xs
xsm
sm
md
lg

“พีท - เมีย” เคลียร์แล้ว ที่ผ่านมา “มิย่า” ไม่เคยเลิก “อชิ” ? ลั่นไม่ได้มีปัญหากับ “ฟลุค เกริกพล” (คลิป)

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“พีท - เจ็ง” ปล่อยให้เป็นเรื่องของเด็ก “มิย่า” รีเทิร์น “อชิ” ลั่นไม่ได้มีปัญหากับ “ฟลุค เกริกพล” ที่ผ่านมายังแฮงก์เอาต์แก๊งเดิม แค่ระวังตัวมากขึ้น ลั่นลูกรักใคร พ่อแม่ไม่เคยมีปัญหา



หลังจากที่ “ฟลุค เกริกพล มัสยาณิช” ออกมาเผยว่า จริงๆ แล้ว “อชิ อชิรวัตติ์ มัสยวาณิช” ลูกชาย อาจไม่ได้เลิกกับ “มิย่า พิชชา ทองเจือ” ลูกสาวคนสวยของ “พีท ทองเจือ”กับ “เจ็ง วิไลลักษณ์ ทองเจือ”ภรรยา จนฮือฮาไปทั่วโซเชียล ล่าสุดได้เจอตัวพ่อพีท แม่เจ็ง มาพร้อม “โรเตอร์” ลูกชาย ก็เลยถามไถ่ถึงเรื่องนี้ ซึ่งเจ้าตัวเผยว่าทั้งสองคนยังแฮงก์เอาต์กันกลุ่มเดิม ที่ผ่านมา ไม่เคยมีปัญหากับฟลุค
เจ็ง : “ตอนนี้ก็หวงลูกแหละ แหม จริงๆ ก็ห่วงทุกคนแหละ แต่ว่าอย่างที่เคยพูดไป ว่าเด็กผู้ชายถ้าเวลาเขาติดเพื่อนเขาไปเลย เขาจะติดเพื่อนมากเลย เราก็เลยต้องอ้อนลูกชายเยอะๆ แต่ซึ่งอันนี้เป็นสิ่งที่เราเคยบอกลูกตั้งแต่เด็กๆ นะ แม้แต่สองสาวเนี่ยเขาก็เห็นด้วยเหมือนกัน บางทีอย่างพี่เซย่าอย่าง เห็นน้องไปไหน อย่างไปเที่ยวกับเพื่อน โดยที่ไม่อยู่บ้าน พี่เซย่าจะเอาแล้ว หม่ามี๊จะให้น้องไปทําไม ให้น้องอยู่บ้านกับเราสิ อะไรอย่างนี้ เขาก็เป็นห่วงน้องเหมือนกัน โดยความที่เป็นเด็กผู้ชาย เรารู้เนเจอร์เด็กผู้ชายอยู่แล้ว เวลาที่ติดเพื่อน หรือไปทําอะไร เขาจะหายไปเลย เราก็เลยต้องออกตัวเยอะๆ จริงๆ เราก็ห่วงทุกคนแหละ”

โรเตอร์ : “ถามว่าเราให้ความสบายใจแม่ยังไง ไม่มีเลยฮะ (เกร็งไหม แม่ออกปากว่าหวง?) ก็ผมไปกับเพื่อนแค่วันเสาร์ วันอื่นก็ไปเรียน แล้วกลับบ้าน

แม่ : “แต่คนนี้เขาจะชัดเจน จะคุยกับแม่เลย หม่ามี๊วันเสาร์ เป็นวันที่หนูขอไปกับเพื่อนนะ แต่ว่าวันอาทิตย์ หรือวันอื่น หรือวันที่เป็นวันหยุด เป็นวันครอบครัว โดยเฉพาะอย่างวันอาทิตย์เนี่ย สมมุติว่าสองสาวจะไปกับเพื่อน เขายังจะเป็นคนบ่นเลยนะ บอกว่าวันนี้วันอาทิตย์นะ วันนี้คือวันครอบครัวไปกับเพื่อนได้ยังไง ต้องไปกับครอบครัว ซึ่งเขาก็ชัดเจน ถามว่าตอนนี้เปลี่ยนเป็นพี่หวงน้องไหม จริงๆ ก็ทั้งคู่แหละ แต่ว่าคนนี้เขาจะออกแนวดุมากกว่า คือเหมือนสองสาวเนี่ย เขาจะยังไม่ค่อยกล้าดุน้องมาก จะบอกผ่านแม่ ผ่านพ่อ แต่คนนี้คือจะแบบว่าดุพี่เลย พี่ก็เลยกลัว”

