“แอฟ ทักษอร” เล่ากว่า “ปีใหม่” จะได้ไปดูคอนเสิร์ต “เทย์เลอร์ สวิฟต์” ที่สิงคโปร์ ต้องทำการบ้านประวัติเทย์เลอร์ มาพรีเซนต์แม่จนผ่าน บอกอนุมัติ เพราะรู้ว่าลูกชอบแต่ไม่ยอมมาขอ และมองว่าเป็นศิลปินที่น่าชื่นชม เอาเป็นแบบอย่าง ส่วนแฟชั่นอยากแต่งตัวเอ็นจอยกับลูก ให้ลูกรู้สึกว่าเป็นเพื่อนกัน
เป็นอีกหนึ่งคนดังที่เดินทางไปดูคอนเสิร์ต “เทย์เลอร์ สวิฟต์” ที่สิงค์โปร์ และทำเอาหลายคนเซอร์ไพรส์กับแฟชั่นของ “แอฟ ทักษอร ภักดิ์สุขเจริญ” ที่นานๆ ทีจะเห็นแม่แอฟ ใส่สายเดี่ยวกระโปรงสั้น แต่งตัวคู่แม่ลูกกับน้อง “ปีใหม่” ที่งานบวงสรวงละคร “สงครามสมรส” เมื่อถามเรื่องนี้กับแม่แอฟ เจ้าตัวก็เล่าว่า….
“สนุกมากค่ะ ไปเพื่อลูกสาวโดยเฉพาะเลย เรารู้อยู่แล้วว่าเขาอยากดูซึ่งเขาคิดว่าเราไม่พาไปดูหรอก เขาก็เลยไม่เคยคิดจะขอ นี่ก็เป็นแม่ที่แบบยิ่งลูกไม่ขอก็ยิ่งอยากให้ มันเป็นจังหวะบังเอิญหลายอย่างด้วย เพื่อนให้บัตรมา เพื่อนชวนไป แล้วก็มีรุ่นพี่คอยดูแลที่โน่นอีก ทุกอย่างลงตัวพอดีหมด ไม่ลงตัวแค่แม่ต้องลางาน แม่ก็เลยลางานพาลูกไป
ลูกสาวก็คือแฮปปี้สุดๆ ก่อนหน้านี้แอฟอาจจะไม่ได้เป็นแนวให้ลูกติดตามผลงานนักร้องนักแสดงขนาดนั้น รู้สึกว่าเขายังเด็กอยู่ แต่อันนี้พอเรารู้ถึงความชื่นชอบของเขา ก็รู้สึกว่าเป็นตัวอย่างที่ดีของลูกได้ เขาไม่ได้มีแค่สวยอย่างเดียว เขาสวย เก่ง กว่าเขาจะประสบความสำเร็จได้เขาต้องผ่านอะไรมาบ้าง นี่ก่อนที่จะพาลูกไปดู ให้เขาทำการบ้านมาด้วยนะ ให้เขาไปค้นว่ากว่าที่เทย์เลอร์ สวิฟต์จะมาถึงจุดนี้ได้ เขาต้องทำอะไรมาบ้าง เขามีความสามารถอะไรบ้าง ไม่ใช่แค่ร้อง แค่เต้น เขาเล่นดนตรีอะไรเป็นบ้าง ให้เขาไปค้นหาข้อมูล แล้วก็มีวันพรีเซนต์ด้วย ถ้าพรีเซนต์ผ่านแม่จะพาไป แต่ความจริงมีตั๋วแล้วแหละ แต่ไม่ได้บอก”
ให้คะแนนเต็ม 10 ในความพยายามของ “ปีใหม่”
“ให้เต็ม 10 เลยค่ะ เขาเต็มที่มาก เขาไปมากกว่าที่เราคิดอีก เขาท่องจำมาเป็นช็อตๆ เลย บอกกับปีแม่ไม่ได้ขนาดนั้น แม่แค่อยากให้รู้ให้เข้าใจว่าชีวิตคนๆ หนึ่ง ไม่อยากให้เขามองแค่ภาพตอนที่สำเร็จระดับโลกแล้ว อยากให้เขามองว่ากว่าที่จะมาถึงจุดนี้ผ่านอะไรมาบ้าง อย่างน้อยก่อนที่เขาจะไปมีความสุข ไปเอ็นจอย อยากให้เขาเรียนรู้อะไรไปบ้าง พอเขารู้เขาก็อินกว่าเดิม แล้วเขาจะได้เอามันมาเป็นประโยชน์ในชีวิตบ้าง สำหรับคอนเสิร์ตต่อไปคงต้องดูก่อน”
แฟชั่นสายเดี่ยวกระโปรงสั้น อยากแต่งตัวคู่กับลูกสาว อยากเอ็นจอยกับลูกให้ลูกรู้สึกว่าเป็นเพื่อนกัน
