“กีต้าร์ ศิริพิชญ์” เปิดนิยามตัวตนที่หลายคนไม่เคยรู้ กับเส้นทาง “มากกว่าฝัน” จากนักแสดง สู่ผู้จัดละคร ช่อง 7HD ผ่านผลงานล่าสุด “ในรอยทราย” ครอบครัวคือที่สุดของกำลังใจ พร้อมฝากข้อคิดถึงดารารุ่นใหม่
กว่าจะมีละครแต่ละเรื่อง มาให้แฟนๆ ช่อง 7HD ได้ติดตามรับชมความสนุกอย่างมีความสุขไม่ใช่งานง่ายๆ ทั้งนักแสดง ทีมงานทุกฝ่าย และผู้จัดละครค่ายต่างๆ ล้วนทุ่มเทตั้งใจสร้างสรรค์ผลงานในบทบาทหน้าที่ของตัวเองอย่างสุดกำลัง โดยเฉพาะผู้จัดละคร ที่ต้องคอนโทรลทุกอย่างให้เกิดผลสำเร็จ
วันนี้จะพาแฟนๆ ละคร ไปคุยกับ “กีต้าร์ ศิริพิชญ์ วิมลโนช” หนึ่งในผู้จัดคนดัง แห่งค่ายละครสุดปัง “มากกว่าฝัน” ที่มาเปิดใจทุกเรื่องราวผ่านทางรายการ WHO ARE YOU? จากนักแสดง สู่บทบาทการเป็นผู้จัดละคร พร้อมเล่าถึงผลงานการผลิตละครเรื่องล่าสุด กับละครกระแสตอบรับดี “ในรอยทราย”
จุดเริ่มต้นในวงการบันเทิง?
“ช่วงที่กำลังเรียนอยู่ปี 4 จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ตอนนั้นมีเวทีที่ดังมากๆ เวทีหนึ่ง พอเห็นโฆษณา ก็เลยชวนน้องรหัสไป เพราะปีนั้นเป็นปีแรกที่ประกวดเป็นคู่ เราก็เลยเข้าไปประกวด แล้วก็ได้ตำแหน่งชนะเลิศมา และก็ได้เข้าไปแคสติ้งที่ กันตนา ได้เล่นละคร ได้เข้าสู่วงการบันเทิง เป็นนักแสดงค่ะ”
ละครเรื่องแรก?
“ได้เล่นละครเรื่อง รักเร่ เร่ร้างรัก ที่มี พี่ดา (ชฎาพร รัตนากร) เป็นนางเอกในตอนนั้น แต่มันเหมือนเป็นการชิมลาง ลองเทสต์ดูก่อนว่าเล่นได้ไหม บล็อกกิ้งได้ไหม จำบทได้ไหม ยังไม่ได้เล่นเต็มตัวเท่าไหร่ ที่ได้มาเล่นเต็มตัวมากๆ จะเป็นเรื่อง เพลิงพระนาง เวอร์ชั่น พี่นุช (ปรียานุช ปานประดับ) ต้าร์เล่นเป็น เจ้านางทองพญา ลูกของพี่นุช เป็นบทเรียบร้อยหน่อย หลังจากเพลิงพระนางเสร็จ ผู้จัด พี่ตุ๊กตา (จิตรลดา กัลย์จาฤก) คงเห็นว่าบทเรียบร้อยต้าร์น่าจะไม่รอด ต้องเปลี่ยนมาลองเล่นอะไรที่มันมีพลังเยอะ เพราะต้าร์เป็นคนที่มีเอเนอร์จี้เยอะมาก คือต้าร์เป็นพวกไฮเปอร์ เป็นคนชอบทำงาน วันไหนที่ไม่ได้ทำงาน จะรู้สึกว่าตัวเองไม่มีค่า แล้วต้าร์เป็นคนเสียงดัง จะให้มาเล่นบทนางเอก เรียบร้อย มันก็ไม่ใช่ มันกดตัวเองเกินไป พี่ตุ๊กตาก็เลยมองว่า คงต้องเล่นอะไรที่มันร้ายๆ เพิ่มพลังให้กับตัวเองหน่อย เขาก็เลยให้ลองเล่นร้ายดู”
ถ้าไม่เล่นร้าย อยากเล่นบทไหน?
