“เวียร์ ศุกลวัฒน์” เผยไปไหนต้องหอบลูก-เมียไปด้วย เพราะมีกันแค่ 3 คน ห่างละคร 2 ปี ช่วยเมียเลี้ยงลูก ส่วนคนที่ 2 อยากมีแล้ว ปลายปียังทัน แม้ภรรยาไม่อยากมี ลั่นพาลูกไปผจญภัย แต่ไม่ได้อันตราย
หลังกลายเป็นพ่อลูกอ่อน พระเอกหนุ่ม “เวียร์ ศุกลวัฒน์ คณารศ” ก็เปลี่ยนตัวเองไปโดยสิ้นเชิง ปกติไปไหนไปกันเป็นแก๊งกับเพื่อน แต่ตอนนี้ไปไหนเหลือแค่ 3 คนพ่อแม่ลูก ล่าสุดก็ควงภรรยา วิกกี้ พีมนต์ญาและลูก “วิริน”มาร่วมงาน Netflix ซึ่งหนุ่มเวียร์เผยว่าที่มารับเล่นซีรีส์ เพราะเป็นงานต่อเนื่องกันมา ส่วนละครคงยังไม่มีเร็วๆ นี้ เพราะอยากใช้เวลากับลูกและภรรยามากกว่า
“เรื่องที่ 3 แล้ว จริงๆ มันเป็นโปรเจกต์ที่ต่อเนื่องมาจากเรื่องแรก คือซีรีส์ Bangkok Breaking แล้วโปรเจกต์นี้มันต่อเนื่อง จะบอกว่าติดใจไหม ชอบการทำงาน รู้สึกว่าเวลาที่เรามีโอกาสได้ร่วมงานกับเน็ตฟลิกซ์ ซึ่งเป็นสตรีมมิ่งที่ทำภาพยนตร์หรือซีรีส์ขึ้นมาที่มีคุณภาพ บทบาทมันก็มีการเปลี่ยนแปลง ไม่เหมือนกันหรอก แต่ว่ามันมีความต่อเนื่องที่น่าติดตามมากจากโปรเจกต์แรก ซึ่งผมคิดว่าคนจะได้เห็นอะไรที่มันชัดเจนขึ้น เข้มข้นขึ้น มันส์ขึ้น ระทึก เหนื่อยมากบอกเลย(หัวเราะ)
มันครบเลย เป็นทั้งดรามาแอ็กชั่น ก็แอบมีคอมเมดี้ด้วย ผมว่ามันท้าทายคือเวลาในการถ่ายทำส่วนใหญ่เป็นซีนกลางคืน สิ่งที่เราต้องเตรียมตัวคือต้องพักผ่อนออกกำลังกายให้เพียงพอ วิ่ง หนี อะไรประมาณนี้ มันมีความเอาตัวรอด คล้ายๆ Survival ร่วมงานกับพี่ดู๋ โห นั่นเขารุ่นใหญ่ครับ ผมก็พี่ว่าไง ผมว่างั้น พาร์ตของงานละคร ยังไม่มีโปรเจกต์ในปีนี้ว่าจะกลับมามีผลงานอะไร ตอนนี้คือลุยช่วยคุณวิกกี้เลี้ยงลูก แล้วก็มีงานโปรเจกต์สั้นๆ อีกที่ยังถ่ายทำไม่เสร็จ แต่ก็หายจากละครไปประมาณ 2 ปีได้ครับ”
เผยกระเตงไปไหนไปกันพ่อแม่ลูกตลอด ทำให้ลูกไม่ตื่นคนแล้ว
“เต็มที่ครับ ต้องช่วยกัน อย่างงานนี้พอดีคุณวิกกี้ใส่ส้นสูง ก็ต้องเป็นคุณพ่ออุ้มดีกว่า น้องก็โตขึ้นเรื่อยๆ เริ่มฝึกเดิน เป็นคนอารมณ์ดี พูดเก่ง หัวเราะ ออกงานวันนี้พอได้ไหม อย่างที่ทุกคนรู้ว่าเวียร์กับคุณวิกกี้พาลูกเดินทางตั้งแต่เด็ก เขาได้เจอคนได้เจอสังคมได้เจอข้างนอกที่ไม่ใช่อยู่แต่ในบ้านอย่างเดียว แต่ว่าเขาก็มีกำแพงนะ ไม่ใช่ว่าเข้าหาทุกๆ คน แต่เขาแค่ไม่กลัว จะไปอุ้มจริงๆ ถ้าไม่ถูกจริตเขาไม่ไป เขาร้องไห้เลย
แต่วันนี้ดูเขาแฮปปี้ แต่พอถ้าเข้าไปใกล้จริงๆ เขาอาจจะหันหน้ามองพ่อทีแม่ที แต่ถ้าอยู่ไกลๆ หน่อยก็เล่นได้สนุกสนาน เขาเป็นคนอารมณ์ดี ตอนนี้เขาเป็นยูทูปเบอร์ท่านหนึ่งแล้ว เขาเป็นหัวหน้าทีม ไม่มีเขาไปไม่ได้ ไปเที่ยวทุกที่ไปด้วยกัน กระเตงไปกันหมด เพราะว่าเราเลี้ยงเองเราไปฝากใครไม่ได้อยู่แล้ว ทุกครั้งที่เรามีงานแล้วต้องมาด้วยกัน ก็จะพากันไปทั้งครอบครัว”
