“เพชรจ้า” กระชุ่มกระชวย วาเลนไทน์นี้มีคนคุยแล้ว เตรียมเดตแบบวัยรุ่น ของขวัญเลือกไม่ยาก ประสบการณ์สูง แต่ยังไม่ขอเป็นแฟนเร็วๆ นี้ บอกน้องยังเด็ก ต้องให้พ่อแม่เขามั่นใจก่อน รอเวลาเข้าไปเจอผู้ใหญ่อยู่ ยัน “นิวเคลียร์” เปิดตัวแฟนใหม่ ไม่ได้บลัฟ แต่ตกลงกันไว้มีคนคุยลูกห้ามรู้ เพราะยังคิดว่าพ่อแม่เป็นแฟนกัน ไว้โตกว่านี้ก่อนค่อยอธิบายดีกว่า เผยคนคุยสองฝ่ายเข้าใจ ที่ยังอยู่บ้านเดียวกัน เพราะเหมือนเป็นพี่น้อง ไม่เหลือความเป็นคู่รักแล้ว
หลัง “ดีเจเพชรจ้า วิเชียร กุศลมโนมัย”ยอมเปิดหน้าสาวนักศึกษาคนคุยไปได้ไม่นาน ล่าสุดอดีตภรรยาคนสวย “นิวเคลียร์ หรรษา จึงวิวัฒนวงศ์” ก็ได้ฤกษ์เปิดตัวหนุ่มข้างกาย ก่อนวาเลนไทน์บ้าง โดยงานนี้ก็บอกเลยว่าเริ่ด เพราะเป็นหนุ่มโปรไฟล์ดี ดีกรีทายาทตระกูลธุรกิจหมื่นล้าน แห่งอาณาจักร GRANDHOME (แกรนด์โฮม) นามว่า “บ๊อบบี้ ศรีระพี ใจดี”เมื่อวานนี้ (13 ก.พ.) ได้เจอเพชรจ้า ในรายการทัวร์มาลง เจ้าตัวก็ได้เผยถึงเรื่องนี้ว่าจริงๆ รู้มานานแล้ว ถ้าเขาแฮปปี้ เราก็แฮปปี้ ส่วนเรื่องของตัวเองก็กระชุ่มกระชวย เป็นวาเลนไทน์ปีแรกที่มีคนคุยเหมือนกัน แต่ใดๆ คือ “น้องไทก้า” ห้ามรู้ว่าพ่อแม่มีคนคุยใหม่ เพราะลูกยังคิดว่ายังเป็นแฟนกันอยู่
“วาเลนไทน์ปีนี้ ก็เป็นปีแรกที่มีคนที่คุยด้วยอยู่ครับ กระชุ่มกระช่วยไหม ก็ดีนะ ก็มีเวลาที่ต้องไปซื้อโน่นซื้อนี่เตรียมร้านอาหารอะไรแบบนี้ ซึ่งมันไม่ได้เกิดขึ้นกับเรามานานพอสมควร ถามจัดชุดใหญ่เลยไหม โอ้โห.. ก็ทำไปตามที่มันต้องทำเนอะ กินข้าว เดต อะไรอย่างนี้ตามปกติแหละผมว่า แต่เตรียมช่อดอกไม้ เตรียมของขวัญไว้ คือตั้งแต่คบกันมายังไม่เคยมีของขวัญอะไรเลย เพราะเรายังไม่ได้เป็นแฟนกัน ตั้งแต่รู้จักกันมา ก็เลือกไม่ยาก (หัวเราะ) ประสบการณ์สูงรู้ว่าแบบนี้ควรให้อะไรแบบนี้ คิดว่าน่าจะถูกใจครับ คือก็ไม่ได้เตรียมอะไรไว้เยอะแยะ เป็นไปตามสเต็ปของวัยรุ่นนั่นแหละ เขาทำอะไรเราก็ทำตามนั้น”
เป็นคนคุยอยู่ ยังไม่ใช่แฟน เพราะน้องยังเด็ก
