“บีม-ออย” ดีใจลูกถูกเรียกอภิชาตบุตร เผยทำงานทุกวันนี้ก็เก็บเงินเพื่อเป็นอนาคตของลูกทั้ง 4 คน แม้เงินที่มีจะทำให้เกษียณได้แล้ว บอกเรื่องลูกคนที่ 5 ที่ยังเก็บเป็นตัวอ่อน ตอนนี้ตัดใจคงไม่ท้องอีกแล้ว เหตุหมอไม่แนะนำ แต่ยังเก็บไว้ เผื่ออนาคตกฎหมายไทยมีอะไรเปลี่ยนแปลง ลูกอาจจะไปรับแทนก็ได้ พร้อมเผย “แดน วรเวช“ ปรึกษาเรื่องการทำลูกแฝด ขออุบเรื่องเพศ รอให้อีกฝ่ายเป็นคนมาเปิดเผยเอง
เป็นครอบครัวที่ทั้งน่ารักและน่าอิจฉา สำหรับครอบครัวของหนุ่ม “บีม กวี ตันจรารักษ์”กับภรรยาสาว “ออย อฏิพรณ์” และลูกแฝดทั้ง 4 คน ซึ่งล่าสุดลูกแฝดชายสุดฮอตอย่าง “พี่ธีร์-น้องพีร์” ก็มาเปิดตัวเป็นพรีเซ็นเตอร์พร้อมกับคุณพ่อคุณแม่ กับผลิตภัณฑ์ครีมอาบน้ำ คิเรอิคิเรอิ แอนตี้แบคทีเรีย สะอาดทั้งตัว ชัวร์ทั้งบ้าน ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ เรียกว่ากวาดพรีเซ็นเตอร์ทั้งครอบครัวไปไม่น้อยแล้ว ซึ่ง บีม-ออย ก็เผยว่าดีใจที่มีคนชมว่าลูกเป็นอภิชาตบุตร แต่ก่อนที่ครอบครัวตนจะรับงานสักชิ้น ก็ต้องดูองค์ประกอบหลายอย่าง
ออย : “พรีเซ็นเตอร์ตัวที่เท่าไหร่ไม่รู้ ไม่ได้นับ (หัวเราะ) ถ้าแค่ปีนี้ก็ 2 ตัว แต่ถ้ารวมทั้งหมดไม่รู้เลยค่ะไม่ได้นับ แต่ยังไม่ครบนะคะ ยังเหลืออีกเยอะเลยค่ะ (หัวเราะ)”
บีม : “ยังขาดรถ ก็รออยู่ครับ รถที่เป็นรถครอบครัว สามารถจุได้ 6 คนอะไรอย่างนี้ (หัวเราะ) ถ้าถามเรื่องแบ่งเงินไว้ในอนาคตยังไง จริงๆ เงินที่ได้มาทั้งหมดก็เก็บเพื่ออนาคตของลูกๆ ครับ อย่างที่เคยบอกว่าก่อนหน้านี้เงินเราก็พอที่จะเกษียณได้แล้ว (หัวเราะ) ก่อนที่เราเริ่มจะมามีลูกนะครับ แต่เงินที่เหลือก็เป็นเงินสำหรับเด็กๆ ที่เราจะดูแลเขาต่อไปในอนาคตทั้ง 4 คน”
ออย : “ถ้าถามว่าแบ่งเก็บเงินให้ลูกเป็นคนๆ ไหม ไม่ได้แบ่งแบบนั้น คือจริงๆ ออยก็อยากจะเปิดบัญชีเป็นชื่อเขา แต่เขายังเด็ก ยังเปิดชื่อเขาเลยไม่ได้ ก็จะกลายเป็นชื่อออยและลงว่าเพื่ออะไรก็ว่าไป ก็รอให้เขาโตกว่านี้ แล้วเราค่อยมาแบ่งอีกทีนึง ตอนนี้ก็รวมๆ กันอยู่ค่ะ”
