เรียกว่าเป็นอาทิตย์ที่คนไทยทั้งประเทศต่างส่งกำลังใจและอ้อมกอดให้กับ “ไอซ์ ปรีชญา พงษ์ธนานิกร”ที่กำลังต่อสู้โรคซึมเศร้าและกำลังดำดิ่งอีกครั้ง จากโพสต์ “แม่ขอเงิน พ่อขอเงิน มีแฟนเหมือนไม่มี จะอยู่เพื่อ? โทรหาครอบครัว คนรักว่า ไอซ์ไม่อยากอยู่บนโลกนี้แล้วนะ ทุกคนเฉยเมย
ถ้าวันนึงมันไม่มีไอซ์จริงๆ ขอให้รู้ว่าเป็นเพราะครอบครัว คนรัก ไม่ใช่เพื่อนหรือแฟนคลับที่ตัดสินใจทำให้ไอซ์คิดสั้น ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย หลังจากนี้ไปทุกคนจะได้รู้ความจริงสักที ว่าชีวิตไอซ์ไม่มีใครอยากแม้กระทั่งจะเป็นหรอกแค่หนึ่งวัน” ทำเอาทุกคนที่ได้รับรู้เป็นห่วง เป็นกำลังใจและแชร์ประสบการณ์ของตัวเองที่พบเจอมาคล้ายๆ กับไอซ์อย่างเข้าอกเข้าใจ และเอาใจช่วยให้ไอซ์ ผ่านเวลานี้ไปให้ได้
“ไอซ์ ปรีชญา” แมว 9 ชีวิต
ชีวิตของ ไอซ์ ปรีชญา เปรียบดั่งการนั่งเครื่องเล่นเฮอริเคน ขึ้นสุด ลงสุด ตีลังกา 3 ตลบ ไอซ์ เคยบอกชีวิตตนเองนั้นเหมือนนางฟ้าตกสวรรค์ เคยมีชีวิตแบบใช้นิ้วชี้สั่งได้ก็ต้องมาพลิกผัน จากเด็กลูกคุณหนูโรงเรียนนานาชาติ พูดแต่ภาษาอังกฤษก็พลิกมาเป็นเด็กบ้านนอก โรงเรียนชื่อหลักกิโล และพูดโดยใช้สรรพนามว่า เอ็ง กับ ข้า ชีวิตที่มือไม่เคยเปื้อนดินแต่กลับต้องมาจับแมลงเพื่อเป็นของเล่นในวันที่ไม่มีตุ๊กตาบาร์บี้ให้เล่น และการชอบอยู่คนเดียวมากกว่าทำให้ไอซ์เป็นคนที่มีเพื่อนน้อย
รอดตายมาได้ก็บุญแล้ว!
ในช่วงที่ชีวิตหน้าที่การงานในวงการกำลังอยู่ในช่วงขาขึ้น ไอซ์ ปรีชญา ขึ้นแท่นเป็นนางเอก 100 ล้าน ก็ต้องพบกับจุดเปลี่ยนอีกครั้ง จากอุบัติเหตุ รถพังยับเยิน ชนิดที่ไม่มีใครช่วยเหลือได้ ไอซ์ต้องพาร่างออกจากรถด้วยตัวเอง และพบว่าหน้าเสียโฉม คำว่า “หน้าเละหมดแล้ว” เป็นคำที่ฝังใจคนรักสวยรักงามอย่างไอซ์มาก
ทุกอย่างของ ไอซ์ ต้องหยุดอีกครั้ง เพื่อรักษาตัวและรักษาใบหน้าให้กลับมาทำงานได้อีกครั้ง และนี่จึงเป็นจุดเริ่มต้นของการศัลยกรรมซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนถูกบูลลี่เสพติดการทำศัลยกรรมเกินไปแฟนๆ อยากได้หน้าเก่าของไอซ์กลับคืนมา แต่ ไอซ์ ก็ไม่เคยออกมาบอกถึงเหตุผลการศัลยกรรมใดๆ เลย