“อยากเล่นบทที่ใช้พลังเยอะๆ ได้ปล่อยพลัง บทที่รู้สึกว่า พอปล่อยเสร็จแล้ว ส่งพลังให้คนดู แล้วก็อยากได้บทละครที่ตีแผ่สังคม พอดูเสร็จแล้วก็อยากจะให้คนดู ได้สะท้อนตัวเองว่า ตัวละครตัวนี้มันไม่ดียังไง ผลที่ได้รับมันเป็นยังไง สังคมทุกวันนี้มันแรงขึ้น ใครทำผิด ใครจะทำอะไร สักพักเดี๋ยวก็ลืม เดี๋ยวก็คิดว่าไม่เป็นไร ช่างมัน เดี๋ยวค่อยกลับมาแก้ไข เลยอยากให้เขารู้ว่า พอทำผิดแล้วผลกระทบมันเกิดอะไรขึ้นบ้าง”
ไอดอลของ กีต้าร์ ศิริพิชญ์ คือใคร?
“พี่เหมียว (ชไมพร จตุรภุช) กับ พี่นุช (ปรียานุช ปานประดับ) ค่ะ ด้วยความช่วงที่ต้าร์ได้เล่นละครเรื่องแรกๆ แล้วก็ได้เจอแต่ผู้ใหญ่ที่พอไปเล่นด้วยแล้วเขาเมตตาเรา พอเรามาอยู่ในจุดหนึ่งที่เราโตขึ้นในวงการ มีวุฒิภาวะเพิ่มขึ้น เรารู้สึกถึงวันที่เขาสอนเรา คือวันที่ต้าร์เจอพี่ๆ เขาครั้งแรก พี่เหมียว พี่นุช เป็นคนที่ตรงต่อเวลามาก ต้าร์อยากจะบอกว่าสิ่งสำคัญของนักแสดงมากที่สุดคือ วินัย พี่ๆ เขาเป็นคนมีวินัยมาก ว่างปุ๊บท่องบท ตรงเวลา ไม่เคยมาสาย อันนี้เป็นสิ่งที่ควรมีสำหรับนักแสดงทุกคน พอโตมาก็เลยรู้สึกว่า อยากจะมีวินัยแบบนั้นบ้าง แล้วพอต้าร์มาเป็นผู้จัด เราก็เลยอยากได้นักแสดง ที่เขาตรงเวลา ตั้งใจท่องบท ตั้งใจทำงาน ฉะนั้นเราก็เลยรู้สึกว่า ถ้าถามถึงนักแสดงท่านไหน ที่เป็นไอดอลของเรา ก็คือพี่เหมียว กับพี่นุชเลยค่ะ”
จากนักแสดง สู่การเป็นผู้จัดละคร?
“อันนี้ต้องเกริ่นถึงความเมตตาของ ช่อง 7HD ที่เอ็นดูต้าร์ คือเราเล่นละครมาก็ระยะเวลาพอสมควรแล้ว ด้วยวัยวุฒิ ประสบการณ์ต่างๆ ก็ฝึกวิทยายุทธมาค่อนข้างเยอะ ซึ่งตอนนั้นทางช่องเองก็เปิดโอกาสให้ผู้จัดเจเนอเรชั่นใหม่ได้มีโอกาสเข้ามาร่วมงานด้วยมากขึ้น แล้วต้าร์ก็บังเอิญได้คุยกับคุณวี (วีรภาพ สุภาพไพบูลย์) ด้วย ว่าเรามาลองทำละครกันไหม ต้าร์มองว่าต้าร์เป็นผู้หญิง ความเป็นผู้หญิงกับผู้ชาย มันมีอะไรต่างกัน ต้าร์มีสิ่งที่ผู้หญิงมี คุณวีมีสิ่งที่ผู้ชายมี ฉะนั้นสองคนพอมารวมกัน มันเหมือนจิ๊กซอว์ที่ต่อแล้วลงตัว
ซึ่งคุณวีเขาก็เล่นละครมาหลายเรื่องแล้ว ก็อยากจะใช้ประสบการณ์ความรู้ที่เขามีมาสร้างสรรค์ผลงาน แล้วบังเอิญเขาได้มาคุยกับต้าร์ เขาก็บอกว่าอยากจะทำ เราก็เลยมาจอยกัน มาเป็นคู่พาร์ตเนอร์ที่คิดว่ามันน่าจะลงตัวที่สุด พอเราคุยกันเสร็จปุ๊บ ก็เดินเข้ามาที่ช่อง 7HD ขอเสนอละคร คุณวีบอกว่าต้องทำให้ช่อง 7HD เท่านั้น เพราะว่าชีวิตเขา ก้าวแรกของเขา เกิดมาจากช่อง 7HD ต้าร์เองก็เช่นเดียวกัน ฉะนั้นเราสองคนเกิดมาจากบ้านหลังเดียวกัน วันหนึ่งถ้าเราจะต้องสร้างบ้านใหม่อีกหลัง เราก็อยากจะอยู่ในที่ที่เราอบอุ่น”
นักแสดง และผู้จัด ต่างกันอย่างไร?