"ยังครับ ยังไม่ได้เป็นแฟน ยังคุยๆ กันอยู่ ยังไม่ขอครับ ยังๆ อย่างที่บอกว่าเขายังเด็กอยู่ ยังไม่ผ่านด่านแม่ครับ ตั้งแต่สัมภาษณ์ไปรอบนั้น เราก็ยังไม่ได้ไปไหนเลย เราก็ทำแต่งาน ยังไม่ได้เจอผู้ใหญ่สักคนครับ ถามกว่าจะไปถึงสเต็ปแฟนมันยากแค่ไหน มันน่าจะต้องใช้เวลานะ จนฝั่งโน้นเขารู้สึกมั่นใจหรือโตกว่านี้หน่อย อะไรแบบนี้”
ถึงจะเปิดหน้าแล้ว แต่ยังต้องรอผู้ใหญ่มั่นใจ
“ก็จนกว่าผู้ใหญ่ทางฝั่งโน้นเขาจะมั่นใจ ว่าคุยกันมานานแล้ว กับน้องเราก็คุยเรื่องนี้ คุยเลย เป็นการปรึกษากันแบบเป็นเรื่องเป็นราวเลย เพราะมันค่อนข้างเป็นเรื่องเซนซิทีฟสำหรับคนเป็นพ่อแม่ ใครเป็นพ่อแม่ก็ต้องห่วงเป็นธรรมดา เพราะว่าเราเป็นคนสาธารณะก็เรื่องหนึ่ง ที่เป็นผมนี่แหละที่จะลำบากนิดหนึ่ง เรียกว่าเป็นภาพลักษณ์และคาแรกเตอร์ที่ดูน่ากลัวดีกว่า ใครๆ ก็กลัวหมดแหละไม่ต้องเป็นพ่อแม่ใครหรอก ถามว่าจะเอาชนะใจพ่อแม่น้องยังไง จริงๆ ต้องเจอกัน ต้องมีโอกาสได้พบกัน ก็จะรู้สึกว่าผมน่ารัก ไม่เหมือนในข่าว แต่จะนัดเมื่อไหร่ดี ก็ยังไม่ทราบเลยครับ”
ปรึกษากับน้องเยอะเรื่องพ่อแม่
“เยอะครับ ลงลึกเลยว่าเราจะทำยังไงกันดี จะต้องนัดเจอแบบไหน แบบบังเอิญไหม เราไปทานข้าวกับแม่แล้วพี่โผล่ไปร้านนั้นไหม หรือหนูไปกินข้าวร้านพี่แล้วพี่ก็เข้ามาเทคแคร์ไหม อะไรแบบนี้ เราก็พยายามจัดฉากให้มันดูดี หมายถึงว่าให้มันพอดี การนัดเข้าไปคุยมันจะดูตึงเป็นเรื่องเป็นราว 'มึงมาทำไม ใครอยากคุยกับคุณ' อะไรถูกไหม ถ้าเป็นในสเต็ปนั้น น้องเขาก็ไม่ได้ช่วยหรอก ก็แค่ปรึกษากัน เราเป็นผู้ใหญ่ก็จะพยายามนึกว่าถ้าเป็นเรา เราเป็นพ่อแม่เราจะอยากเจอคนที่คุยกับลูกเราในโมเมนต์ไหน ถ้านัดเจอก็คงไม่อยากเจอเพราะมันดูเป็นทางการ แต่ถ้าบังเอิญเจออันนี้ค่อยยังได้อยู่”
ที่วางแผนแบบนี้ เพราะอยากเจอพ่อแม่น้องแล้ว
“ใช่ๆ ก็อยากเจอเพราะตัวน้องค่อนข้างกังวล เขาจะแคร์พ่อแม่ไง ว่าจะกังวลเป็นห่วงอะไรต่างๆ นานา เพราะเขาเรียนค่อนข้างเยอะ ก็ไม่อยากให้ผมมาเป็นตัวแปรที่แบบทำให้ไม่ตั้งใจเรียน ไม่มีระยะเวลาในใจเลย อยู่ที่จังหวะ แต่เขาก็บอกทางพ่อแม่เขาแล้ว คือจริงๆ ตอนแรกพ่อแม่อาจจะยังไม่ได้รู้เรื่อง แต่ญาติๆ คนรอบข้างแหละที่เป็นคนเห็นข่าว แล้วก็ไปบอกมากว่า”
คบกับใครก็มองอนาคตด้วยกันหมด