บีม : “คนแซวว่าเงินที่มีน้องๆ น่าจะเรียนจบได้ 2 ครั้งแล้ว ไม่รู้จะพูดอะไรเลย (หัวเราะ) จริงๆ ก็ขอบคุณมากๆ ครับสำหรับผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่ไว้วางใจมาเลือกใช้ครอบครัวเราเป็นตัวแทนมาบอกกล่าวเรื่องราวดีๆ หรือว่าสิ่งที่บ้านเราใช้จริงๆ ออกไปสู่ทุกคนครับ แต่ถามว่าเรียนจบได้ 2 ครั้งแล้วก็ไม่เป็นไรครับ ลูกผมเรียนจบได้ตั้ง 3-4 ครั้ง”
ออย : “ที่คนชมว่าเป็นอภิชาตบุตรเนี่ย เอาจริงๆ เราก็รู้สึกอย่างนั้นนะ บางทีเราอยู่กับเขาทุกวัน ลูกเราก็น่ารักของเราแหละ เราก็แฮปปี้ของเราอยู่แล้ว แล้วพอมีคนชมเข้ามาว่าเขาเป็นอภิชาตบุตรนะ ตอนแรกก็งง เราก็ไปหาว่าอภิชาตบุตรมีความหมายว่าอะไร คือมันก็ฟังดูดีอยู่แล้ว แต่พอยิ่งไปดูความหมายก็คือเป็นลูกทึ่ดีกว่าพ่อแม่ เราก็ดีใจแหละ”
บีม : “ทุกคนก็อยากให้ลูกไปไกลกว่าตัวเองให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ ก็โอเคครับ”
ออย : “เรื่องผลิตภัณฑ์ตอนนี้ก็ยังไม่ได้มีเป็นรูปเป็นร่าง ตัองถามผู้จัดการอีกทีค่ะ แต่ส่วนอาหมวย 2 คนเขามีอยู่แล้วค่ะ เป็นผ้าอ้อมสำเร็จรูป ก็ยังมีตรงนั้นอยู่ค่ะ ถามว่าฮอตทั้งพี่ทั้งน้องเลยไหม จะให้แม่เป็นคนชมก็จะกระไรอยู่ (หัวเราะ)”
บอกก่อนรับงานจะมีผู้จัดการสกรีนให้ และดูที่ความเหมาะสมด้วย
ออย : “วิธีเลือกรับงาน จริงๆ คนสกรีนด่านแรกคือพี่เอ็มที่เป็นผู้จัดการค่ะ พี่เอ็มเขาค่อนข้างละเอียดอยู่แล้ว เพราะเขารู้ว่าหลานเขาทำอะไรไม่ได้บ้าง (หัวเราะ) ก็อาจจะมีข้อจำกัดค่อนข้างเยอะ อย่างเช่นเราจะไม่ชนเวลาเรียนเด็ก แล้วก็ไม่กวนเวลานอน คือเขาต้องนอน ไม่งั้นเขาก็จะทำงานไม่ได้ เราก็ไม่อยากทำให้งานออกมาไม่ดี ก็จะมีข้อกำหนด แต่พี่เอ็มเขาก็จะดูเรื่องของความเหมาะสมว่าผลิตภัณฑ์นี้เหมาะกับบ้านเราไหม คำแรกที่พี่เอ็มจะมาถามเลยก็คือเธอใช้อันนี้อยู่หรือเปล่า หรือว่าอันนี้เธอชอบไหม หรือเธอโอเคไหม เราจะมีการคุยกันก่อนที่จะตกลงอยู่แล้วค่ะ”
บีม : “จริงๆ ก็จะมีบางงานที่เราก็ไม่ได้รับเหมือนกันครับ อย่างเป็นอะไรที่ไม่ได้เกี่ยวกับเด็กๆ ก็จะไม่พยายามรับ”
