“แพรวพราว vs ผู้ใหญ่บ้านฟินแลนด์” ร่ำไห้ผลัดกันโต้แหลก ฝ่ายหญิงลั่นแค่คุย ไม่ได้เอา ไม่ได้มีชู้ น้อยใจผัวเที่ยวแต่บาร์เกย์ยันเช้า ผู้ใหญ่บ้านฟินแลนด์ร่ำไห้ซัดกลับ คุยกับคนอื่น จับได้ยังโกหก แบกรับทุกอย่างไม่ไหว ขอยุติบทบาทผู้บริหารวงแสงทองฟินแลนด์ สมบัติยกให้ลูก
กลายเป็นมหากาพย์ สำหรับเรื่องความรักระหว่าง “บิ๊ก ผู้ใหญ่บ้านฟินแลนด์” กับหมอลำชื่อดัง “แพรวพราว แสงทอง” หลังฝ่ายชายออกมาแฉเมียนอกใจ มีมือที่สามเข้ามาทำร้ายครอบครัว กินบนเรือนขี้รดหลังคา เหยียบศักดิ์ศรีความเป็นผัวหัวหน้าวงของตัวเอง ล่าสุดวันนี้ ทั้งคู่ได้ออกมาไลฟ์สดฉะกันไปมา โดยหมอลำสาวได้เผยทั้งน้ำตา
แพรวพราวรับ! แค่คุย ยังไม่ได้เอากัน ไม่ได้มีชู้ น้อยใจเที่ยวบาร์โฮส บาร์เกย์ คาเฟ่ ยันเช้าตลอด
คนที่เห็นจากสิ่งที่บิ๊กโพสต์และไลฟ์สดจะเข้าใจว่าตนไปนอนกับคนอื่น ไปเอากับคนอื่น กล้าสาบานว่าไม่เคยไปสีกับผู้ใด ไม่ได้ไปเอากันกับคนอื่น ตนไม่ได้ชั่วถึงขนาดไม่ซื่อสัตย์กับลูกผัว
แต่คำว่าเราคุย ขอยอมรับ เวลาเราน้อยใจ และเวลาไม่เข้าใจกัน เรายอมรับว่าเราคุยกับบางคนและรู้สึกดี ตรงนี้ยอมรับผิดว่า เราอาจจะเผลอไปคุยกับคนนั้นและเรามีพลังบวก แต่เรื่องไม่ใหญ่ขนาดนั้น ถึงขนาดนั้นเราไปมีชู้ บิ๊กก็รู้ และรับไม่ได้เพราะหึงเมีย บิ๊กจึงถอยออกมา เพราะใจไม่โอเค เราหันหน้าคุยกันแล้ว ไม่คิดเอาใครมาแทนคนในครอบครัว ไม่คิดเอาใครมาแทนที่กัน
ฉันยังรักผัว ตอนนี้ก็ยังรักอยู่ เราอยากขอโทษ ปัญหามาจากการไม่มีเวลาให้กัน บางครั้งนึกว่าจะพาเมียลูกไปเที่ยวไปดินเนอร์บ้าง แต่เขาก็เลือกไปเที่ยวถึงเช้า ทั้งบาร์เกย์ บาร์โฮสและคาเฟ่ ถามว่าเราก็ต้องคิดว่าวันว่างๆ ทำไมไม่อยากอยู่กับเมีย
ทั้งหมดทำให้เราอึดอัดใจ เวลาจะอยู่กับผัว แต่เวลาอันน้อยนิดที่จะอยู่กับเรา แต่คุณก็เลือกที่จะอยู่แบบนั้น และไปบ่อยมาก โดยบางครั้งอยากให้แวะมาหาลูกที่บ้านป้าบ้าง แต่ก็ไม่มา อันนี้เป็นความผิดพลาดของเรา ที่เอาความน้อยใจที่สะสมมา เลยทำให้เราพลาดที่ไปคุยและรู้สึกดี โดยไม่มีเรื่องชู้สาวแน่นอน เพราะเราก็มีศักดิ์ศรีเหมือนกัน ยังซื่อสัตย์กับลูกผัว
ผู้ใหญ่บ้านฟินแลนด์ร่ำไห้โต้กลับ
ต่อมาบิ๊ก ผู้ใหญ่บ้านฟินแลนด์ก็ไลฟ์สดร่ำไห้เหมือนกัน โดยเผยว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมันสะสมมาระยะเวลาประมาณ 3 เดือน ที่ระหองระแหงกันมาตลอด พอมาวันหนึ่งความที่ตนเป็นสามีโดนเมียรำคาญ เหมือนโกรธอะไรเราสักอย่าง แต่ตนก็งงว่าทำไมเป็นแบบนี้นานจัง ตนก็มานั่งจับผิดว่าแฟนผิดปกติยังไงบ้าง เรื่องเที่ยวกลางคืนไปเที่ยวกลับมาก็ทำหน้าที่ตามปกติ ซึ่งก็ไปกับผู้จัดการและหมอลำตลอด เพื่อความสบายใจ
ต่อมาวันนึงตนไปทำงานต่างจังหวัดที่นครพนม เขาบอกให้ตนไปทำงานต่างจังหวัด เขาจะอยู่บ้าน ตนก็สงสัยว่าทำไมแปลกๆ แล้ววันนั้นบังเอิญว่า ตนเปิดกล้องวงจรปิดห้องข้างล่างผ่านโทรศัพท์ดูว่านอนหรือยัง พอเปิดกล้องดูเห็นเมียยังไม่นอน เขาใส่หูฟังเดินอยู่ในบ้านแล้วยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ตอนแรกก็คิดว่าคุยกับเพื่อน แต่พอไปเช็กก็ไม่ใช่สักคน ตอนนั้นก็สั่นไปหมดทั้งตัว นอนไม่หลับจนถึงเช้า
