“เกลิน ธัญรดี” โชว์รอยช้ำ ถูก “ภวิน” ง้างปาก บีบคอจนตาเหลือก กระทืบ ทำร้ายร่างกาย 3 ครั้ง 3 วันติด ชี้ฉุนเรื่องคอมพิวเตอร์ หลังกระทืบฝ่ายชายเรียกตร.และกู้ภัยมาถึงห้อง รับป่วยโรคซึมเศร้า แต่ไม่เกี่ยวข้องกับการถูกทำร้าย ปัดดิสเครดิตฝ่ายชาย เข็ดมีแฟนเด็ก ครอบครัวเคยเตือนแล้ว ไม่น่าคบ คิดว่าจะเป็นลูกผู้ชายมากกว่านี้
กรณี “เกลิน ธัญรดี ชาญชนินท์กุล” ออกมาร้องสื่อขอความเป็นธรรม อ้างถูก “ภวิน ธนิก กมลธรานนท์” นักแสดงซีรีส์วายในสังกัดค่ายดังอย่าง GMMTV ทำร้ายร่างกายอย่างหนัก พร้อมแจ้งความดำเนินคดี ล่าสุดเจ้าตัวได้ออกมาเผยถึงเรื่องนี้กับสื่อมวลชน เล่าเหตุการณ์วันที่เกิดเหตุ รับคบหากันได้ 1 เดือนกว่าๆ ก่อนให้ฝ่ายชายย้ายมาอยู่ด้วยกัน ก่อนเกิดเหตุการณ์โดนทำร้าย 3 วันติด จนทนไม่ไหว ต้องออกมาร้องสื่อ
“หลังจากเมื่อวานได้โพสต์ลงสตอรี่ ถูกทำร้ายร่างกาย มันตกใจ มันเจ็บ เราก็ไม่รู้จะทำยังไงได้บ้าง ก็เลยคิดว่าสื่อน่าจะช่วยเราได้ หนูคบกับภวินได้ 1 เดือนกว่าๆ ภวินย้ายมาอยู่กับหนูก็ 1 เดือนได้ ช่วงแรกๆ เขาไม่ได้ดูใจร้อนนะคะแต่หลังๆ ทะเลาะกัน เรื่องเล็กน้อยมาก เล็กน้อยมากจริงๆ มันเหมือนกับประชดกันไปประชดกันมา อารมณ์ทั้งคู่ มันก็ร้อนขึ้นจนปะทะกัน
เขาทำร้าย 3 วันติด ทะเลาะกัน แล้วหนูร้องไห้แล้วก็กรี๊ด หนูบอกเขาว่าถ้าหนูร้องไห้หรือเป็นอะไรให้เขาเข้ามากอด แต่เขาก็ไม่ ยิ่งหนูร้องไห้เขาก็ยิ่งอารมณ์ร้อน เขาบอกให้หนูหยุด บีบคอหนู เอามืองัดปากไม่ให้หนูร้องไห้ จับคอหนูกดกับโซฟา ตอนนั้นหนูช็อกมาก หนูก็หยุด เพราะหนูกลัว กลัวโดนหน้า-จมูก
หนูช็อก พอเขามีสติก็นั่งคุยกัน เขาก็ขอโทษ นี่คือเหตุการณ์ครั้งแรก เราก็นั่งคุยปรับความเข้าใจกัน เคลียร์กัน และขอโทษ พอมาอีกวันนึง ตอนสัก 5 ทุ่มทะเลาะกันอีกเรื่องเดิมๆ หนูก็ร้องไห้อีกหนูพยายามหนีเขาแต่เขาคิดว่าหนูจะไปทำร้ายตัวเองมั้ง หนูไม่อยากอยู่ใกล้เขา หนูกลัวช็อตที่เขาทำหนูไว้
หนูก็นั่งร้องไห้ เหมือนคนเก็บกดมาก กลัว ตัวสั่นด้วย พยายามจะเดินหนีเขา เขาก็ไปกระชากหนูมา หนูพยายามดิ้น คุมอารมณ์ไม่ได้ เขาก็ฟิวส์ขาด ตีหนู ทั้งหน้าท้อง ยกหนูทุ่ม เขาเรียนเทควันโดมา สกัดขาหนูสันหลังกระแทกพื้นหมดเลย ช้ำทั้งตัว
หลังจากที่หนูนิ่ง เพราะจุก หนูเป็นโรคชักด้วย หนูกินยาอยู่ หนูหายใจไม่ออก หนูนิ่ง เขาก็เหมือนมาปฐมพยาบาล ให้หนูนอน หายใจเข้า หายใจออก จนหนูอาการดีขึ้น หนูอยู่นิ่งๆ ไม่สู้ไม่อะไร เขาก็เหมือนใจเย็นและนั่งคุยกับหนู เขาเล่าว่าเจอปัญหาอะไรบ้าง หนูเจอปัญหาอะไรบ้าง เขาเครียดจากที่ทำงาน เขาก็เล่าๆ หนูก็ฟัง เพราะไม่มีแรงสู้อะไรเขา เขาก็ขอโทษที่ทำแบบนี้ ตอนนั้นไม่มีแรง โดนครั้งที่สองก็จุกไปหมดแล้ว เขาขอโทษก็จบ เข้าไปนอนแล้วกัน
