมเพื่อนบ้าง พี่น้องบ้าง เพราะเขาคิดว่าเขาต้องรับผิดชอบ เราก็ให้เขาเทคแอ็กชั่นจนถึงที่สุดแล้ว แล้วก็บอกว่าเดี๋ยวเรารับต่อเอง เราเป็นแบ็กให้เขาตลอดแหละ พอเขาเริ่มเหนื่อย เราก็มาทำด้านหน้าแทน อะไรที่เขาเคยทำไว้ เราก็ทำต่อและทำเพิ่ม เพื่อมีรายได้มาจุนเจือครอบครัวอยู่แล้ว แต่ในส่วนของเขา เขาได้คุยกับพี่หนุ่ม (คงกระพัน แสงสุริยะ) เขารู้ว่าพี่เมฆมีค่าใช้จ่ายเรื่องค่ายาและค่ารักษาตัว บางคนบอกว่าค่ายาพี่เมฆไม่ได้แพง แต่ค่าดูแลเขาแพง เพราะเขามีแผลทั้งตัว ถ้าใครเคยไปสัมภาษณ์เราที่บ้านก็จะเห็นว่าอุปกรณ์ของเขาค่อนข้างเยอะ อุปกรณ์คือค่าใช้จ่าย ซึ่งคนที่รู้คือคนใกล้ตัว คือพี่หนุ่ม พี่ไปป์ หรือเพื่อนๆ สนิทที่เคยมาที่บ้าน ซึ่งเขารู้ว่ามันหนัก
กับพี่เมฆ เราไม่เคยให้รับรู้รายจ่าย แต่พอเขาเริ่มรู้ปุ๊บก็เริ่มมีความเครียด พี่หนุ่มก็หาทางออกว่าเงินก้อนนี้จะช่วยพี่เมฆในการรักษาตัว พอพี่เมฆเข้ารพ.เอกชน ค่าใช้จ่ายก็ไม่ถูกอยู่แล้ว พอขึ้นหลักแสน พี่เมฆก็เริ่มเครียด พี่หนุ่มก็บอกว่าไม่ต้องเครียดหรอก งานคอนเสิร์ตนี้จัดมาเพื่อซัปพอร์ตโน่นนี่นั่น เขาเข้ารพ.ทั้งหมด 3 รอบ คอนเสิร์ตจะจัดปกติอยู่ แต่หลังจากที่เสร็จพิธีของพี่เมฆเรียบร้อยแล้ว”
ร่ำไห้ขออโหสิกรรมแทนเมฆ หากพูดไม่ค่อยระวัง ทำให้คนรู้สึกไม่ดี
“เขาก็ขอบคุณเพื่อนๆ ในวงการเสมอ ถ้าไม่ป่วย พี่เมฆก็ไม่รู้เลยว่ามีคนรักเขามากขนาดนี้ เพราะเขาเป็นคนไม่ค่อยพูด แล้วพูดไม่ระวังด้วย เขาเป็นคนจริงใจมาก บางทีเจตนาการพูดของพี่เมฆกับคนฟังอาจไม่ได้ชอบใจ แต่พี่เมฆพูดเสมอว่าเขาไม่ได้ตั้งใจไม่ดีเลย ณ วันนี้เราขอให้แฟนคลับทุกคนที่ฟังอยู่อโหสิกรรมให้พี่เมฆ พี่เมฆเขาอยากอโหสิกรรมด้วยตัวเองด้วยซ้ำไป (ร้องไห้) ก่อนเขาจะล้ม เขาพูดกับเราว่าเขาจะสัมภาษณ์ (ร้องไห้) วันนี้ก็ขอเป็นตัวแทนเขาขออโหสิกรรมให้กับทุกคนที่คิดว่าคำพูดของพี่เมฆไปแทงใจ (ยกมือไหว้) คิดว่าคำพูดพี่เมฆ ทำให้บั่นทอน แต่จริงๆ แล้วเพื่อนพี่เมฆทุกคนที่รู้จักพี่เมฆ ถ้าพี่เมฆไม่ดีในระดับที่เพื่อนรักได้ คงไม่มีใครร่วมมือกันจัดคอนเสิร์ต พี่เมฆเขาอยากขอบคุณศิลปินทุกคนที่ร่วมมาในวันนั้นด้วย จริงๆ เขาบอกพี่น้องทุกคนเลยว่าเขาจะไปคอนเสิร์ต เราบอกว่าสภาพนี้เขาไปไม่ได้ แต่เขาก็ยังถามหมอว่าเขาจะไหวไหม จะฟื้นไหม”
ทำเต็มที่ที่สุด สร้างพลังบวกให้กันตลอด