บอกลดความแอดเวนเจอร์ลง อยากให้ลูกแข็งแกร่ง เพราะต้องเผชิญโลกอีกเยอะ
“ลดลง เอาที่เขาทำได้ด้วย เขามีภูมิคุ้มกันใช้ชีวิตได้ทุกรูปแบบ ก็ขอให้เขาแข็งแกร่ง เพราะว่าโลกนี้มันมีอะไรหลายอย่างที่เขาต้องเรียนรู้ ต้องมีกำแพงอันนี้โอเคไม่โอเค เราก็ค่อยๆ สอนเขาไป จะบอกว่าเลี้ยงง่ายก็ไม่ง่ายยากก็ไม่ยาก เขาก็จะมีฟีลของเขา เด็กก็คือผู้ใหญ่คนนึงแหละ เพียงแต่ว่าเขาอาจจะสื่อสารแต่เขามีความคิด เชื่อไหมว่าบางอย่างเขาก็สอนเรา จะบอกว่าเขาเด็ก ฟังไม่ได้ บางทีเขามีความคิด บางทีเขาอาจจะบอกด้วยสีหน้าบอกด้วยอารมณ์
ช่วงนี้เขาติดพ่อกับแม่มาก โดยเฉพาะแม่ ถ้ามีคนเยอะมากๆ จะต้องอยู่ใกล้แม่ก่อน ต้องดูก่อนว่าปลอดภัยไหม หันหน้ามามองพ่อโอเค พ่ออยู่แม่อยู่ โอเค สบาย ผมเองก็ติดลูกมากครับ ที่ชอบพาลูกไปผจญภัย มันเหมือนไม่มีอะไร แต่จริงๆ มันมีอะไรมากเลยนะ เราไม่ได้ประสบภัยแบบน่ากลัวเพียงแต่แผนที่เราวางเอาไว้ คือเราเช่ารถ เพียงแต่เอกสารที่เราเอาไปมันเอาไปไม่ครบ เราเอาไปผิด จากที่เรากะจะเช่ารถขับเที่ยวชิลๆ สรุปต้องไปรถไฟ ไปรถแท็กซี่ รถบัส รถเมล์ เดิน แล้วลูกด้วย ของเราก็เอาไปเต็มที่กะว่าเอาของใส่หลังรถ แต่นี่ก็ลากกันไปทุกสถานี ก็เป็นประสบการณ์ เหนื่อยแต่สนุก”
บอกยังไม่ตัดใจเรื่องมีลูกคนที่สอง แม้จะขัดใจภรรยา แต่รอได้ถึงสิ้นปี
“เราผ่านเรื่องแบบนี้มาแล้ว เราพอจะรู้ว่ามันแก้ไขอะไรไม่ได้หรอก สิ่งที่จะทำให้เราผ่านเรื่องยากๆ ไปได้คือถ้าคิดไม่ออกก็เดี๋ยวค่อยคิด อย่าไปซีเรียสกับมันมาก เดี๋ยวหาทางออกกันไป คอยให้กำลังใจกัน ถ้าสติเราน้อยเราก็กระเจิงเหมือนกันนะ ด้วยความที่เราผ่านอะไรมาเยอะ วิกกี้เองเขาก็เป็นคนตาม เป็นคนนิ่งๆ เป็นคนฉลาด มีวิธีหาทางออก เขาจะไม่ทำให้เรารู้สึกว่าเรากดดัน เขาจะมาช่วยซัปพอร์ต มันก็เลยทำให้ทริปราบรื่น เราสองคนก็ช่วยกัน ลูกก็คอยช่วยเป็นรอยยิ้มให้เรา
นี่ไม่ได้ไว้หนวดรอ พอดีมีติดถ่ายอยู่ จริงๆ อยากจะเอาออกมากเลย ไม่อยากไว้เลย คือไว้มาตอนช่วงที่ไม่มีงาน พอมันกลับมามีงาน เขาบอกว่าเขาชอบลุคนี้ เอาก็เอา อีกโปรเจกต์ก็เอาลุคนี้แหละเลยไว้ยาว เดี๋ยวจบโปรเจกต์ก็จะโกนแล้ว ไม่เกี่ยวกับมีลูกสาวครับ ผมคิดว่าถ้าผมโกนเขาอาจจะจำผมไม่ได้ คือยังไม่เคยเกลี้ยงเลยนะ เขาเห็นอย่างนี้เขาก็จำอย่างนี้ แล้วเพื่อนพ่อที่มีอย่างนี้เขาชอบ เพื่อนพ่อที่หน้าเกลี้ยงๆ เขาจะคิดว่าอาจจะคนละเผ่า คนที่สอง ก็คงต้องรอให้วิรินพอช่วยเหลือตัวเองได้อีกนิดนึงก่อน แล้วค่อยแพลน คืออยากมีแต่ไม่กดดันตัวเอง ไม่กดดันกัน ส่วนภรรยาเขาไม่อยากมี แต่ปีนี้มังกรทองเนอะ ปลายปีก็ยังทัน”