พอรุ่งเช้ามาเขาจะกลับบ้าน เขาก็บอกหนูว่าเขาขอโทษ เขารักหนูนะ ไม่ได้อยากเลิก แต่พอเช้ามา เขาอารมณ์เปลี่ยน ตื่นปุ๊บก็เก็บของ เก็บคอมบ์ฯ ไป เราก็อ้าว ทำไม ตอนนั้นหนูก็เบลอๆ โดนทุบหัวด้วย ลุกขึ้นมานั่งโซฟาถามเขา เขาก็หัวร้อน หยิบคอมบ์ฯ ของเขาฟาดไปที่พื้น แล้วพูดคำหยาบว่าต้องการให้มันพังหรือเปล่า ถ้ามึงอยากให้มันพังก็จะทำให้มันพังกูจะเอาขยะพวกนี้กลับบ้าน กูทำด้วยมือของกูเอง หมายถึงคอมพิวเตอร์ของเขา
เขาตื่นขึ้นมาแล้วอารมณ์เขาเปลี่ยนไป เขาจะกลับบ้านหนูก็ให้เขาไป เพราะหนูจะไปกับเขาด้วย แต่ก็งง ตอนแรกเขาบอกจะไม่ย้ายคอมบ์ฯ ไป แต่เขาจะเอากลับ แล้วเขาก็บอกว่าเป็นปัญหาที่ทำให้ทะเลาะกัน เพราะที่ทะเลาะกันเพราะเขาไม่ได้เล่นเกม เขาเห็นคอมบ์ฯ ก็อยากเล่นเกม เรื่องแค่นี้ เราก็ไม่ได้ห้ามเขาเล่นเกม แต่เขาเล่นเช้า 7 โมง แล้วเขาก็ไปถ่ายซีรีส์เลย สามอาทิตย์ก่อนหน้านี้ เขายังไม่เป็น เพราะยังไม่ได้ย้ายคอมบ์ฯ มาบ้านหนู เขาย้ายคอมบ์ฯมาอาทิตย์ที่ผ่านมา ปมปัญหามาจากเขาเล่นเกม เอาคอมพิวเตอร์มาเล่นที่คอนโดเรา ก็อาจจะใช่ แต่ไม่เชิงไม่สนใจเรานะ หนูก็ปล่อยให้เขาล่นเกม เพราะหนูเองก็ทำงานไปด้วย”
เล่าถูกทำร้ายครั้งที่สาม จับเหวี่ยง กระทืบ
“ครั้งที่สาม เหมือนเขาเก็บคอมบ์ฯ จะกลับบ้าน หนูก็ให้เล่น ไม่ได้ให้เอากลับ เขาก็หยิบของเขา เอาเมาส์ฟาดไปที่พื้น บอกว่าต้องให้เป็นขยะก่อนใช่มั้ย เขาทำลายข้าวของ ของเขาเอง หนูก็ห้ามว่าอย่าทำ ทำทำไม พังแล้วเดี๋ยวก็ซื้อใหม่ก็ได้ เราก็คุยกัน เขาก็เหวี่ยงหนูเลย เขาฟิวส์ขาดแล้ว ก็กระทืบหนู เขายกคอมบ์ฯ ไปไว้หน้าห้องหมดแล้ว หนูก็พยายามคุยกับเขาดีๆ หนูกลัวเขามาก เขาทำหนูหลายอย่างมาก จนหนูเปิดประตูจะหนีออกจากห้อง เขาคิดว่าหนูคงจะไปทำอะไรคอมบ์ฯ เขามั้ง เขาอุ้มหนูแล้วเหวี่ยงออกมา แล้วทุ่มไปโดนคอมบ์ฯ เขาเอง ต่อยเข้าคางหนู ต่อยที่หัว 3-4 ครั้ง หน้าห้องหนูมีกล้องวงจรปิดด้วย”
ทนเพราะรัก คิดว่าจะเปลี่ยนแปลงได้
“ถามว่าโดนสามวันติด ทำไมไม่ออกไปจากเขา เขาขอโทษ เขาอยากอยู่กับหนู เขาไม่ย้ายออกจากคอนโดหนู เราก็รักเขาค่ะ คิดว่าเขาจะเปลี่ยนได้ ให้โอกาสเขา จากที่เหมือนฟังเขาระบาย เราก็คิดว่าน่าจะเปลี่ยนได้มั้ง คงไม่มีครั้งที่สามหรอก เราคุยกันแล้ว ก่อนเกิดเรื่อง เขาปกติ ไม่ได้เป็นอะไร ไปกินข้าวไปอะไรปกติมาก ไม่มีอะไรเกิดขึ้น”
ถูกฝ่ายชายแจ้งความทำลายข้าวของ ก่อนนำตร.-กู้ภัยเข้ามาถึงในห้อง?