ทั้งหมดนี้เป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้มุมมองความคิด ทัศนคติ และตัวตนของไอซ์ ปรีชญา เปลี่ยนไป จากดาราสาวที่มีรอยยิ้มสดใส กลายเป็นผู้หญิงที่จมดิ่งกับโรคซึมเศร้า ปล่อยให้ข่าวและคอมเมนต์ต่างๆ โจมตีตัวเองมาเรื่อยๆ และตัวเองก็จมอยู่กับมัน
เป็นดาราในแบบของ ไอซ์ ปรีชญา
ไอซ์ เป็นดาราที่โฟกัสที่การแสดงเป็นหลัก ไม่ค่อยรับงานอีเวนต์ พรีเซ็นเตอร์ งานรีวิวสินค้า เพราะ ไอซ์ ชอบจะเป็นภาพที่ตัวเองวาดมากกว่าที่จะเป็นภาพที่คนอื่นวาดให้ บวกกับการไม่ชอบจ๊ะจ๋ากับใคร ทำแล้วรู้สึกเหนื่อย ทำแล้วต้องนั่งถามตัวเองในกระจก “ฉันทำไปเพื่ออะไร” จึงทำให้ไอซ์ อาจจะไม่ได้มีงาน มีเงินมากมายเหมือนดาราคนอื่นๆ เมื่อวันหนึ่งที่พ่อแม่ล้มป่วยพร้อมๆ กัน และงานก็มาหยุดชะงักเพราะมีชื่อไปเกี่ยวในคดีดังไซยาไนด์ ไอซ์ใช้เงินเก็บทั้งหมดที่มีรักษาพ่อแม่จนเงินเก็บไม่มีเหลือ
ไอซ์ เครียดหนักขังตัวเองในห้อง ไม่กินอะไรจนหมดสติต้องหามเข้าห้องไอซียู เหตุการณ์ในครั้งนั้นทำให้ทุกคนได้ทราบเรื่องราวชีวิตของไอซ์ ว่าพบเจอกับอะไรมาบ้าง และเอาใจช่วยไอซ์ ให้ผ่านพ้นปัญหาไปให้ได้
ชีวิตที่หมดแรงจะไปต่อ แต่อยากอยู่เพื่อคนอื่น
ภาวะซึมเศร้า ทำให้หลายครั้งไอซ์ลืมตาตื่นขึ้นมองเพดานแล้วถามตัวเองว่าอยู่ไปเพื่ออะไร ทำอะไรที่ตายแล้วจะไม่เสียดายชีวิต ไอซ์ค้นพบว่าตนเองมีชีวิตอยู่เพื่อเลี้ยงดูครอบครัว และสร้างผลงานให้ผู้คนมีความสุข ไอซ์เล่าถึงชีวิตกับบทบาทการเป็นผู้ให้มาโดยตลอดว่า….
“เพราะเราเคยไม่มีและเราเคยได้รับ มันมีความสุขมากแบบบรรยายไม่ถูก นี่คือเหตุผลในการมีชีวิตอยู่ของไอซ์ โลกนี้จะน่าอยู่ทันทีถ้ามีผู้ให้ วันไหนโลกนี้ไม่มีผู้ให้มันแย่นะ การเป็นผู้ให้มันอาจจะเหนื่อยในบางอย่าง แต่มันเป็นการเหนื่อยที่คุ้มค่ากับการที่เราจะเหนื่อย ข้างในเราจะอิ่มเมื่อคุณได้ให้อะไรบางอย่างกับใครสักคน ไม่จำเป็นต้องเป็นอะไรใหญ่โตมากมาย อาจจะเป็นแค่ความรู้สึกดีๆ ก็ได้ ความรู้สึกที่จริงใจของเราหรือที่เรียกว่าให้ใจ เป็นการให้อย่างหนึ่งที่ไม่ต้องลงทุนเลย”
ในชีวิตคนเราจะมีช่วงนึงของชีวิตที่ทุกคนต้องผ่านมันไปให้ได้ด้วยตัวเอง ขอจงเข้มแข็งและมีสติอยู่ทุกเวลา กว่าจะมีวันนี้ได้เรียกว่า ไอซ์ ปรีชญา เป็นคนเก่งที่ยิ่งกว่าสตรองเกอร์ และตอนนี้ ไอซ์ ได้เป็นไอดอลให้กับหลายๆ คนที่เจอปัญหา มีเรื่องราวชีวิตคล้ายๆ กัน
