xs
xsm
sm
md
lg

หนังคนละม้วน! “ภวิน” ไม่ได้ทำร้าย “เกลิน” แต่อีกฝ่ายขู่ฆ่าตัวตาย จะโดดระเบียง หลังบอกเลิก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



หนังคนละม้วน! “ภวิน” ยันไม่ได้ทำร้าย “เกลิน” แค่ป้องกันตัว อีกฝ่ายขู่ฆ่าตัวตายจะโดดระเบียง หยิบมีด-กรรไกรจะแทง หลังบอกเลิก ลั่นแฟนเก่าโยนคอมพิวเตอร์ถูกคนอื่นได้รับบาดเจ็บ ตนก็จ่ายเงินเป็นค่ารักษาแทน เสียใจถูกต้นสังกัดพักงาน

กรณี “เกลิน ธัญรดี ชาญชนินท์กุล”ออกมาร้องสื่อขอความเป็นธรรม อ้างถูก “ภวิน ธนิก กมลธรานนท์” นักแสดงซีรีส์วายในสังกัดค่ายดังอย่าง GMMTV ทำร้ายร่างกายอย่างหนัก ง้างปาก บีบคอจนตาเหลือก กระทืบ 3 วันติด พร้อมดำเนินคดีถึงที่สุด ล่าสุดฝ่าย “ภวิน ธนิก” ได้ตั้งโต๊ะแถลง เล่าความจริงอีกมุม เรียกว่าหนังคนละม้วนเลยทีเดียว

“ต้องยอมรับว่าผมคบกับเขาจริงๆ เป็นระยะเวลาประมาณ 1 เดือน จริงๆ เหตุการณ์เกิดขึ้นเริ่มตั้งแต่วันที่ 9 กุมภาพันธ์ ผมบอกเลิกเขาครั้งแรก เขามีจะไปกระโดดระเบียง ผมได้ห้ามและยอมเขาคบต่อ ไม่เลิก หลังจากนั้น 2-3 วัน เขาก็บอกเลิกผม ผมก็ยอมเลิก เริ่มเก็บของออกจากคอนโด ระหว่างที่ผมเก็บของเขาก็วิ่งไปหยิบเชือกเหมือนจะเอามาผูกคอ ผมได้ห้าม

หลังจากนั้นจะเป็นเหตุการณ์วันที่ 18 ก.พ. - 19 ก.พ. ที่เขาพูดกับผมว่าถ้าวันที่ 20 ก.พ. ผมไปทำงานแล้วกลับมาเห็นเขาไม่มีลมหายใจแล้วจะทำอย่างไร ผมก็กังวลตรงนี้ เลยให้เขาโทร.หาโรงพยาบาล แล้วนัดว่าวันไหนจะไปกัน

เหตุการณ์มาเกิดขึ้นจริงๆ วันที่ 22 ก.พ. ผมคุยกับเพื่อน เขาไม่พอใจ ก็เลยไปหยิบเชือกมาจะผูกคอ ผมห้าม ผมเอาโทรศัพท์อัดเสียงไว้ เพราะเริ่มกังวลแล้วว่าเหตุการณ์ดูบานปลายไปมากกว่านี้ หลังจากนั้นเขามีจะกระโดดระเบียง ผมห้าม เลยเริ่มเกิดการทะเลาะกัน เขาก็วิ่งไปหยิบมีดมาจะแทงผม เขาก็ป้องกันตัวเอง แย่งมีดจากเขาเอาไปทิ้งหน้าห้อง ระหว่างผมเดินกลับมากั้นระเบียงไม่ให้เขาออก เขาก็ไปหยิบกรรไกรมาจะแทงผม เข้ามาประชิดตัวผมเลยต้องดันเขาออกไป พอดันออกไปครั้งแรก ก็วิ่งมาอีก ผมก็เลยดันอีกแล้วแย่งกรรไกรไปทิ้งหน้าห้อง