“เราทำเต็มที่แล้ว และเชื่อว่าสิ่งที่ทำ ทำให้เขาไปได้อย่างสงบ เราก็สร้างกำลังใจกันมาตลอด สร้างพลังบวกกันมาตลอด เราอยากให้หลายๆ คนที่ท้อมีกำลังใจ พี่เมฆพูดเสมอว่าสังคมสมัยนี้มันบั่นทอน หลายคนก็ท้อ เขาก็เลยอยากเป็นแรงบันดาลใจให้คนเห็นว่าเขาไม่ท้อ และเขาสู้ เราก็อยากให้คนรักสมัยใหม่คิดให้เหมือนกัน เวลามันตกมันล้ม ต้องอยู่เคียงข้างกัน เวลามีความสุขก็ให้ย้อนกลับไปคิดว่าช่วงเราทุกข์ มันขนาดไหน ความรักที่ฉาบฉวย คิดว่ามันอยู่ไม่แน่น ดังนั้นถ้าหลายๆ คนเห็นเรากับพี่เมฆเป็นตัวอย่าง ก็อยากจะบอกว่ามันคุ้ม เพราะมันเป็นความสุขทางใจ แล้วมันส่งต่อไปถึงลูกด้วย ลูกก็รับรู้ ส่วนคุณแม่พี่เมฆ เขากลับไปไม่กี่วันพี่เมฆก็มีอาการช็อก คุณแม่พี่เมฆจองตั๋วคืนนี้มาอยู่แล้ว เพราะเขาตั้งใจว่าวันคอนเสิร์ตจะอยู่เป็นเพื่อนพี่เมฆ แต่เมื่อคืนมันปุบปับ เขาเลยตีรถมาจากกระบี่ก่อนเลย”
จะเป็นพ่อและแม่ให้ลูก
“จะเป็นพ่อกับแม่ให้เขา ไม่ต้องกลัว ไม่ว่าจะเรื่องการศึกษาก็ดี เรื่องชีวิตจะทำเต็มที่ เหมือนสมัยที่พี่เมฆอยู่ จะทำให้มากกว่าเดิม จะเป็นทั้งพ่อกับแม่ให้เขา ดังนั้นอยากให้เขาเข้มแข็ง สิ่งที่พ่อเขาปูไว้ เชื่อว่าเขาเห็น และเขาจะเข้าใจครอบครัว เมื่อเช้าน้องก็ถาม แต่เขาก็พอรู้แล้ว เขาเห็นอาการทรุดลง น้องมาร์คก็จะถามว่าทำไมอาการป๊าแย่ลง เราก็บอกว่าไม่รู้เหมือนกัน จนพี่เมฆเสียเขาก็อึ้งไปแป๊บนึง เขาก็เสียใจ
เขาไม่กินอะไรเลยนะ ตั้งแต่ตอนเช้าถึงตอนนี้ เขาพยายามเข้มแข็ง เพราะเขารู้ว่าเขาเป็นหลักแล้ว ส่วนน้องแมม เขาดูแลพี่เมฆ ช่วยเช็ดแผลตั้งแต่ปีแรก เขาจะเรียนรู้การดูแล เขาบอกพ่อเขาเสมอว่าเขาอยากเป็นนักแสดง พ่อเขาบอกว่าเดี๋ยวหายแล้วจะสอน เขาพูดคุยกันตลอดเวลา น้องแมมมีความเป็นผู้ใหญ่ แต่เด็กเขามีความเสียใจอยู่แล้ว เพราะเขาโตแล้ว เขารู้แล้ว”
ร่ำไห้ไม่อยากเก่ง อยากกอดศพ อยู่ข้างๆ ตลอดเวลา ครอบครัวหวั่นอยากตามไป แต่สัญญาตรงนี้ ไม่ตามพี่เมฆไปหรอก
“เอาจริงๆ เราไหวเป็นช่วงๆ พอคิดถึงพี่เมฆ ก็ไม่ไหว แต่พอมองไปที่ครอบครัวมันก็ต้องไหว เราไม่ได้เก่งเลยนะ เราอยากปล่อยโฮ (ร้องไห้) อยากกอดศพเขาไว้ (ร้องไห้) อยากอยู่ข้างๆ ตลอดเวลา แต่รู้ว่าจะยิ่งทำให้คนรอบตัวเขา พี่น้องเขา แม่เขา ลูกๆ มีความเครียดรวมถึงพ่อแม่เราเอง 5 ปีที่เขาป่วยเราไม่เคยห่างเขาเลย พ่อแม่ก็จะกลัวว่าเราจะไปตามเขา แต่บอกตรงนี้เลย ไม่ต้องกลัว เอ๋ไม่ไปตามพี่เมฆหรอก เพราะเอ๋ยังมีหน้าที่ที่ต้องดูแลลูกอยู่ เอ๋จะดันลูกให้ดีที่สุด
น้องมาร์คมีเรียนร้องเพลงกับพี่เก่ง (ธชย ประทุมวรรณ) อยู่แล้ว พยายามไปคอนเสิร์ตการกุศลบ้าง พี่เก่งเขามีแพลนของเขาอยู่แล้ว วันที่ 26 น้องมาร์คจะร่วมร้องเพลงด้วย ส่วนน้องแมมเขาอยากเรียนการแสดง ก็จะหาที่เรียนการแสดงที่ดีๆ เหมาะกับน้อง น้องเมิร์สก็จะให้เขาเรียนการแสดง”