“หลังโดนทำร้าย เขาไปแจ้งความว่าหนูไปทำลายข้าวของเขา ตอนนั้นหนูง่วง สลบไปแล้ว ไม่มีสติแล้ว ข้อขาก็พลิก ขยับไม่ได้ กู้ภัยมาแบกหนูไปรพ. เขาออกจากห้องเราไปแจ้งความ ตอนนั้นหนูมึน ตอนโดนต่อยหัวเบลอมาก ไม่รู้อะไรเลย ไม่เชิงว่าสลบ เบลอๆ มึนๆ
หลังจากเขาแจ้งความ หนูก็ลงสตอรี่แผลที่โดน หนูนอนราบไปเลยกับพื้น สักพักเขาเปิดประตูเข้ามา พร้อมกับตร. และกู้ภัย เพราะไปแจ้งจับหนูว่าหนูทำลายข้าวของเขา ตอนแรกคิดว่าน่าจะมาเพราะเขาแจ้งเรื่องของเขาพัง แต่อีกมุมนึงคิดว่าหน่วยกู้ภัยน่าจะมาช่วยหนูมั้ง เขาโทร.ไปต่อหน้า เขาทำร้ายหนูเสร็จ เขาโทรไปบอกว่ามีผู้หญิงทำลายข้าวของเขา เขาจะย้ายออกจากคอนโด มีผู้หญิงทำลายข้าวของของผม ประมาณนี้ หนูจำไม่ค่อยได้
ตอนนั้นไม่มีคำพูดว่ามีคนเจ็บอยู่ในห้อง สภาพหนูตอนนั้นยังเกาะเขาอยู่เพราะเจ็บ นั่งเกาะ แล้วก็ได้ยินเขาโทร.แจ้งตร. หนูก็เลยพูดไปว่ารีบมานะคะ หนูเจ็บมาก หนูโดนเขาทำร้ายร่างกาย หนูพูดเข้าไปในโทรศัพท์ จากสน.ทองหล่อมาถึงที่นี่ก็ไม่นาน ตอนนั้นเขาออกไปแล้ว หนูนอนอยู่ตรงพื้นในห้อง เพราะไม่ไหวแล้ว สักพักเขาก็เข้ามาเพราะมีรหัสห้องหนู พร้อมหน่วยกู้ภัย ตร. และนิติ กู้ภัยพาหนูขึ้นรถแอมบูแลนซ์ไป หนูก็บอกให้เขาออกจากห้องหนู พี่อาสาบอกว่าตร.อยู่ ไม่เป็นไร หนูก็หลับเลย ส่วนคอมพิวเตอร์ไปไหนหนูไม่รู้เลย”
บอกอีกฝ่ายตามจีบนานมาก ก่อนยอมคบเป็นแฟน
“หนึ่งเดือนที่คบ ความสัมพันธ์เป็นแฟนกัน เขาจีบหนูมานานมากๆๆ แต่หนูไม่ได้สนใจ พอดีหนูเลิกกับแฟนเก่า 9 เดือนแล้ว ก็โอเค เปิดใจ เห็นเขาทักมาก็ลองเปิดใจดู”
รับป่วยเป็นโรคซึมเศร้า แต่ไม่เกี่ยวกับอีกฝ่ายทำร้ายร่างกาย
“เขาไม่น่าจะป่วยนะ น่าจะปกติ หนูว่าเขาน่าจะเครียด (หัวเราะ) ไม่รู้เหมือนกัน (หัวเราะ) หนูเห็นเขานั่งเล่นเกม เล่นแบบไม่นอน จนไปทำงาน เขาอยู่ได้ทั้งวัน ไม่รู้เขาอยู่ได้ไง มันเป็นเกมยิงกัน เวลาเล่นก็มีด่า แต่ก็ไม่รู้เกี่ยวไหม หนูก็ให้เล่นเกม แต่ให้รู้ตัวเอง ควรนอนด้วย เพราะตัวเองก็ไปทำงาน