“การเป็นนักแสดง ความรับผิดชอบก็คือ เราต้องรับผิดชอบตัวเอง ทำหน้าที่ให้ดี ตรงเวลา มีวินัย ท่องบท เข้าถึงบทบาทให้ดีที่สุด แต่พอมาในพาร์ตของผู้จัดละคร การก้าวมาอยู่ตรงนี้ มันเหนื่อยมากนะคะ เหนื่อยจริงๆ พอมาลองทำแล้ว ต้าร์เป็นคนที่ถ้าทำอะไรแล้ว ก็อยากทำให้ดีที่สุด ไม่อยากรู้สึกว่ารู้อย่างนี้ฉันไม่ทำอย่างนี้ดีกว่า รู้อย่างนี้ฉันทำอย่างนี้ดีกว่า พอทำดีที่สุดแล้ว วันหนึ่งมันจะเกิดอะไรขึ้นมา จะผิดพลาด หรือจะถูกต้อง ก็รู้สึกว่าถ้าคนดูชม เราก็ใจฟู เราก็ดีใจ แต่ถ้ามันผิดพลาด เราก็เก็บข้อนั้น มาเป็นสิ่งที่เราควรจะต้องปรับปรุงในการทำงานขั้นต่อไป
ฉะนั้นการเป็นผู้จัดของต้าร์ คือจะตั้งใจทำงานทุกชิ้นให้ดีที่สุด เราเริ่มต้นจากการให้คนอื่นมีความสุขที่จะมากองถ่าย มาทำงานกับเรา มันเหนื่อยในการที่เราใส่ใจไปทุกจุด แม้แต่จุดเล็กๆ คุณวีบอกว่ามองผ่านไปบ้างก็ได้ ให้คนนั้นทำ คนนี้ทำบ้างก็ได้ ทำไมต้าร์ต้องลงมาดูแลทุกอย่างขนาดนี้ แต่ต้าร์รู้สึกว่าแม้มันเป็นส่วนเล็กๆ แต่ถ้าเราทำจุดเล็กๆ ให้มันสมบูรณ์แบบทีละจุด มันก็อาจจะเป็นภาพใหญ่ที่ออกมาสมบูรณ์ แล้วมีแต่คนพูดถึงในทางที่ดี”
ทำไมถึงชื่อค่าย มากกว่าฝัน?
