“ก้อง ห้วยไร่” หมดเงิน 13 ล้าน จัดห้วยไร่ อีหลีน่า festival #2 ไม่คิดว่าจะใหญ่ขนาดนี้ ประทับใจแขกรับเชิญ “ปาล์มมี่” แอบถามภรรยาหลังบ้าน จะจ่ายเงินค่าตัวคืน ส่วน “เบลล่า” มาด้วยใจล้วนๆ เผยเรื่องราวดีๆ แฟนเพลงไม่ดูดพอต ขณะเล่นคอนฯ ที่พัทยา 1 ชม. ลั่นนักร้องยุค 90 ถึงยุคตน ตายด้วยมะเร็งปอดเยอะ แฮปปี้แจกอั่งเปาแฟนคลับ จากเงินค่าตัว1.6 แสน
เป็นคอนเสิร์ตที่ทำเอาแฟนๆ ฮือฮาไม่น้อยกับแขกรับเชิญที่มากันจนแน่นเวที สำหรับ “ห้วยไร่ อีหลีน่า festival #2” จัดโดย “ก้อง ห้วยไร่” นักร้องชื่อดัง โดยก้องเปิดใจกลางกองถ่ายภาพยนตร์ “ปะ ฉะ ดะ” ลั่นเป็นความสำเร็จ หมดเงิน 13 ล้าน แต่ไม่ขาดทุน แต่ก็ได้กำไรไม่เยอะ พร้อมชม “เบลล่า ราณี แคมเปน” มาด้วยใจล้วนๆ ปีที่ 3 มาแน่นอน
“ผมว่าเป็นการรวมพลังของคนในพื้นที่ ทีแรกจะจัดกันสนุกสนาน แต่พอนักท่องเที่ยวที่มา มาจากต่างพื้นที่ การคมนาคม การบริโภค ที่พักในพื้นที่ต่างๆ ต้องอาศัยการร่วมมือกันทุกภาคส่วน ผู้หลักผู้ใหญ่และชาวบ้านช่วยกันดีมาก เลยทำให้ประสบความสำเร็จ
ตอนแรกคิดไว้ก่อนที่จะทำ ถ้าจบซีซั่น 2 เราไม่ไหวแล้ว เพราะใช้ทุนเยอะ เป้าหมายไม่ได้สร้างเพื่อรายได้ เพราะราคาบัตรไม่กี่บาท ศิลปินที่มาไม่ได้มาฟรี เพราะรู้จักผม ไม่ใช่นะ มีค่าตัวปกติ และมากกว่าปกติถ้าเป็นงานเฟสติวัล มันจะมีค่าลิขสิทธิ์ เปอร์เซ็นต์จากการขายตั๋วได้เท่าไหร่ต้องแบ่งให้ศิลปินด้วย เป็นเรื่องปกติ
เจตนาจริงๆ มันตลกมาก เพราะบ้านผมไม่น่าสนใจ เวลากลับบ้านเพื่อนไม่อยากกลับบ้าน แต่ไม่ใช่ว่าเขาอยากกลับ แต่มันไม่มีอะไรน่าสนใจ โครงการแรกผมทำลงแขกเกี่ยวข้าว แล้วเตะบอลเท้าเปล่า มาเรื่อยๆ พอตกตอนเย็นคนที่มาเตะบอล ก็เป็นคนที่เล่นกีฬาจริงๆ เลยจัดกิจกรรมให้เขาเล่น ก็คิดเล่นๆ ก็เลยคิดจัดคอนเสิร์ต ไม่คิดว่ามันจะใหญ่ขนาดนี้
ความสุขที่ผมได้คือ ชาวบ้านเอาแตงมาให้ เอาหน่อไม้มาให้ ชาวบ้านเขาไม่เข้าใจคำว่าโฮมสเตย์ แต่มีคนต่างจังหวัดไปนอนบ้านเขาแล้วให้เงินเขา 500 บาทต่อคืน เบ็ดเสร็จ 4 คืน เขาก็ได้บ้านละ 2 พันบาท ซึ่ง 2 พันบาทสำหรับคนต่างจังหวัดซื้อปุ๋ยทำนาได้อีกซีซั่นหนึ่งเลย เป็นฟีดแบ็กจากชาวบ้านจริงๆ ที่จอดรถก็ไม่ได้เก็บจากชาวบ้านให้เขาหมด ร้านค้าที่มาขายก็เก็บแค่ 4 พันบาท ไม่ได้เก็บหลักหมื่นอย่างงานทั่วๆ ไป และให้ตั๋วเขาเข้าชมคอนเสิร์ต เขาก็ได้เงินแสนกลับบ้าน”