พอทิ้งกรรไกรผมก็ตัดสินใจวิดีโอคอลหาเพื่อน ให้ช่วยคุยหน่อยเพราะรู้สึกว่าเราไม่ไหวแล้ว เริ่มเหนื่อย สู้เขาไม่ไหว อธิบายเหตุการณ์กับเพื่อน แล้วเอากล้องฉายไปที่ตรงที่เขาผูกเชือก บอกเพื่อนว่าเขาจะมีโดดตึก ผมห้ามไปแล้ว ระหว่างที่โทร.เล่าเหตุการณ์ให้เพื่อนรู้ เขาวิ่งมาจะไปโดดตึก ผมรีบเอาโทรศัพท์ไว้ที่พื้น ห้ามเขา แล้วค่อยเล่าเหตุการณ์ต่อว่าเขาจะทำอะไร เขามีเดินเข้ามาตบหน้าผม พยายามแย่งโทรศัพท์ และบอกว่าถ้าไม่วางสายจะไลฟ์ไอจี ผมเลยวางสายเพื่อน

จากนั้นก็พยายามอุ้มเขาไปสงบสติอารมณ์ในห้องนอน แต่เข้าไม่ได้เพราะเก้าอี้บังอยู่ เลยอุ้มเขาเข้าห้องน้ำ แต่เขาดิ้นผมเลยเสียหลัก หลังเขาเลยไปกระแทกกับอ่างล้างหน้า เขามีอาการชัก ผมเลย CPR จนดีขึ้น แล้วพามานั่งเกลี้ยงกล่อมให้กินยา ระหว่างนั้นผมมีโทรไลน์หาเพื่อนบอกสถานการณ์ เพื่อนก็เป็นห่วงทั้งคู่

พอกินยาเขาก็สงบลง แล้วบอกเขาว่าที่คบกันอยู่กลายเป็นความสัมพันธ์แบบท็อกซิก ทะเลาะครั้งต่อไปมันจะรุนแรงมากขึ้นขนาดไหน หรือจะยังไง เราเลิกกันไหม เขาตอบว่าเขาเลิกก็ได้ ผมก็ไปเก็บของ เขาก็บอกให้ผมรีบออกไป พอผมเก็บกระเป๋า เขาก็เดินไปที่ระเบียง ผมวิ่งตามไปช่วยเขา ซึ่งเขาเอาขาสอดออกไปตรงซี่ระเบียง ตอนนั้นผมไม่เห็นว่าเขาเอาขาล็อกไว้ ก็ช่วยเขาออกมา แล้วบอกให้เขาไปอาบน้ำนอน

พอเขาไปนอนและด้วยความกังวลของผม ก็เลยคิดว่าถ้าเกิดผมนอนไปแล้วเขาทำเหมือนเขาหลับและตื่นขึ้นมาทำอะไร มันจะเกิดอะไรขึ้นไหม โอเค ผมก็เลยไม่ยอมนอนรออยู่นอกห้อง อยู่ตรงโซนนั่งเล่นยันเขาตื่น พอเขาสะดุ้งตื่นมาตอนเช้าก็เข้ามาโวยวายผมว่าทำไมไม่เข้าไปนอน ทำไมมานั่งอยู่ข้างนอกและเขาเดินออกไปที่ระเบียงอีกครั้งหนึ่ง ผมก็เลยห้ามไว้และเกลี้ยกล่อมบอกเขาไปนอนไหม และเดี๋ยวผมเข้าไปนอนด้วย เขาก็เลยตกลงเข้าไปนอน จนเวลา 12.28 นาที แม่ผมโทร.มาว่าตื่นหรือยังเพราะผมมีธุระที่บ้าน ผมก็เลยบอกว่าตื่นแล้ว ผมก็ลุกขึ้นมาล้างหน้าแปรงฟัน แล้วก็บอกเขาว่าเดี๋ยววันนี้จะเก็บของกลับบ้านนะ เพราะเรามีธุระที่บ้านนะ เขาก็ไม่ยอม มันก็เลยเกิดการทะเลาะกัน