ส่วนหนูเองก็เป็นโรคซึมเศร้า กินยารักษาอยู่ อย่างที่บอกร้องไห้จนกรี๊ด อารมณ์หนูก็จะประมาณนั้น หนูก็บอกอาการหนูตั้งแต่แรกเลย หนูเป็นโรคอะไร ถ้าทะเลาะกันต้องทำยังไง
หลังเป็นข่าวเขาก็ไม่ได้ติดต่อ เขาบล็อกหนูเหมือนกัน ตอนนี้หนูกลัว ไม่เคยโดนหนักขนาดนี้เลย เอาง่ายๆ แม่ไม่เคยตีหนู กระทืบหนู เหมือนในหนัง (หัวเราะ) เขากระทืบหนูเลย หนูอยากติดกล้องในห้องมาก เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องแฟนกันทะเลาะกัน ไม่ใช่กระทบกระทั่ง แต่เขากระทืบ หนูจับประตู เขาถีบหนูกระเด็น จนหนูไถลไปกับพื้น”
บอกตัวเองก็มีจิกหัวเขาบ้าง แต่เพื่อป้องกันตัว เป็นผู้ถูกกระทำ
“ถามว่าหนูทำร้ายเขาไหม โต้ตอบไหม ก็มีจิกหัวเขาบ้าง แต่แรงหนูกับแรงเขา มันต่างกันมากไง หนูป้องกันตัว แต่เขาบีบคอหนู เขาบีบจนหนูตาเหลือก เขาถึงปล่อยมือออก หนูเป็นผู้ถูกกระทำ หนูไม่ได้เริ่ม ไม่ไปตีเขาก่อนแน่นอน หนูมีแค่ร้องไห้จนกรี๊ด แค่นั้น แล้วหนูไม่หยุด เขาก็ทำให้หนูหยุดโดยใช้วิธีรุนแรง”
ดำเนินคดี ไม่ไกล่เกลี่ย กลัว พอแล้ว
“ถามว่าจะเอายังไงต่อไป ก็คงดำเนินคดี ไม่ไกล่เกลี่ย เดี๋ยวมีนัดสอบปากคำเพิ่ม ไม่แน่ใจวันไหน เห็นตร.มาเอากล้องวงจรปิดจากนิติไปแล้ว หนูยังไม่ได้เห็นกล้องจากเขา จะลองเอาใบแจ้งความไปขอดู แต่คงเอามาโพสต์ไม่ได้ คงต้องใช้ในชั้นศาล ตอนนี้ไม่อยากคุย กลัว พอแล้ว เรื่องรหัสห้องเดี๋ยวจะให้นิติเปลี่ยนรหัสให้ คิดว่าเขาไม่มาเจออีกแล้ว เขาก็เป็นนักแสดง ทำไมถึงทำแบบนี้ เขารู้ว่าผลกระทบทีหลังต้องเป็นยังไง”
ปัดดิสเครดิตผู้ชาย แค่ออกมาปกป้องตัวเอง
“ส่วนกระแสตีกลับเรา ที่ทุกคนอยากให้ฟังผู้ชายก่อน ดิสเครดิตผู้ชายหรือเปล่า สำหรับหนูที่ออกมา อยากออกมาปกป้องตัวเอง หนูโดนทำร้ายจริงๆ ไม่ได้ซึมเศร้าถึงขั้นทำร้ายตัวเองไม่เกี่ยวกับโรคเรา คนละเรื่องกันเลย คลิปเสียงเขาที่บันทึกก็มีแต่ด่ากัน พูดเสียงดัง หนูร้องไห้แล้วกรี๊ด มีแค่นี้ เราก็รู้ว่าเขาบันทึกเสียง เพราะคำพูดที่เขาพูดกับหนู เขาเซฟคำพูดเขา เขาบันทึกตอนตีเราครั้งที่สอง ตอนห้าทุ่มเที่ยงคืน เขาโทร.หาเพื่อนให้มาเป็นพยาน ให้บันทึกวิดีโออะไรสักอย่าง หนูก็บอกให้ช่วยบันทึกด้วยว่าหนูโดนอะไรบ้าง ครั้งที่หนึ่ง ที่บีบคอ ง้างปาก กดหัวลงโซฟา ครั้งทีสองที่สามก็ใช้เท้าเหมือนกัน แต่มันหนักมากขึ้น”