ออย : “แต่งานที่ปฏิเสธไปก็ไม่ได้เยอะมากค่ะ แต่ก็มีบ้างเล็กๆ น้อยๆ”
บีม : “อาจจะสินค้าไม่เกี่ยวข้อง บางสินค้าอาจจะดูโตเกินไปอะไรอย่างนี้ครับ ถามว่านอกจากงานพรีเซ็นเตอร์ เราอนุญาตให้เขารับงานอะได้บ้าง เอาจริงๆ ก็ไม่ได้อนุญาตให้เขารับงานอะไรเลย (หัวเราะ)”
ออย : “จริงๆ เราก็จะดูว่าเขายังเอ็นจอยอยู่หรือเปล่าค่ะ ถ้าสังเกตว่าเขาเริ่มไม่สนุกแล้วก็อาจจะต้องพิจารณา แต่ถ้าเขายังสนุกอยู่ เวลาเราถามเขา แล้วเขายังบอกว่าอยากมา เพราะทุกครั้งออยจะถามเขาว่าหม่ามี๊จะไปทำงานจะไปไหม เขาก็ยังอยากมาอยู่ หรือบางทีไม่เกี่ยวกับเขา เขาก็ยังขอมา เราก็รู้สึกว่าเขาอยากจะมาอยู่กับเรา อยากจะมาสนุกกับเรา ถึงแม้ว่ามาถึงแล้วจะตามใจตัวเองไปบ้างก็ตาม (หัวเราะ) ก็ต้องดูเขาเป็นหลักค่ะ เพราะถ้าเป็นผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับเด็ก หรือถ้าเราไม่เอาเขาเป็นหลัก มันไปต่อลำบาก แต่เขาก็ไม่เคยต่อรองนะคะเวลาออกงาน เขาไม่เคยต่อรองกับเราว่าถ้าเขาทำแล้วต้องซื้ออันนั้นอันนี้ให้เขา ไม่มีค่ะ แต่ออยรู้ว่าเขารู้ว่าถ้าเขามาเขาคงจะได้ของเล่น”
เผย “แดน วรเวช ดานุวงศ์” มาขอคำแนะนำเกี่ยวกับการทำลูกแฝด
บีม : “จริงๆ ก็ไม่อยากคุยว่าเขาก็ปรึกษาตลอดนะ (หัวเราะ) มาปรึกษาวิธีทำครับ หมายถึงว่าจะปรึกษาหมอยังไง เลือกหมอยังไง เพราะผมว่าวิธีธรรมชาติทุกคนคงทำกันเป็นอยู่แล้ว คงไม่ต้องมาปรึกษากัน (หัวเราะ) แต่จะเป็นเรื่องการคุยกับคุณหมอว่าเป็นยังไง เพราะเราก็รู้รายละเอียดว่าเขาจะประกาศวันนี้อะไรแบบนี้เลย”
ออย : “ถามว่าเขาตั้งใจเอาแฝดเลยไหม ออยว่าพอคนเราเข้าสู่กระบวนการมันมีโอกาสอยู่แล้ว และถ้าเราทำได้ หมายถึงคุณแม่มีสุขภาพที่สมบูรณ์ มีส่วนสูงที่ได้ ออยคิดว่าส่วนใหญ่เขาก็จะตัดสินใจเอาแฝด เพราะมันก็หลายๆ อย่างและทีเดียวจบ”
บีม : “จริงๆ ตอนแรกแดนเขาก็เคยพูดว่าอาจจะไม่มี แต่ผมว่าจริงๆ ความคิดคนมันเปลี่ยนกันได้ พอใช้ชีวิตไปเรื่อยๆ อาจจะคิดว่าความจริงมีก็ดีนะ คนเรามันเปลี่ยนไปได้เรื่อยๆ ครับ สมมติวันนี้ผมพูดอะไรวันนี้ไปอย่างนึง”