ผมก็เลยรีบเก็บของ และในระหว่างที่ผมเก็บของเขาก็รีบเข้ามากอดเรา และผมก็เลยรีบวางของลงบนพื้นเพราะกลัวของจะตก ช่วงระหว่างนั้นก็มีการทะเลาะกันนิดหน่อย ซึ่งเป็นการทะเลาะเถียงกันไปเถียงกันมา และเขาก็เดินไปเหยียบจอคอมพิวเตอร์เราหนึ่งจอ พอเราเห็นว่าเขามีการทำร้ายของของเราแล้วเราก็เลยโทร.แจ้งตำรวจว่าอยากจะย้ายออกจากคอนโดนะ แต่ว่าตอนนี้มีคนไม่ให้ผมย้ายออกและมีการทำลายข้าวของผมด้วยก็เลยช่วยให้มาดูหน่อย

ซึ่งระหว่างที่คุยเขาก็มีการทำลายข้าวของของผมเพิ่มด้วย ผมก็เลยแจ้งว่าที่เกิดเหตุมันอยู่ตรงนี้ และหลังจากนั้นผมเห็นข้าวของผมแตกผมก็เลยรีบชิ่งเก็บข้าวของออกเลย ซึ่งพอลงมาผมก็เลยโทร.บอกเพื่อนว่าสถานการณ์ตอนเช้ามันเป็นยังไง มันไม่ดีแล้วและผมก็เห็นคนมุงอยู่ข้างหน้าหน้าคอนโด ผมก็ออกไปดูว่าเขามุงอะไรกัน ซึ่งผมออกไปผมก็เลยเห็นเคสคอมถูกโยนลงมาแล้ว และผมก็ได้คุยกับพนักงานในคอนโด ว่าผมได้แจ้งความไปแล้ว และเคสคอมพิวเตอร์ที่ถูกโยนลงมาเป็นแฟนผมโยนมา ซึ่งในตอนนั้นเราไม่รู้เลยว่ามีคนเจ็บหรืออะไร พนักงานก็ไม่ได้บอกผม

ผมก็เลยเข้าไปดูคอมบ์ฯ แล้วก็รอตำรวจมา พอมีตำรวจและกู้ภัยมาเขาก็ให้ผมขึ้นไปที่ห้องเขา และกู้ภัยก็มาดูว่าเขาเป็นอะไรไหมและพาเขาไปโรงพยาบาล พอลงมาผมก็เลยรู้ว่ามีคนเจ็บซึ่งตอนนั้นผมได้โทร.คุยกับพี่สมคิดแล้ว ซึ่งเป็นสามีของพี่รุ่งและผมก็ได้คุยกับพี่รุ่งแล้วว่า ตอนนี้อาการพี่เขาเป็นยังไงบ้าง และพี่เขาก็เลยบอกว่าได้ออกจากโรงพยาบาลแล้ว แต่ยังมีการไปล้างแผลทุกวันและมีการตรวจเช็กร่างกายว่าอาการเป็นยังไงบ้าง ซึ่งตรงนี้ผมก็ได้มีการคุยกับพี่รุ่งแล้ว แล้วก็มีเงินช่วยไปจำนวนหนึ่งแล้วครับ”

เสียใจถูกต้นสังกัดพักงาน ขอถอนตัวออกจากซีรีส์แล้ว
“อีกส่วนหนึ่งก็คือส่วนของงาน จากที่ทุกคนรู้กันว่าเมื่อวานทางบริษัทมีการโพสต์แจ้งข่าวว่าผมโดนพักงาน ส่วนนี้ผมก็ค่อนข้างกังวลมากๆ เพราะว่าที่ผ่านมาผมก็ตั้งใจทำงานตรงนี้มาโดยตลอด ผมรู้สึกเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ผมก็เข้าใจทางค่าย เพราะว่าเหตุการณ์แบบนี้ส่งผลกระทบต่อค่ายหนัก ซึ่งในส่วนของซีรีส์ ผมก็ทำการบอกทางค่ายว่าผมจะขอถอนตัวออกจากซีรีส์ เนื่องจากเหตุการณ์นี้ส่งผลกระทบให้ซีรีส์เช่นกัน ผมอยากจะขอโทษค่าย ทีมงาน ผู้กำกับ รวมถึงเพื่อนๆนักแสดงทุกคน ที่ทำให้เกิดเรื่องนี้ขึ้นมา แล้วก็ขอโทษทุกคนที่ทำให้ได้รับผลกระทบนี้ด้วยครับ”