หมดเงิน 13 ล้าน ไม่ขาดทุน
“กำไรครับ กำไรความรู้สึก 2 ปีกำไรความรู้สึก ไม่ได้ขาดทุน ความน่ารักของพี่ปาล์มมี่ (อีฟ ปานเจริญ) พอรู้ไม่อยากจะมา เพราะรู้ว่าน้องจะต้องแบกรับค่าใช้จ่ายต่างๆ นานา เลยไปแอบถามภรรยาผมหลังบ้าน จะจ่ายคืนทั้งหมด ค่าตัวทุกอย่าง แต่ผมบอกว่า พี่มี่ครับ น้องไม่เจ๊ง ทุกอย่างคัฟเวอร์กันหมด ถามว่าการจัดงานครั้งนี้มูลค่าเท่าไหร่ หมดไป 13 ล้าน แต่ไม่ขาดทุน แต่ไม่ได้กำไรเยอะ”
ประทับใจ “เบลล่า” มาด้วยใจล้วนๆ
“มันเป็นความสนิทกันกับภรรยาของผมได้ยังไงก็ไม่รู้ ตอนจัดเดี่ยวกับเฮียโน้ส (อุดม แต้พานิช) กินข้าวโต๊ะเดียวกันยังไม่กล้าเลย ด้วยความที่รัศมีความเป็นสตาร์ของแต่ละคนมันต่างกัน พอไปใกล้น้องก็ไม่กล้าไปใกล้ด้วย แต่พอได้เจอกันบ่อยๆ ก็จูนกันติดกับภรรยาผม แล้วสนิทกันเหมือนเพื่อนที่รู้จักกันมานาน ตอนที่เบล ภรรยาผมให้สัมภาษณ์ ก็กลัว เลยบอกว่าน้องเบลล่ามาทำบุญ แล้วแวะไป แต่จริงๆ น้องล็อกไว้เป็นปี ระดับเบลล่าที่จะมีวันว่างไปเที่ยวที่ไหนสักแห่ง เขาล็อกไว้ เขาน่ารักมาก และชอบเขาตอบด้วย ด้วยความที่เขาเป็นลูกอีสาน มันดีนะ มันดีมากเลย มันทำให้งานแกรนด์มหาศาล บางคนไม่รู้ก็ถามว่าก้องต้องใช้เงินเท่าไหร่ เบลล่าถึงมา ใจล้วนๆ”
ปี 3 มาแน่ แต่ขอแค่ปีละครั้ง
“ปีละครั้งดีกว่า จะได้ขลังๆ เหนื่อย และมีการเตรียมตัวให้มากขึ้น เสน่ห์ของงานผมคือมิตรภาพ ไม่ได้ตัดสินใจด้วยตัวเองว่าจะจัดยังไง หน้าสื่อผมอาจจะกวน ดูไม่มีอะไร แต่ผมเคารพทุกการตัดสินใจ สร้างห้องน้ำเพิ่ม แต่ก็ไม่พอ มีอีกแน่นอน ปี 3 แน่นอน”
เผยเรื่องราวดีๆ แฟนเพลงไม่ดูดบุหรี่ไฟฟ้าขณะเล่นคอนเสิร์ตที่พัทยา 1 ชม. ทั้งที่ประกาศห้ามแค่คอนเสิร์ตบ้านของตัวเอง
“จะเล่าเหตุการณ์เมื่อคืนให้ฟัง ผมไปเล่นคอนเสิร์ตที่พัทยา ก็มีคนดูดบุหรี่กันปกติอยู่แล้วก่อนที่ผมจะเล่น ผมก็ไม่ได้ซีเรียสอะไรเพราะผมได้โพสต์บอกไปแล้วว่า ที่ผมประกาศห้ามเด็ดขาดเฉพาะในบ้านของผมนะครับ ผมไม่ได้ดื้อแพ่งหรือจะไปกระแดะว่าไปที่อื่นแล้วห้ามดูดบุหรี่ถ้างั้นผมไม่เล่น ผมไม่ถึงขนาดนั้น ผมก็ยังต้องอยู่ในสังคมที่คนเขาดูดกันอยู่แล้ว