โรเตอร์ : “ทุกคนห่วง ก็ไม่เป็นไรนะ ไม่กลัวเลย”

เจ็ง : “ไม่ แต่จะบอกว่าชินแล้ว เพราะตัวเองห่วงเขามากกว่า ดุเขามากกว่าอีก”
โรเตอร์ : “เวลาไปกับเพื่อน เหมือนขึ้นสวรรค์(หัวเราะ) ไม่มีใครตาม

เจ็ง :” ไม่ แต่จะบอกว่าจริงๆ เราคุยกัน เรียกว่าเราใช้เหตุผลคุยกันมากกว่า อย่างที่บอกว่าเขาจะบอกแม่ ว่าวันเสาร์เป็นวันของเขา จะไปกับเพื่อน เวลาเขาไปกับเพื่อน ไปแฮงก์เอาต์กับเพื่อน จะไม่เคยโทร.ตาม เราก็จะรู้ว่าเขาก็จะรู้หน้าที่ เขาจะบอกแม่ว่าจะไปไหน จะกลับกี่โมง อยู่บ้านใคร ไปกับใคร เราก็ไม่เคยโทร.ตามเขา ว่าอยู่ไหน กลับกี่โมง จะให้อิสระ”

แชร์กันทุกเรื่อง
พีท : “แชร์ทุกอย่าง ส่วนมากเขาจะเล่าให้ฟัง วันนี้ สมมติว่าไม่ได้อยู่ด้วยกัน เขาไปกับเพื่อน ไปเจอใครบ้าง ทําอะไรบ้าง”

เจ็ง : “บางทีไปทานร้านอาหารที่อร่อย ก็จะกลับมา หม่ามี๊หนูไปทานร้านนี้มา อร่อยมาก เดี๋ยววันหลังหนูพาหม่ามี๊ไปทานนะ โดยเฉพาะคนนี้ เขาจะไปเจอร้านอร่อย แล้วเดี๋ยวพอวันหยุด หรือวันที่เขาว่างก็จะชวนหม่ามี๊ พาไปทานข้าวร้านอร่อย ก็จะพาแม่ไปตลอด”

โรเตอร์ : “ไม่ติดเพื่อนครับ แต่ก็สนิท”

เจ็ง : “ลูกก็จะมีขอบ้าง แต่จริงๆ เขาจะเป็นเด็กที่บอกแม่ก่อน คุยกับแม่ก่อนมากกว่า อย่างที่โรงเรียน เห็นอะไรที่มันไม่ดี ที่เพื่อนทํา ก็จะมาเล่าให้เราฟัง ก็จะบอกว่ามันไม่ดีเลย ทําไมเขาไม่รู้จักคิดว่าอันนี้ไม่ควรทํา อันนี้ควรทํา เขาจะมีการพูดคุย เล่าเรื่องให้พ่อแม่ฟังตลอด ก็เป็นการพูดคุย แล้วอันไหนที่เราเห็นมันไม่ควรหรือไม่ดี เราก็จะบอกเขา เราก็จะบอกว่า หนูรู้ หนูรู้อะไรควรทํา อะไรไม่ควรทำ”

เคลียร์ มิย่า รีเทิร์น อชิ หรือไม่?
เจ็ง : “จริงๆ อย่างที่บอก เขาก็เป็นเพื่อนกันอยู่แล้วนะ อย่างที่เห็นตลอดเวลาที่ผ่านมา เขาก็มีการถ่ายรูปร่วมเฟรม ไปแฮงก์เอาต์กับเพื่อนด้วยกันอยู่แล้ว อันนี้เราก็ทราบอยู่แล้ว