โต้กระทืบ แค่กระชาก ซึ่งเกิดจากการเข้าไปรั้งไม่ให้อีกฝ่ายฆ่าตัวตาย
“เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงๆ ส่วนใหญ่มันจะเกิดจากการที่เราไปกอดหรือรั้งไม่ให้เขาทำร้ายร่างกายตัวเอง หรือในตอนที่เขาจะไปบริเวณระเบียง เหตุการณ์มันค่อนข้างชุลมุน

ส่วนที่เขาบอกสื่อว่าผมกระทืบเขา ถ้าให้ผมพูดตรงๆ ก็คือมันไม่มี เหตุการณ์ที่มีก็จะเป็นการที่ตัวผู้หญิงวิ่งไปที่ระเบียง เราวิ่งตาม แล้วก็รีบจับตัว รั้ง กอดเขาไว้ มีอุ้มด้วย ตัวเขาก็ดิ้น คือตัวเราเข้าไปห้าม เหตุการณ์เตะ ต่อยที่หัวเขาก็ไม่มี ผมแค่กระชาก ซึ่งผมมีบาดแผลจากมีดที่เขาถือมา เราได้บาดแผลจากการที่เราปกป้องตัวเอง เพราะว่าตอนนั้นมันก็มีการยื้อยุดฉุดกระชากกันด้วย ผมไม่ได้ต่อยเขาครับ

คือเราไม่มีทางรู้ได้เลยว่าเขาจะกระโดดจริงหรือไม่จริง แต่เราก็ต้องเข้าไปห้ามไว้ก่อน เราไม่อยากเห็นใครเสียชีวิตต่อหน้าเราอยู่แล้ว ในการที่เราช่วยเหลือเขาแล้ว เราห้ามไม่ให้เขาฆ่าตัวตาย แต่เขาถือมีดถือกรรไกรมาเนี่ย เราก็รู้สึกว่าเราก็ต้องปกป้องตัวไม่ให้บาดเจ็บด้วย ส่วนหลังเขียวๆ ตอนนั้นเราพยายามอุ้มเขาให้เขาสงบสติอารมณ์ ขณะนั้นผมเสียหลัก หลังเขาเลยไปโดนเข้ากับอ่างน้ำครับ”

อัดคลิปเสียงเพราะไหวตัวทัน ไม่ใช่ครั้งแรกที่ทะเลาะกันแบบนี้
“คือจริงๆ คลิปเสียงถ้าให้พูดก็คือ มันตั้งแต่ต้นเหตุการณ์เลย ตอนนั้นผมไหวตัวทัน เพราะครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกด้วยที่เราทะเลาะกันแบบนี้ ส่วนที่เขาบอกว่ามีภาพจากกล้องวงจรปิด เป็นภาพจากกล้องวงจรปิดข้างหน้าห้องอย่างเดียวครับ ส่วนที่เขาบอกว่าขาหัก แต่ที่ผมเห็นคือเขาก็ไม่ได้ขาหักอะไร อาจจะรู้สึกเจ็บจังหวะที่ขาเขางัดกับตัวระเบียงครับ ไม่ได้เกิดจากผม”

