xs
xsm
sm
md
lg

รู้หรือไม่? “ดีเจพีเค” ก่อนรวย เคยล้างส้วมมาก่อน!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



แม้ปัจจุบันจะเห็นถึงความสำเร็จของ “พีเค ปิยะวัฒน์ เข็มเพชร” มีทั้งบ้านหรู 100 ล้านใจกลางเมือง มีรถซูเปอร์คาร์ราคา 30 ล้าน แต่ในอดีต ต้องบอกว่าเจ้าตัวก็เป็นอีกคนที่สู้ชีวิตอยู่ไม่น้อย

พีเคเคยเล่าเส้นทางชีวิตตัวเองให้แฟนๆ ได้ฟังในรายการคลับฟรายเดย์ โดยเผยว่าก่อนที่จะร่ำรวยอย่างปัจจุบัน ครอบครัวเจ้าตัวมีฐานะปานกลางมาก่อน พ่อรับเงินเดือน แม่เปิดร้านขายของชำ แม่ตั้งใจว่าอยากให้ลูกเข้าบดินทรเดชาให้ได้เพราะพี่ชายคนโตกับคนกลางเข้าโรงเรียนดีๆ ซึ่งพี่ๆ เข้าวชิราวุธวิทยาลัยได้ทั้งคู่ แต่ด้วยความที่โง่ ทำให้พีเคสอบเข้าไม่ได้ เพราะบ้านไม่มีเงินพอที่จะส่งเข้าไปเรียนโรงเรียนเดียวกับพี่ๆ แม่เลยบอกว่าถ้าเข้าโรงเรียนที่ตั้งใจไม่ได้ ก็ไปลองไปเสี่ยงชีวิตอยู่ที่อเมริกา
 
ด้วยความที่เรื่องภาษามีความรู้น้อยมาก วันแรกที่ไปถึงถึงก็คือช็อกเลยเพราะว่าน้าน้องสาวพ่อเปิดร้านอาหาร แล้วพ่อกับแม่ไปทำงานเหมือนคนเสิร์ฟ คนทำครัวที่นั่น ที่นอนคือชั้นใต้ดิน เวลาอาบน้ำก็อาบน้ำกันในอ่างล้างจาน ซึ่งตนก็ตกใจมาก แต่ก็ลุย เพราะพ่อแม่อยู่ได้ ตนก็ต้องอยู่ได้ อยู่ได้ 2 อาทิตย์ก็เข้าโรงเรียน

ซึ่งตอนนั้นก็โดนบูลลี่หนัก แต่ก็ต้องขอบคุณที่บูลลี่ เพราะถ้าไม่เก่งไม่แกร่งมาตั้งแต่เด็กๆ ก็จะไม่มีชื่อ พีเค ตอนนั้นขื่อเล่นจริงๆ คือ นัท แล้ว Nut ภาษาอังกฤษแปลว่าบ้า ก็ทำให้โดนเอาไปล้อ โดนแกล้ง มาต่อย มาตบหัว จนเพื่อนฟิลิปปินส์สงสารจึงเปลี่ยนชื่อให้ตอน 10 ขวบนิดๆ และเป็นที่มาของชื่อ พีเค รวมทั้งตนเองยังหาเงินได้ตั้งแต่อายุยังน้อย

แม่จะสอนตลอดเลยว่าอยากได้อะไรในชีวิตนี้หาเอาเองฉันไม่มีให้ พอเราอายุ 13 จึงเริ่มทำงาน ได้เงินมา 5-10 เหรียญ ถือว่าเยอะแล้วในสมัยก่อน จน 16 ปี ทำงานที่แรกแบบว่าทำงานจริงจังที่เราทำคือ ล้างส้วมก่อนเลย คนส่วนใหญ่อาจจะคิดว่าพีเคล้างส้วมจริงเหรอ จะบอกเลยว่าทุกคนที่เข้ามาทำงานร้าน Wendy’s Burgers อาทิตย์แรกล้างส้วม อาทิตย์ถัดมาเก็บขยะ ซึ่งตนไม่รู้สึกอะไรเลยเพราะแม่จะสอนให้ติดดินเสมอ แม่จะสอนว่าเรามีเท่านี้ อยากได้มากกว่านี้หาทำเอา แล้วเราจะรู้เลยว่าเราเหนื่อยขนาดไหนเราก็จะได้เงินกลับมาเท่านั้น