พีท : “เพื่อนๆ ก็ยังเป็นกลุ่มเดิม”

เจ็ง : “คำว่าปัญหา มันเป็นปัญหาเด็กๆ เนอะ หมายถึงว่ามันเป็นเรื่องของเด็กๆ แล้วเราก็ไม่ได้ไปซีเรียส หรืออะไรขนาดนั้น และเราก็ไม่ได้ห้ามคบคนนั้น ห้ามคบคนนี้ หรือต้องเลิกคบคนนั้น ไม่เคย เราไม่เคยพูดแบบนั้น เพียงแต่ว่าทุกอย่าง อยู่ในสายตาของผู้ใหญ่ อยู่ในสายตาของพ่อแม่มากกว่า ว่าลูกทําอะไรเราเห็นหมด เรารู้หมด”

ที่ผ่านมา “อชิ-มิย่า” เป็นเพื่อนกัน แค่ระวังตัวมากขึ้น
เจ็ง : “จริงๆ ที่ผ่านมา เขาก็ยังเป็นเพื่อนกันอยู่นะ หมายถึงว่าเขาก็ยังไปทานข้าว แฮงก์เอาต์กันกับเพื่อนกลุ่มเดิมเหมือนเดิม ไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลง เพียงแต่ว่า อาจจะไม่มีการเมนชั่นถึง แล้วเขาก็อาจจะระวังตัวมากขึ้น หมายถึงว่า จะทําอะไรก็ต้องคิดถี่ถ้วนมากขึ้น จะพูดอะไร ก็ต้องคิดมากขึ้น เพราะอย่างที่มิย่าเคยบอก เขาพยายามจะโตขึ้น พยายามจะเป็นผู้ใหญ่

เรื่องข่าวเขาก็ปรึกษา เขาปรึกษาเราทุกเรื่องอยู่แล้วแหละ เพียงแต่ว่า บางทีอย่างข่าว หรือว่าการพิมพ์ หรือการเขียนอะไรในโซเชียล เราไปห้ามทุกคนไม่ได้ ว่าใครจะเขียนอะไร ใครจะพูดอะไร ใครจะคิดอะไร เพราะฉะนั้น เราก็ได้แต่สอนลูกว่า หนูก็แค่ต้องรู้ว่าเราเป็นยังไง เรารู้ตัวอยู่แล้ว เราทําอะไร เราเป็นยังไงเพราะฉะนั้นใครเขียนอะไรไม่จริง หรือว่าใครพูดอะไรไม่จริง เราก็ไม่ต้องไปใส่ใจ เพราะว่าถ้าเราจะเอาคําพูดทุกคน ความคิดทุกคน มาคิด มาใส่ใจ เราอยู่ไม่ได้หรอก แล้วเราก็จะไม่มีความสุข เพราะฉะนั้นโชคดีที่มิย่า เป็นเด็กที่เขารู้ว่าตัวเขาเองทําอะไรอยู่แล้วก็เกิดอะไรขึ้นอยู่ เขาก็เลยจะไม่ค่อยแบบฟูมฟาย ซีเรียสหรือว่าเครียดเรื่องข่าว เรื่องที่คนมาว่า”

สบายใจลูกมีวัคซีนโซเชียล
เจ็ง : “ก็ดีนะ ความเป็นพ่อแม่ ยังไงก็ห่วงลูกอยู่แล้วแหละ แต่ว่าเราก็ยังอุ่นใจในระดับหนึ่ง ว่าลูกรู้จักแยกแยะ เขารู้กับตัวเขาเองว่า อะไรคือเรื่องจริง อะไรคือเรื่องไม่จริง แล้วเขารู้จักปล่อยวาง”