พอถามว่าคุยกับใคร เขาก็บอกว่าไม่ได้คุยกับใคร ก็เสียความรู้สึกมาก ทั้งๆ ที่ตนรู้ความจริงทั้งหมดอยู่แล้ว เห็นอยู่แล้วว่าเขาคุยโทรศัพท์ แต่เขากลับบอกตนว่าไม่ได้คุย เช้าวันต่อมาเขาก็โพสต์ว่ากูไม่ใช่คนดีร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่กูรักองค์กร และครอบครัว โพสต์รูปทุกคนยกเว้นรูปตน อันนี้คือจุดแรก ซึ่งตอนนั้นก็แยกห้องกันนอนเลย ตั้งแต่ตอนกลางคืน เพราะเขาก็ไม่ได้ง้อกันเลย ทั้งที่ตัวเองทำผิด ถ้าเกิดเขาง้อนิดนึง ตนก็พร้อมคืนดีทันที แต่ที่ผ่านมา มีปัญหา ตนเป็นคนง้อทุกครั้ง สุดท้ายก็ง้อพยายามเชื่อเหตุผลที่เขาบอกไป แต่ทางครอบครัว ญาติพี่น้องเขานั้นไม่จบ โพสต์บอกว่าให้กำลังใจแพรวพราว ซึ่งไม่มีรูปตนเลย ตนก็เลยงงว่าตนทำอะไรผิดทำไมถึงโดนรุม
ต่อมาเมียบอกว่าคุยกับแฟนเก่า ที่เป็นเพื่อนสนิท รู้ว่าโกหก ตอนนั้นก็ร้องไห้หนักมาก เพราะโดนแฟนหลอก ก็ถามว่าเราผิดพลาดอะไร อยากให้แก้ไขอะไร เขาก็บอกว่าไม่มี ถ้ามีอะไรอยากให้บอกมาเลย จะได้ใช้ชีวิตด้วยกันแบบมีความสุข แต่เขาก็บอกมาแค่ว่าอยากให้บริหารงานให้มีความสุขให้มันดีพอ แล้วตนก็บอกให้เขาบล็อกผู้ชายคนที่แฟนเก่าไป อยู่กับคนปัจจุบันดีที่สุด โดยเรื่องนี้ก็จบไปตอนเดือนธ.ค.
ต่อมาเดือนม.ค. วันนั้นตนก็ดื่มฉลองกับทีมงานแล้วและแพรวพราวเมา ทีมงานก็มาส่งที่บ้าน จากนั้นทีมงานก็กลับไปงานเลี้ยง แต่ไม่นานก็มีคนบอกว่า แพรวพราวออกจากบ้านเดินไปทางป่า ตอนนั้นก็รีบกลับมา เพราะเป็นห่วง พอเขาเห็นตนก็ตกใจ อ้างว่าไปโน่นไปนี่มา วันนั้นตนบอกว่าตนจะดูกล้อง เขาก็โมโหมากๆ แล้วก็ขึ้นกูมึง ตนก็ตกใจมากที่เขาพูดกูมึงใส่ เช้ามาตนก็บินกลับไปกรุงเทพฯเลย และที่ตนไปญี่ปุ่นกับลูก 2 คน เพราะอยากรู้ว่าจะเป็นยังไง 7 วันที่ตนไม่อยู่คุยโทรศัพท์ตลอดเวลา ประเด็นคือไม่ได้คุยกับตน แต่ตนงงว่าคุยกับใครวางสายจากตน ปุ๊บโทรคุยทันที
แล้วมีวันนึงที่เขาไปร้านเหล้าโพสต์ว่าไปกับเพื่อน 2 คน แต่สุดท้ายก็มาจับโป๊ะได้ว่ามีอีกคนนึงไปด้วย ซึ่งตอนนั้นเขาก็โพสต์สตอรี่อยู่ร้านนี้แล้วผู้ชายคนนั้นก็โพสต์เหมือนกันว่าอยู่ร้านนี้
แบกรับทุกอย่างไม่ไหว ขอยุติบทบาทผู้บริหารวงแสงทองฟินแลนด์ สมบัติยกให้ลูก
ที่ออกมาพูด ไม่ได้กลัวเสียใจทีหลัง แต่แบกรับทุกอย่างไม่ไหว วันนี้ขอแค่มีลูกก็มีความสุขแล้ว พอตอนรู้เรื่องก็ถามว่าไล่ผู้ชายคนนั้นออกได้ไหม แต่เขาก็ไม่ได้ไล่ออก ทั้งที่แค่มิกซ์เสียงจะหาใครมาแทนก็ได้
เวลานี้ไม่มีอะไรเอาคืนได้แล้ว ขอยุติบทบาทในนามผู้บริหารวงแสงทองฟินแลนด์ทุกกรณีที่เกี่ยวข้องกับวงแสงทองฟินแลนด์ ขอถอยออกมาเอง ไม่อยากให้ทุกคนต้องลำบากใจ มี ส่วนที่ดินอะไรที่เป็นชื่อตน จะมอบให้ลูกทั้งหมด ความเป็นพ่อแม่ก้อยังจะยังคงสถานะเหมือนเดิม ทุกคนผิดพลาดได้ เพราะฉะนั้นให้อภัยกันให้ความเมตตากันให้ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นเครื่องพิสูจน์ แต่พูดจากใจตนไม่มีวัตถุประสงค์ทำร้ายใครหรือให้ใครย่ำแย่ แต่จากนี้ยังคงจะแบ่งส่วนที่เป็นทรัพย์สินต่อไป