“ผมมองอนาคตกับทุกคนแหละครับที่ผมคุย กับคนนี้ยังไม่เคยเปิด แต่ว่าเราไม่ได้มั่นใจนะ เหมือนมันหลุดออกไปตอนที่เรารีโพสต์ แล้วเห็นพี่ๆ นักข่าวอยากรู้อยากทราบว่าผมคุยกับใคร”
บอกรุ่นนี้ไม่เกร็งแล้ว เพราะเจอพ่อ “นิวเคลียร์” เดือดมาก่อน
“ไม่เกร็ง ผมเคยเจอแบบเดือดๆ มาแล้ว สมัยคุณพ่อน้องนิวเคลียร์ ผ่านมาแล้ว คุณพ่อเขาแบบ เฮ้ย…มานี่หน่อยสิ แบบนี้เลย เราก็ ครับๆๆ เดินตามต้อยๆ ไป ลูกผมผมเลี้ยงมาเกรดเอนะ ถ้าจะมาเล่นๆ ไม่ต้องคุยนะ นี่ อะไรประมาณนั้นผมผ่านมาแล้ว มีประสบการณ์แล้วว่าคนเป็นพ่อเขาก็หวงของเขา ตอนนี้ก็เหลือแค่เวลา ให้เวลาเป็นเครื่องพาไปแล้วกัน ว่าจะไปออกฉากไหน”
เผยรู้นานแล้ว “นิวเคลียร์” มีแฟนใหม่
“จริงๆ เขาก็ลงมาหลายครั้งแล้วไม่ใช่หรอ พวกคุณไม่สังเกต เขามาแบบแว๊บๆ หลายครั้งแล้ว (แสดงว่าเรารู้มาตลอด?) อ้าว…ผมก็ฟอลโลว์น้องอยู่ ผมก็เห็น รู้สิผมเจอมาตั้งนานแล้ว คุณบ๊อบบี้เนี่ย”
จำไม่ได้ตอนงานอาม่ามาด้วยไหม
“น่าจะไปนะ แต่ตอนนั้นเขาน่าจะยังเพิ่งรู้จักกัน แล้วมีเพื่อนของนิวเคลียร์มาเยอะมาก ที่เป็นหลานๆ อาม่า ผมก็เลยไม่รู้ว่าใครเป็นใคร ก็เลยจำไม่ได้ว่ามาหรือไม่มา แต่คิดว่าน่าจะมาแหละ ถ้าเป็นเพื่อนๆ กัน”
บอกคนนี้ผ่านไม่ผ่านไม่เกี่ยวกับผม ระดับ “นิวเคลียร์” ไม่มีมาปรึกษาหรอก
“ผ่านไม่ผ่านไม่เกี่ยวกับผมแล้ว น้องเขาก็ไปดูใจกันเอาเอง เขาไม่มีปรึกษา ระดับนิวเคลียร์ไม่ต้องมาปรึกษาดีเจเพชรจ้าหรอก เขาโตแล้ว อะไรที่ทำแล้วมีความสุขก็ให้เขาทำเถอะ แต่เขาลงมาหลายแว๊บแล้วนะ ทำไมพวกคุณเพิ่งมาเห็น ภาพที่เขาลงมีแก้วปิด แต่ก่อนหน้านั้นมีหน้าเต็มนะคุณ พวกคุณพลาดหรือเปล่า มีทั้งภาพหมู่ภาพเดี่ยว ผมยังจะแซวเลย”
ไม่มีคอมเมนต์อะไร ส่วนตัวรู้จักกับ “บ๊อบบี้” อยู่แล้ว
“ไม่มี ส่วนตัวผมกับบ๊อบบี้เจอกันบ่อย รู้จักกันอยู่แล้ว เจอกันหลายเดือนแล้ว”
เขาแฮปปี้ เราก็แฮปปี้ เจอกันได้สบายบรื๋อ
"ใช่ๆ แฮปปี้ แต่ผมก็ไม่ได้ไปเฝ้าดูจับตาอะไร คือเขาคุยกับใครก็มาๆ มาเอนจอยกัน มากินข้าวดูหนังกันที่บ้านอะไรแบบนี้ เขาแฮปปี้เราก็แฮปปี้ เจอกันได้สบายบรื๋อ”
เข้ากับ “น้องไทก้า” ได้ดี สนิทสนมกัน
“น่าจะดีเพราะลูกผมก็จะชอบคนแปลกหน้า อย่างเพื่อนผมชอบนักเลย ลุงคนโน้นคนนี้ ชอบไปเล่นกับคนอื่น กับบ๊อบบี้เขาก็สนิทสนมกัน”
