"ครูบาอริยชาติ อริยจิตโต" เกจินักพัฒนาแห่งวัดเเสงแก้วโพธิญาณ อ.เมือง จ.เชียงราย บารมีท่านกำลังแผ่ไพศาลไปไกลทั้งในและนอกประเทศ เช่นเดียวกับวัตถุมงคลของท่านมีกระแสความนิยมสูงทุกรุ่น เพราะมั่นใจในพุทธคุณความศักดิ์สิทธิ์จากการอธิษฐานจิตเสกเป่าด้วยพระคาถาอาคมอันเข้มขลังของท่าน
ล่าสุด พระสมเด็จพุทธศิลป์ เจ้าสัวมหาเศรษฐี มนต์มยุรา "พญานกยูงทอง มังกรทอง" ที่จัดสร้างโดย"ทีมพี่เสือ" ซึ่งจัดพิธีพุทธาภิเษกเมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2567 ที่ผ่านมา เกิดกระแสศรัทธาแรงมาก ในพิธีการปลุกเสกได้รับความสนใจจากคณะศิษย์ทั้งชาวไทยและต่างประเทศอย่างล้นหลาม วัตถุมงคลทั้งหมดถูกจองหมดอย่างรวดเร็ว ขณะเดียวกัน ราคาได้สูงขึ้นเป็นเท่าตัว โดยเฉพาะชุดพิเศษและชุดกรรมการเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว
ทีมพี่เสือพร้อมผู้ร่วมบุญทุกคนทั้งที่มาและไม่ได้มาร่วมพิธีได้ถวายปัจจัยเป็นเงิน 500,000 บาทเพื่อร่วมซื้อรถกู้ชีพพร้อมถวายพระทองคำแด่ครูบาอริยชาติ1องค์ รวมถวายปัจจัยทั้งหมด 700,000 บาท
พระสมเด็จพุทธศิลป์ รุ่น"เจ้าสัวมหาเศรษฐีมนต์มยุรา" จัดสร้างขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อสมทบปัจจัยซื้อรถพยาบาลฉุกเฉิน (Ambulance) มอบให้กับทางวัด ตลอดจนร่วมสร้างเสนาสนะสถานต่างๆภายในวัดแสงแก้วโพธิญาณ โดยครูบาท่านเมตตาตั้งชื่อรุ่นและลงมือพลีมวลสารและดูแลมวลสารชั้นครูหลักล้านด้วยองค์ท่านเองตั้งแต่มหาชนวนมวลสาร มหามวลสารเนื้อผง มหามวลสารเนื้อดิน พร้อมพิธีและขั้นตอนการจัดสร้าง รุ่นนี้มีสุดยอดมวลสารพระหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค พิมพ์ทรงครุฑใหญ่ตื้น เนื้อดินเผา พ.ศ.2460 องค์แท้ๆมีใบรับรองพระแท้ของสมาคมผู้นิยมพระเครื่องพระบูชาไทยนำมาพลีใส่ รวมทั้งมวลสารชั้นครูอีกหลายชนิด!
พุทธศิลป์ของวัตถุมงคลชุดนี้เป็น พระสมเด็จพุทธศิลป์ เจ้าสัวมหาเศรษฐี มนต์มยุรา ยันต์นกยูง "จะพะทะวะ " เป็นยันต์เมตตามหานิยม มหาเสน่ห์ของภาคเหนือ โดยครูบาอริยชาติ อธิบายว่า การนำสัตว์มงคลมาใส่นั้นต้องการให้มีคุณ 2 ประการคือ พระเดช คือ "มังกร" พระคุณคือ"นกยูง" ซึ่งเหมือนหยินหยางเป็นของคู่กันทำให้สมดุล ค้ำคูณให้เจริญรุ่งเรือง ค้าขายคล่อง การงานราบรื่น
ในขณะที่ "นายนิภัทร์ สมาร์ทอิมเมจ” ทีมพี่เสือ ให้ข้อมูลเพิ่มว่า นกยูงที่ปรากฏบนองค์มาจากคาถาที่ครูบาอริยชาติใช้เป็นประจำ ซึ่งมาจากพระคาถาป้องกันภัย หรือคาถาโมรปริตร หรือที่เรียกกันติดปากว่า "คาถาพญายูงทอง"จากหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต แม่ทัพธรรมสายกรรมฐาน ถือเป็นหนึ่งในบทสวดมนต์สำคัญ เชื่อกันว่า ช่วยป้องภัยภัยนานาประการ กันไฟ กันฟ้าผ่า แคล้วคลาดเป็นเลิศ โดยเป็นคาถาที่ปรากฏในตำนานโมรปริตร (อุเทตะยัญจักขุมา) ซึ่งเป็นเรื่องราวในสมัยสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ส่วน "มังกร" มีคติความเชื่อว่าเป็น สัตว์นำโชคตัวนี้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะชาวจีนหรือคนไทยเชื้อสายจีนทั้งหลายเชื่อกันว่า มังกรเป็นตัวแทนของโชคลาภ อำนาจ และความรุ่งเรือง โดยเฉพาะธุรกิจร้านค้ามักจะมีรูปภาพหรือรูปปั้นมังกรประดับตกแต่งไว้ภายใน เพื่อเสริมโชคลาภและความเจริญรุ่งเรือง