ลั่นเลิกเพราะอีกฝ่ายเทรด forex เสียแล้วมาโทษตน
“จริงๆ มันเริ่มขึ้นตั้งแต่วันที่ 9 ผมจำได้ที่เราทะเลาะกัน ก็ไม่เชิงทะเลาะ ตอนนั้นผมบอกเลิกเขา เหตุผลที่บอกเลิกเป็นเรื่องที่เขาเทรด forex แล้วเขาเสีย แล้วเขาก็มาโทษเรา ส่วนที่บอกว่าเราเล่นเกมจนไม่สนใจเขา คือผมจะบอกว่าเล่นเกมกับเพื่อนมันก็ต้องใส่หูฟังเล่นแหละ แต่พอช่วงกลางคืนเขาจะเริ่มเทรดทอง เทรดฟอเร็กซ์ พอเราคุยอะไรด้วยเหมือนเขาก็จะไม่รับสารแล้ว ผมก็ไม่รู้ว่าทำไมถึงบอกว่าไม่สนใจ ผมเล่นวันนึงก็ไม่ได้เยอะ เรามีประวัติการเล่นบอกหมดทุกอย่าง ผมเล่นวันนึงประมาณ 2-3 ชั่วโมงครับ การเล่มเกมก็ไม่มีผลกับความสัมพันธ์ เอาจริงคือผมเล่นเฉพาะเวลาเห็นเขาจับโทรศัพท์เทรดแล้ว ไม่งั้นก็จะนั่งอยู่ด้วยกัน หาอะไรดูไปเรื่อย ถามว่าเล่นเกมแล้วหัวร้อนไหม ตอนเด็กๆ อาจจะใช่ แต่พอโตมาเราก็คุยกับตัวเองว่าถ้าเราเล่นเกมแล้วหัวร้อนเราจะเล่นทำไม เราเล่นเกมให้มันสนุกไม่ใช่หรอ มันควรสนุกเฮฮา คลายเครียด ไม่ใช่ยิ่งเล่นยิ่งเครียด ก็ไม่ควรเล่นมัน”

รับแถลงวันนี้หนังคนละม้วน
“ผมรู้สึกว่ามันก็คนละม้วนแหละ แต่ว่าเราก็ฟังฝั่งเขาก่อนว่าพูดอะไรถึงเราบ้าง (มีอะไรที่เรารู้สึกว่าไม่ใช่เลยในสิ่งที่เขาพูด?) มีที่แบบผมไปขึ้นคร่อม กระทืบเขา ต่อยเขา ซึ่งพวกนั้นไม่รู้เลย ที่เขาบอกผมทำร้ายเขา 3 วันติด วันที่ 21 เขาไม่พอใจผมก็เลยมีการจะผูกคอเลย ผมก็ห้ามแล้วก็มีการเกลี้ยกล่อมกัน จบ แล้วก็ไม่ได้มีการทะเลาะอะไรกันเลย 22-23 มีทะเลาะรุนแรง แต่ไม่ได้รุนแรงถึงขั้นตบตี กระทืบเลย มีแต่รั้งเขา ดึงเขาไม่ให้ไปและก็กันเขาไปที่ระเบียง รอยต่างๆ ที่เกิดที่ตัวเขา เกิดจากการห้ามไม่ให้เขาทำร้ายตัวเอง”

เครียดมาก จนแม่ต้องมาเช็กอาการที่ห้องนอน
เอาจริงๆ เครียดมาก จนแม่ถึงขั้นต้องมาเช็กอาการที่ห้องนอนตลอด ว่าเป็นไงบ้าง ถามตลอด เครียดไหม กินอะไรไหม เพราะผมก็ไม่กินอะไรเลย เก็บตัวอยู่ในห้อง แม่ก็เลยเข้ามาดูเป็นระยะๆ ตอนนี้คนมองผมเป็นผู้ชายใช้ความรุนแรง จากที่ผู้หญิงออกมาพูดคนก็ตีความเป็นอย่างนั้นได้แหละ ก็อยากให้ทุกคนใจเย็นๆ รอดูว่ากระบวนการทางกฎหมายสรุปคดีออกมาเป็นยังไง”

เผยให้เงินช่วยคนเจ็บจากเคสคอมพิวเตอร์หล่นใส่ ส่วนอดีตแฟนจ่ายไหม ไม่รู้เลย เพราะไม่ได้ติดต่อกันแล้ว
“วันนั้นพอผมลงไป เคสได้หล่นลงมาเรียบร้อยแล้ว แล้วมีคนมุงคนเจ็บ ผมไม่รู้เลยว่าใครมุงอะไร เพราะว่าทุกคนยืนเป็นหน้ากระดานแล้วล้อมไว้คนเจ็บอยู่หลังหน้ากระดาน แล้วก็มุงกันเหมือนคอยช่วย ซึ่งผมออกมาจากหน้าคอนโด ผมก็เลยไม่เห็นอะไรเลยว่ามีคนเจ็บ เพิ่งมารู้ตอนลงมาอีกรอบหลังจากกู้ภัยไปช่วยเขาเข้าโรงพยาบาลแล้ว