“จริงๆ ก็ใส่อยู่แล้ว แต่อันนั้นอาจจะแปลกที่มันเป็นเลื่อม จริงๆ ไม่มีอะไรเลย อยากใส่เป็นคู่แม่ลูกกัน เราก็ช่วยๆ กันเลือก (คนไม่ค่อยเห็นแม่ลุคนี้?) แอฟก็ไม่เคยเห็นเหมือนกันค่ะ แอฟก็ไม่เคยแต่งธีมสวิฟตี้เหมือนกัน ใครๆ ก็แต่งมันก็ใช่ ถ้าตัดภาพมาว่าแอฟไปคอนเสิร์ตนี้คนเดียวแอฟก็คงไม่แต่ง นี่คือแต่งเพราะลูกเลย เราไปเอ็นจอยกับเขาเราก็อยากให้เขารู้สึกว่าเราเต็มที่กับเขา เราเป็นเพื่อนเขาได้ เราไม่ได้ปล่อยเขาไปกับเพื่อน เราก็ต้องเป็นเพื่อนกับเขา ในบางจังหวะก็เป็นพี่สาว บางจุดต้องฮึบกลับมาเป็นแม่ มีหลายร่างมาก แปลงหลายร่างมาก
คือปีใหม่โตจนเป็นเพื่อนดูคอนเสิร์ตกับแม่ได้แล้ว เป็นประโยคที่คิดอยู่แต่ยังไม่ได้เอาลงไอจี มันมาถึงจุดที่เราฟังเพลงด้วยกันได้แล้ว เราไปคอนเสิร์ตด้วยกันได้แล้ว ถึงจุดที่นักร้องที่เราฟังมา จนตอนนี้รุ่นลูกเราก็ฟังต่อแล้วเราก็ไปด้วยกัน แล้วบังเอิญกับที่เป็นคนเดียวกันกับที่เราสนับสนุนให้ลูกชื่นชม เป็นตัวอย่างที่ดีได้ จุดๆ หนึ่ง ณ ที่ไปแล้วประทับใจยิ่งกว่าเดิมคือ เราอาจจะติดตามผลงานเขามาตลอด แต่จุดที่ประทับใจคือสวยและเก่งมากขนาดนั้น ตลอดการดูเขาขอบคุณคนดูตลอดเวลาจนเรารู้สึกว่าเขาอ่อนน้อมจังเลย เขาไม่จำเป็นต้องขนาดนั้นก็ได้
จุดพวกนี้เด็กๆ สังเกตนะ ปีใหม่เขาดูแล้วเขาก็รู้สึก เห็นไหมว่ายูจะเก่งอันดับไหนในโลก แต่การแสดงออกถึงความให้เกียรติ ขอบคุณทุกคนที่มาดู เป็นจุดที่น่าชื่นชม”
เข้าใจความรู้สึกคนโดนโกงค่าตั๋ว
“แอฟไม่ได้เป็นโปรเฟสชั่นแนลในการหาตั๋วเลย เอาจริงๆ ใครก็อยากจะได้มือแรก ไม่มีใครอยากไปซื้อต่อ แต่มันกดไม่ทันมันก็เลยต้องซื้อต่อ แต่จะซื้อต่อยังไงก็ต้องเลือกที่ไว้ใจได้ เข้าใจทุกคนเลย พอไปถึงตรงนั้นเข้าใจความรู้สึกทุกคนมากๆ โดยเฉพาะคนที่เฝ้ารอมานาน แอฟเองก็ได้เห็นในคลิปที่คนร้องไห้กัน มันทั้งเสียเงิน เสียความรู้สึก”
เล่าประสบการณ์เล่นกับคอลเซ็นเตอร์ แต่โดนต่อว่าแอ๊บเสียงใส่
“ไม่ทราบเลย งงเหมือนกันว่าเขาเอาเบอร์เรามาจากไหน ปกติจะไม่ค่อยมีเบอร์แปลกโทร.เข้ามา วันนั้นก็ดันรับด้วย แต่เป็นเบอร์ปกตินะคะ นี่คือโทร.มาแล้วระบุชื่อเรา คือฟังแค่แป๊บเดียวก็รู้เลยว่าไม่ใช่ เราก็คุยกับเขาไปเรื่อยๆ เขาอยากคุยเราก็คุย ตอนนั้นไม่ได้รู้สึกโมโหอะไร แค่ว่าในเมื่อเขาอยากจะเล่นเราก็เล่นด้วย ก็เลยคุยไปเรื่อยๆ
ที่เขาบอกเราแอ๊บเสียง เขาหมายถึงดัดเสียง ให้ไปเสียค่าปรับที่ปายภายใน 3 ชั่งโมงนี้ แอฟเลยแกล้งไม่รู้ว่าต้องไปยังไง คือไม่ใช่ว่าเราอยากจะนึกสนุกนะ แต่อยากรู้ว่าปลายทางมันจะไปถึงตรงไหน เขาจะให้ทำอะไร เขาจะมีกลเม็ดอะไรของเขาอีก จะได้เอามาเป็นประโยชน์กับประชาชนต่อ แต่ยังไม่ทันถึงจุดนั้น ก็โดนอีกข้อหาหนึ่งเขาว่าว่าเราแอ๊บเสียง ดัดเสียง เราก็ไม่ได้เถียง บอกว่าเสียงเราเป็นแบบนี้อยู่แล้ว แล้วมันมีข้อหานี้ด้วยเหรอ แล้วเขาก็วางไปเอง สุดท้ายมันก็มีทางแหละ เดี๋ยวนี้เวลาให้ข้อมูลที่ไหนมันก็ต้องมีบ้าง เบอร์งานจะเจอบ่อย แต่เบอร์ส่วนตัวไม่ค่อยเจอ”