พอเปิดตัวก็ถูกจับตาเป็นทายาทหมื่นล้าน
“ใช่ๆ คุ้นๆ เพราะตอนนั้นนิวเคลียร์เขากำลังสร้างบ้าน หรืออาจจะต้องไปอุดหนุนเขาหรือเปล่า ไปรู้จักกันตรงกระเบื้องหรือเปล่า ผมก็ไม่รู้ (หัวเราะ) แต่มีความใกล้เคียงว่าน่าจะเป็นแบบนั้น”
ไม่ได้เปิดตัวเพื่อบลัฟกัน แค่เป็นไทมมิ่งที่เหมาะสม
“ไม่ได้บลัฟ เราไม่ได้บลัฟ แต่ไม่รู้ว่ามันเกี่ยวกันไหม หรือมันเป็นไทม์มิ่งที่เหมาะสมพอดี แต่จริงๆ จะเปิดหรือไม่เปิดก็ดีนะ พวกเราจะได้ไม่ต้องสงสัยแล้วไง”
ตกลงกันว่า “น้องไทก้า” ห้ามรู้ ว่าพ่อแม่มีคนคุยใหม่แล้ว เพราะเหมือนลูกยังหวังอยู่ ว่าพ่อแม่ต้องเป็นแฟนกัน
“คือไทก้า เราตกลงกับนิวเคลียร์ว่าห้ามให้รู้ว่าเราสองคนมีคนคุย คนคุยของเราก็คือเป็นป้า บ๊อบบี้ก็เป็นลุงซะ เข้าใจความหมายไหม เพราะว่ามันมีอยู่ครั้งนึงไทก้ามีคำถาม ถามว่า ป๊า ทำไมป๊าไม่ไปเที่ยวกับหม่ามี๊ เราก็บอกว่า ป๊าไปเที่ยวกับเพื่อนป๊าดีกว่า ไทก้าก็ว่า แปลก เป็นแฟนกันก็ต้องไปด้วยกันสิ คือด้วยความที่เด็กเขายังแยกไม่ออกว่าความสัมพันธ์ตอนนี้มันเป็นพ่อกับแม่ ก็เลยรู้สึกว่า ถ้ายังคาดหวังอยู่ว่าพ่อกับแม่ต้องเป็นแฟนกัน ก็เลยรู้สึกว่างั้นเราอย่าเพิ่งดีกว่า รอเขาโตกว่านี้ก่อน (เด็กเดี๋ยวนี้รู้เร็ว?) เร็วๆ ทุกวันนี้นอนข้างผมแล้วบอก ป๊าทำยังไงให้ป๊ามีสาวเยอะ อย่างนี้ๆ แล้วหม่ามี๊ก็เป็นสาวของป๊าด้วยคนนึง แต่ป๊ามีสาวเยอะ ทำยังไง เราก็เออ สรุปรู้หรือไม่รู้กันแน่”
ยังอยู่บ้านเดียวกัน เพราะบ้าน “นิวเคลียร์” ยังสร้างไม่เสร็จ
“คือจริงๆ เราก็ยังอยู่ในบ้านหลังเดียวกันอยู่ คือบ้านของน้องนิวเคลียร์สร้างใกล้เสร็จแล้ว เพราะฉะนั้นมันก็ยังมีไทม์มิ่งที่อยู่ด้วยกันตลอด แต่ก็จะมีคนของเขา คนของผม ซึ่งมาจอยกันบ้าง”
คนของทั้งคู่เข้าใจดี ที่ยังต้องอยู่บ้านเดียวกัน
“อันนี้เป็นเรื่องที่เขาต้องเข้าใจเลย เพราะถ้าเกิดว่าอย่างประชาชนที่ดูอยู่นี่จะคิดว่า มันทำไปได้ยังไง มันแปลกหรือเปล่าวะ มันทำใจอยู่กันไปได้ยังไง แต่เอาจริงๆ แล้ว ถ้ารู้จักเราจริงๆ ตอนนี้มันเหมือนเป็นพี่เป็นน้องไปแล้ว มันไม่เหลือคราบของคู่รักไปแล้ว ก็เลยอยู่ง่าย”