ออย : “หมายถึงว่าถ้าวันนี้เธออาจจะไม่ให้เราไปรับเอลซ่า พรุ่งนี้เธออาจจะให้เราไปรับเหรอ”
บีม : “หมายถึงลูกคนที่ 5 ครับ (หัวเราะ) อันนี้ข้ามไปก่อน ตอนแรกนึกว่าจะพูดว่าถ้าวันนี้ยังพูดว่ารักอยู่ แล้วต่อไปจะไม่รักอะไรอย่างนี้ ก็จะบอกว่าเรายังรักเธอเหมือนเดิม แต่ถ้าเรื่องลูกคนที่ 5 เนี่ย ผมว่าผมมั่นคงพอสมควร คิดว่าเอาแค่ตรงนี้ก่อนดีกว่า (หัวเราะ) แต่แค่อยากจะอธิบายว่าความคิดคนมันเปลี่ยนได้เรื่อยๆ ผมว่าแดนกับแพทตี้เขาก็อาจจะเปลี่ยนความคิดไปได้ ส่วนจะเป็นเพราะพี่ธีร์ น้องพีร์ทำให้เขาเปลี่ยนใจหรือเปล่า จริงๆ แล้วเวลาเจอกันแดนชอบเล่นกับน้องพีร์มาก”
ออย : “ออยว่าแดนทรงเขาเล่นกับเด็กเก่งมาก น้องพีร์ติดอาแดนมาก ถ้าบอกว่าอาแดนมาเขาก็จะดีใจเลย“
บีม : “ผมว่าความเป็นพ่อเขาสูงนะ“
ออย : “ออยคิดว่าเหตุปัจจัยเขาอาจจะพร้อม มันเหมือนสุดท้ายพอตกผลึกว่ามันได้แล้ว ความต้องการก็เลยเกิดขึ้น ออยก็ยังไม่ได้ให้คำปรึกษาอะไรน้องแพทตี้ค่ะ เพราะเขายังไม่ได้มาขอคำปรึกษาอะไร เพราะตอนนี้เขายังเพิ่งเริ่มๆ อาจจะยังแพ้ท้องอยู่”
บีม : “แต่เราก็จะเล่าแหละว่าความรู้สึกของเราเป็นยังไง ตอนมีลูกเป็นยังไง แดนเขาก็จะมาเล่าบอกว่าตอนลูกเกิดร้องไห้ไหม ผมก็บอกว่าผมก็ว่าจะไม่ร้องนะ แต่ผมก็ร้องออกมา ต้องไปดูหน้างาน คือวันนั้นแดนเขาเล่าถึงเรื่องเป๊ก (เปรมณัช สุวรรณานนท์) เขาบอกว่าเป๊กร้องไห้ เขาก็เลยถามว่าผมร้องไห้ไหม คือจำได้ว่าคนแรกผมไม่ได้ร้องไห้”
ออย : “ไม่ได้ร้องไห้ เพราะไม่ได้เข้าไปในห้องคลอดด้วย”
บีม : “ใช่ครับ (ทำหน้าจ๋อย) แต่พอเข้าไปในห้องคลอดปุ๊บฟีลมันได้ก็ร้องไห้เฉยเลย เราก็พูดขู่ไปแหละว่าเดี๋ยวลองดูหน้างานว่าจะยังไง แต่ถามว่าเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงของเขาหรือยัง จริงๆ ยังไม่ได้เจอกันเลยครับ จริงๆ เราก็จะไปออกกำลังกายด้วยกันบ้าง แต่ช่วงหลังๆ อาจจะเป็นเพราะเขาต้องเทคแคร์แพทตี้ เราก็จะคอยบอกเขาว่าบางทีพอผู้หญิงอุ้มท้อง ฮอร์โมนก็เปลี่ยนเหมือนกันนะ เขาจะมีความต้องการเรา เหมือนช่วงเปราะบางของเขา เป็นช่วงก่อนที่จะตรวจว่าท้องหรือไม่ท้อง ผมก็จะเตือนแดนว่าใช้เวลาอยู่กับแฟนให้เป็นพิเศษหน่อย เพศลูกผมไม่รู้ๆ รอเขาดีกว่าครับ”