ตอนนี้ผมได้โทร.หาพี่สมคิดแล้วครับ ที่เป็นสามีของพี่รุ่ง ได้มีคุยสอบถามอาการ พี่รุ่งบอกว่าออกจากโรงพยาบาลแล้ว แต่ว่าต้องไปล้างแผลทุกวัน พี่สมคิดต้องหยุดงานเป็นคนพาไป ผมก็ให้เงินช่วยไปจำนวนหนึ่งเป็นค่ารักษา เป็นเงินของผมเอง ในส่วนของอดีตแฟน ผมไม่รู้เลย ผมไม่ได้ติดต่อเลย หลังจากเหตุการณ์วันนั้นผมไม่ได้ยุ่งกันเลย แต่ผมก็รู้ตามข่าวว่าทางฝั่งนั้นเขาช่วย 15,000 บาท ฝั่งเราก็ช่วยอีกจำนวนหนึ่ง แล้วก็มีส่งกระเช้าไปครับ ก็อยากให้ถ้าคนที่มีแฟน หรืออนาคตจะมีแฟน ต่อให้พวกคุณทะเลาะกันขนาดไหน แนะนำว่าอย่าใช้อารมณ์กันแบบนี้ดีกว่า ถ้าเกิดจะทะเลาะกัน ก็ให้คุยกันดีๆ ใช้เหตุผล”

ยินดีให้ความร่วมมือกับตร.
“ตอนนี้ผมโดนเขาแจ้งความไว้ ก็ต้องเป็นไปตามรูปคดีก่อน ซึ่งทางตำรวจยังไม่ได้ติดต่อมาหาผม ถ้าติดต่อมาผมก็ยินดีให้ความร่วมมือเต็มที่ ตอนนี้ยังไม่มีแจ้งความกลับครับ เรารอเคลียร์ไปทีละอย่างก่อน ผมยังไม่สามารถบอกได้ ผมไม่ได้แจ้งความ ที่ผมไปคือไปเป็นพยานที่เขาโยนเคสลงมา ผมยืนยันในสิ่งที่ตัวเองพูดในวันนี้ ส่วนเรื่องกล้องวงจรปิดหน้าห้อง ต้องพูดตรงๆ ว่ามันเป็นเคสของเราด้วยที่ทางตำรวจให้เราไปเอามาเพื่อยืนยันตัวว่าเรา ไม่ได้อยู่ในห้องในขณะที่เขาโยนเคส

ส่วนเรื่องทำร้ายร่างกาย ผมมั่นใจว่าไม่ได้ทำ ที่ผมบอกว่าอัดเสียงตอนแรก อัดตั้งแต่เริ่มแล้วผมก็ลืมไปเลยจนเกลี้ยกล่อมเขาเสร็จ พอผมไปเข้าห้องน้ำก็เลยเพิ่งเห็นว่าโทรศัพท์อัดเสียงอยู่ ผมมีหลักฐานที่เป็นคลิปเสียง และที่วิดีโอคอลคุยกับเพื่อน เพื่อนผมอัดหน้าจอไว้”

เสียใจใช้อารมณ์คุยกัน ยังกังวลอีกฝ่ายจะทำอะไรลงไป
“รู้สึกเสียใจที่สุดที่เราใช้อารมณ์ เราทะเลาะกันการที่ฝ่ายหนึ่งพยายามคุย อีกฝ่ายใช้อารมณ์มันจบกันไม่ได้ดีๆ รู้สึกว่าถ้าเกิดมันเป็นอย่างนี้ คราวหน้าก็อาจจะเป็นเราที่หนีออกมาเลย แยกกันอยู่ไปเลย พออารมณ์เย็นค่อยกลับมาคุยกันอย่างนี้ดีกว่า สถานะตอนนี้โสดครับ ผู้หญิงก็คืออดีตแฟน ถามว่ากลัวเรื่องที่ผู้หญิงจะฆ่าตัวตายไหม ก็มีคิดกังวล ก็กลัวอยู่นะครับ มันเป็นข่าวใหญ่กลัวว่าเขาจะทำอะไรหรือเปล่า”



















กำลังโหลดความคิดเห็น