“แคน อติรุจ” ประกาศข่าวดี ขอแฟนสาวแต่งงานแล้ว บอกปีหน้าได้ฤกษ์แต่ง บอกช่วงแรกยอมรับว่ามีปัญหาเรื่องเวลา เพราะตนก็ต้องอ่านข่าวแทบทั้งวัน ส่วนแฟนสาวเป็นหมอก็มีเวลาไม่แน่นอน บางวันตนยังแอบงอนว่าไม่ยอมอ่านไลน์ สุดท้ายถึงรู้ว่าคนเป็นหมอไม่มีเวลาจริงๆ แทบไม่ได้กิน ไม่ได้นอน แต่พอปรับกันได้ก็เข้าใจกันดีแล้ว
กำลังจะได้เป็นว่าที่เจ้าบ่าวป้ายแดงอีกคนแล้ว สำหรับผู้ประกาศข่าวหนุ่ม “แคน อติรุจ กิตติพัฒนะ” ทีล่าสุดเพิ่งขอแฟนสาว “หมอใบชา” คุณหมอคนสวยนอกวงการไปเรียบร้อยแล้ว โดยหนุ่มแคนเผยว่าคุณแม่ฝ่ายหญิงไปดูฤกษ์ให้เรียบร้อย น่าจะเป็นปีหน้า และยอมรับว่าช่วงที่คบกันแรกๆ มีปัญหาเรื่องของเวลาจริงๆ เพราะตนเองก็งานยุ่ง ยิ่งของแฟนสาวยิ่งแล้วใหญ่ แทบไม่มีเวลากิน เวลานอน
“โห ตื่นเต้นกว่าทำพิธีกรอีกนะเนี่ยวันนี้ คือจะบอกว่าตั้งแต่เข้าเดอะสตาร์มา 13 ปีนี่คือครั้งแรกของการสัมภาษณ์สื่อ ก็ดีครับทุกอย่างก็เป็นไปตามขั้นตอน มันก็เป็นไปตามแผนแล้วแหละว่าเราจะทำอะไรช่วงไหนบ้าง (ยิ้ม) จริงๆ ผมรู้สึกว่าพร้อมมาสักพักแล้ว แต่เรารอให้แฟนเขาเรียนจบเฉพาะทาง เพราะว่าเขาเรียนจบแล้วเขามาเรียนเฉพาะทางด้านตา ถ้าเกิดไปขอตอนที่เรียนอยู่กลัวว่าจะกังวล แต่จริงๆ คือเราพร้อมนานแล้วนะ แล้วช่วงนี้ก็เป็นช่วงเวลาที่ใกล้จะจบแล้ว ก็เลยคิดว่าน่าจะตามแผนได้ ก็ขอเลย คือเราค่อนข้างมั่นใจจากการที่เจอกันอยู่ด้วยกันมาสักพัก ก็คือเหมือนอย่างที่เราทำงานผู้ประกาศ มันก็เป็นเหมือนงานประจำ มันก็ค่อนข้างที่จะวางแผนชีวิตได้ประมาณนึง มันก็นิ่งพอแล้ว เราก็รู้สึกว่าได้เวลาแล้ว
ถามว่าผู้ประกาศกับหมอมันไปด้วยกันได้ไหม อันนี้ก็คิดหนักเหมือนกัน เพราะว่าเวลาเราก็จะค่อนข้างฟิกซ์ อ่านข่าวตีห้าครึ่งตื่นประมาณตีสาม แล้วบางทีแฟนอยู่เวรดึกแล้ว บางครั้งที่เราต้องไปเดทกันตอน 7 โมง คือพยายามหาเวลา แต่จริงๆ แล้วพอคบกันจริงๆ เวลามันหาได้แค่ 5 นาทีมันก็โอเคถ้าเวลามันคุณภาพก็ใช้ได้”
ยอมรับช่วงแรกมีปัญหา เพราะเวลาไม่ตรงกันเลย
