ผู้กำกับระดับตำนาน "โอลิเวอร์ สโตน" ยอมรับด่าหนัง Barbie ว่า "ห่วยแตก" โดยยังไม่ได้ดูหนังเลยด้วยซ้ำ นอกจากนั้นเขายังบอกว่าหนังแอ็กชั่นอย่าง John Wick และ Fast and Furious เป็นงานน่าเบื่อระดับที่เขาดูแล้วหลับ
บทสัมภาษณ์ของ โอลิเวอร์ สโตน ถูกเผยแพร่ในหลายเว็บไซต์ กับการที่เขาแสดงความเห็นถึงการรับงานของนักแสดงมากฝีมืออย่าง ไรอัน กอสลิง ว่าไม่ควรจะไปเสียเวลากับหนังห่วย ๆ แบบ Barbie
“ไรอัน กอสลิง กำลังเสียเวลาตัวเอง ถ้าเขาเอาแต่รับงาน 'ห่วยแตก' พวกนี้เพื่อเงิน” โอลิเวอร์ สโตน บอกกับ City AM หลังรู้ว่าผลงานเรื่องล่าสุดของ ไรอัน กอสลิง คือ Barbie “เขาควรจะแสดงหนังที่จริงจังมากกว่านี้ เขาไม่ควรเป็นส่วนหนึ่งของการทำให้ฮอลลีวูดสร้างแต่หนังเด็ก ตอนนี้มันมีแต่แฟนตาซี แฟนตาซี แฟนตาซี แม้แต่หนังที่นำเสนอเรื่องราวของสงครามก็ แฟนตาซี แฟนตาซี”
หลังข่าวถูกแชร์ไปทั่ว โอลิเวอร์ สโตน ก็ขอโอกาสอธิบายถึงการแสดงความเห็นของตัวเอง หลังไปเจอข่าวนี้ในเว็บไซต์ Deadline และยอมรับว่าตัวเองพูดไปก่อนจะได้ดู Barbie
“ผิดหวังมากที่ได้เห็น Deadline ซึ่งเป็นสิ่งพิมพ์ที่ผมเคารพนะ ได้ใช้ถ้อยคำที่ไม่อยู่ในบริบท ไปในทางเกินจริง และเกินสิ่งที่ผมพูด ผมพูดเอาไว้ก่อน Barbie จะฉายหลายสัปดาห์ ตอนนั้นยุ่งอยู่กับการโปรโมตสารคดีเกี่ยวกับนิวเคลียร์ในยุโรป และแทบไม่รู้อะไรเกี่ยวกับหนังเรื่องนี้เลยนอกจากชื่อเรื่อง”
สโตน ยังเขียนว่าเขาได้ดู Barbie ในโรงภาพยนตร์เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา และชื่นชมภาพยนตร์เรื่องนี้และธีมของภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วย “ผมพบว่าแนวทางของผู้สร้างภาพยนตร์แตกต่างไปจากที่ผมคาดไว้อย่างแน่นอน ... และขอโทษที่พูดจาไม่สุภาพ”
โอลิเวอร์ สโตน ยังยกย่องผู้กำกับบาร์บี้ เกรตา เกอร์วิก สำหรับภาพยนตร์เรื่องอื่นๆ ที่เธอทำมาตลอดหลายปีที่ผ่านมา “ภาพยนตร์เรื่อง Lady Bird ของเกรตา เกอร์วิกในปี 2017 เป็นหนึ่งในภาพยนตร์โปรดของผมในปีนั้น และรายได้ของ Barbie ช่วยกระตุ้นขวัญกำลังใจในธุรกิจของเราอย่างมาก ... ผมขอให้ เกรตา และ Barbie ทั้งหมดโชคดีในงานออสการ์”
นอกเหนือจากการวิพากษ์วิจารณ์ตุ๊กตาบาร์บี้ก่อนที่จะออกฉาย โอลิเวอร์ สโตน พูดถึงหนังแอ็กชั่นฟอร์มยักษ์อย่าง Fast & Furious และ John Wick อีกด้วย ซึ่งกรณีนี้เขาไม่ได้ออกมาแก้ตัวว่าพูดอะไรผิดไปแต่อย่างใด
"ผมได้ดู John Wick บนเครื่องบิน หนังยาวสามชั่วโมงหรือประมาณนั้น และผมก็หลับไปประมาณ 778 รอบ ... ตื่นขึ้นมาเมื่อไหร่ ก็เจอฉากแต่ฉากที่เขาฆ่าคน มันเหมือนกับว่าโลกเสื่อมถอยลงจนไร้เหตุผล”