ทีนี้เมื่อคืนเหลืออีก 5 นาทีที่ผมจะขึ้นเล่น ดีเจประกาศเราจะไม่ดูดพอตดูดทุกอย่างในงานทั้งสิ้นแค่ 1 ชั่วโมงให้ก้องเล่นเสร็จ ผมมองหน้าภรรยาแล้วบอกว่า ถ้าเกิดเรื่องเล็กๆ ที่เราทำที่บ้านเรามันกลายเป็นเรื่องใหญ่ระดับประเทศ แล้วทุกร้านเป็นแบบนี้มันจะดีมากเลย คือสุดท้ายทุกคนก็ทำตามเฉพาะคอนเสิร์ตเมื่อคืนนะครับ ใน 1 ชั่วโมงนั้นแค่เรื่องที่เราสัมผัสมาเมื่อคืนนี้แล้วผมมองว่าถ้าทำได้จริงๆ มันมีผลดี
เราก็เข้าใจว่าโลกมันมีหลายพ่อหลายแม่มันก็มีความคิดแตกต่างกันไป แต่สุดท้ายแล้วเราต้องอยู่ร่วมกัน เขาดูดบุหรี่ไม่ใช่ว่าเขาน่ารังเกียจ เราไม่ดูดบุหรี่ไม่ใช่ว่าเราเป็นคนดี แต่อยู่ด้วยกันยังไงแล้วมันบาลานซ์มันพอดีแค่นั้นเอง”
บอกนักร้องยุค 90 ถึงยุคตน ตายด้วยโรคมะเร็งปอดเยอะ
“เอาเป็นว่านักร้องทุกคนเอาตั้งแต่ยุค 90 มาถึงยุคพวกผม ตายจากโรคมะเร็งปอดเยอะมากครับ อย่าลืมว่าบุหรี่มือสองมันหนัก พวกที่ไม่ได้ดูดหายใจเข้าปอดมันจะหนักกว่าพวกที่ดูดเองด้วยซ้ำ เอฟเฟกต์กับผมจะไม่เยอะมาก แต่ความรู้สึกผมเป็นคนที่เล่นคอนเสิร์ตจะมองตาแทบทุกคนทุกความรู้สึก ในขณะที่เราสนุกมีคนพ่นออกมา แล้วคนรอบตัวข้างล่างจะมีภาษากายที่เรารู้สึกว่าเขาไม่โอเค ซึ่งเราก็ไม่โอเคด้วย ผมก็เลยเริ่มจากการที่ตัวเองเล่นคอนเสิร์ต แล้วบอกว่าขออนุญาตน้องๆ นะครับถ้าใครจะดูดบุหรี่ พี่ก้องขอให้ไปข้างนอกนะครับแล้วเราก็เล่นต่อ แต่ก็ยังมีคนดูดต่อ เราก็เลยเข้าใจว่าโลกมันเป็นอย่างนี้ เราอย่าไปขวางมัน ถ้าอยากจะเริ่ม เริ่มที่บ้านตัวเองดีกว่า”
ไม่ได้ห่วงแค่ตัวเอง ห่วงคนที่มาดูคอนเสิร์ตด้วย
“ทุกปีที่ผมจัด เด็กอายุไม่เกิน 12 ปีเข้าฟรี และมีเด็กทารกเข้าฟรี คนแก่ตั้งแต่อายุ 60 ปีขึ้นไปเข้าฟรี แล้วผมยอมจ่ายตังค์จำนวนมหาศาลในการจ้างเครื่องเสียงระดับโลก มันสามารถคอนโทรลเสียงได้ไม่กระแทกไม่ทำให้คนที่ไปเที่ยวงานรู้สึกว่าเสียงมันปวดหู มันกลายเป็นเสียงขึ้นไปข้างบนแล้วตกลงมาข้างล่าง ไม่ได้เสียงกระแทกมาข้างหน้าเป็นวิทยาการของเครื่องเสียงใหม่เพื่อให้เด็ก ผู้ใหญ่ และผู้พิการเข้าเที่ยวได้พอมันหลากหลายวัยเข้าไป เราก็มองว่าเราไม่ควรปล่อยเรื่องนี้เป็นเรื่องปกติ ก็เลยห้ามดูดพอตในงานไปเลย