พีท ยันไม่ได้มีปัญหากับ “ฟลุค เกริกพล”
พีท : “จริงๆ ผมไม่ได้ซีเรียส ข่าวก็คือข่าว ที่ผมบอก ผมกับฟลุคไม่ได้มีปัญหาอะไรกัน

เจ็ง : “ก็เจอกัน ก็ยังทักทายกันปกติ”

พีท : “เรื่องลูกกลับมาสนิทกันอีก แล้วพ่อแม่จะยังไง จริงๆ ถ้ามีเวลา ก็ไม่มีปัญหา ถ้าจะเจอกัน ส่วนมากตอนนี้ ถ้าเวลามันจะไม่ตรงกัน เช่นสมมติว่ามิย่าเขาอยากไปกับเพื่อน ถ้าเราว่าง เราก็อาจจะไปเป็นเพื่อน หรืออาจให้เขาไปกันเอง ก็จะมีน้องคอยไปรับ หรือว่าเขาก็มารับน้องอะไรอย่างนี้”

เจอ น้องอชิ บ้าง พูดเยอะจะไม่จบ ให้เขาเคลียร์กันเอง
เจ็ง : “ก็เจอบ้าง ก็อย่างที่บอกว่า เขาก็ยังไปแฮงก์เอาต์กับเพื่อนกลุ่มเดิม ไม่ได้เปลี่ยนกลุ่ม เพื่อนก็ยังเหมือนเดิมทุกอย่าง เวลาเราไปรับลูก เราก็เห็นทุกคนเหมือนเดิม ไม่ได้มีอะไร มันเป็นเรื่องของเด็กเนอะ เหมือนถ้ามองภาพเป็นเด็กคนอื่น ที่ไม่มีใครรู้จัก เขาก็อาจจะแค่ทะเลาะกัน สองวัน สามวัน แล้วก็ดีกัน มันเป็นเรื่องปกติเพียงแต่ว่า บางทีเราไม่ได้ออกมาพูดอะไรเยอะ หรือแก้ตัวเยอะ เพราะว่าเรามองว่าการออกมาพูดเยอะ มันคือการแก้ตัว มันคือการทําให้เรื่องมันไม่จบ มันก็ไม่มีอะไร เดี๋ยวเด็กเขาก็เคลียร์กันเอง ไม่มีอะไรก็คือเป็นเพื่อนกันปกติ แต่คําว่าเหมือนเดิมเนี่ย เราก็ไม่รู้นะว่า เหมือนเดิมคือยังไง เขาก็คือเพื่อนกัน เขาก็ยังมีความรู้สึกดีๆ ต่อกัน ไม่ใช่แค่อชิกับมิย่า เพื่อนทุกคนในกลุ่มก็เหมือนกัน เขาก็ยังแบบเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันทุกคน”

ลูกรักใครไม่เคยมีปัญหา
เจ็ง : “เราก็ไม่เคยมีปัญหาอยู่แล้ว คือไม่ว่าจะใครก็แล้วแต่ อย่างยกตัวอย่าง บางทีลูกไปเที่ยว แล้วกลับบ้านดึก บางทีเพื่อนลูก จะนั่งแกร็บกลับ เรายังไม่ให้เลยนะ เรายังบอกว่าไม่เป็นไรลูก เดี๋ยวแม่ไปส่ง บางทีดึกมาก เราก็ง่วง เราก็อยากกลับบ้าน แต่เราก็ทําใจไม่ได้ ที่จะปล่อยให้เด็กขึ้นแกร็บ ขึ้นรถไปต่อหน้าต่อตา โดยเฉพาะเพื่อนผู้หญิง เราก็จะแบบว่า ไม่เป็นไรลูก เดี๋ยวแม่ไปส่ง ก็จะส่งลูกเพื่อนตามบ้าน ซึ่งอันนี้เป็นเนเจอร์ของเรา ก็คือลูกรักใคร ลูกแฮปปี้กับใคร เราดูแลทุกคนหมด โดยที่เราไม่ติดอะไรอยู่แล้ว”





กำลังโหลดความคิดเห็น