ออย : “แต่เตรียมของรับขวัญหลานอยู่แล้วค่ะ”
บีม : “ของรับขวัญเตรียมอยู่แล้วครับ เพราะน้องคนเดียวในวงการ นี่ก็ลุ้นอยากเห็นว่าพอคลอดออกมาแล้วจะเป็นยังไง เคยคุยกันด้วยว่าแดนอยากให้ลูกหน้าเหมือนใคร แต่เดี๋ยวไปฟังเขาดีกว่า (หัวเราะ)”
ยอมตัดใจไม่ท้องคนที่ 5 แล้ว เพราะอายุเยอะขึัน หมอไม่แนะนำ
ออย : “ถามว่าลูกคนที่ 5 จะยังไง คือจริงๆ เราก็ยังเก็บเขาไว้ แต่จะไปรับกลับมาได้ไหม ถ้าถามตอนนี้ออยคิดว่าไม่ได้ เพราะปีนี้เราก็ 45 แล้ว ถ้าเราจะเลี้ยงเขาถ้า 5 ขวบ เราก็ 50 มันก็ไม่ไหว อีกเรื่องล่าสุดที่ออยไปพบคุณหมอมาตรวจสุขภาพประจำปี คุณหมอก็ซาวด์ให้บอกว่าตรงรอยผ่ามดลูกเรา คือเวลาผ่าเขาก็จะผ่าที่เดิม มันเหมือนเป็นแผลเป็นข้างใน และมันบาง ถ้าสมมติว่าเราจะตั้งท้องอีกมันก็จะอันตรายมากกว่าปกติหมอก็ไม่ได้แนะนำว่าให้มีอีก แต่ที่ตั้งชื่อไว้แล้วเนี่ยน้องเขาอยู่ในตู้เย็นแล้ว บีมเขาก็เลยเรียกว่าเอลซ่า เพราะว่าแช่แข็งอยู่ แต่เราก็เก็บไว้ คือออยเคยไปอ่านบทความต่างประเทศก็จะมีว่าเอาน้องสาวตัวเองมาเป็นลูก คือคุณแม่เขาเก็บไว้ตั้งแต่สาวๆ แล้วพอเขาโตขึ้นมา เขาก็ไปรับน้องมา ออยก็เลยคิดว่าอีกหน่อยถ้ากฎหมายบ้านเรามันได้ ลูกฉันอาจจะไปรับน้องมา ก็ไม่รู้ เราก็เก็บไว้ก่อน”
บีม : “คงนับญาติกันแปลกมากเลยนะ (หัวเราะ)”
ออย : “สำหรับออยคิดว่าไม่น่าจะมีแล้วค่ะ แต่บีมคือหนักแน่นมาก”
บีม : “คือเราก็คิดว่าตอนนี้ลูก 4 คนก็ค่าใช้จ่ายเยอะ”
ออย : “ออยแค่คิดว่าเขาก็มีชีวิตแล้ว เขาไม่ใช่แค่เป็นไข่”
บีม : “ออยเขาจะถามตลอด สมมติว่าไปหาพระอาจารย์ ไปไหว้พระ เจอพระที่ปฎิบัติหน่อย เขาก็จะถามว่าถ้าสมมติว่าเขาปฎิสนธิแล้ว เขาจะนับเป็นมนุษย์ตั้งแต่เมื่อไหร่ มีวิญญาณหรือยัง”
ออย : “เราก็กลัวว่าเขาจะรอเกิดอยู่ แล้วเขาก็จะรอเอ๊ะอะไรไม่มารับฉันสักที ก็สงสารอันนี้ก็คือที่ตรวจแล้วว่าสมบูรณ์ก็คือเหลือคนเดียว เป็นผู้หญิง”