ไม่คิดว่าจะเกิดกับตัวเอง กลัวความรักไปเลย
“มองความรักคบกัน 1 เดือน มาใช้ชีวิตด้วยกัน ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นกับหนู คิดว่าคงไม่มีครั้งที่สามหรอก เพราะครั้งที่สองก็หนักสุดๆ แล้วนะ หนูนอนนิ่งมาก เขายืนคุยกับหนูเป็นชม. หนูร้องไห้น้ำตาไหลไม่หยุด พูดจนเขาเหนื่อย มานั่งข้างๆ มาขอโทษ หนูก็ยังร้องไห้ จนหนูไม่มีเสียงแล้ว กลัวเขาทำอะไรหนูอีก
ยอมให้เขาเข้ามาเพราะเชื่อคนง่าย เชื่อใจและไว้ใจ เห็นแค่การกระทำไม่กี่ครั้งของเขา ก็คิดว่าเขาจริงใจ เขารักหนู เลยให้รหสห้อง ให้คีย์การ์ดห้อง บอกว่าจะย้ายมาก็ได้ เพราะบ้านเขาอยู่บางบัวทอง แต่เขาทำงานอยู่แกรมมี่ ถ้าเขามาอยู่กับเราเขาจะประหยัดหลายๆ เรื่อง
ยืนยันว่าโรคของเรา ไม่มีผลกระทบ หนูซึมกว่าเดิมอีก นิ่งกว่าเดิมอีกเพราะโดนทำร้ายร่างกายแบบนี้ซ้ำๆ กลัวความรักไปเลย แล้วคิดอะไรไม่ออกตอนนี้”
ไม่เชื่อคำเตือนครอบครัว คนนี้ไม่น่าคบ
“ตอนนี้พ่อกับแม่อยู่อเมริกา เขาแยกกันอยู่ เขาเห็นว่าหนูโพสต์อะไรลง ที่บ้านก็บอกแล้ว เพราะหนูพาภวินไปเจอที่บ้านมาแล้ว เขาบอกคนนี้ไม่น่าคบนะ หนูก็ไม่ได้เชื่อ ไม่ได้ฟัง เขาเด็กกว่าเรา
เราเคยเห็นที่แฟนเก่าด่าเขา แต่ไม่รู้ไปทำอะไรมา หนูอ่านข้อความเขาในโทรศัพท์ เขาเปิดให้ดูว่าแฟนเก่าแชตมาด่าเขา เขาก็ปฏิเสธทุกอย่าง หนูจะไปเชื่อผู้หญิงทำไม หนูก็ต้องเชื่อภวิน(หัวเราะ)
หลังจากนี้ก็ต้องให้เป็นเรื่องตำรวจดีกว่า ดำเนินคดีตามกฎหมาย ตอนนี้สภาพจิตใจหนูย่ำแย่สุดๆ ไปเลย กลัว แบลงก์ อึน ตื่นมาหนูยังงงๆ ว่าเกิดขึ้นไปแล้วเหรอ คือเรื่องจริงใช่ไหม เกิดคำถามกับตัวเองเรื่องงานก็กระทบอยู่แล้ว มันทำให้หนูทำงานไม่ได้ หนูก็ต้องหยุดงาน รักษาตัวเอง”
เลิกคบเด็กแล้ว อยากให้เป็นลูกผู้ชายมากกว่านี้
“อุทาหรณ์ครั้งนี้จะไม่คบเด็กแล้วค่ะ กลัว กลัวเด็กไปเลย ก็อยากให้เขาเป็นลูกผู้ชายมากกว่านี้ ไม่มีอะไรจะบอก หนูกลัวเขาค่ะ ภาพนั้นติดตาทำให้กลัวค่ะ”