สำหรับประวัติ 'ครูบาอริยชาติ' วัดแสงแก้วโพธิญาณ ได้ชื่อว่าเป็นนักบุญแห่งแดนล้านนา เพราะท่านมีความเชื่อในศาสนาล้านนา มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วประเทศ ในเหตุที่ท่านอยู่กรรม เข้านิโรธสมาบัติเป็นเวลา 7 วัน 7 คืน ไม่ฉัน ไม่ถ่าย ไม่พูด ไม่จา นั่งภาวนาตลอดเป็นเวลา 7 วัน 7 คืน เหนือเวทนาทั่วไปที่มีมนุษย์ธรรมดาจะทำได้ ซึ่งการเข้านิโรธสมาบัตินี้ ตามคัมภีร์ของพุทธศาสนาฝ่ายล้านนา เชื่อว่า พระอริยบุคคลระดับพระอนาคามีขึ้นไปเท่านั้นที่ทำได้
ท่านเรียกการเข้านิโรธของท่านว่า “การอยู่กรรม” ซึ่งจะกระทำในวันเข้าพรรษาและจะอยู่กรรมทุกปี โดยมีชาวบ้านและพระสงฆ์จากวัดต่างๆผลัดเปลี่ยนกันเฝ้าดูแลด้านนอกกระโจม และรอใส่บาตรครูบาในวันที่ออกจากนิโรธ ซึ่งปัจจุบันมีผู้ศรัทธาให้ความเคารพนับถือทั่วประเทศรวมถึงต่างประเทศ
ครูบาอริยชาติเกิดเมื่อที่ 9 ม.ค. 2524 ที่บ้านปิงน้อย อ.สารภี จ.เชียงใหม่ วัยเด็กมีผิวพรรณผุดผ่อง มีสติปัญญาเฉลียวฉลาดกว่าเด็กวัยเดียวกัน โยมพ่อโยมแม่ ตั้งชื่อว่า “เด็กชายเก่ง” นอกจากมีความจำเป็นเลิศ และเรียนเก่งแล้ว ยังมีอุปนิสัยเป็นผู้ที่ชอบความสงบ ไม่ชอบเบียดเบียนผู้ใด โดยท่านมีความผูกพันกับวัดเป็นอย่างมาก ขณะอายุ 12 ปี มักตามพี่ชายไปที่วัดชัยชนะ ะ ต.ประตูป่า อ.เมือง จ.ลำพูน ทำให้มีโอกาสพบกับ"ครูบาจันทร์ติ๊บ ญาณวิลาโส" อดีตเจ้าอาวาสวัดชัยชนะ ซึ่งเป็นพระผู้เรืองวิทยาคุณในยุคนั้น
ครูบาจันทร์ติ๊บได้สอนศีลธรรมจรรยาต่างๆ ให้ ถึงกับเอ่ยปากว่า “เด็กผู้นี้มีวาสนาทางธรรมสูงยิ่งนัก ต่อแต่นี้ไปเราขอตั้งชื่อเด็กชายผู้นี้ว่า "อริยชาติ" อันหมายถึง "ผู้ที่มีภพชาติอันเป็นอริย”
จากนั้นเมื่ออายุ 17 ปี ท่านจึงบรรพชาเป็นสามเณร เมื่อวันที่ 6 เม.ย. 2541 ณ วัดชัยมงคล (วังมุย) อ.เมือง จ.ลำพูน โดยมี พระครูภัทรปัญญาธร วัดศรีสุพรรณ จ.ลำพูน เป็นพระอุปัชฌาย์ เมื่ออายุครบ 20 ปี จึงอุปสมบท ณ วัดพัทธสีมาชัยมงคล ได้รับฉายาว่า “อริยจิตฺโต” โดยจำพรรษาอยู่ที่วัดชัยมงคล มุ่งมั่นในการปฏิบัติธรรมเป็นหลักสำคัญ แต่ด้วยญาติโยมที่ได้รับประสบการณ์ในวิชาคาถาอาคมต่างๆจึงหลั่งไหลมาเป็นลูกศิษย์ไม่ขาดสาย
ต่อมาท่านได้รับอาราธนาจากญาติโยม อ.แม่สรวย จ.เชียงราย มาจำพรรษา ณ วัดพระธาตุดงสีมา ต.แม่พริก อ.แม่สรวย จ.เชียงราย ก่อนมาสร้างวัดแห่งใหม่ ชื่อว่า “วัดพระธาตุแสงแก้วโพธิญาณ” บนพื้นที่เนินเขาบ้านป่าตึง ต.เจดีย์หลวง อ.แม่สรวย จ.เชียงราย ซึ่งเกิดจากนิมิตของท่านว่า เห็นฝนตกหนัก เดินหลงทาง ได้เห็นป่าบนภูเขามีดอกบัวบานเต็มไปหมด มีแสงสว่างไสวสวยงาม แสงเรืองรองเหมือนแสงแก้วกลายเป็นดอกบัว อีกนัยหนึ่งคือ โพธิญาณ หมายถึง หยั่งรู้ เหมือนบัวที่ผุดโผล่ขึ้นมาพ้นน้ำ แล้วเปล่งแสงคล้ายแสงแก้ว โดยเริ่มวางศิลาฤกษ์ และเริ่มก่อสร้างเมื่อปี 2549 ตรงกับเดือนแปดเป็งของล้านนา ซึ่งตรงกับวันวิสาขบูชา วันเพ็ญเดือนหก
ผู้ที่สนใจติดตามความเคลื่อนไหวการจัดสร้างวัตถุมงคลของ “ทีมพี่เสือ” ได้ที่…https://www.facebook.com/groups/1242269399567579/?ref=share_group_link