“อันนี้คือนั่งคุยกับคุณวี ว่าชื่อบริษัทเราจะชื่ออะไรดี นั่งคุยกันอยู่ ไปๆ มาๆ ก็มาได้ที่ มากกว่าฝัน มันมาจากที่ว่า สมัยก่อนเราเป็นนักแสดงตัวเล็กๆ ที่อยู่ในช่อง เดินไป เดินมา กินขนมในกองถ่าย พอวันหนึ่งเราได้เป็นผู้จัดละคร มันเป็นอะไรที่มากกว่าสิ่งที่เราคิด คือเคยคิดว่าสมัยก่อน คนที่จะเป็นผู้จัดละครได้ จะต้องเริ่มมาจากใครที่มีต้นทุน หรืออาจจะมีครอบครัวที่ทำอยู่แล้ว หรืออาจจะต้องมีวัยวุฒิพอสมควร แต่ต้าร์ กับวี เริ่มงานนี้ในวัย 30 กว่าๆ มันเป็นอะไรที่จากนักแสดง ขึ้นมาเป็นผู้จัดละคร เลยตามคอนเซ็ปต์เราว่าชื่อ มากกว่าฝัน มันคือจุดที่มากกว่าฝันที่เราเคยฝันไว้ เราฝันไว้ว่าเป็นแค่นักแสดง วันหนึ่งเราได้เป็นผู้จัดละคร มันมากกว่าฝันค่ะ”
อยากลองทำละครแนวไหน?
“ละครที่อยากลองทำ สำหรับตัวต้าร์กับคุณวี อยากทำละครที่ยิ้มๆ ด้วยครอบครัวเราด้วยมั้งคะ เลยอยากทำละครที่พ่อ แม่ ลูก นั่งดูละครด้วยกันแล้วมีความสุข อยากทำละครที่มันสร้างสรรค์ ดูแล้วยิ้มได้ ดูแล้วหัวเราะได้ ดูแล้วรู้สึกว่า อยากเรียกลูกๆ มานั่งดูละครด้วยกัน ลูกละครเรื่องนี้สนุกนะ แดดดี้มาดูละครกัน ละครเรื่องนี้สนุก อยากจะทำละครที่มันส่งเสริมสถาบันครอบครัว หรือละครที่ดูแล้วยิ้ม เดินออกไปคุยกับคนอื่นได้ว่า ดูละครเรื่องนี้หรือเปล่า มันสนุกจังเลยอ่ะ อยากจะทำละครให้คนดูแล้วเอาไปพูดต่อได้ อยากทำละครที่รู้สึกว่า ละครเรื่องนี้ทำแล้วฉันได้ข้อคิด พอดูละครแล้วรู้สึกว่า ชีวิตฉันเป็นแบบนี้จริงๆ ถ้าฉันเดินตามทางนี้ต่อไป ชีวิตฉันอาจจะเหมือนคนในละครก็ได้ อยากทำละครแบบนั้นมากกว่า”
คำแนะนำที่อยากส่งต่อให้กับนักแสดงรุ่นใหม่?
“อยากจะฝากถึงน้องๆ นักแสดงรุ่นใหม่ทุกคนนะคะ การเป็นนักแสดง หรือจะเป็นอาชีพอะไรก็แล้วแต่ เราต้องซื่อสัตย์ต่อตัวเอง ซื่อสัตย์ต่องานที่ทำ สิ่งสำคัญที่สุดคือ เหมือนสโลแกนของต้าร์ค่ะ คือทำทุกอย่างให้มันดีที่สุด ส่วนการเป็นนักแสดงง่ายๆ เลย แค่มาให้ตรงต่อเวลา ท่องบท มีวินัย ใส่ใจ”
ละครที่หยิบมาทำ ทำไมถึงต้องเป็นเรื่อง ในรอยทราย?