คนที่ไม่เข้าใจก็มี คนที่ไม่เข้าใจเราจัดการยังไง เราก็ต้องเข้าใจเขาก่อน ธรรมชาติของคนที่ทานเผ็ดเราจะไปห้ามเขาทานเผ็ดก็ไม่ได้ ก็บอกเขาว่าร้านนี้เราไม่มีของเผ็ดนะต้องขออนุญาตไม่ให้เขาเข้ามา ก็มีคนทักเข้ามา เราก็โอนตังค์กลับคืนไปให้เขาเพราะว่าเราประกาศหลังจากที่เขาได้ซื้อตั๋วมาแล้ว ถามว่ามีคนส่งข้อความด่าไหม นี่คือความน่ารักของคนที่เขาดูด พี่ก้อง อยากไปครับ แต่อดไม่ได้จริงๆ เพราะยังไงผมจะต้องเผลอดูดแน่นอน ถ้างั้นผมขออนุญาตไม่ไปดีกว่าแต่ถ้าจะให้เงินพี่ก้องเลย ผมก็มีแค่นี้ ขอคืนได้ไหมครับ เรายินดีคืนอยู่แล้ว”
แจกอั่งเปาแฟนคลับจากเงินค่าตัว 1.6 แสน
“ผมว่ามันเป็นความฝันของทุกคนครับ ผมเป็นนักร้องผมก็อยากไปเล่นโชว์ที่บ้านเกิด ความอยากไปเล่นโชว์ที่นั่นมันก็จะมีสองนัยยะ หนึ่งอย่างได้ตังค์ใช่ไหม อยากมีงานใช่ไหมถึงอยากไปเล่นโชว์ที่บ้าน ไม่ได้อยากได้เงินครับ อยากไปโชว์ ถ้าไปร้องฟรีก็ไม่มีมูลค่า เราเป็นศิลปินคุณจ่ายตังค์ผมมาแต่ผมจะเอาตังค์ไปทำอะไรก็ตามไม่เข้าตัวเองก็เลยเป็นเหตุการณ์แจกอั่งเปา
แจกทั้งหมดครับ 160,000 บาท มันคือค่าตัวของเราในวันนั้นครับ แล้วก็ประกาศหน้าเวทีก่อนที่จะเล่นว่า แฟนเพลงไม่ต้องเอาเงินมาให้ผมนะวันนี้ผมจะเอาเงินคืนให้แฟนเพลง มันไม่ใช่เงินที่เยอะ แต่มันคือความให้กัน ผมว่าการให้กันมันไม่จำเป็นต้องให้อะไรเยอะแยะมากมาย แค่ให้รอยยิ้มให้ความรู้สึกดีๆ มันก็ดีแล้ว ทีนี้พอเขาได้รับมันก็กลายเป็นเงินขวัญถุงนะ ด้วยความสไตล์ผมมันก็ต้องมีหยิกแกมหยอกว่าทำอะไรที่มันน่ารักเกินไปแล้วมันเขินตัวเอง แจกตังค์ไปด้วยด่าเขาไปด้วย(หัวเราะ) จริงๆ แก้เขินนะครับ ไม่ได้มีเจตนาอยากจะด่าแฟนเพลงหรือว่าพูดในเรื่องที่ไม่ดี หลายคนที่ตามก็รู้ว่าเราอาจจะมีคลิปที่มันไม่น่ารักหลุดออกไปในการเล่นบนเวที หลังจากเล่นเสร็จผมจะบอกว่าทุกคำพูดกิริยาใดคำไหนที่ไม่สุภาพเป็นคำพูดที่ใช้ในการแสดง ต้องขอโทษทุกคนด้วย”