“คือช่วงแรกๆ ทักไลน์ไป เขาไม่ตอบเลย แล้วก็ไม่เข้าใจว่าทำไมไม่ตอบ คนเรามันก็ต้องมีเวลาตอบสิ แต่ว่าเราได้ไปดูชีวิตเขาจริงๆ คือมันตั้งแต่ 7 โมงถึง 5 ทุ่ม มันมีบางวันที่ไม่ได้หยุดเลย ไม่ได้กินข้าวไม่ได้เข้าห้องน้ำ เราก็จะประท้วงในใจว่า ทำไมวงการแพทย์เป็นอย่างนี้ จะเป็นปากเป็นเสียงให้เขาหรือร้องทุกข์ไหมเหรอ ก็เกือบอยู่เหมือนกัน ขอร้องทุกข์รอบนี้เลย (หัวเราะ) แล้วพอมาเริ่มชินเริ่มปรับตัวมากขึ้นก็เลยไม่มีปัญหาแล้ว
ส่วนงานเราล่ะ คือโชคดีที่เขาค่อนข้างเข้าใจ อาจจะเป็นเพราะว่าหมอไม่ได้มีเวลาอยู่แล้ว เขาก็เลยอาจจะหาคนที่ไม่มีเวลาเหมือนกันมั้ง จะได้เข้าใจกัน เพราะถ้าเกิดคนหนึ่งมีเวลาและอีกคนไม่มีเวลามันอาจจะมีปัญหาทะเลาะกัน คนอื่นอาจจะงี่เง่า แล้วพอมันไม่มีทั้งคู่ มันก็เลยไม่มีปัญหา ถามว่าปรับกันยังไงให้ไปด้วยกันได้ ผมคาดว่าขั้นตอนการปรับมันผ่านมาหมดแล้ว อย่างที่ว่าพอเรามั่นใจแล้ว หลังจากนี้ก็ไม่น่าจะต้องปรับอะไร ก็คือใช้ชีวิตตามปกตินั่นแหละ แต่แค่เปลี่ยนสถานะให้มันชัดเจนยิ่งขึ้น”
คุณหมอคนนี้อะไรที่โดนใจเรา?
“ข้อแรกน่ารักมากครับ (ยิ้ม) แล้วเราก็จะอวยแฟนตลอดเวลาเจอทุกวัน ก็จะบอกสวยจังเลย เราไม่ได้ฉีดยานะ คือชมจริงจัง เรารู้สึกว่าเขาน่ารัก และพอรู้จักกันจริงๆ ก็นิสัยก็เข้ากันได้ ก็เลยรู้สึกว่ามันยิ่งน่ารักเข้าไปอีก ชมทุกวัน เขาเขินไหมเหรอ ก็น่าจะเคยชินแล้ว (หัวเราะ) เจอกันก็จะบอกว่าวันนี้สวยจังวันนี้แต่งหน้ามานี่อะไรแบบนี้ ก็คือปกติเขาไม่ค่อยแต่งหน้า จะหน้าสด เราก็จะยิ่งชมหน้าสดสวยจัง ก็แหลไปเรื่อยๆ (หัวเราะ) เอ้ย พูดจริง พูดจริงครับ จริงใจ”
เรื่องงานแต่งจริงๆ ดูไว้แล้ว เป็นต้นปีหน้า ให้ครอบครัวของฝั่งผู้หญิงไปดูฤกษ์มาแล้ว ฤกษ์มาได้ต้นปีหน้า แล้วเราก็คิดว่าเวลาประมาณหนึ่งปีมันน่าจะเตรียมงานได้โอเค ตามใจเขาทุกอย่างไหมเหรอ คือจริงๆ เขาไม่ค่อยดูเรื่องงานเท่าไหร่ เป็นผมที่เป็นคนดูให้ว่าเราจะไปหาชุดเจ้าสาวจากไหน ออแกไนซ์ไหน รวมถึงถ่ายสตูดิโอไหน อะไรต่างๆ เราจัดการหมดเลย เราก็จะหาร้านชุดแต่งงานให้ แล้วก็ให้เขาไปเลือกเองว่าแบบไหนเหมาะกับสไตล์เขา อาจจะเป็นเพราะเราชอบจัดงาน จัดการอะไรแบบนี้อยู่แล้ว เราก็เลยบอกว่าจะจัดการให้”
