นับเป็นความสูญเสียของวงการบันเทิง หลังจากที่ภรรยา “เมฆ วินัย ไกรบุตร” ได้แจ้งข่าวร้าย พระเอกชื่อดังได้เสียชีวิตแล้วจากภาวะความดันต่ำ และติดเชื้อในกระแสเลือด หลังป่วยโรคตุ่มน้ำพองมานาน 5 ปี เมื่อคืนของวันที่ 20 มี.ค. 2567 เวลา 23.49 น. ที่ผ่านมา
เรื่องราวของ เมฆ วินัย สะท้อนความไม่แน่นอนของชีวิต เพราะเขาเคยขึ้นถึงจุดสูงสุดกับการสร้างตำนานพระเอกร้อยล้าน ก่อนจะต้องออกจากวงการ เพราะโรคตุ่มน้ำพอง
สำหรับประวัติ เมฆ วินัย ไกรบุตร ที่ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็น หัฒศนัย ไกรบุตร เกิดเมื่อ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2512 ที่อำเภอเกาะลันตา จังหวัดกระบี่ ในครอบครัวที่มีฐานะยากจน จบการศึกษาระดับปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา และศึกษาต่อระดับปริญญาโทบริหารในสถาบันเดียวกัน มีกิจการของตัวเองนอกเหนือไปจากการแสดง คือ ขายปุ๋ย โดยมีโลโก้เป็นรูปหน้าตัวเอง
วินัย ไกรบุตร เข้าสู่วงการบันเทิงด้วยการเป็นนายแบบ, ถ่ายโฆษณา และเคยเล่นมิวสิกวิดีโอเพลงของ แกรมมี่, อาร์เอส ประมาณช่วงปี พ.ศ. 2535- 2537 มาก่อน จากนั้นจึงได้แสดงละครโทรทัศน์และภาพยนตร์ราว 4-5 เรื่อง เช่น หอบรักมาห่มป่า (พ.ศ. 2537) ผู้ชายหัวใจไม่พายเรือ (พ.ศ. 2538) เป็นต้น
ในปี พ.ศ. 2542 เมื่อได้แสดงภาพยนตร์เรื่อง นางนาก ด้วยการรับบทเป็น มาก สามีของนางนาก จากการกำกับของ นนทรีย์ นิมิบุตร กวาดรายได้ไปกว่า 150 ล้าน ขึ้นแท่นหนังไทยร้อยล้านเรืองแรกในประวัติศาสตร์ ส่งผลให้วินัย ไกรบุตร มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง ต่อมาก็ได้เล่นภาพยนตร์ทั้งบางระจัน และไกรทอง
ชีวิตครอบครัวสมรสกับ “เอ๋ ชลรดา แสนสินรังสี” เมื่อวันที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2554 มีบุตร-ธิดาด้วยกัน 3 คน แล้วก็เหมือนสายฟ้าฟาดลงกลางครอบครัว หลัง เมฆ วินัย ต้องต่อสู้กับอาการเจ็บป่วยสุดทรมานจากโรคตุ่มน้ำพอง ทำให้ต้องออกจากวงการ ใช้เวลารักษาเป็นเวลากว่า 5 ปี หมดเงินรักษาไปหลายล้าน เงินเก็บที่ได้จากถ่ายละครก็หมดไป ต้องขายที่ ซึ่งที่ผ่านมา เมฆ ได้พึ่งทุกศาสตร์ ทั้งวิทยาศาสตร์ และไสยศาสตร์ในการรักษาตัว ทั้งเป่าคาถา รักษาด้วยเข็ม เดินสายขอขมากรรม
อย่างไรก็ตาม ในความโชคร้าย เมฆ วินัย ยังถือว่าเป็นคนที่โชคดีที่สุดคนหนึ่ง เพราะได้คู่ชีวิตที่ประเสริฐเคียงบ่าเคียงไหล่ดูแลรักษา ให้กำลังใจในช่วงสุดท้ายของชีวิต
และในวันนี้ (21 มี.ค.) จะมีพิธีรดน้ำศพ เมฆ วินัย ที่วัดศิริพงษ์ธรรมนิมิต ตั้งแต่เวลา 17.00 น. เป็นต้นไป