พีเคมุมานะทำงานจนมีรายได้เป็นแสนคืองาน Computer networking ของธนาคาร ตอนจบมหาวิทยาลัยแล้วจำได้เลยว่าแม่ดีใจมาก เงินเดือนเดือนละแสน ใส่สูท ผูกไทด์ ขับรถสปอร์ตไปทำงาน แม่มีความสุขมาก

แต่ความตั้งใจที่จะกลับมาเมืองไทยคือตั้งแต่อายุ 13 อยากเป็นนักร้อง เพราะว่าทุกร้านอาหารไทยที่อเมริกาจะมีคาราโอเกะแล้วเพลงที่จะมีแต่ของแกรมมี่ เพลงเบิร์ด ธงไชย เพลงใหม่ เจริญปุระ เพลงติ๊นา คริสติน่า มันเลยฝังอยู่ในสมองว่าถ้าจะเป็นนักร้องต้องที่แกรมมี่เท่านั้น แม่บอกว่าถ้าอยากเป็นนักร้องต้องเอารับปริญญามา 1 ใบ พอเราได้รับปริญญาก็บอกว่าเราจะกลับมาเป็นนักร้องแม่บอกว่าทำงานก่อน แต่พอตนบอกว่าจะกลับจริงๆ แล้วนะ ทะเลาะกันร้องไห้เพราะแม่เสียดายงานที่ทำ ทิ้งเงินเป็นแสนกลับมาเมืองไทย

จากนั้นพีเคก็เอาเดโมมายื่นที่แกรมมี่ artist และค่อยๆ รู้จักทุกคนในช่วงนั้นตลอด 1 ปี ถึงแม้ไม่มีงานก็ยังมีเงินเก็บติดตัวมา 25,000 บาท ตอนนั้นจะมีคำว่า “แกเคยดูตัวเองบ้างหรือเปล่าในกระจก แกทำไม่ได้” ได้ยินแบบนี้มาเยอะมากเลยขอเลือกทำเอง ถ้ามันทำไม่ได้ก็จะได้รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น

โชคดีได้เจอ ฉอด สายทิพย์ มนตรีกุล ณ อยุธยา ซึ่งบอกว่าตนเองพูดภาษาอังกฤษได้ลองทำเทปดีเจดีไหม แต่ก็ยังคงส่งเดโมต่อไปจนมาเจอค่ายอังกอร์ ทำเพลงให้เป็นแนว R&B ปรากฏว่าเพลงดังทุกคนในประเทศร้องได้แต่ไม่มีใครรู้ว่าตัวเองร้อง ไปทัวร์คอนเสิร์ตขึ้นไปร้อง 4 คน แต่ไม่มีคนรู้จักตนเลยจนร้องเพลงนี้ขึ้นมาทุกคนถึงร้องอ๋อ พอมันเกิดแบบนี้ซ้ำแล้วซ้ำอีกมันน่าเบื่อ

แล้วมีอยู่วันหนึ่งที่ทำให้รู้เลยว่าตนเองจะยึดอาชีพพิธีกร เกิดขึ้นในวันที่มีคอนเสิร์ตเกาหลี-ไทย วันนั้นเป็นพิธีกรด้วย วง Sane ก็ขึ้นร้องด้วย พองานจบรับเช็ค 1 ใบของพิธีกร อีก 1 ใบนักร้อง เปิดมาดูจากนั้นต่อไปเรารู้เลยว่าต้องเป็นพิธีกรอย่างเดียว เพราะได้ทำตามความฝันแล้ว ตั้งแต่วันนั้นก็ผันตัวเป็นพิธีกรเต็มตัว







กำลังโหลดความคิดเห็น