“เพราะพออ่านละครเรื่องนี้แล้ว รู้สึกว่า มันมีมิติของตัวละครทุกตัว บทพระเอกมันมีความต่างกัน แล้วเป็นเรื่องที่อ่านแล้วได้ข้อคิด ของเรื่องครอบครัวด้วย แล้วก็รู้สึกว่าเป็นเรื่องที่ครบรสจริงๆ คาแรกเตอร์ของ ทิวา กับ ตะวัน ซึ่งรับบทโดย คุณไมค์ (ภัทรเดช สงวนความดี) มันมีความแตกต่างกัน คนหนึ่งเป็นเพลย์บอย คนหนึ่งเป็นตำรวจ มันมีสีสันให้คนดู ประมาณว่า ฉันชอบตัวละครที่เป็นเพลย์บอยอย่างตะวันจังเลย ส่วนอีกกลุ่มก็อาจจะบอกว่าฉันชอบผู้ชายอบอุ่นๆ แบบทิวาจังเลย
ส่วนของ ฐิสา (วริฏฐิสา ลิ้มธรรมมหิศร) ซึ่งเป็นตัวละคร วิมาลา กับ สกาย (สกาย มาเรีย) ที่เป็นตัวละคร เกรซ เนี่ย ก็มีความแตกต่าง วิมาลา เขาก็จะเป็นทนาย เป็นผู้หญิงที่มีความสุขุม ส่วนสกายเขาก็จะมีความสดใส ฉะนั้นทุกๆ อย่างมันเป็นเหมือนรสชาติของก๋วยเตี๋ยว ที่มีหลากรส ปรุงแล้วกลมกล่อม อร่อย รู้สึกว่าพออ่านเสร็จปุ๊บ มันใช่ มันมีหลายรสชาติ มันมีหลายข้อคิด มีหลายคาแรกเตอร์ของตัวละครเรื่องนี้ พอรู้สึกว่ามันมีความสนุก มันมีความเศร้า มันมีความสุขุม มันมีข้อคิดสถาบันครอบครัว”
Lucky in Love Lucky in Game?
“สถาบันครอบครัว สิ่งสำคัญที่สุดคือ ต้องรู้จักตึง รู้จักหย่อน รู้จักให้อภัย บางทีไม่จำเป็นจะต้องมีเรื่องมือที่สามใดๆ ไม่ว่าจะเป็นสามีภรรยากัน หรือลูกๆ มันต้องมีบ้างที่จะพูดไม่ถูกหู ผิดใจ หรือทำอะไรไม่ถูกใจ ถ้าเราเอามายึดติด หรือเอามาคิดไปหมด มันก็จะเป็นทุกข์ แล้วมันก็จะทำให้ไม่คุยกัน ทำให้เกิดปัญหาในครอบครัว สิ่งสำคัญที่สุดของต้าร์คือลูกๆ ตั้งตา กับ เติมเต็ม ชื่อลูกๆ ของต้าร์อย่าง ตั้งตา คือสิ่งที่ต้าร์รอคอย เติมเต็ม คือเขามาเติมเต็ม ให้ชีวิตคู่ของต้าร์ มันเป็นภาพที่สมบูรณ์ หรือเวลาต้าร์ทำงานเหนื่อยๆ เครียดขึ้นมา สำคัญที่สุดคือต้าร์หันไปมองคุณเตอร์ (ปริยะ วิมลโนช) แล้วเขาจะยืนอยู่ข้างๆ เสมอ เขาก็จะบอกว่าแม่ ไม่เป็นไรนะ พ่ออยู่ข้างๆ วันไหนที่ต้าร์รู้สึกว่า ต้าร์ท้อ ต้าร์เหนื่อยเหลือเกิน ต้าร์ยังดีใจที่มีผู้ชายคนนี้ที่อยู่ข้างเรา เขาเติมพลังงาน เติมน้ำในหัวใจ มันคือการหล่อเลี้ยง แค่พูดเฉยๆ ว่า มีเขาอยู่ข้างๆ นะ มีปัญหาอะไร มันสามารถดูแลกันได้ ก็เลยทำให้รู้สึกว่า มันเป็นความประทับใจ”
WHO ARE YOU? ในนิยามของ กีต้าร์ ศิริพิชญ์ คือ?
“สั้นๆ เลยค่ะ สุด สุดทุกเรื่อง”
แฟนๆ สามารถติดตามชมบทสัมภาษณ์นี้ ได้ในรายการออนไลน์ WHO ARE YOU? กีต้าร์ ศิริพิชญ์ ทาง Youtube : Ch7HD https://www.youtube.com/watch?v=Viy-s-QP2Lg
และอย่าพลาดชมละคร “ในรอยทราย” ทุกวันจันทร์-พฤหัสบดี เวลา 20.40 น. ทางช่อง 7HD ดูทีวีกด 35 สดออนไลน์ BUGABOO.TV และช่องทางออนไลน์ Facebook, IG, X, TikTok, YouTube: Ch7HD เว็บไซต์: www.ch7.com